สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 388 ผู้ชายประเภทนี้ ก็มีคนโหยหาด้วย

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ที่ตระกูลเฟิง

กู้ฉางฉิงนอนอยู่บนที่นอนก็ไม่รู้ทำไม ถึงนอนไม่หลับ

โดยเฉพาะบริเวณอก ถึงได้รู้สึกกระสับกระส่ายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้น

เธอคิดแล้ว ท้ายที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมา

ตอนนี้มีคนสองคนที่เธอเป็นห่วง คนหนึ่งคือแม่ อีกคนหนึ่งคือเฟิงจิ่งเหยา

เธอโทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาล ถามพยาบาลถึงอาการของแม่ ได้รู้ว่าทุกอย่างแม่เป็นปกติดี ความไม่สบายในใจก็ปล่อยวางไปครึ่งหนึ่ง

หลังจากวางสาย เธอก็โทรไปหาเฟิงจิ่งเหยาทันที

แต่ครั้งนี้มันไม่เป็นไปด้วยดี

โทรศัพท์ต่อสายไปแล้ว แต่ไม่มีคนรับ

เธอติดต่อเช่นนี้ไปหลายครั้ง ทำให้เธอกระวนกระวายขึ้นมา

เกิดเรื่องกับจิ่งเหยาหรือเปล่า

เธอตึงเครียดจนมือสั่นขึ้นมา ทว่าก็บังคับให้ตนเองสงบลง

เธอถือโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างมั่นคงอีกครั้ง โทรไปหาชวี่ยี่ ทว่าสายไม่ว่าง

จนปัญญา เธอได้แต่วางสายไป รอสักพัก

อีกด้านหนึ่ง ทางด้านชวี่ยี่นี้สายไม่ว่างจริงๆ

เพราะเวลานี้เขากดดันอย่างมาก

จากตามที่ลูกน้องของเฟิงจิ่งเหยารายงาน ว่าท่านประธานของเขาถูกลักพาตัวไปแล้ว

เขากำลังจัดการเรื่องเร่งด่วนทางด้านนี้ ในเวลาเดียวกัน เขาก็อยากหาวิธีติดต่อท่านประธานของตน

เพราะว่าเขายุ่งเช่นนี้ ทำให้เขาพลาดสายจากกู้ฉางฉิง

เวลานี้ เขาติดต่อโทรศัพท์ของเฟิงจิ่งเหยาได้แล้ว

“ท่านประธาน คุณอยู่ที่ไหน? ปลอดภัยดีไหม?”

เขาถือโทรศัพท์ถามอย่างเคร่งเครียด

แต่ไม่รู้ว่า สายของเขาถูกพวกเย่าซือฟังอยู่

“วางใจเถอะ ตอนนี้ท่านประธานของมึงยังอยู่ดี เพียงแต่ ถ้ากูรอของที่กูต้องการไม่ไหว มันก็จะแย่ได้ทุกเมื่อ”

เขาหัวเราะเบาๆตอบกลับชวี่ยี่

ฉับพลันชวี่ยี่ได้ฟังการข่มขู่ ก็เงียบไปเล็กน้อย

ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาจึงพูดอีกครั้งว่า : “กูไม่สนว่ามึงจะเป็นใคร ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับท่านประธานกู แม้ว่าเฟิงซื่อกรุ๊ปจะสิ้นสุดลงไป ก็จะไม่ปลิ่ยมึงไปอย่างแน่นอน!”

เขาขู่ด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม น้ำเสียงดุดันอย่างมาก

ดูเหมือนว่า จะโมโหอย่างมาก

เย่าซือหัวเราะเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร สายตานั้นมองเฟิงจิ่งเหยา

เฟิงจิ่งเหยาชำเลืองมองอย่างเยือกเย็น พูดอย่างเย็นชาว่า : “ชวี่ยี่”

เพียงแค่สองคำ ก็ทำให้ชวี่ยี่สงบลงมา

“ท่านประธาน?”

ในคำพูดเขามีความประหลาดใจเล็กน้อย

ยังไม่รอให้เขาสนใจสถานการณ์ของเฟิงจิ่งเหยาตอนนี้ เฟิงจิ่งเหยาก็พูดสั่งเขาต่อว่า : “คุณไปที่ตระกูลเฟิง ไปเอาแฟลชไดร์ฟในห้องหนังสือของฉันอยู่ลิ้นชักชั้นสองทางด้านซ้ายนำมาที่ถนนจางหรง ถึงเวลาจะมีคนพาคุณมา”

ชวี่ยี่ได้ยิน ก็ตอบรับตาปริบๆ : “รับทราบ ฉันจะไปทำเดี๋ยวนี้”

พูดจบ เขาก็จะวางสาย ทว่าถูกเฟิงจิ่งเหยาเรียกไว้

“เดี๋ยว ถ้าคุณนายรองถามถึงฉัน คุณรู้ใช่ไหมว่าควรจะพูดอย่างไร?”

ชวี่ยี่เข้าใจดี ว่าท่านประธานของตนไม่อยากให้คุณนายรองรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเขา

“เข้าใจแล้ว ฉันจะบอกว่าท่านประธานยังอยู่ที่งานเลี้ยง”

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า จึงวางสายไป

ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นเย่าซือจ้องมองเขาด้วยความสนใจ

เพราะว่าคำพูดของเฟิงจิ่งเหยา มันทำให้เขานึกถึงกู้ฉางฉิงที่ทำให้เขาประทับใจอย่างยิ่งเช่นกัน

“ผู้หญิงฉลาด กับผู้ชายเก่งกาจ มิน่าล่ะถึงได้มีคนโหยหาอยู่ตลอด”

เขาลูบๆคาง พูดคำพูดที่ยากแก่การเข้าใจ

เฟิงจิ่งเหยากวาดสายตาไปมองเขา แล้วนั่งบนโซฟาหลับตาพักผ่อนจิต

เย่าซือเห็นเช่นนี้ ก็ไม่ได้สนใจ

……

และในเวลาเดียวกันนี้ที่ตระกูลเฟิง

เมื่อกู้ฉางฉิงเพิกเฉยต่อความคิดฟุ้งซ่านเพราะหาคนไม่เจอ เธอได้ยินเสียงเบรกดังมาจากชั้นล่าง ก็เข้าใจผิดคิดว่าเฟิงจิ่งเหยากลับมาแล้ว ก็ไม่ได้สนใจที่จะสวมรองเท้า ลงไปชั้นล่างด้วยเท้าเปล่า

“จิ่งเหยา……ผู้ช่วยพิเศษชวี่?

เธอยังไม่ทันพูดจบ ก็พบว่าคนที่กลับมาไม่ใช่เฟิงจิ่งเหยา แต่เป็นชวี่ยี่ บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ

“ดึกขนาดนี้แล้ว ผู้ช่วยพิเศษชวี่มาทำไมหรอ? แล้วจิ่งเหยาล่ะ?

เธอพูดพลาง มองไปยังด้านหลังชวี่ยี่

ชวี่ยี่เห็นการกระทำของเธอ อารมณ์บนใบหน้าก็หยุดชะงักไป

“ท่านประธานยังอยู่เป็นเพื่อนลูกค้าอยู่ครับ ฉันมาช่วยท่านประธานนำข้อมูลฉบับนั้นไปส่งให้”

กู้ฉางฉิงฟังถึงคำพูดนี้ ในใจที่เป็นกังวลชั่วพริบตาก็หายไปเกินกว่าครึ่ง

ถึงอย่างไรชวี่ยี่ก็เป็นคนสนิทของเฟิงจิ่งเหยา เขาบอกว่าอยู่เป็นเพื่อนลูกค้าแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องเท็จ

ส่วนทำไมไม่รับโทรศัพท์ กู้ฉางฉิงก็ไม่ต้องถาม คิดแล้วก็คงจะไม่สะดวก

“งั้นคุณไปเถอะ ฉันจะกลับห้องก่อน”

เธอพูดพลาง หันตัวจะเดินจากไป ทันทีหลังจากนั้นก็เหมือนจะคิดอะไรได้ กล่างกำชับสั่งว่า: “ผู้ช่วยพิเศษชวี่ อีกสักครู่คุณพบจิ่งเหยา ให้เขาดื่มเหล้าน้อยหน่อยนะ”

ชวี่ยี่พยักหน้า หลังจากนั้นก็ส่งสายตามองจนกู้ฉางฉิงจากไป

หลังจากกู้ฉางฉิงออกไปแล้ว ทางด้านของเขาก็ใช้ความรวดเร็วอย่างที่สุดหยิบแฟลชไดร์ฟแล้วมุ่งไปยังสถานที่ที่ท่านประธานของตัวเองกำหนด

ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านประธานของเขาพูดไว้

ขณะที่มาถึงถนนจางหรง ก็ไม่รู้ว่าชายรูปร่างสูงใหญ่สองคนมาจากที่ไหนพรวดพราดขึ้นมาบนรถของเขา

ยังไม่รอให้เขาได้ตอบโต้ กระบอกสีดำเย็นเฉียบกระบอกหนึ่งก็วางอยู่ที่ขมับของเขา

“ออกรถ ไปชานเมืองทางตะวันตก!”

