สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 298 ตบหน้าแบบนี้เจ็บไหม

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ชีเสี่ยวจิ่วไม่อยากติดคุก หลังจากโต้แย้งอยู่ในใจ ก็กัดฟันมองชวี่ยี่

“แค่ต้องการให้ฉันพูดใช่ไหม แล้วบริษัทก็จะปล่อยฉันไป”

เธอพยายามที่จะเจรจาเงื่อนไขกับชวี่ยี่ ทำให้ชวี่ยี่ยิ้มเบาๆ

“ฉันบอกว่าแค่จะพิจารณาในการจัดการ แน่นอนถ้าคุณไม่เต็มใจที่จะบอก เราก็มีวิธีที่จะตรวจสอบให้แน่ชัด”

ชีเสี่ยวจิ่วรู้ว่าความคิดที่รอบคอบของตนเองถูกคนมองออก สีหน้าก็แข็งทื่อ ในที่สุดก็ยังคงรับสารภาพ

“เป็นลู่ซื่อกรุ๊ปที่ให้ฉันทำเช่นนี้ ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลัง ฉันก็ไม่แน่ใจ คนที่ติดต่อกับฉันตลอดคือเพื่อนของฉัน”

สิ่งที่ชวี่ยี่ได้ฟังจากเธอแทบจะเหมือนที่ตนเองตรวจสอบ รู้ว่าเธอไม่ได้พูดไร้สาระ

หลังจากถามรายละเอียดจนเข้าใจแล้ว แล้วโบกมือให้บอดี้การ์ดพาคนลงไป แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“ท่านประธาน ต่อไปต้องทำอะไร?”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน มองกู้ฉางฉิง เหมือนถามว่ามีความคิดเห็นอะไร

เวลานี้กู้ฉางฉิงอารมณ์ยุ่งเหยิงซับซ้อนเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าเธอจะรู้มาก่อนแล้วว่าชีเสี่ยวจิ่วหักหลังตนเอง แต่เมื่อได้ยินมันด้วยตัวเอง เธอยังคงไม่สบายใจอย่างมาก

“คุณจัดการเถอะ”

เธอพูดจบ ก็เอนกายบนโซฟา จ้องมองเพดานอย่างเหม่อลอย ดวงตาเต็มไปด้วยความพูดไม่ออก

เมื่อได้ยินชีเสี่ยวจิ่วบอกว่าลู่ซื่อกรุ๊ปเป็นคนบงการ คนบงการอยู่เบื้องหลังที่เธอนึกถึงเป็นคนแรกคือลู่ซือหยี่

ความแค้นของผู้หญิงคนนี้ที่มีต่อเธอนั้นลึกซึ้งจริงๆ ไปแล้ว ยังคงไม่ปล่อยเธอไปอย่างเด็ดขาด

เมื่อเธอกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่ ทางด้านเฟิงจิ่งเหยานั้นก็คิดเกี่ยวกับการดำเนินการต่อไป

ถึงแม้จะได้รู้จากชีเสี่ยวจิ่วว่าลู่ซื่อกรุ๊ปเป็นคนบงการ แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ไม่สามารถพลิกผันได้ในทันที

เขาคิดแล้ว ความคิดในใจก็ค่อยๆก่อตัวขึ้น

“คุณอยู่ที่นั่นกับชีเสี่ยวจิ่วต่อไป สักครู่ฉันจะมาจัดการเรื่องของพวกคุณในภายหลัง”

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้ พอได้สติก็ประหลาดใจ

“คุณต้องไปหรอ”

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า : “บางเรื่องคุยในโทรศัพท์ก็ไม่ชัดเจน ไปด้วยตนเองจะดีกว่า”

กู้ฉางฉิงพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ไม่นานก็เสนอว่า : “งั้นฉันจะไปด้วยกันกับคุณ”

แม้ว่าเธอจะเห็ว่าการหักหลังของชีเสี่ยวจิ่วไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่ยังคงเป็นปมปัญหาอยู่ในใจ ทำให้เธอยากที่จะปล่อยวาง

เฟิงจิ่งเหยาก็มองจุดนี้ออก เพราะเหตุนี้จึงไม่ได้ขัดขวาง

พร้อมกับที่ทั้งสองคนมาถึงคฤหาสน์ ชวี่ยี่ก็เข้ามาต้อนรับ

“ท่านประธาน คุณนายรอง”

เฟิงจิ่งเหยากับกู้ฉางฉิงพยักหน้า

“คนล่ะ?”

เฟิงจิ่งเหยาเอ่ยถาม

“ขังอยู่ในห้อง ท่านประธานต้องการพบตอนนี้เลยไหม?”

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า : “อืม จัดการเร็วหน่อย พรุ่งนี้เช้าจะสามารถทำให้พวกเขารับมือไม่ทัน”

ชวี่ยี่เข้าใจ แล้วโบกมือให้บอดี้การ์ดพาชีเสี่ยวจิ่วลงมาอีกครั้ง

ชีเสี่ยวจิ่วถูกพาตัวลงมา เดิมทียังคงสงสัย แต่พอเห็นเฟิงจิ่งเหยากับกู้ฉางฉิงยืนอยู่ที่ห้องรับแขก ก็ตกตะลึง

โดยเฉพาะกู้ฉางฉิง ก็ตกใจไม่หยุด

เธอก้มหน้าพูดใจ รอให้พวกเขาพูด

เฟิงจิ่งเหยาชำเลืองมองเธอ แล้วพากู้ฉางฉิงไปนั่งที่โซฟา

“ชีเสี่ยวจิ่ว ถ้าฉันให้โอกาสคุณในการทำความดี คุณจะรับไหม?”

หลังจากนั่งลง เฟิงจิ่งเหยามองชีเสี่ยวจิ่งอย่างไม่แยแส แววตาเต็มไปด้วยแผนการ

ชีเสี่ยวจิ่วได้ยินคำนี้ ก็เงยหน้าทันที

“ฉันทำแล้ว พวกคุณจะไม่ส่งฉันเข้าคุกใช่ไหม”

เฟิงจิ่งเหยายิ้ม

“คุณคิดว่าตอนนี้คุณมีคุณสมบัติที่จะต่อรองกับพวกเราหรอ?”

ชีเสี่ยวจิ่วตกตะลึง ใบหน้าสับสน แต่ยังคงประนีประนอม

“คุณการให้ฉันทำอะไร?”

เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้พูดไร้สาระ พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า: “ฉันต้องการให้คุณไปติดต่อกับทางด้านของลู่ซื่ออีก เป็นการดีที่สุดที่จะสามารถเห็นได้ว่าใครเป็นคนบงการคุณ”

ชีเสี่ยวจิ่วคิดใคร่ครวญในใจเล็กน้อย ก็พบว่าเรื่องนี้ไม่ยาก

“ฉันรับปากคุณ”

เธอไตร่ตรองชั่วขณะแล้วจึงรับปาก

ทำให้เฟิงจิ่งเหยาเลิกคิ้วอย่างสบายใจ

ปรากฎแสงอันเยือกเย็นในสายตาของเขา: “ในเมื่อคุณรับปากแล้ว ทางที่ดีอย่ามาใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรหลอกลวงฉัน คิดถึงครอบครัวของตนเองให้มากๆ”

ชีเสี่ยวจิ่วฟังถึงการใช้อำนาจคุกคามนี้ ก็สั่นไปทั้งตัว เม้มริมฝีปากแน่น

“ท่านประธานวางใจ ฉันรู้ว่าควรจะทำยังไง”

เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนี้ ก็เอียงหน้าไปแสดงเจตนากับชวี่ยี่: “พาเธอไปเตรียมการต่อไปเถอะ”

ชวี่ยี่พยักหน้า พาชีเสี่ยวจิ่วออกไป

กู้ฉางฉิงมองภาพด้านหลังพวกเขาออกไป สีหน้าเย็นชา แล้วตามออกไป

“เดี๋ยวก่อน!”

เธอตามชวี่ยี่ไป เรียกคนให้หยุด

“คุณนายรอง ยังมีเรื่องอะไรอีกหรอครับ?”

ชวี่ยี่เห็นกู้ฉางฉิง ก็กล่าวอย่างงุนงง

กู้ฉางฉิงกวาดสายตาไปยังเขา สุดท้ายสายตาก็มองไปยังชีเสี่ยวจิ่ว

“ฉันอยากพูดกับเธอสักสองสามคำ”

ชวี่ยี่ได้ยิน ก็เข้าใจในชั่วพริบตา พยักหน้าพาคนมา แล้วถอยไปอยู่ด้านข้าง

พอพวกเขาออกไป ขณะนี้สวนดอกไม้ก็ตกอยู่ในความเงียบสงบ คนทั้งสองต่างไม่มีใครเอ่ยปาก

และความเงียบสงบอันอึดอัดใจนี้ สุดท้ายก็ทำให้ชีเสี่ยวจิ่วรับไม่ไหว จึงระงับความเงียบนี้ก่อน

“อาจารย์กู้ คุณอยากพูดอะไร?”

เธอเม้มริมฝีปากแดงที่แห้งเล็กน้อย แล้วกล่าวถาม

กู้ฉางฉิงจ้องมองเธอ ถามข้อสงสัยที่วนเวียนอยู่ภายในใจของเธอมาโดยตลอด

“ฉันคลางแคลงใจอย่างมาก ทำไมคุณถึงต้องทำแบบนี้? ฉันคิดว่าฉันไม่ได้ปฏิบัติต่อคุณอย่างเลวร้าย…….ทำไมคุณถึงต้องทรยศฉัน?”

ชีเสี่ยวจิ่วฟังถึงคำพูดนี้ ก็ไม่ได้แปลกใจ คล้ายกับว่าอยู่ในความคาดหมายของเธอ

เธอหัวเราะออกเสียงเบาๆ เหลือบตามองกู้ฉางฉิงอย่างซับซ้อน

“ทำไม? อาจารย์กู้ไม่รู้จริงๆหรอ?”

กู้ฉางฉิงได้ยิน ทันใดก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับยังไง

ชีเสี่ยวจิ่วเห็นเช่นนี้ กล่าวต่อไปว่า: “อาจารย์กู้ คุณรู้ไหม? บางครั้ง ฉันก็อิจฉาคุณมากจริงๆ ที่ชีวิตไม่ถูกกดดัน”

เธอพูดพลาง สูดลมหายใจเข้าลึก: “อีกอย่าง ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมือนกับคุณ ที่มีฐานะทางสังคมที่ดีตั้งแต่เด็ก”

กู้ฉางฉิงได้ยินคำพูด ก็ยิ้ม ในสายตาทั้งหมดก็เย็นชา

“เช่นนี้ ฉันก็รู้แล้วล่ะ”

เธอพูดจบ ก็จากไปอย่างไม่หันกลับมามอง

ชีเสี่ยวจิ่วมองภาพด้านหลังเธอที่จากไป ในใจก็เป็นทุกข์อย่างมาก แต่ก็ทำได้เพียงเป็นทุกข์

เพราะเธอรู้ว่า ถ้าเริ่มใหม่อีกครั้ง ตัวเลือกของเธอก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ถึงอย่างไรคนก็ล้วนเห็นแก่ตัว

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ชีเสี่ยวจิ่วก็มาถึงบ้านของเพื่อนของเธอโดยความคุ้มกันของชวี่ยี่

เธอมองเอกสารในมือ สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินเข้าลิฟต์ไป

“เสี่ยวจิ่ว คุณมาได้ยังไง?”

เพื่อนเปิดประตู เห็นชีเสี่ยวจิ่วที่อยู่นอกประตูก็แปลกใจอย่างมาก

“คือแบบนี้ ฉันเพิ่งจะได้รับการออกแบบใหม่ของกู้ฉางซิน ดังนั้นฉันคาดว่าฉันไม่ถูกบริษัทสงสัย”

เพื่อนพยักหน้า รอคำพูดต่อไปของเธอ

ชีเสี่ยวจิ่วก็กล่าวต่อไปว่า: “ฉันมาหาคุณ ก็คืออยากจะหาเงินอีกสักก้อนหนึ่ง”

เพื่อนฟังถึงคำพูดนี้ ก็กระพริบตา เชิญเธอเข้าห้องไปสนทนา

“คุณมีแผนการหาเงินอย่างไร?”

เธอรินน้ำให้ชีเสี่ยวจิ่วแก้วหนึ่ง แล้วกล่าวถาม

ชีเสี่ยวจิ่วมองแก้วน้ำตรงหน้า ยิ้มแล้วกล่าวว่า: “คุณสามารถให้ฉันพบหน้ากับเบื้องบนขั้นสูงของคุณได้ไหม?”

เพื่อนฟังถึงคำพูดนี้ ก็ลังเลใจ

เธอคิดว่าชีเสี่ยวจิ่วต้องการจะทิ้งเธอ แล้วกินเพียงคนเดียว

ชีเสี่ยวจิ่วเห็นเช่นนี้ ก็รู้ความคิดภายในใจของเธอ ใช้วาทศิลป์พูดต่อไปว่า: “คุณวางใจได้ ฉันไม่ได้จะทิ้งคุณ เพียงแค่การออกแบบครั้งนี้ดีเลิศอย่างมาก เพียงเปิดตัวออกไป ก็จะสามารถทำให้มีชื่อเสียงอย่างมากแน่นอน ฉันเพียงแค่อยากให้แผนการของพวกเราได้ผลกำไรที่มายิ่งขึ้นก็เท่านั้น”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท