“ไอ้หนู กล้ามาแย่งผู้หญิงของพี่เจี๋ยในเมืองจี้ตงแบบนี้ ความกล้าของนายคงมีมากพอเลยสินะ!”
ด้านหลังของสวีเจี๋ย มีเสียงที่หยิ่งทะนงดังขึ้นมา เมื่อเห็นใบหน้าของผู้พูด เซี่ยงเส้าหลงก็ยิ้มขึ้นมา “กวีที่มีชื่อเสียงเคยกล่าวไว้ว่า โลกใบนี้นั้นเป็นเหมือนกับหนังสือเล่มหนึ่ง ดังนั้นไม่มีสิ่งใดที่ไม่เป็นเรื่องบังเอิญหรอก!”
“คุณชายเว่ย ไม่ได้เจอกันนานเลย!”
เว่ยหลายขมวดคิ้ว พร้อมกับมองไปที่แก้มทางด้านข้างของชายแปลกหน้า “ทำมาเป็นสนิทชิดเชื้อกับคุณชายอย่างฉัน ฉันรู้จักนายเหรอ?”
“เอ๋? เสียงนี้ทำไมมันดูคุ้นหูนัก….”
ทันใดนั้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป “แม่งเอ๊ย!ฉันคิดออกแล้ว!คือนายนั่นเอง!”
สวีเจี๋ยหันศีษะไปเล็กน้อย “อะหลาย รู้จักมันเหรอ?”
เว่ยหลายกัดฟันของเขา “พี่เจี๋ย จำได้ไหมที่ผมเคยบอกว่าตอนที่อยู่เทียนไห่ ผมโดนเด็กคนหนึ่งหลอกให้จ่ายเงินห้าล้านในกองทุนประมูลน่ะ?”
“ก็คือไอ้เด็กคนนี้นี่แหละ!”
“เหอะเหอะ…”
แว่นที่ดูละเอียดลออของสวีเจี๋ยสะท้อนแสงระยิบระยับ เขามองไปที่เซี่ยงเส้าหลง “ตอนนี้ฉันรู้สึกสงสัยในตัวของนายมากขึ้นทุกทีแล้วสิ สี่ตระกูลใหญ่แห่งมณฑลหลู่ถูกนายทำให้ขุ่นเคืองไปแล้วสอง แต่นายยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นเป็นทองไม่รู้ร้อนได้ บอกมาทีว่าอะไรที่หนุนหลังนายอยู่?”
“ไม่ว่าอะไรจะหนุนหลังเขาอยู่!แต่ถ้าเขามาที่เมืองจี้ตงแล้ว ต่อให้จะเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ก็ไม่มีทางคุ้มกันเขาได้!”
เว่ยหลายระเบิดอารมณ์ไม่พอใจออกมา เขายกเก้าอี้ขึ้นมาพร้อมที่จะกระแทกไปที่หัวของเซี่ยงเส้าหลงโดยที่ไม่พูดอะไร!
เสียงหวดที่รุนแรงนั้น ทำให้สี่สาวที่อยู่ตรงนั้นกรี๊ดออกมาดังลั่น ที่มุมของเก้าอี้นั้นมีขอบและมุมที่เป็นโลหะ หากโดนทุบเข้าไปล่ะก็ มีหวังหัวแตกอย่างไม่ต้องสงสัยกันเลยล่ะ!
ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงหรี่ลง ขณะที่กำลังจะลงมือ ทันใดนั้นประตูก็ถูกเตะเข้ามาอย่างแรง จากนั้นก็มีเสียงคำรามราวกับสัตว์ร้ายเข้ามาพร้อมกับร่างที่แข็งแรง “เว่ยหลาย!นายรนหาที่ตายซะแล้ว!”
ปึง!
น้ำหนักของเว่ยหลายนั้นไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัม แม้กระทั่งเก้าอี้ที่อยู่ในมือก็ลอยออกไปชนเข้ากับกำแพงอย่างจัง ทำให้เกิดเสียงดังโครมครามขึ้นมา!
คนที่เข้ามานั้นไม่ได้ตัวสูงมาก ใบหน้าดำราวกับถ่านหิน เขาดูเย็นชาและดุร้าย ถ้ามองดีๆ ขณะเดิน เท้าขวาของเขาจะดูเดินลำบากเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อพฤติกรรมที่แข็งกร้าวและเด็ดเดี่ยวของเขาแต่อย่างใด
เมื่อเขาเห็นรูปร่างหน้าตาของชายคนนั้น ใบหน้าที่สง่างามของสวีเจี๋ยนั้นเต็มไปด้วยเคร่งขรึม!
รัศมีพลังของเซี่ยงเส้าหลงค่อยๆลดลงอย่างช้าๆ เมื่อมองไปที่ชายคนนั้น ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มที่ห่างหายไปนาน “มาได้ยังไงกัน?”