เสียงที่เต็มไปด้วยความดุร้ายก็ขึ้นข้างหูของเขา

ชวี่ยี่เดาได้ว่าสองคนนี้ก็คือคนที่ให้การสนับสนุนของเขา

เขาไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น เริ่มออกรถด้วยใบหน้าที่ขึงตึง ขณะเดียวกันก็สังเกตคนทั้งสองบนรถจากกระจกมองหลัง

คนของเขาที่กุมตัวพบการกระทำเล็กๆน้อยๆของเขา อดไม่ได้ที่จะใช้กำลังสกัดกั้นชวี่ยี่: “ซื่อสัตย์หน่อย!”

ชวี่ยี่โกรธแค้นกับผิวที่แตกที่หน้าผาก ก็ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ปล่อยมันไปอย่างเงียบสงบ

ผ่านไปสิบกว่านาที ช่วยรูปร่างสูงใหญ่ก็ออกคำสั่ง ชวี่ยี่จับรถมาถึงโรงงานร้างแห่งหนึ่งของชามเมืองทางตะวันตก

“ลงจากรถ!”

รถยนต์เพิ่งจอด ชายรูปร่างสูงใหญ่ก็แสดงเงื่อนไขด้วยเสียงรุนแรง

ชวี่ยี่หยิบสิ่งของแล้วลงจากรถอย่างซื่อตรง

ภายใต้การนำของชายรูปร่างสูงใหญ่ เข้าไปในโรงงานร้าง

ในโรงงาน ภายใต้แสงไฟเก่าที่เหลืองสลัว มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ทั้งยืนทั้งนั่งอยู่โดยรอบ

ตรงกลางมีโซฟาสองตัว ที่แยกกันนั่งมีท่านประธานของเขา และเย่าซือที่เคยพบหน้ากันมาแล้วก่อนหน้านี้

เย่าซือเห็นชวี่ยี่ ก็เหลือบตามองไปยังเฟิงจิ่งเหยาที่ยังหลับตาพักเหนื่อยอยู่

“คนของคุณมาแล้ว”

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน จึงค่อยๆลืมตา เอียงหน้ามองไปยังชวี่ยี่

“ของล่ะ?”

ชวี่ยี่เห็นเช่นนี้ ก็นำแฟลชไดร์ฟเข้าไปส่งมอบให้เฟิงจิ่งเหยาทันที

เฟิงจิ่งเหยาหยิบแฟลชไดร์ฟ แล้วโยนไปยังเย่าซืออย่างไม่มอง

“ของที่คุณต้องการ”

เย่าซือไม่คาดคิดถึงการกระทำนี้ของเฟิงจิ่งเหยา รับมาอย่างรวดเร็ว มุมปากก็ยกขึ้นไม่หยุด

“ประธานเฟิงจริงใจมาก!”

เขาถากถาง เฟิงจิ่งเหยาก็เข้าใจที่เขาพูดหมายความว่าอะไร ก็ไม่ใส่ใจโดยสิ้นเชิง

“ตอนนี้สิ่งของก็ให้คุณแล้ว ควรจะให้พวกเราไปได้แล้วใช่ไหม?”

เย่าซือมองไปยังแฟลชไดร์ฟในมือ กล่าวด้วยสายตาเป็นประกายว่า: “ถ้าสิ่งของเป็นของจริง ก็จะปล่อยคุณไปอย่างแน่นอน”

เขาพูดจบ ก็ส่งสายตาให้ลูกน้อง

ลูกน้องหยิบคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งมาทันที เย่าซือก็ไม่ได้สนใจเฟิงจิ่งเหยาเริ่มตรวจสอบ

เฟิงจิ่งเหยามอง ไม่ได้พูดอะไร ส่วนชวี่ยี่ เห็นคนที่อยู่โดยรอบ ในใจก็ไม่สงบเล็กน้อย

“ท่านประธาน……”

เขาอยากจะพูดอะไร แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ก็ถูกสายตาของเฟิงจิ่งเหยาระงับไว้

แน่นอนว่าเย่าซือเห็นการกระทำของพวกเขา แต่ไม่มีความคิดที่ตะไปสนใจ

นิ้วมือของเขาเคาะบนคีย์บอร์ดไม่หยุด ไม่นาน ก็เห็นความพึงพอใจที่ระงับไว้ไม่อยู่บนใบหน้าของเขา

“ประธานเฟิง ในที่สุดการตัดสินใจครั้งนี้ก็ทำให้คนพึงพอใจ”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท