สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 316 ความไม่เป็นธรรมก่อนหน้านี้ก็หายไปหมดสิ้น

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

นายท่านเฟิงไม่รู้เงื่อนไขที่ทั้งสองคนตกลงกัน หลังจากเข้าไปในห้องรับแขก ถามอย่างเป็นห่วงว่า : “ตามหาฉางซินเจอแล้วใช่ไหม?”

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า : “หาเจอแล้ว เพียงแต่อาการไม่ค่อยดีนัก”

เขาพูดอาการของกู้ฉางฉิงสั้นๆ นายท่านเฟิงได้ฟัง ก็โกรธอย่างมาก

“สะใภ้ใหญ่ นี่คุณกำลังยุ่งวุ่นวายนะ ทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร? ถ้านี่ถูกแพร่ออกไป คนอื่นจะคิดว่าตระกูลเฟิงของเราทารุณลูกสะใภ้!”

นายท่านเฟิงตำหนิต่อหน้า คุณนายเฟิงได้แต่กัดปาก ทว่าในใจก็เกลียดกู้ฉางฉิงอย่างถึงที่สุด

ส่วนเฟิงจิ้งหยวน นายท่านเฟิงก็ได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด ไม่มีความคิดเห็นต่อการลงโทษของเฟิงจิ่งเหยา

“ยัยจิ้งหยวนนั่น ก็ควรจะดัดนิสัย เรื่องนี้ให้คุณจัดการ รอฉางซินดีแล้วฉันจะไปดูอีกที”

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า จากนั้นทั้งสองคนก็พูดคุยกันเล็กน้อย นายท่านเฟิงก็ออกไป

รอนายท่านเฟิงไป เฟิงจิ่งเหยามองไปทางคุณนายเฟิงที่นั่งไม่สบอารมณ์อยู่บนโซฟา ทิ้งคำพูดไว้ว่าจะไปโรงพยาบาล แล้วก็ออกไปเลย

อย่างไรเสียตอนนี้มั่วหลีอยู่โรงพยาบาลคนเดียว เขาไม่วางใจมากนัก

……

วันต่อมา กู้ฉางฉิงก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา

เธอมองเพดานบนหัวที่ขาวราวกับหิมะ ไม่ตอบสนองอยู่สักพัก

เป็นเวลานาน เธอจึงเข้าใจได้เองว่านี่คือห้องผู้ป่วย ในใจก็สงสัยไม่หยุด

เธออยู่บ้านเช่ามาใช่หรอ? มาอยู่โรงพยาบาลได้อย่างไร?

เวลานี้ ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก เฟิงจิ่งเหยาถือโทรศัพท์เดินเข้ามา

“ตื่นแล้วหรอ? ยังรู้สึกไม่สบายอยู่ไหม?”

เขามองกู้ฉางฉิงที่สีหน้าว่างเปล่า รีบเข้าไปถามด้วยความห่วงใย ด้วยสีหน้าอ่อนโยน

กู้ฉางฉิงมองเฟิงจิ่งเหยาอย่างตกตะลึง

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? คุณไม่ได้……”

เธอถามอย่างแปลกใจ พูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกเฟิงจิ่งเหยาพูดตัดบท

“วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไร”

เฟิงจิ่งเหยาเห็นว่าเธอป่วยก็ไม่ลืมจะดูแลตน ในใจราวกับได้ดื่มน้ำผึ้ง ช่างหวานชื่น สีหน้าก็อ่อนโยนมากยิ่งขึ้น

“สรุปว่าคุณ ร้สึกอย่างไรบ้าง? ยังมีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม ฉันจะให้หมอเข้ามาดู”

กู้ฉางฉิงส่ายหัว : “พอไหว แค่ยังมีมึนหัวเล็กน้อย”

เธอพูดจบ ก็นึกถึงคำถามของตนเองเมื่อกี้นี้ จู่ๆก็ตึงเครียดขึ้นมา

“ใช่สิ ฉันมาโรงพยาบาลได้อย่างไร?”

เธอกังวลมากว่าเฟิงจิงเหยารู้เรื่องบ้านเช่า

ถ้าเฟิงจิ่งเหยาหาเธอเจอ เธอต้องคิดอย่างหนักว่าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร

ถึงอย่างไรตอนนี้เธอเป็นกู้ฉางซิน คุณหนูลูกสาวคนเดียว จะไปอยู่บ้านหลังเก่าๆเช่นนั้นได้อย่างไร

เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าความกังวลของเธอนั้นมากเกินไป

เฟิงจิ่งเหยามาได้ตอบกลับอย่างผิดปกติใดๆ : “พ่อคุณตามหาคุณเจอ ก็เลยมาส่งที่โรงพยาบาล”

กู้ฉางฉิงได้ยิน ขมวกคิ้วเล็กน้อย แต่ในใจก็อดไม่ได้ที่จะโล่งอก

“ที่แท้เป็นก็อย่างนี้”

เธอพูดเบาๆ ประกอบความซีดเผือดบนใบหน้า จู่ก็ทำให้เฟิงจิ่งเหยารู้สึกสงสารอย่างมาก

โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงเธอที่อยู่ในอาการหมดสติ ก็น้อยใจ

“ขอโทษนะ ไม่เป็นธรรมกับคุณเลย”

จู่ๆเขาก็กอดกู้ฉางฉิง พูดเบาๆข้างหูเธอ

กู้ฉางฉิงถูกเขาเอาเข้าอยู่ในอ้อมกอด ก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ หลังจากนั้นจึงได้สติกลับมา ได้ยินความเจ็บปวดใจในคำพูดของเขา ฉับพลันก็รู้สึกได้ว่าการโอบกอดนี้ ความไม่เป็นธรรมก่อนหน้านั้นที่ได้รับก็หายไปหมดสิ้น

เธอจับชายเสื้อของเฟิงจิ่งเหยาแน่น ทำให้ตนเองผ่อนคลายแล้วเอนกายในอ้อมกอดของเขา

“คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังคำพูดนี้ ในใจก็อ่อนลงจนกลายเป็นน้ำ

เขากอดกู้ฉางฉิงแน่น จูบที่กระหม่อมของเธอ

และฉากนี้ก็ถูกมั่วหลีกลับมาเห็น ก็อิจฉาริษยาจนหน้าบิดเบี้ยว

แต่ทั้งสองคนที่กอดกันอยู่ก็ไม่รู้ตัว พวกเขากอดกันอยู่สักพัก สุดท้ายกู้ฉางฉิงก็ท้องร้อง จึงแยกออก

กู้ฉางฉิงรู้สึกเขินอายจะแทบอยากจะหาหลุมให้ตนเองหลบซ่อน

คล้ายกับทุกครั้งเมื่อบบรยากาศเหมาะสม ท้องของเธอก็หิว

เฟิงจิ่งเหยามองไปที่ผู้หญิงตัวเล็กขี้อายที่ห่อตัวเองด้วยผ้าห่ม ในสายตาก็เต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู

“เอาล่ะ ออกมาเร็ว ที่นี่ไม่มีใครหัวเราะคุณหรอก”

เขาดึงผ้าห่มแล้วกล่าวหยอกล้อเบาๆ

เดิมทีกู้ฉางฉิงที่อึดอัดไม่สบายใจ ได้ฟังคำพูดของเขา ก็โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม แก้มที่เดิมทีขาวซีดก็แดงระเรื่อขึ้นมา เส้นผมยุ่งเหยิง

เฟิงจิ่งเหยาเห็น ก็จัดระเบียบให้เธออย่างเอ็นดู

“มีอะไรอยากทานไหม?”

กู้ฉางฉิงรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนของเขา ใจหวิวเล็กน้อย ส่ายหน้า

“ไม่มี”

เฟิงจิ่งเหยาเลิกคิ้ว นึกถึงเธอยังไม่หายจากอาการป่วยหนัก กล่าวหยอกล้อเบาๆว่า: “งั้นฉันให้คนซื้อโจ๊กรสอ่อนๆมาให้คุณนะ ทานรองท้องสักหน่อย พอหายป่วยแล้ว จะพาคุณไปทานอาหารอร่อยๆ”

แน่นอนว่ากู้ฉางฉิงไม่ปฏิเสธ

หลังจากนั้นเฟิงจิ่งเหยาก็ให้มั่วหลีไปซื้อโจ๊ก

ถึงแม้ว่ามั่วหลีจะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของคุณผู้ชาย

ไม่นาน เธอก็ซื้อโจ๊กกลับมา มองเฟิงจิ่งเหยาป้อนอาหารกู้ฉางฉิงตาปริบๆ ความอิจฉาริษยาภายในใจก็ลุกฮือขึ้นอีกครั้ง

แน่นอนกู้ฉางฉิงสังเกตได้ถึงสายตาที่อาฆาตแค้นของเธอ เดิมทีที่เฟิงจิ่งเหยาป้อนอาหารก็ยังไม่เป็นตัวของตัวเองเล็กน้อย แต่ช่วงเวลาสั้นๆนี้ก็มีความสุขสบายใจขึ้นมา

แน่นอน นี่คือกการแสดงความเป็นเจ้าของของเธอ แต่เธอไม่รู้ตัว

หลังจากทานไปหลายคำ ทันใดก็เหนื่อยเล็กน้อย หอบเหนื่อยขึ้นมาเล็กน้อย

เฟิงจิ่งเหยาเห็น ก็กังวลใจอย่างมาก

“ไม่สบายหรอ? ฉันให้หมอเข้ามาดูนะ”

เขาพูดจบ ก็จะกดกริ่งเรียก แต่ถูกกู้ฉางฉิงยับยั้งไว้

“ไม่ต้องรบกวนคุณหมอหรอก ฉันแค่เหนื่อยเล็กน้อย อยากพักผ่อนสักหน่อย”

เฟิงจิ่งมองเธอนอนเอนกายลง ใบหน้าที่นอกจากอ่อนเพลียแล้วจริงๆก็ไม่มีอย่างอื่นที่ไม่สบาย จึงยกเลิก

“ได้ งั้นคุณก็พักผ่อนนะ พอหิว ฉันค่อยให้คนไปซื้อของให้ทาน”

เขาโค้งตัวไปจัดผ้าห่มให้กู้ฉางฉิง แน่ใจว่าเธอจะไม่หนาวแล้ว จึงนั่งลงข้างๆ เฝ้าดูลักษณะท่าทางของเธอ

กู้ฉางฉิงมองเขาอย่างงุนงง กล่าวถามด้วยจิตสำนึก: “คุณไม่ยุ่งหรอ?”

เฟิงจิ่งเหยาเข้าใจความหมายของเธอ ยิ้มแล้วกล่าวว่า: “ไม่ยุ่ง คุณพักผ่อนเถอะ”

ใครจะรู้ว่าพอพูดจบ มั่วหลีที่อยู่ข้างๆทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว

เธอกระแอมทีหนึ่ง กล่าวอย่าวเคร่งขรึมว่า: “คุณผู้ชาย มีบางเรื่องที่คุณจำเป็นต้องจัดการอย่างเร่งด่วน”

เฟิงจิ่งเหยาฟังถึงตรงนี้ ก็ขมวดคิ้วแน่น มองไปยังมั่วหลีอย่างไม่พอใจ

มั่วหลีถูกสายตาที่เยือกเย็นของเขาทำให้ตกใจ ในเวลาเดียวกันก็ไม่สบายใจ

ทำไมคุณผู้ชายถึงไม่แบ่งความอ่อนโยนที่มีต่อหญิงชั่วคนนั้นมาให้ฉันบ้างล่ะ?

เธอไม่ยินยอม ยิ่งอยากจะแยกคนทั้งสองออกจากกัน

“คุณผู้ชาย ธุระเร่งด่วนอย่างมาก คุณไปจัดการก่อนเถอะ ทางด้านคุณนายรองนี้ฉันอยู่เป็นเพื่อนเอง”

เธอดื้อรั้นที่จะพูดโน้มน้าวต่อไป สีหน้าของเฟิงจิ่งเหยาก็เปลี่ยนเป็นไม่น่าดูอย่างมาก

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ จึงรีบกล่าวปลอบโยน

“ถ้าคุณมีธุระ ก็ไปทำธุระก่อนเถอะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร”

เธอพูดจบ ก็มองไม่ยังมั่วหลีอย่างไม่ทิ้งร่องรอย

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอมักจะรู้สึกคล้ายกับว่าผู้หญิงคนนี้จงใจแยกเฟิงจิ่งเหยาออก

แต่เห็นความเคร่งขรึมบนใบหน้าของเธอ เธอก็ระงับการคาดเดาที่ไร้สาระนี้

บางทีไม่แน่ว่าอาจจะมีเรื่องอะไรจริงๆก็ได้

เฟิงจิ่งเหยาไม่สนใจการก่อกวนเล็กๆน้อยๆของเธอ

นำมือของเธอที่ยื่นออกมาวางกลับเข้าไปในผ้าห่มอีกครั้ง กล่าวกระซิบเบาๆว่า: “ตอนนี้เรื่องอะไรก็ล้วนไม่สำคัญเท่าคุณ คุณพักผ่อนเถอะ ฉันจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท