ชายผมทองได้ฟังคำพูดที่เด็ดขาดของมู่เฉาเกอ ความสนใจในแววตาก็แข็งแกร่งขึ้น
“อืม อะไรทำให้คุณมั่นใจในความคิดเช่นนี้?”
มู่เฉาเกอเม้มปากพูดว่า : “ธรรมดาเป็นวงศ์ตระกูของฉัน!”
เธอพูดจบ ก็สะบัดหน้าออกจากในมือของชายคนนั้น ราวกับหงส์ผู้สูงส่งชูคอขาวบริสุทธิ์ของตนเอง
“ดูๆแล้วคุณผู้ชายคงยังไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันเกิดในตระกูลมู่ที่สืบเชื้อสายยาวนานในเมืองหลวง อยู่ในประเทศจีน ตระกูลมู่ของพวกเรายังคงมีอิทธิพลอยู่บ้าง และฉันเป็นทายาทคนเดียวของตระกูล ถ้าเกิดเรื่องกับฉัน ครอบครัวของฉันต้องไม่หยุดพักแน่ๆจนกว่าคุณจะตาย อย่างฉับพลัน คุณผู้ชายก็หนีไม่รอดอย่างแน่นอน!”
พูดจบ เธอมองไปที่ชายผมทองอย่างไม่เกรงกลัว
ชายคนนั้นมองเธอ เห็นใบหน้าที่งดงามของเธอ ก็มีแสงประกายในแววตา กหัวเราะเบาๆ : “จริงหรอ?”
คำพูดง่ายๆสองคำ ทำให้มู่เฉาเกอขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
เธอไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วชายคนนี้เชื่อคำพูดของเธอไหม เพียงแต่เพื่อความปลอดภัยของเธอเอง เธอได้แค่กดความสงสัยไว้ในใจ พูดต่ออีกว่า : “ถ้าคุณผู้ชายไม่เชื่อ เราก็รอดูกันได้……จะว่าไป ฉันรู้สึกว่าฉันไม่น่าจะไม่มีประโยชน์กับคุณผู้ชายนะ”
“หื๊ม?”
ชายผมทองได้ฟังคำนี้ ในใจก็เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
มู่เฉาเกอเห็นเช่นนี้ เม้มปากหัวเราะเบาๆพูดว่า : “ไม่ต้องพูดถึงว่าเอาฉันไปข่มขู่เฟิงจิ่งเหยาหรอก เขาจะสามารถยอมเอาของมาแลกฉันกับคุณไหม ก็คือเขาไม่ยอมแน่ๆ ดูเหมือนว่าคุณไม่มีทางอื่นๆกับเขาเลย แต่ว่าไม่เหมือนกันกับฉัน”
เธอพูดจบ ก็มีแสงมืดครึ้มประกายในแววตา : “ถ้าคุณปล่อยฉันไป ฉันช่วยคุณจับกู้ฉางซินได้ ถึงเวลานั้นคุณยังจะกลัวว่าเฟิงจิ่งเหยาจะไม่เอาของสำคัญออกมาให้คุณอีกไหม?”
ชายผมทองได้ฟังคำพูดนี้ ก็หรี่ตามองมู่เฉาเกอ
มู่เฉาเกอถูกดวงตาที่เขามองทำให้ตกใจกลัว ดูเหมือนว่าตนเองจะถูกเขามองความคิดทั้งหมดออก
เมื่อเธอคิดอยากจะพูดอะไรอีก ชายคนนั้นก็ลุกขึ้นออกไป
……
และในเวลาเดียวกัน ทางด้านตระกูลเฟิงนี้ ด้วยความช่วยเหลือของหลายๆฝ่าย ในที่สุดก็ติดตามเบาะแสของมู่เฉาเกอเจอ
“ท่านประธาน หาเจอแล้ว คนพวกนั้นน่าจะพาคุณมู่ไปที่โรงงานร้างในตงเฉิง”
ชวี่ยี่ได้รับข่าว ก็มารายงานเฟิงจิ่งเหยาทันที
เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน สีหน้าก็เข้มงวด สั่งน้ำเสียงเคร่งขรึม : “เรียกรวมกำลังคนทันที ให้ไปค้นหากับฉัน”
ชวี่ยี่รับคำสั่ง แล้วออกไปจัดการทันที
และเมื่อเฟิงจิ่งเหยาตามมาใกล้ถึงโรงงาน ทางด้านชายผมทองนี้ก็ได้รับข่าว
“พี่ใหญ่ เฟิงจิ่งเหยาพาคนมาตามหาแล้ว”
“มาเร็วมาก!”
ชายผมทองหันหน้า หัวเราะเยาะแล้วพูด
มู่เฉาเกอได้ฟังข่าวนี้ ใจก็เต้นรัวขึ้นมา
จิ่งเหยาพาคนมาด้วยตนเอง นี่ไม่ใช่บอกได้ว่าเขายังคงเป็นห่วงตนเองอยู่หรือเปล่า?
เธออดไม่ได้ที่จะคิดเหลวไหล ในใจก็มีความหวังขึ้นมาทันที
เวลานี้ชายผมทองก็สังเกตเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ ตาก็เป็นประกาย
“พาผู้หญิงคนนี้มา เราจะไปหาเฟิงจิ่งเหยาคนนี้”
เขาออกคำสั่งเฉียบขาด ลูกน้องก็รับคำสั่ง
เช่นนี้ มู่เฉาเกอถูกพวกเขาจับตัวไปยังสถานที่ที่เฟิงจิ่งเหยาอยู่
อีกด้านหนึ่ง เดิมทีทุกๆคนที่กำลังค้นหาอยู่ก็พบการปรากฏตัวของชายผมทอง ทุกคนต่างมารวมตัวที่เฟิงจิ่งเหยา คุ้มกันโดยรอบ ปกป้องเฟิงจิงเหยาที่อยู่ตรงกลาง
“จิ่งเหยา!”
มู่เฉาเกอเห็นเฟิงจิ่งเหยา อดไม่ได้ที่จะร้องเรียก
เฟิงจิ่งเหยาชำเลืองมองเธอ เห็นเธอไม่เป็นอะไร ไม่มีร่องรอยได้รับบาดเจ็บ จึงวางใจแล้วมองไปที่ชายผมทอง
ชายผมทองเห็นสายตาที่สังเกตของเฟิงจิ่งเหยา ก็ไม่ได้สนใจอะไร
“อยากจะพบคุณเฟิงไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ”
เขายิ้มเบาๆมองไปที่เฟิงจิ่งเหยา เหมือนเป็นการพบปะเพื่อนเก่า
เฟิงจิ่งเหยาคิ้วขมวด ไม่มีความอดทนมากที่จะต้อนรับขับสู้เขาขนาดนั้น
“ปล่อยคนมา”
เขาเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ใช้ไม่ได้กับผู้ชายคนนั้น
“ไม่ต้องร้อนใจ พอคุณเฟิงนำแฟลชไดร์ฟออกมา ฉันค่อยปล่อยคนก็ไม่รีบร้อน”
เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน ในสายตาก็โมโห
อย่าว่าแต่เขาไม่มีแฟลชไดร์ฟอะไรนั่นที่พวกเขาต้องการเลย ถึงแม้จะมี เขาก็ไม่ชอบที่จะถูกคนคุกคาม
ในขณะนี้เขาอดทนอดกลั้นส่งสายตาไปยังลูกน้องที่อยู่ข้างๆโดยตรง “ลงมือ”
คำพูดนี้ออกมา ลูกน้องที่มีฝีมือโดยรอบของเขาก็มุ่งเข้าไปจู่โจมชายผมทองอย่างรวดเร็ว
ชายผมทองสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเฟิงจิ่งเหยาบอกว่าลงมือก็ลงมือ ทันทีก็ให้ลูกน้องยกกำลังออกรับมือ
ทั้งสองฝ่ายสู้กัน เพราะเกรงกลัวต่อกฎหมาย ใครก็ไม่กล้าใช้ปืน ต่างก็ใช้ตัวเข้าต่อสู้
ชั่วขณะหนึ่งโรงงานร้างทั้งหมดก็ตกอยู่ในความโกลาหล
มู่เฉาเกอก็ตกใจ
ในใจของเธอมีช่องว่าง แต่ภาพตรงหน้าเกินขอบเขตที่เธอจะทนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเกือบได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง กรีดร้องอย่างต่อเนื่อง
เฟิงจิ่งเหยาเห็นเช่นนี้ ก็ส่งลูกน้องบุกเข้าไปด้านข้างอีก วางแผนช่วยมู่เฉาเกอออกมา
แต่ทว่าการกระทำนี้ถูกชายผมทองเห็น
เมื่อคนของเฟิงจิ่งเหยาเข้ามาใกล้มู่เฉาเกอ ทันใดเขาก็นำมู่เฉาเกอมาจากลูกน้อง เวลาเดียวกันก็หยิบปืนเล็งไปที่หัวของมู่เฉาเกอ
“คุณเฟิงวิธีการลอบโจมตีนี้ไม่ค่อยซื้อสัตย์เท่าไรเลยนะ?”
มู่เฉาเกอรับรู้ได้ถึงสัมผัสอันเยือกเย็นที่หน้าผาก คนก็หวาดกลัว
แน่นอนว่าเธอรู้ว่านั่นคืออะไร ขอให้เฟิงจิ่งเหยาช่วยชีวิตอย่างหวาดกลัว
“จิ่งเหยา ช่วยฉันด้วย!”
เฟิงจิ่งเหยาเห็นภาพนี้ ก็อดสีหน้าเป็นทุกข์ไม่ได้
“หยุด!”
คำพูดนี้ของเขาออกไป ทุกคนที่ต่อยตีกันอย่างคึกคักก็ค่อยๆหยุดลง
“คุณต้องการอะไร?”
เฟิงจิ่งเหยาจ้องมองชายผมทองอย่างเคร่งขรึม กล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ชายผมทองไม่ได้ตอบกลับเขาทันที แต่ก้มหน้ามองผู้หญิงที่อยู่ในมือ
“คุณบอกว่าเขาไม่สนใจคุณไม่ใช่หรอ? ทำไมดูแล้วไม่ใช่แบบนั้นล่ะ?”
มู่เฉาเกอฟังคำพูดของเขา เดิมทีความหวาดกลัวที่อยู่ในใจก็ค่อยๆถูกความใจเข้าแทนที่
แน่นอนว่าชายผมทองสังเกตได้ถึงการแสดงออกที่เปลี่ยนแปลงของเธอ ก็หรี่ดวงตาเล็กน้อย แล้วจึงมองไปยังเฟิงจิ่งเหยา ยิ้มแล้วกล่าวว่า: “เงื่อนไขฉันพูดไปแล้วเมื่อกี้ ต้องการเพียงคุณเฟิงนำแฟลชไดร์ฟคืนมา ฉันก็จะนำคนคืนไปโดยไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย”
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว
“แฟลชไดร์ฟที่คุณพูด ฉันไม่มี”
เพราะคุณสมบัติพิเศษของมู่เฉาเกอ ไม่สามารถมีเรื่องราวโดยเด็ดขาด เขาไม่เลือกที่จะไม่สารภาพความจริงกับชายผมทองไม่ได้
แต่ชายผมทองไม่เชื่อแม้แต่น้อย
“พูดแบบนี้ คุณเฟิงคือไม่อยากช่วยชีวิตผู้หญิงท่านนี้ใช่ไหม?”
เขาพูดจบ ก็เอาปืนออกจากตัวประกันอย่างเลือดเย็น
เฟิงจิ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะเตือนสติด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“คุณต้องคิดให้ดีนะ ถ้าคุณลงมือที่นี่ คุณจะไม่สามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย!”
ชายผมทองยิ้มมุมปากอย่างจองหอง
“คุณเฟิง คุณพลาดแล้ว ฉันเย่าซืออยากจะไป ก็ไม่มีใครมาขัดขวางได้ทั้งนั้น”
เฟิงจิ่งเหยาฟังถึงคำพูดนี้ ในสายตาก็แปลกใจ
เพราะเคยได้ยินเย่าซือชื่อนี้ มีชื่อเสียงอย่างมากที่ต่างประเทศ
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงก็คือ เขาเหมือนกับปลาไหลที่มีความสามารถทำให้คนจับไม่ได้ รวมทั้งกลอุบายที่โหดเหี้ยมอำมหิต
“ดูท่าคุณเฟิงจะเคยได้ยินชื่อเย่าซือของฉันแล้ว งั้นฉันจะให้เวลาคุณเฟิงครุ่นคิดสักหนึ่งนาที ว่าต้องการคนหรือต้องการแฟลชไดร์ฟ”
เฟิงจิ่งเหยานิ่งเงียบ
แต่ความเงียบของเขาทำให้มู่เฉาเกอที่เดิมทีดีใจกลับต้องหัวใจเย็นชา
ดูแล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นเหมือนที่เธอคิดไว้ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เต็มใจโดยสิ้นเชิง