สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก – บทที่ 140 อย่าได้หลงรักผมเด็ดขาด

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ใบหน้าหล่อเหลาของธราเทพใกล้อยู่ตรงหน้า ดวงตาที่งดงามของณัฐณิชาค่อยๆเบิกกว้างขึ้น เธอถึงขนาดสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิบนตัวของธราเทพ

ทำให้รู้สึก…กระชุ่มกระชวยอย่างมาก

“หา……ฉัน ฉันจะไปหลงรักคุณได้ยังไง? ธราเทพคุณก็หลงตัวเองไปหน่อยรึเปล่า?! ฉันน่ะใครเห็นใครก็รักทั้งไร้เดียงสาน่ารักใจดีไม่มีพิษมีภัยขนาดนี้ คนที่จีบฉันต่อแถวจากที่นี่ไปถึงพิพิธภัณฑ์เมืองเข้าใจมั้ย? ฉันเลือกยังเลือกไม่ได้เลย” ณัฐณิชาถลึงตา พูดอย่างฉุนเฉียว

เธอจ้องกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ธราเทพตกตะลึงไปชั่วขณะ

นี่เธอกำลังอวดตัวเอง?

“ธราเทพ คุณอย่านึกว่าคุณหน้าตาดีมีเงินนิดหน่อยแล้วจะยอดเยี่ยมนะ คนที่หน้าตาดีกว่าคุณ มีเงินมากกว่าคุณมีเยอะแยะ ฉันไม่มีทางหลงรักคุณหรอก!” ณัฐณิชาพูดอย่างเกรี้ยวกราด แต่เนื่องจากพูดเร็วมาก เลยฟังดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่

“ถ้างั้นก็ดี”

ธราเทพจู่ๆก็ลุกขึ้น ปล่อยเธอไป

เห็นธราเทพยืนขึ้นจัดเสื้อผ้าเล็กน้อย ณัฐณิชาจู่ๆก็รู้สึกหดหู่ในใจเล็กน้อย แต่ว่าเธอไม่ได้แสดงออกมา รีบก้มหน้าเก็บจานบนโต๊ะ ธราเทพเห็นเข้า พูดว่า “วางไว้ เดี๋ยวมีคนมาเก็บ”

“คุณจะให้ผู้ช่วยนรินทร์มาเก็บได้ยังไงล่ะ? เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งทำเรื่องแบบนี้ไม่สะดวกหรอก” ณัฐณิชาเบ้ปาก เก็บจานและตะเกียบบนโต๊ะเรียบร้อย ธราเทพกินข้าวไม่เหมือนสั่งมาจากข้างนอก แม้ว่าจะสั่งเสร็จแล้วแม่บุญสิตาทำเสร็จแล้วให้คนขับรถขับมาส่ง แต่ชามกับตะเกียบที่ใช้แล้วล้วนหรูหราราคาแพง ปกติแล้วมักจะเอากลับบ้านไปให้แม่บุญสิตาล้าง

แต่ว่าเรื่องจัดเก็บ เมื่อก่อนเป็นเลขาทำ ตั้งแต่ที่เลขาถูกไล่ออก ก็ตกเป็นหน้าที่ของภานรินทร์

“ธราเทพ เมื่อไหร่คุณถึงจะรับสมัครเลขาสักคนล่ะ?” ณัฐณิชาถึงแม้ไม่ค่อยรู้หน้าที่ของเลขาเท่าไหร่ แต่ว่าฟังมาจากคำพูดของภานรินทร์ ถึงได้รู้ว่าเลขาพวกนั้นของกลุ่มเลขาไม่มีสิทธิ์ได้เข้าใกล้ธราเทพด้วยตัวเอง

“ทำไม คุณสนใจ?”

“เอ่อ…ฉันก็แค่พลั้งปากถามไปอย่างนั้นแหละ” ณัฐณิชาพูด

“พลั้งปาก? ณัฐณิชา ถ้าผมจำไม่ผิด เมื่อกี้คุณเพิ่งจะบอกว่าไม่มีทางหลงรักผมแน่นอน แค่แปปเดียวก็รู้จักจับผิดแล้ว?” ธราเทพหัวเราะเยาะเย้ยทีหนึ่ง เขานั่งลงหลังโต๊ะทำงานเริ่มทำงานแล้ว

ขณะทำงานธราเทพถอดเสื้อสูทออก ณัฐณิชาสามารถมองเห็นรูปร่างที่งดงามของเขาผ่านเสื้อเชิ้ตได้อย่างง่ายดาย

หูย ดูดีจริงๆนั่นแหละ

“ณัฐณิชา?”

“หืมห้ะ ฉัน ฉันจะเรียกว่าจับผิดได้ไงล่ะ? ธราเทพคุณเข้าใจมั้ยเนี่ย ฉันแค่กลัวว่าถึงตอนนั้นหน้าที่ส่งข้าวและหน้าที่จัดการงานบ้านจะตกมาที่ฉัน ฉันไม่อยากเป็นแม่บ้านหรอกนะ!”

พูดอันนี้ขึ้นมา ธราเทพก็หัวเราะเบาๆทีหนึ่ง “คุณอยู่ฝ่ายออกแบบเป็นยังไงบ้าง? ผมได้ยินมาว่าถูกแกล้งหรอ?”

ธราเทพพูดอย่างสบายๆ แต่ว่าณัฐณิชากลับกัดฟันกรอดๆ

เธอควรจะรู้ตั้งนานแล้ว ธราเทพเป็นประธานแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป มีอะไรสามารถปิดบังสายตาของเขาได้ล่ะ?

เขารู้ตั้งนานแล้วว่าตัวเองถูกแกล้งแต่กลับไม่เคยยื่นมือเข้ามาเลย เป็นผู้ชายที่เลือดเย็นไร้ความรู้สึกจริงๆ! หรือว่าเป็นเพราะตัวเองไม่ใช่คนรักตัวจริงของเขา ดังนั้นเขาเลยดูอยู่นิ่งๆ?

คิดแบบนี้ ในใจก็หดหู่เล็กน้อย

ณัฐณิชาเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!” พูดจบ เธอก็ “เหอะ”ออกมาอย่างขุ่นเคือง ทิ้งกล่องข้าวที่จัดเก็บเรียบร้อยแล้วไว้บนโต๊ะ เดินไปแล้ว

“……”

ธราเทพมองดูกล่องข้าวที่ถูกเธอทิ้งเอาไว้บนโต๊ะ ริมฝีปากก็ยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เด็กสาวคนนี้ เป็นเม่นหรือไง?

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

Status: Ongoing
ตอนณัฐณิชา อายุ20ปี รู้อย่างกะทันหันว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ก่อนตายแค่อยากจะปล่อยตัวบ้าง ดันเผลอไปนอนกับธราเทพประธานแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป ซะงั้น จากนี้ต่อไป ทั้งสองเข้ามาพัวพันซึ่งกันและกัน และทำให้ชีวิตของณัฐณิชามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท