เจี่ยนอี๋นั่วหรี่สายตา เธอตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเธอจึงเข้าใจความหมายในคำพูดของเยี่ยหมิงจู
เยี่ยหมิงจูกำลังพูดว่าเธอตั้งท้อง? อย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะเคยมีความสัมพันธ์กับเหลิ่งเซ่าถิง แต่เธอก็ถูกเหลิ่งหมิงอันกักขังตัวเอาไว้ เหลิ่งหมิงอันนั้นได้ก่อกวนความคิดในเรื่องเวลา เขาให้ยาเพิ่มฮอร์โมนแก่เธอ ประจำเดือนของเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง แม้ว่าเลือดออกจะน้อยมาก แต่ก็ถือว่ามีประจำเดือนแล้ว แล้วเธอจะท้องได้อย่างไร?
เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ ฉันจะท้องได้อย่างไร? ฉัน…ฉัน…”
ขณะที่เจี่ยนอี๋นั่วกล่าว เธอยกมือขึ้นปิดหน้าท้องและขมวดคิ้ว เธอนั้นเคยตั้งท้องมาก่อน เธอรู้ว่าการตั้งครรภ์เป็นอย่างไร ความรู้สึกในก็ตอนนี้คล้ายกับความรู้สึกที่เธอเคยท้อง ไม่ บางทีอาจเป็นเพราะร่างกายเธอนั้นสมบูรณ์มากขึ้น ครั้งที่แล้วที่เธอท้องก็ไม่ได้กินเยอะขนาดนี้
แต่เจี่ยนอี๋นั่วเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเธอนั้นกำลังตั้งท้อง เธอไม่อยากให้ลูกของเธอเกิดมาในคุกนี้ ตอนนี้เจี่ยนอี๋นั่วกำลังลังเล เยี่ยหมิงจูตะโกนบอกผู้คุมที่เดินผ่านห้องขังทันที “ผู้คุม ผู้คุม! เหมือนว่า953จะไม่ค่อยสบาย เหมือนกับว่าเธอกำลังท้อง!”
เยี่ยหมิงจูกล่าวพร้อมกับหันไปยิ้มให้กับเจี่ยนอี๋นั่ว “ถ้าเธอท้องก็ดี การดูแลนั้นดีมาก บางทีเธออาจมีวิธีที่เกี่ยวกับการแพทย์และสามารถออกไปก่อนก็เป็นได้?”
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วจ้องมองผู้คุมที่เดินเข้ามาดู ตอนนี้ภายในสมองของเธอกำลังตื้อ เธอคาดหวังมากว่าเธอจะต้องไม่ท้อง อย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่เวลานี้ เมื่อเธอมาถึงโรงพยาบาล หลังจากที่แพทย์ของเรือนจำตรวจร่างกายเจี่ยนอี๋นั่วแล้ว เธอก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณท้องมาสักพักแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องระวังให้มากขึ้น มีครอบครัวหรือเปล่า ติดต่อพวกเขาหน่อย พ่อของเด็กก็ควรแจ้งด้วย….”
ตอนนี้สมองของอี๋นั่วนั้นว่างเปล่า เวลาผ่านไปชั่วครู่ เธอจึงจะกล่าว “แต่ก่อนหน้านี้ฉันมีประจำเดือนแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะท้องได้อย่างไร?”
“ประจำเดือนจริงหรือ อาจเป็นอาการเลือดออกในช่วงแรกของการตั้งครรภ์” แพทย์เรือนจำกล่าว
เจี่ยนอี๋นั่วอ้าปากค้างและท้ายที่สุดเธอก็เม้มริมฝีปาก เจี่ยนอี๋นั่วจำได้ว่าตอนที่เธอตั้งครรภ์ลูกคนแรกเธอก็มีอาการเลือดออก เจี่ยนอี๋นั่วเงยหน้าขึ้นมองแพทย์จากนั้นเธอกล่าวเบาๆว่า “มีคนให้ยาเพิ่มฮอร์โมนแก่ฉัน อาจทำให้กระทบแก่เด็กในครรภ์แล้วจึงเกิดอาการเลือดออกใช่หรือเปล่า?”
แพทย์ขมวดคิ้วและมองไปยังเจี่ยนอี๋นั่ว “มีโอกาสเป็นไปได้สูง แต่ก็ต้องเข้ารับการตรวจอีกครั้ง พวกคุณ…ไอ ที่นี่ฉันเองก็เคยพบคนแบบคุณ ในช่วงนี้ได้เสพพวกยาผิดกฎหมายหรือเปล่า?”
เจี่ยนอี๋นั่วตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนหน้านี้ร่างกายของเธอไม่เคยพบเจอปัญหาเช่นนี้ ผ่านไปชั่วขณะ เจี่ยนอี๋นั่วก็ได้สติ ตอนนี้เธออยู่ภายในเรือนจำ ตอนนี้กับตอนที่อยู่โลกภายนอกนั้นไม่เหมือนกันแล้ว
เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้าเบาๆ “ฉันเปล่า”
แพทย์ในเรือนจำพยักหน้าจากนั้นก็ทำการจดบันทึกและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในช่วงท้องนั้นมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นอีกหรือเปล่า?”
เจี่ยนอี๋นั่วรีบส่ายหน้า “ฉันก็ไม่มี”
แพทย์เงยหน้าขึ้นและมองไปยังเจี่ยนอี๋นั่ว “เคยมีประวัติกามโรคหรือการติดเชื้ออะไรบ้างหรือเปล่า?”
“ไม่มี ฉันไม่มี” เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้า
แพทย์ประจำเรือนจำถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ถ้าเป็นแบบนั้นคุณเองก็ดีกว่านักโทษหญิงคนอื่นๆ จะให้เด็กมีชีวิตรอดหรือจะทำแท้ง คุณก็คิดให้ดี หากว่าปรึกษากับที่บ้านแล้ว คุณก็สามารถพูดคุยกับผู้คุ้มขังและสามารถออกไปได้”
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วพร้อมกับถามว่า “ก่อนหน้านี้ที่ฉันเคยได้รับยาเพิ่มฮอร์โมนนั้นจะมีผลกระทบกับเด็กมากหรือเปล่า ถ้าหากฉันต้องการเก็บเด็กคนนี้ไว้”
แพทย์ที่กำลังจดบันทึกก็เงยหน้าขึ้นและมองเจี่ยนอี๋นั่วพร้อมกับกล่าวว่า “ตอนนี้คุณอยุ่ที่นี่ มีผลกระทบกับเด็กเป็นอย่างมาก ไม่มีออกไปร้ายแรงไปกว่าการคลอดในคุกหรอก”
หลังจากแพทย์กล่าวจบ เธอก้มศีรษะลงและจดบันทึกอีกครั้ง เจี่ยนอี๋นั่วกัดริมฝีปากล่างของเธอและหันหน้าเดินจากไป ตั้งแต่เจี่ยนอี๋นั่วถูกคุมขัง ชีวิตของเธอค่อนข้างเรียบง่ายและสงบสุข แต่การปรากฏตัวของเด็กอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้จิตใจและอารมณ์ของเธอนั้นปรวนแปร เจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆเดินและค้ำกำแพงไว้ เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงเหลิ่งเซ่าถิง เธออยากโทรหาเหลิ่งเซ่าถิงและบอกเขาเรื่องที่เธอกำลังตั้งท้อง
เธอนั้นไม่รู้เลย ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร เธอไม่อยากให้เด็กเกิดในคุก เธออยากออกไป เธออยากบอกเหลิ่งเซ่าถิง เธอไม่ได้เข้มแข็งมากขนาดนั้น ตอนนี้เธอไม่สามารถรับเรื่องราวนี้ได้เลย
เธอเดินไปยังห้องขังด้วยท่าทีที่อ่อนแรง เจี่ยนอี๋นั่วนั่งลงบนเตียงของเธอ เยี่ยหมิงจูก็รีบเข้ามาหาเธอพร้อมกับถามด้วยความเป็นกังวล “เฮ้ ผลตรวจเป็นไงบ้าง? ท้องหรือเปล่า?”
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและค่อยๆพยักหน้าอย่างเชื่องช้า “อืม ท้อง”
เยี่ยหมิงจูยิ้มในทันที “พระเจ้า จริงใช่ไหม? นี่คือเรื่องดีๆ ฉันจะต้องบอก..บอกครอบครัวฉัน ให้พวกเขาเตรียมของสำหรับหญิงสาวที่กำลังท้อง แล้วก็ เธอนอนชั้นบนไม่ได้แล้ว เธอแลกที่นอนกับฉัน ฉันจะนอนชั้นบนเอง เธอนอนชั้นล่างได้เลย เดี๋ยวใกล้หนึ่งเดือนก็จะลุกเข้า ลุกออกลำบาก เธอ เธอไม่ต้องแยกไปนอนเดี่ยวหรอก อยู่กับพวกเรานี่แหละ ดูแลซึ่งกันและกัน มีเรื่องราวดีๆที่ควรค่าแก่การฉลองในเรือนจำนี้…”
“เรื่องราวดีๆที่ควรค่าแก่การฉลอง?” เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและกล่าวซ้ำ
นักโทษหญิงคนอื่นๆในห้องขังต่างขมวดคิ้ว “ก็ใช่ไง นี่ถือเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การฉลองไง? ใครที่เข้าคุกแล้วสามารถตั้งท้องได้? แล้วฉันก็จำได้ว่าไม่มีชายคนไหนมาเยี่ยม953เลย เมื่อถึงเวลาประกัน แพทย์ก็ตามหาใครไม่ได้ 953นั้นไม่มีกำหนดออกจากที่นี่ หากว่าเด็กคลอดที่นี่จะทำอย่างไร? หากเด็กได้รับความทุกข์ทรมานมาตลอดชีวิตควรกำจัดออกโดยเร็วที่สุด เธอเจ็บปวดเพียงชั่วคราวดีกว่าเจ็บปวดไปชั่วชีวิต”
เนื่องจากนักโทษหญิงในห้องขังนั้นได้รู้จักคุ้นหน้าคุ้นตาเจี่ยนอี๋นั่วมาสักระยะแล้ว พวกเธอจึงไม่กลัวเธอเหมือนเมื่อก่อน เมื่อได้ยินเรื่องราวของอี๋นั่วก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา
เยี่ยหมิงจูขมวดคิ้วและกล่าวว่า “พวกเธอไม่รู้หรือไงการท้องมันยากมากแค่ไหน? พวกเธอก็พูดได้สิว่าให้กำจัดออก!”
เยี่ยหมิงจูพูดจบจากนั้นหันไปมองเจี่ยนอี๋นั่ว เธอยิ้มและกล่าว “อี๋นั่ว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีกำหนดออก แต่เธอก็จะได้ออกในไม่ช้าแน่ๆ เธออย่าเพิ่งเอาเด็กออก คิดดีๆแล้วค่อยคุย ใช่แล้ว บ้านฉันส่งอาหารมาให้เธอด้วย เดี๋ยวฉันเอามาให้”
เยี่ยหมิงจูรีบหยิบกล่องอาหารออกมาในทันทีและนำมาวางไว้ตรงหน้าอี๋นั่ว เธอกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม “อี๋นั่ว ตอนนี้เธอต้องดูแลสุขภาพให้ดี เรื่องของเด็ก เธอค่อยๆคิด ทางที่ดีคือเก็บเด็กไป การมีลูกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
“ฉันไม่ทิ้งเด็กคนนี้หรอก” เจี่ยนอี๋นั่วถอนหายใจและกล่าว
เจี่ยนอี๋นั่วสูญเสียลูกไปแล้วครั้งหนึ่งและความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของเธอ เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่เธอจะยอมแพ้ทอดทิ้งเด็กคนนี้ แต่ตอนนี้ในสถานการณ์ของเธอ เธอจะให้กำเนิดเด็กคนนี้ได้อย่างไร? และการเกิดของเด็กคนนี้อาจทำให้เกิดตัวแปรใหญ่ คนในตระกูลเหลิ่งจะยอมให้เธอให้กำเนิดลูกของเหลิ่งเซ่าถิงหรือ?
เจี่ยนอี๋นั่วสูดลมหายใจเข้า เธอตัดสินใจติดต่อเหลิ่งเซ่าถิง ไม่ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของเธอและเหลิ่งเซ่าถิงจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะแตกร้าวกันไปหรือว่ายังรักกัน เจี่ยนอี๋นั่วก็อยากให้เหลิ่งเซ่าถิงได้รู้ว่าเธอกำลังท้อง มันเป็นเรื่องที่สมควรกระทำ
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว เธอลุกขึ้นยืนในทันที เธอเดินไปยังประตูองขังและกระซิบกับผู้คุมที่ยืนอยู่นอกประตู “ผู้คุม ฉันอยากจะขอปรึกษากับคนที่บ้านหน่อยจะได้ไหม?”
“เธอต้องการจะพบใคร?” ผู้คุมถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เจี่ยนอี๋นั่วเม้มริมฝีปาก เธอลังเลอยู่เป็นเวลานานและกล่าว “เหลิ่ง..เหลิ่งเซ่าถิง..”
จากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็บอกหมายเลขโทรศัพท์ของเหลิ่งเซ่าถิงและรอการตอบกลับของผู้คุม หลังจากนั้นไม่นานผู้คุมก็เดินกลับมาและพูดกับเจี่ยนอี๋นั่วด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ติดต่อไปแล้ว เขาไม่อยากพบเธอแล้วก็บอกอีกว่าไม่เคยรู้จักเธอเลย”
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและถามด้วยเสียงสั่นเครือ “คุณว่าไงนะ? บอกหรือยังว่าฉันกำลังท้อง”
ผู้คุมพยักหน้า “บอกแล้ว เขาบอกว่าก็ให้กำจัดออกไป เขาไม่รับผิดชอบ แล้วก็…”
ผู้คุมกล่าวจากนั้นเขาก็หยุดลง เขามองอี๋นั่วด้วยความสงสาร “และเขาบอกว่า ตอบคบเธอ เขาป้องกันตลอด เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขา ให้เธอตามหาคนที่ชื่อเหลิ่งหมิงอันไม่ก็ไปถามผู้ชายคนอื่น”
ดวงตาของเจี่ยนอี๋นั่วเบิกกว้าง เธอมองไปที่ผู้คุม เธอส่ายหน้าด้วยความตื่นตระหนกและพูดว่า “ไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะพูดแบบนี้ ไม่เชื่อ คุณโกหก คุณโทรให้ฉันหน่อย ให้ฉันได้คุยกับเขา!”
ผู้คุมถอนหายใจและพูด “953 สงบสติอารมณ์หน่อย ควบคุมอารมณ์! ฉันไม่ได้โกหก เขาพูดแบบนี้จริงๆ”
“ฉันไม่เชื่อ..”เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหน้าและกล่าว
หากนี่เป็นวิธีการที่เหลิ่งเซ่าถิงทำเพื่อปกป้องเธอ นี่มันโหดร้ายเกินไป เจี่ยนอี๋นั่วไม่อยากคิดอะไรต่อไป เธอไม่กลัวตาย เธอกลัวที่จะมีชีวิตต่อไปเช่นนี้แล้วเธอจะค่อยๆหมดความไว้วางใจที่มีต่อเหลิ่งเซ่าถิงและหมดรักเขา
เจี่ยนอี๋นั่วยื่นมือไปจับผู้คุมแล้วร้องขอ “ผู้คุม ฉันขอร้อง ช่วยโทรหาเขาให้ฉันหน่อยได้ไหม สักครั้ง?”
ผู้คุมขมวดคิ้วแน่น จากนั้นเขาก็ทำท่าคิดแล้วค่อยพยักหน้าอย่างช้าๆ “อืม”
ผู้คุมกล่าวและเรียกให้เจี่ยนอี๋นั่วออกไป เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วเดินไปยังด้านข้างของโทรศัพท์ เธอกลับไม่กล้าที่ยื่นมือออกไป เธอลังเลอยู่เป็นเวลานาน จากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปและกดหมายเลขของเหลิ่งเซ่าถิง
ในขณะที่สายเชื่อมต่อ เจี่ยนอี๋นั่วนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอจะพูดอะไร เธอกัดริมฝีปาก อีกฝ่ายนั้นรับสายและเงียบอยู่ชั่วครู่จากนั้นเหลิ่งเซ่าถิงกล่าวด้วยเสียงที่เย็นชา “เอาเด็กออกไป เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกฉัน แม้ว่าจะเป็นลูกของฉัน ฉันก็จะไม่ยอมรับ เจี่ยนอี๋นั่ว เราจบกันไปแล้ว”
เขากล่าวจบก็ตัดสายไปในทันที เจี่ยนอี๋นั่วกัดริมฝีปากของเธอแน่นจนเกิดแผลแยกระหว่างริมฝีปากของเธอและมีเลือดไหลออกมา หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วถูกคุมขัง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัย หรือว่าเธอนั้นคิดผิด เป็นไปได้ไหมว่าการปกป้องที่เรียกนั้นอาจเป็นเพียงภาพลวงหลอกที่เธอคิดขึ้น? ในความเป็นจริงแล้วเหลิ่งเซ่าถิงนั้นไม่เชื่อเธอ เกลียดเธอ และอยากจะทิ้งเธอไป?