สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก – บทที่ 83 ชีวิตของคนมีเงิน

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

นภสรณ์อ้อนวอนครั้งแล้วครั้งเล่า และเวลานี้ได้เวลาทานอาหารพอดี พนักงานหลายคนในบริเวณใกล้เคียงสังเกตเห็นสถานการณ์ทางนี้ ถ้าณัฐณิชายังเอาแต่ปฏิเสธ ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะสงสัยไปต่างๆ นาๆ

“ไปด้วยกันเถอะ” ธราเทพเองก็เอ่ยปากด้วย

ในเมื่อธราเทพเอ่ยปาก งั้นไปก็ได้

ยังไงเธอณัฐณิชาคนนี้ก็ไม่ได้เป็นพระถังซัมจั๋งที่อิ่มทิพย์นี่นะ ใครๆ ก็อยากกิน อย่างมากก็แค่เจอเทพฆ่าเทพเจอพระฆ่าพระพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ก็แล้วกัน

พวกเขาไปร้านอาหารญี่ปุ่นที่ชั้นล่าง ณัฐณิชาเอาเมนูมาดูแล้วพลันตกใจ

นี่ๆๆ……

หนึ่งจานราคาหลายพัน พิเศษขนาดนี้คือให้คนกินเหรอ

“พี่สะไภ้ สั่งเลยสิ มื้อนี้พี่ชายเลี้ยงพวกเรา” นภสรณ์ยิ้มเล็กน้อย เห็นณัฐณิชามีเมนูอยู่ในมือเล่มหนึ่ง เธอจึงเอาอีกเล่มหนึ่งไปทันที สั่งของอร่อยมากมายกับบริกรมาทุกอย่างที่ต้องการ

เมื่อณัฐณิชาได้ยินคำพูดของนภสรณ์ ก็ทนไม่ได้จนในใจเริ่มมีเลือดทะลัก

พวกเขาแค่สามคนเองนะ? สามคนทานอะไรเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ทานหมดเหรอ

นภสรณ์ทำไมคุณไม่ปล้นไปเลยล่ะ!

ณัฐณิชาจ้องราคาในเมนูด้วยน้ำตาตกใน ใครจะรู้ว่าทางฝ่ายธราเทพไม่ได้สังเกตเห็นความปวดใจของณัฐณิชาเลยสักแม้แต่น้อย กลับกันยังสั่งอาหารมามากมายไม่ต่าง……

ไม่ต่างกันเลยเหรอ!?

“เอ่อ สามีคุณสั่งเยอะเกินไปหน่อยหรือเปล่า ถ้ายังไงเราแบ่งกันทานไหม” ณัฐณิชากลืนน้ำลายอึกใหญ่ พูดอย่างระมัดระวัง

เธอสีหน้าคับข้องใจพร้อมกับใบหน้าเล็กยู่เข้าหากัน จ้องมองธราเทพอย่างคับข้องใจมาก แต่ธราเทพจะรู้ความคิดของเธอได้ยังไง เพียงเหลือบมองเธออย่างสงสัย เห็นเธอยังไม่สั่ง จึงบอกบริกรโดยตรงว่า “ของเธอแบบเดียวกับผม”

แบบเดียวกัน?!

ตอนนี้ณัฐณิชายิ่งพูดไม่ออก

โลกของคนมีเงินเราคนธรรมดาไม่มีทางเข้าใจหรอก ช่างเถอะ เพราะท้ายที่สุดแล้วที่จ่ายก็เป็นเงินของธราเทพ ไม่ใช่ของตน

เขายินดีจะใช้ก็ใช้ไปเถอะ ยังไงบางทีคนมีเงินอาจจะทานข้าวไม่ใช่ข้าวแต่เป็นบะหมี่ล่ะมั้ง

ณัฐณิชาปลอบใจตัวเอง

เธอคิดว่าระหว่างมื้ออาหารนภสรณ์จะสร้างความลำบากให้เธออีก ใครจะรู้ว่าตั้งแต่ต้นจนจบนภสรณ์ทานเงียบๆ เหมือนเด็กดี แค่ระหว่างนั้นมีไปห้องน้ำ ส่วนช่วงเวลาที่เหลือก็ปกติมาก มันแปลกมาก วันนี้นภสรณ์เปลี่ยนนิสัยแล้วเหรอ ไม่หาเรื่องตนแล้วหรือไง

หรือว่ามีอะไรไม่ปกติจริงๆ

ณัฐณิชายัดอาหารเข้าปากและเคี้ยวเหมือนหนูแฮมส์เตอร์ตัวน้อยขณะที่ในใจก็คิดไปด้วย

ระหว่างนั้น ธราเทพรับโทรศัพท์สายหนึ่ง หลังจากเขาออกไป ทันใดนั้นนภสรณ์ก็ยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม เงยหน้าขึ้นมามองณัฐณิชา “พี่สะไภ้ คุณรู้ไหมว่าพี่ชายฉันไปทำอะไร”

“ก็รับโทรศัพท์ไม่ใช่เหรอ เป็นเรื่องงาน เรื่องของเขาฉันไม่ยุ่ง” ณัฐณิชาจิบน้ำมะนาว และยิ้มเล็กน้อย “ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดระหว่างสามีภรรยาก็คือความไว้วางใจ คุณคิดว่าไง”

“ฮ่าฮ่า พี่สะไภ้ฉันไม่รู้เลยว่าควรพูดว่าคุณใจกว้างหรือว่าไม่มีความใส่ใจกันนะ ไม่อยากเชื่อว่าแม้แต่สามีตัวเองก็จัดการไม่ได้……”

“นภสรณ์ คุณอยากพูดอะไรกันแน่” นภสรณ์คิ้วขมวดมุ่น

บางทีอาจเป็นเพราะร้านอาหารหรูนี้ทำให้ตัวเองช็อค เพราะว่าเธอไม่ได้มาบ่อยๆ แม้ในสายตาของคนอื่นณัฐณิชาจะเป็นคนที่ให้อารมณ์เหมือนมาจากครอบครัวร่ำรวย แต่ในใจของเธอเองกลับมีปมด้อย

เธอไม่อยากมีปัญหาในโอกาสแบบนี้

นภสรณ์ยิ้มขึ้นและยักไหล่ “ฉันเกรงว่าคุณคงไม่รู้ว่าพี่ชายกำลังสืบเรื่องของคุณอยู่ ที่จริงฉันสงสัยมากนะ ในเมื่อคุณกับพี่ชายแต่งงานกันแล้ว และความสัมพันธ์ยังดีขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่ชายต้องสืบเรื่องของคุณ พี่สะไภ้ที่ดี……ของฉัน”

สืบ!?

ธราเทพกำลังแอบสืบเรื่องของตนงั้นเหรอ

จู่ๆ หัวใจก็เหมือนถูกบางสิ่งดึงรั้ง สีหน้าณัฐณิชาดูไม่ปกติอย่างมาก แต่นี่คือผลลัพธ์ที่ณภสรณ์ต้องการ เธอเห็นธราเทพเดินเข้ามา จึงรีบหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์ข้อความส่งไป

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

Status: Ongoing
ตอนณัฐณิชา อายุ20ปี รู้อย่างกะทันหันว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ก่อนตายแค่อยากจะปล่อยตัวบ้าง ดันเผลอไปนอนกับธราเทพประธานแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป ซะงั้น จากนี้ต่อไป ทั้งสองเข้ามาพัวพันซึ่งกันและกัน และทำให้ชีวิตของณัฐณิชามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท