ธราเทพมีท่าทางเงียบสงบ เคลื่อนไหวอย่างผ่อนคลาย
แต่ในใจณัฐณิชาเริ่มสงสัย เธอฝืนยิ้มออกมา แล้วลองเชิงถาม “เป็นเรื่องของบริษัทเหรอ?”
ธราเทพเดินมา มาถึงข้างกายณัฐณิชา บนร่างกายของเขามีรัศมีอันทรงพลัง ซึ่งทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นอารมณ์ของเขาได้
เพียงแต่ว่า เมื่อผ่านข้างกายของณัฐณิชา ประโยคคำพูดเบาๆก็แว่วเข้าไปในหูของเธอ
“เรื่องของผม ไม่จำเป็นต้องรายงานกับคุณ”
คำเดียว ทำให้ณัฐณิชานิ่งอึ้งไปในทันที……
เมื่อกี้เธอยังเกาะแขนเขาอย่างออเซาะ เกาะนิ้วมือไว้แน่น เหมือนคู่สามีภรรยาที่รักกันมาก……
แต่ตอนนี้ เขากับพูดกับตัวเองอย่างเฉยชา
“ณัฐณิชา มาทานข้าวได้แล้ว!”
ณัฐณิชาได้ยินเสียงของคุณปู่ และปรับอารมณ์ตัวเองแล้วรีบวิ่งไป บนโต๊ะอาหาร เธอก้มหน้าทานข้าวตลอด โดยไม่สนใจสถานการณ์บนโต๊ะอาหาร
“ธราเทพ ได้ยินมาว่าช่วงนี้เธอทำธุรกิจของแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ปได้รุ่งโรจน์มาก ที่ดินในเมืองทิศใต้ เธอก็กำลังดูๆอยู่หรือเปล่า?” จู่ๆพ่อพินิจก็พูดขึ้น
“ครับ”
“อะแฮ่มเสียงไอ……” ใบหน้าของพ่อพินิจเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ประจบประแจง แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยแสงสว่าง “นั่นมันอะไร ฉันได้ยินมาว่าที่ดินผืนนั้นราคา 1.5 พันล้าน แกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ปซื้อไหวเหรอ? หรือแบ่งผลประโยชน์ให้อาหน่อย? พอดีช่วงนี้อาสนใจในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ก็ถือว่า……”
ครับ?
ณัฐณิชาเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย เห็นแต่ธราเทพยังไม่ได้วางตะเกียบ ราวกับว่ากำลังเล่าเรื่องราวธรรมดาเท่านั้น
1.5 พันล้าน……
นั่นมันเงินเท่าไหร่? ณัฐณิชาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายของเธอ แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวว่าน้ำลายตัวเองกำลังจะไหลออกมา
“ทานข้าวของคุณไป!”
ทันใดนั้นมีคนนำน่องไก่โยนใส่ในชาม ณัฐณิชาพึ่งรู้ตัวว่าเมื่อสักครู่เธอตกใจเกินไป หน้าแตก!
เธอรีบก้มหัวลงและตักข้าวเข้าปากอย่างเงียบๆ อยากจะมุดหน้าตัวเองเข้าไปในถ้วย
“คุณลุงพินิจในสถานการณ์แบบนี้แกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ปไม่เคยร่วมมือกับคนอื่น ไม่เคยเหมือนใครทำงานเองมาตลอด”
แอบเงยหน้าขึ้น ก็เห็นพ่อพินิจกำลังถูจมูกของเขา ณัฐณิชาบ่นพึมพำเบาๆ ลูกสาวสร้างปัญหาหาเรื่องคนอื่นทุกวัน ถ้าธราเทพยินยอมที่จะแบ่งผลประโยชน์ให้เขาคงมีปัญหาแน่นอน
ยังงัย เธอเห็นมากับตาว่าธราเทพเกลียดอภัสราภรณ์ขนาดไหน
เฮ้อ……
ณัฐณิชากำลังจินตนาการอยู่พักหนึ่ง เพิ่งรู้ตัวว่าทุกคนทานหมดแล้ว มีเพียงกับข้าวในชามของเธอเท่านั้นที่ยังไม่ได้แตะต้อง เธอรีบกลืนมันอย่างรวดเร็ว และไม่ระวังจึงสำลัก
“แค่ก แค่ก แค่ก……”
“ทานช้าๆ”
ณัฐณิชาเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ มีคนยื่นแก้วน้ำให้เธอ แล้วพูดอีกว่า “ไม่มีใครมาแย่งเธอ”
“……” ณัฐณิชาดื่มน้ำหลายอึก เธอมองดูข้าวในชามอย่างลำบากใจ รู้สึกเขินอายที่ข้าวยังเหลืออยู่ ช่วงเวลาสั้นๆก็ทานไม่หมด จึงได้แต่มองไปที่ธราเทพเพื่อขอร้องอ้อนวอน แต่ธราเทพกลับละสายตามองไปทางอื่น
ได้ผลประโยชน์แล้วลืมบุญคุณจริงๆ!
เมื่อสักครู่ตัวเองเพิ่งช่วยเขาแก้ปัญหาเรื่องความรักผิดศีลธรรม เขากลับไม่ห่วงใยตัวเองด้วยซ้ำ แต่ครู่ต่อมา ธราเทพหยิบตะเกียบขึ้นมาอีกครั้ง และค่อยๆทานอาหารอีกครั้ง……
เขา ที่เขาทำเช่นนี้เพื่อช่วยลดความอึดอัดของเธอเหรอ?
ชั่วขณะณัฐณิชาตั้งสติไม่ได้
ด้านโน้น ธราเทพได้พูด “คุณอาและคุณน้า พวกคุณเหนื่อยมากแล้ว งานเลี้ยงตอนค่ำผมจะไป”
นี่คือการ ออกคำสั่งไล่บุคคลที่ไม่ค่อยชอบหน้า