สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 323 ไม่อยากจะยอมแพ้แบบนี้

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้ฉางฉิงได้ฟังประโยคดังกล่าวเหมือนจะฟังไม่ออกถึงน้ำเสียงไม่ยอมของเธอ พูดไปยิ้มไป “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ”

พูดจบ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ทั้งห้องพักผู้ป่วยเงียบเฉียบขึ้นมา

คุณนายเฟิงเห็นแบบนี้อดโกรธไม่ได้ที่กู้ฉางฉิงมาไม่รู้เวล่ำเวลาแบบนี้

เธอเหลือบไปมองใบหน้าไม่พอใจของพ่อแม่มู่เฉาเกอ สายตาคมกริบมองไปที่กู้ฉางฉิง เหยียดยกยิ้มมุมปากพูดว่า “ฉางซิน ตอนนี้เฉาเกอไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ เธอก็ไม่ค่อยสายอยู่ กลับไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวจะเป็นอะไรขึ้นมา”

กู้ฉางฉิงขมวดคิ้ว เธอฟังออกว่าคุณนายเฟิงกำลังไล่เธอ

เมื่อมองไปที่คนบ้านตระกูลมู่ก็ไม่มีท่าทีจะรั้งให้อยู่ต่อแต่อย่างใด รู้ดีว่าการมาของตัวเองนั้นไม่ถูกต้อนรับ จึงไม่อยากจะยื้อ

“ได้ งั้นฉันขอกลับก่อนนะ”

เธอพยักหน้าแล้วคิดจะออกไป เฟิงจิ่งเหยาดึงเธอเอาไว้

“อะไรหรอ?”

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้ตอบ แต่กลับหันไปพูดกับคุณนายเฟิงและคนตระกํลมู่ “ในเมื่อเฉาเกอฟื้นแล้ว ฉันก็วางใจแล้วล่ะ ฉางซินยังไม่ค่อยสบายอยู่ ขอตัวไปดูแลเธอ”

พูดจบ ไม่ให้โอกาสใครพูดอะไร ลากกู้ฉางฉิงออกไป

กู้ฉางฉิงตกตะลึง ช้อนตามองเฟิงจิ่งเหยา รอยยิ้มมุมปากยิ่งหวานลึกล้ำ

ใขขณะนั้นมู่เฉาเกอก็จ้องมองไปที่แผ่นหลังของทั้งสองคน สายตาคู่นั้นราวกับจะฉีกกู้ฉางซินให้แหลกสลาย

ทำไม ทำไมเธอถึงเทียบกับกู้ฉางซินไม่ได้?

ยิ่งคุณนายเฟิงมองดูก็ยิ่งไม่สบายใจ ในขณะเดียวก็ด่ากู้ฉางซินยิ่งกว่าหมูกว่าหมา

แต่เธอไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า พูดกับพ่อแม่มู่เฉาเกอสองสามประโยค บรรยากาศในห้องค่อยๆร้อนขึ้น แล้วพูดขอตัวกลับ

หลังจากเธอออกไป พ่อแม่มู่เฉาเกอมีสีหน้าอึมครึม

“คนบ้านตระกูลเฟิงช่าง…ช่าง…เนรคุณจริงๆ!”

แม่โกรธจนหน้าขึ้นเลือด กลับพูดคำหยาบไม่ออก

เธอไม่พอใจกับการกระทำของคนตระกูลเฟิงครั้งนี้

ลูกสาวพวกเขาถูกลักพาตัวก็เพราะตระกูลเฟิง ช็อคจริงๆ ไม่พูดให้คนมาอยู่เป็นเพื่อน แล้วยังออกไปแบบนี้อีก!”

พ่อมู่เฉาเกอไม่ได้สนใจ ตรงไปหน้ามู่เฉาเกอ

“เฉาเกอ ลูกมีแผนมาตลอด ตอนนี้ชัดแล้วว่าจิ่งเหยาไม่ได้อะไรกับลูกแล้ว ลูกยังจะดำเนินการต่ออีกหรอ?”

มู่เฉาเกอได้ยินพ่อถามแบบนี้ จิกเล็บลงไปในเนื้อ

“พ่อ ฉันมุ่งมั่นมานานขนาดนี้ ฉันจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!”

เธอมองกลับไปที่พ่อด้วยสายตามุ่งมั่น

เมื่อพ่อมู่เฉาเกอเห็นแบบนี้ ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าลูกสาวตัวเองตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะพูดโน้มน้าวยังไงเธอก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเครียด

“ก็ได้ ถ้าลูกตัดสินใจแล้วพ่อก็จะไม่ยุ่ง ครั้งนี้ก็เหมือนกัน พ่อจะไม่เข้าไปแทรกแซง แต่จะขอเตือนไว้อย่าง ลูกอย่าสูญเสียความเป็นตัวเอง พวกเราตระกูลมู่เลี้ยงลูกมาได้แบบนี้ทุ่มแรงกายแรงใจไปเยอะ”

มู่เฉาเกอเข้าใจความหมายของพ่อ หลุบตาลงแล้วตอบว่า “ฉันรู้แล้ว!”

หลังจากทั้งสามคนพูดคุยกันเล็กน้อย พ่อแม่มู่เฉาเกอก็กลับไป

เมื่อพวกเขากลับไป ในห้องพักก็เหลือทิ้งไว้แต่มู่เฉาเกอ

เธอนอนคิดเรื่องนี้จนดึก สายตาไม่ยอมและยังขบคิด

คิดไปถึงอ้อมกอดของเฟิงจิ่งเหยา มันทำให้เธอจมไปกับความรู้สึกที่อบอุ่นและปลอดภัย

โดยเฉพาะตอนที่เธอรู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นห่วงเธอ

เสียดายที่เธอดันหลับไปในอ้อมกอดของเฟิงจิ่งเหยาในตอนท้าย

คิดได้แบบนี้ ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มหวาน แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

เธอจะต้องครอบครองเฟิงจิ่งเหยาให้ได้

ในขณะที่เธอจินตนาการไปต่างๆนานา จู่ๆประตูห้องพักก็เปิดขึ้น

เธอหันหน้าไปทันที หลังจากเห็นคนที่เข้ามา รูม่านตาหดลงอย่างช่วยไม่ได้

“คุณ!”

คนที่มาไม่ใช่ใคร แต่เป็นคนที่เขาหนีมา เย่าซือ

“คุณมู่ เจอกันอีกแล้วนะ”

มู่เฉาเกอได้สติ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ประตูห้องปิดลง

เธอบังคับตัวเองให้สงบนิ่งเอาไว้ แต่มือคว้าผ้าห่มเอาไว้แน่น ถามออกไปเสียงเย็น “นายมาทำไม?”

เธอรู้ว่าที่โรงพยาบาลนี้มีคนของเฟิงจิ่งเหยาล้อมเอาไว้ หูตายิ่งกว่าสัปปะรด แต่ผู้ชายคนนี้เข้ามาอย่างอุกอาจ ไม่กลัวเฟิงจิ่งเหยารู้หรือไง?

และก็เหมือนว่าเขาจะเดาความคิดเธอออก เย่าซือยกยิ้มมุมปากเดินไปข้างเตียงมองมู่เฉาเกออยู่ใกล้ๆ

“เธอจะถามว่าฉันรอดสายตาเฟิงจิ่งเหยามาได้ยังไงใช่ไหม?”

มู่เฉาเกอนิ่งเงียบ แต่นั่นก็เหมือนคำตอบแล้ว

เย่าซือเห็นแบบนี้ หัวเราะเบาๆ “เหอะ ฉันเคยคิดว่าเธอฉลาด แต่ดูท่าว่าผู้หญิงพอเป็นเรื่องความรัก ก็โง่เหมือนกันหมดสินะ”

มู่เฉาเกอถูกคำพูดของเขาทำเอารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

“ที่นายมาดึกดื่นแบบนี้ เสี่ยงที่จะถูกจับก็เพื่อมาดูถูกหัวเราะเยาะฉันหรือไง? ถ้านายว่างมาก ก็คงไม่กลัวว่าฉันจะเรียกคนมาจับสินะ”

เย่าซือเห็นว่าเธอเริ่มโกรธ ยิ้มเยาะใกล้ๆมู่เฉาเกอ

มู่เฉาเกอมองใบหน้าหล่อที่ค่อยๆเคลื่อนเข้ามา สายตามีนัยยะนั่น ทำให้เธอหวาดกลัวไม่น้อย

“นายคิดอะไรอยู่?”

เธอเบี่ยงหน้าหลบเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างคนสองคน

เย่าซือดูการกระทำของเขาออกแต่ไม่ทันได้สนใจ พูดอย่างเอาแต่ใจไปว่า “เธอคิดว่าเฟิงจิ่งเหยาจัดคนมาเฝ้าเพราะต้องการดูแลปกป้องเธอ?”

มู่เฉาเกอนิ่งอึ้งไป ถึงแม้ว่าในใจจะเดาออกแต่กลับไม่อยากยอมรับความจริง

“คุณหมายความว่าไง?”

เย่าซือดูออกว่าเธอแกล้งไม่เข้าใจ ยกยิ้มเย็น “อะไร?แกล้งโง่กับฉันหรือไง?”

มู่เฉาเกอเงียบไป ใช้แรงทั้งหมดที่มีกำผ้าห่มแน่น

เย่าซือครางเบาๆในลำคอ ไม่ให้โอกาสเธอหลบหนี พูดความจริงออกมา

“ผู้หญิงถ้าแสดงความรักมากเกินไปก็ไม่ดี เธอควรจะรู้เอาไว้ว่าคนที่เฟิงจิ่งเหยาจัดเตรียมเอาไว้ไม่ใช่เพื่อปกป้องเธอ พวกเขาปกป้องผู้หญิงที่เฟิงจิ่งเหยาแคร์ต่างหาก”

“พอได้แล้ว!”

มู่เฉาเกอตะโกนอย่างทนไม่ไหว

เดิมทีเธอแสดงออกว่าใจกว้าง เข้าใจทุกอย่าง แต่เวลานี้ ความเป็นจริงนี้กระตุ้นเธอไม่น้อย

ในขณะเดียวกันความโกรธก็ลุกโชนในใจเธอ

ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ คิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจ กัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “นายคิดอะไรกันแน่?”

เย่าซือเห็นแบบนี้ ยักไหล่ไม่สนใจ พูดยิ้มๆ “ฉันมาหาเธอเพื่อทำข้อตกลง”

มู่เฉาเกอได้ยินประโยคนั้น คิดถึงตอนที่ตัวเองข้อเสนอที่เคยคุยไว้

“นายคิดจะทำอะไร?”

เย่าซือได้ยินแบบนั้น สายตาเย็นชา “ตราบใดที่เธอช่วยหลอกล่อผู้หญิงของเฟิงจิ่งเหยาให้ออกมาได้ ฉันจะช่วยเธอพาเขาไป และเมื่อฉันได้ของที่ฉันอยากได้ ฉันจะช่วยเธอจำกัดผู้หญิงคนนั้น นี่ก็ไม่มีใครมาแย่งเฟิงจิ่งเหยาจากเธอได้”

มู่เฉาเกอฟังเสร็จก็หลุบตาลง ไม่ได้ตอบตกลงในทันที

เย่าซือก็ไม่ได้เร่งรัด เดินไปข้างโซฟาจุดไฟแช็กเล่น

และไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน มู่เฉาเกอเหมือนจะตัดสินใจได้แล้วจึงเงยหน้าไปมองเขา

“เรื่องที่นายพูดฉันตกลง แต่ฉันบอกไว้ก่อนนะว่าเรื่องนี้จะต้องไม่ให้ฉันออกหน้าเด็ดขาด”

เธอต้องการให้กู้ฉางซินหายไป แต่จะให้เฟิงจิ่งเหยารู้ว่าเธอเกี่ยวไม่ได้ ไม่อย่างงั้นสิ่งที่เธอทำก็เท่ากับสูญเปล่า”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท