ณัฐณิชาถึงบริษัทและตอกบัตรตอนแปดโมงห้าสิบเก้านาทีพอดี เธอถอนหายใจยาวโล่งอก
อีกนิดเดียวก็จะสายแล้ว!
ธราเทพมีสถานะเป็นประธานบริษัท ไม่ต้องตอกบัตร แต่เมื่อวานนี้เธอเห็นในกฎพนักงาน พนักงานทั่วไปจะถูกหักห้าสิบเหรียญต่อการมาสายหนึ่งครั้ง ห้าสิบเหรียญเลยนะ! เธอทานอาหารได้ตั้งหลายมื้อ ณัฐณิชาคิดไปเรื่อยๆ ก็มาถึงยังตำแหน่งที่นั่ง เพิ่งนั่งลงก็มีสาวน้อยคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดด้วยทันทีว่า “ณัฐณิชา พี่ดาวเรียกคุณไปพบค่ะ”
“อ้อโอเค”
ณัฐณิชาใจกระตุก ทำไมรู้สึกเหมือนเวลาที่โดดเรียนแล้วถูกครูพบเข้า
เธอเอาบัตรไปด้วย เดินไปที่ห้องทำงาน เพิ่งเข้าไปยังไม่ทันได้หันตัว ก็ได้ยินเสียงกร้าวของพี่ดาวดังมา “ปิดประตู” ณัฐณิชาจึงปิดประตูอย่างระมัดระวัง หันตัวไปก็เห็นพี่ดาวกำลังทำงานอยู่ที่โต๊ะ
เหมือนเธอจะยุ่งมาก เธอสวมสูททางการในสไตล์ผู้หญิงแข็งแกร่งมากความสามารถ ตอนนี้เอนหลังพิงเก้าอี้อย่างสง่างามและจ้องมองไปยังข้อมูลต่างๆ ในมือ เห็นณัฐณิชาเข้ามา ปากที่ทาลิปสติกสีแดงสดก็ขยับพูด “นั่งสิ”
ณัฐณิชานั่งลงอย่างสุภาพ
เธอนั่งไปแล้วสิบนาที พี่ดาวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะพูดอะไร รู้สึกราวกับนั่งอยู่บนกระดานเข็มหมุด
หรือว่าเพราะตนทำงานไม่ดี
ไม่น่าใช่ เมื่อวานเธอไม่ได้ทำงานเลย แค่เรียนรู้กฎทั่วๆ ไปของพนักงานเท่านั้น……
เพราะเรื่องส่วนตัวเหรอ ยิ่งเป็นไปไม่ได้
ณัฐณิชาก้มหน้าพลางขยับนิ้ว แทบจะหักเล็บอยู่รอมร่อ หัวสมองคิดไปต่างๆ นาๆ บางครั้งก็เงยหน้าแอบมองพี่ดาวนิดหน่อย จนกระทั่งยี่สิบนาทีต่อมา จู่ๆ พี่ดาวก็วางข้อมูลในมือลง เสียงดัง “ฟึ่บ”
“พี่ดาว คุณเรียกหาฉัน มีเรื่องอะไรเหรอคะ” ณัฐณิชาอาศัยจังหวะนี้ รีบเอ่ยถาม
เหมือนพี่ดาวจะส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นก็มองไปที่นาฬิกา “ตั้งแต่คุณเข้ามาก็ยี่สิบสองนาทีแล้ว ณัฐณิชา คุณว่างมากเหรอ”
“คะ? ฉันไม่……” ก็ไม่ได้ยุ่ง
ณัฐณิชาอยากจะบอกว่าตัวเองเพิ่งมาถึงบริษัทยังไม่ได้มีภารกิจใดๆ ให้จัดการเลย ดังนั้นจึงไม่ได้ยุ่งอะไร แต่ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกพี่ดาวขัดจังหวะเสียก่อน “ณัฐณิชาใช่ไหม คุณเป็นนายหญิงของท่านประธาน สิ่งนี้ฉันเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้ แต่มันก็ไม่ต่างกัน อยู่กับฉันที่นี่ ไม่มีเรื่องความสัมพันธ์ใกล้ชิด ในเมื่อคุณเป็นพนักงานของฉัน อยู่ในบริษัทก็เป็นเพียงลูกน้องของฉัน”
“อ่อค่ะ” ณัฐณิชาลุกขึ้นพรวด เหมือนลูกศิษย์ที่โดนอาจารย์ดุว่าทำผิด ก้มศีรษะและไม่กล้าพูด
“คุณเข้าบริษัทมาหนึ่งวันแล้ว ไม่มีอะไรอยากถามฉันเหรอ”
“ไม่ ไม่มีค่ะ”
“……ฉันสงสัยจริงๆ ว่าบริษัทรับคุณเข้าทำงานได้ยังไง หรือเพียงเพราะคุณเป็นนายหญิงท่านประธาน” พี่ดาวดูเหมือนจะไม่พอใจนิดหน่อย ณัฐณิชายิ่งตัวลีบลงไปอีก คิ้วของเธอก็ขมวดขึ้นด้วย แต่กลับกัดริมฝีปากอย่างดื้อรั้นและไม่พูดอะไร
ณัฐณิชาไม่ได้โง่ เธอมองออกได้ว่าพี่ดาวกับคนในแผนกบุคคลที่จงใจแกล้งเธอนั้นต่างกัน เธอ……ดูเหมือนจะไม่พอใจกับงานของตนจริงๆ
แม้เธอจะยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเพราะอะไรก็ตาม
“คุณยังไม่รู้ใช่ไหมว่าตัวเองผิดตรงไหน” พี่ดาวถาม
ณัฐณิชาพยักหน้าอย่างหนัก หลังจากพยักหน้าเสร็จแล้วก็รู้สึกว่าปฏิกิริยาของตัวเองรุนแรงเกินไป จึงยืนห่อเหี่ยวอีกครั้งและไม่กล้าพูดอีก
ปกติเธอเป็นสาวน้อยเฉลียวฉลาด ทำไมพออยู่ต่อหน้าพี่ดาวถึงได้ขี้ขลาดขนาดนี้ จู่ๆ ณัฐณิชาก็ค่อนข้างรู้สึกท้อแท้ อาจเพราะ สภาพแวดล้อมของบริษัทใหญ่แห่งนี้เต็มไปด้วยนักศึกษาตัวท็อปที่มีความสามารถสูง ตนไม่มีทางจะ……กลมกลืนเข้าไปได้เลย