“อ้วก…..”
นภสรณ์จับต้นไม้ไว้พร้อมกับอ้วกออกมาจนฟ้ามืดมัวดิน ณัฐณิชาที่เห็นเช่นนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะหลับตาลง
เธอมองไปที่ธิปติพัศที่อยู่ด้านข้าง ธิปติพัศสวมกางเกงขายาวหลวมๆและรองเท้าผ้าใบ มองดูรูปร่างกับจิตใจของเขาที่มันช่างต่างกันลิบลับแล้ว ช่างน่าเสียดาย…
ณัฐณิชาส่ายหัวไปมา ที่แท้สวรรค์ก็ยังมีความยุติธรรม ให้ใบหน้าที่งดงามมาแต่ไม่จำเป็นต้องให้สมองมาเหมาะสมกับใบหน้าแต่อย่างใด
“ฉันแพ้แล้ว”
ธิปติพัศพูดด้วยใบหน้าที่มืดมน
เขาคิดมาตลอดว่าพี่ชายคนโตของเขานั้นเป็นพวกไร้ประโยชน์ที่รู้แต่เรื่องการบริหาร ไม่คาดคิดเลยว่าจะเก่งเรื่องซิ่งรถด้วย!
ตอนอยู่บนถนนมีหลายครั้งที่เขาคิดจะแซงไป แต่ก็ถูกธราเทพกันไว้ได้ตลอด
“อืม รู้ตั้งนานแล้วล่ะว่าจะมีผลลัพธ์แบบนี้”
ธราเทพพูดประโยคนี้ออกมาอย่างเฉยเมยราวกับว่าเขาไม่ต้องการจะพูดอะไรกับธิปติพัศมากนัก เขากวักมือเรียกณัฐณิชา “มานี่ พวกเราไปกันเถอะ”
“หืม?รีบไปขนาดนี้เลยเหรอ?” ณัฐณิชาเดินมาพร้อมกับมองไปที่ธิปติพัศด้วยสีหน้าที่คาดหวัง “แต่ว่าน้องชายบอกว่าถ้าชนะแล้วก็จะมีรางวัลไม่ใช่เหรอ ถ้าฉันจำไม่ผิดนะ…..หืม?”
“ฉันแพ้แล้ว เธอต้องการอะไรล่ะ?”
ธิปติพัศจ้องไปที่ณัฐณิชา
ณัฐณิชารู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างมากแต่ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง เหอะ
มือปลาหมึกอย่างธิปติพัศ นึกไม่ถึงเลยนะว่าจะกล้ามาเอาเปรียบตนได้
“แบบนี้ละกัน จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้หรอกว่าอยากได้อะไร…อย่างไรเสียสามีของฉันก็เป็นถึงประธานแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป อยากได้อะไรก็มักจะได้เสมอ แต่ถ้าเป็นของธรรมดาๆก็คงจะไม่เข้าตาพวกเราเสียด้วยสิ” ณัฐณิชานั้นได้รับผลประโยชน์ เธอไม่เพียงแต่ใช้โอกาสนี้ชมเชยธราเทพแต่ยังดูถูกธิปติพัศไปในตัวอีกด้วย
สีหน้าของธิปติพัศนั้นค่อยๆเปลี่ยนจากสีขาวกลายเป็นเขียว
ณัฐณิชายิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าธิปติพัศนั้นไม่ได้ยับยั้งอะไรตน เธอจึงรู้ว่าเขานั้นยอมจำนนให้แล้ว ดวงตาสีเข้มราวกับผลองุ่นกลิ้งไปมา เต็มไปด้วยการคาดคำนวณ
“เธอต้องการอะไร?” ธิปติพัศกัดฟัน เกลียดณัฐณิชาจนอยากจะกลืนกินเธอทั้งเป็น
ณัฐณิชาใช้มือจับคางพร้อมกับคิดอย่างเอาจริงเอาจัง
ตอนนี้ท้องฟ้าค่อยๆมืดลงแล้ว แสงอาทิตย์ที่กำลังตกดินส่องสว่างบนหน้าของเธอ เผยให้เห็นถึงขนเส้นเล็กรำไรบนหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน ดูแล้วงดงามเป็นอย่างมาก
ความอบอุ่นที่ได้จากแสงแดดนี้มันได้ทำให้คนนั้นอดไม่ได้ที่จะคิด…เมื่อธราเทพตระหนักถึงสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ เขาจึงได้ตัดความคิดนั้นออกไปในทันที
เขากำลังคิดอะไร?
เขาคิดแบบนั้นได้อย่างไรกัน?
“ฉันคิดว่า” ณัฐณิชานั้นไม่ได้รับรู้ถึงดวงตาของธราเทพนั้นค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างสงบ ในใจกลับยิ่งคิดคำนวณมากขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากตัวของนายเลย ถ้าอย่างนั้นนายขอโทษมาสักหน่อยก็แล้วกัน ครั้งก่อน…อืม นายแค่พูดว่าพี่สะใภ้ผมผิดไปแล้ว ต่อไปผมจะไม่ทำตัวไม่เคารพเธออีก”
“ณัฐณิชา เธออย่ามาได้คืบจะเอาศอก” ธิปติพัศกล่าวด้วยความตกใจ
ณัฐณิชายังคงยิ้มอยู่ เธอไม่ได้โกรธธิปติพัศเลยแม้แต่น้อยที่เขานั้นได้ประณามเธอ เธอเองก็รู้ดีว่าตัวของธิปติพัศนั้นไม่ได้ขาดแคลนเงินหรืออะไร แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับพวกลูกท่านหลานเธอพวกนี้ก็คือการเสียหน้า
เขากลัว เธอถึงได้ทำให้เขาเสียหน้าไงล่ะ!
จะดูว่าในภายภาคหน้าเขาจะยังกล้ามาหาเรื่องตนอีกหรือไม่
“น้องชาย นี่เป็นสิ่งที่นายพูดเองกับปากเองเลยนะ ตอนนี้นายก็แพ้แล้วจะมาทำตัวเล่นลูกไม้อย่างหน้าด้านๆแบบนี้เหรอ?” สีหน้าท่าทางของณัฐณิชารู้แจ้งในทันที “ที่แท้น้องชายก็เป็นพวกเล่นลูกไม้อย่างหน้าด้านๆเองเหรอเนี่ย……”