ชายคนนั้นก็มองมาที่เซี่ยงเส้าหลงเช่นกัน ดวงตาที่ดูเย็นชาของเขานั้นดูตื่นเต้นเล็กน้อย “เมื่อรู้ว่าท่านมา ผมจะนั่งอยู่เฉยๆได้ยังไงกันล่ะครับ?”
“ฮ่าฮ่า…”
เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ “นายนี่นะ นิสัยเหมือนแต่ก่อนชะมัดเลย!”
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เด็กคนนี้กล้าทำตัวไร้ยางอายเช่นนี้ ไม่มีแม้กระทั่งฉันหรือเว่ยหลายอยู่ในสายตา ที่แท้คนที่หนุนหลังเขา ก็คือนายนั่นเอง!”
สีหน้าของสวีเจี๋ยมืดมนลง มองดูชายคนนั้นพร้อมกับพูดอย่างช้าๆ “ราชาหมาป่า!”
สายตาเพชฌฆาตแวบเข้ามาในดวงตาของราชาหมาป่า ขณะที่มองไปที่เขาก็ได้พูดอย่างหยิ่งผยองว่า “บุคคลนี้เป็นคนที่พวกนายไม่สามารถมาทำให้ขุ่นเคืองได้!ไม่คู่ควรที่จะทำให้ขุ่นเคือง!รีบออกไปซะ!”
ว้าว!
เว่ยหลายกระเสือกกระสนที่จะลุกขึ้นมา ขณะที่มองไปที่ราชาหมาป่า ปากก็ตะโกนด่าออกไปว่า “ไอ้คนขาเป๋ มาตีกูแบบนี้ คิดว่าตัวเองนั้นยังเป็นเหมือนราชาหมาป่าสมัยตอนที่ครองเมืองจี้ตงหรือยังไงกัน!?”
ดวงตาของราชาหมาป่านั้นเย็นชา จ้องเขม็งไปที่เขา “เรื่องครั้งก่อน ตระกูลเว่ยของนายก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ทุกๆบัญชีทั้งหมด ฉันจะจดจำมันเอาไว้!”
“แกจำได้แล้วมันจะทำไมกัน?!”
เว่ยหลายนั้นกำเริบเสิบสานกับเขา “นี่แกไม่รู้จริงๆเหรอว่าสถานการณ์ของแกในตอนนี้เป็นยังไง?ฉันจะบอกอะไรแกให้!พวกเราสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่เคยจัดการแกไปแล้วครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าก็ต้องจัดการได้อีกในครั้งที่สอง!”
“ทำให้แกได้รู้ว่า ราชาที่แท้จริงของเมืองจี้ตงนั้นคือใครกันแน่!”
“แล้วก็นาย!”
ขณะที่พูด เขาก็ได้ชี้ไปที่เซี่ยงเส้าหลง “นายคิดว่าราชาหมาป่าจะคุ้มกะลาหัวได้งั้นเหรอ?”
“ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่ปกป้องนายอยู่ ฉันไม่สามารถเอาชนะเขาได้ แต่เขาไม่สามารถปกป้องนายไปได้ตลอดหรอก รอเวลาที่นายนั้นอยู่ตัวคนเดียว ฉันจะจัดการทำลายเศษเดนอย่างนายซะ!”
ชวา!
ทันทีที่เสียงสิ้นสุดลง ร่างหนึ่งก็โผล่แวบเข้ามาในทันที เว่ยหลายนั้นรู้สึกแน่นที่คอไปหมด จากนั้นก็ได้เผชิญหน้ากับดวงตาที่กระหายเลือดของราชาหมาป่า “แกสามารถดูถูกฉันได้ เพราะฉันมันด้อยกว่าคนอื่นจริง แต่แก ไม่สามารถไปดูถูกเขาได้!”
เมื่อรับรู้ได้ถึงรัศมีอาฆาตของราชาหมาป่าที่ต้องการกลืนกินเขา ใบหน้าของเว่ยหลายก็กลายเป็นซีดเผือด แต่เนื่องด้วยมีผู้คนจำนวนมากกำลังจ้องมองเขาอยู่ เขาผู้ซึ่งนับถือและเคารพในตนเองจึงไม่ยอมที่จะก้มหัวให้เด็ดขาด ท่ามกลางความกลัวที่ผุดขึ้นมาในจิตใจ เขาได้ตะโกนออกไปเสียงดัง “ฉันจะดูถูกเขาแล้วมันจะทำไมกัน?ก็แค่เศษเดนคนหนึ่ง มันคู่ควรให้กูดูถูกต่างหาก!”
“หรือแกคิดว่า กับอีแค่เศษเดนจะทำอะไรคุณชายได้….”
“อ๊าก!”
ยังไม่ทันที่จะพูดจบ เขาก็กรีดร้องออกมาอย่างน่ากลัวในทันใด มีดสองเล่มถูกสอดเข้าไปในกระดูกสะบ้าหัวเข่าทั้งสองของเว่ยหลาย ตัวกริชนั้นจมเข้าไปในเข่าของเขาจนหมด ทันใดนั้น ขากางเกงทั้งสองข้างก็ถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยเลือด!
“ขา!ขาของฉัน!”
เว่ยหลายกรีดร้องเสียงดัง ใบหน้าที่เหลือเชื่อของสวีเจี๋ย ชี้ไปที่ราชาหมาป่าด้วยท่าทีที่สั่นระริก “แก…แกกล้าทำร้ายเว่ยหลายงั้นเหรอ?”
“ราชาหมาป่า แกจะไม่จบไม่สิ้นกับสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่ใช่ไหม?”
น้ำเสียงของราชาหมาป่าพูดอย่างไม่แยแส “ฉันด้อยกว่ามนุษย์ เพื่อความอยู่รอด ฉันสามารถประนีประนอมกับสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่ได้ แต่ฉันเคยพูดไปแล้วไงว่าพวกนายไม่ควรดูหมิ่นเขา…”
หลังจากหยุดชั่วครู่ จิตสังหารอันเฉียบแหลมก็ฉายขึ้นบนใบหน้าของเขา “ไม่เช่นนั้น ฉันก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถ ที่จะทำให้เขาต้องชดใช้ในราคาที่ต้องจ่าย!”
“แก!…แกมันเป็นบ้าไปแล้ว!”
สวีเจี๋ยชำเลืองมองเขาด้วยความโกรธ เพราะเขารู้ดีว่าหากราชาหมาป่าอยู่ที่นี่ เขาจะไม่สามารถทำอะไรเซี่ยงเส้าหลงได้!
“จะมาทำตัวงุนงงอะไรอยู่!รีบพาคุณชายเว่ยไปโรงพยาบาลซะสิ!”
สามสาวตอบสนองในทันที จากนั้นจึงรีบพาเว่ยหลายออกไป ภายในห้องนั้นยังคงมีกลิ่นเลือดคลุ้งเต็มไปหมด ริมฝีปากของฉวี่เสี่ยวอี้ซีด เธอมองไปที่เซี่ยงเส้าหลง คนด้านหลังจึงพูดขึ้นว่า “เธอไปรอด้านนอกก่อนเถอะ ฉันจะหวนอดีตคุยกับเพื่อนเก่าเสียหน่อย”
ฉวี่เสี่ยวอี้พยักหน้า พร้อมกับหนีออกไปจากห้องรับรองพิเศษนี้
ทันทีที่ก้าวเท้าออกไป ราชาหมาป่าก็คุกเข่าลงพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมในทันที “ผู้ใต้บังคับบัญชา ทำความเคารพนายพลน้อย!”
เซี่ยงเส้าหลงก้าวไปข้างหน้า พร้อมกับจับเขาที่กำลังจะคุกเข่าลงไว้และพูดเบาๆว่า “นายเกษียณไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาเคารพอะไรฉันหรอกนะ!”
ราชาหมาป่าส่ายหัวอย่างดื้อรั้นและคุกเข่าลงอย่างหนัก “ในใจของผม นายพลน้อยจะเป็นนายพลน้อยตลอดไป และผมเองก็จะเป็นสมาชิกคนหนึ่งของกองทัพชายแดนเหนือตลอดไป!”
เมื่อมองไปที่เท้าข้างขวาของเขา เซี่ยงเส้าหลงเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆว่า “ฉันสิต้องขอโทษนาย”
“เพื่อหลบมีดให้นายพล อย่าว่าแต่ขาเพียงข้างเดียวเลย ต่อให้เป็นชีวิต ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ก็พร้อมที่จะสละให้อย่างไม่ลังเล!”
“แต่ นายควรจะมีอนาคตที่สดใส…”
เมื่อมองดูชายผู้ตรงไปตรงมาคนนี้ เซี่ยงเส้าหลงก็เต็มไปด้วยความรู้สึกทอดถอนใจด้วยความหดหู่ ภายใต้การเป็นนายพลน้อย มีอสูรและรากษสทั้งสี่ที่บัญชาการคนชายแดนเหนือกว่าสามหมื่นคน!
สัตว์รเทพทั้งสี่เก่งในการวางกลยุทธ์ทำสงคราม ส่วนรากษสทั้งสี่กลับเป็นฝ่ายที่เก่งทางด้านการฆ่าโจมตี ราชาหมาป่าที่อยู่ข้างหน้า เขาเป็นหนึ่งในรากษสทั้งสี่ ราชาหมาป่าเผิงเซียว!
เมื่อสองปีก่อน ครั้งหนึ่งในระหว่างสงคราม เซี่ยงเส้าหลงถูกปิดล้อมเอาไว้ เผิงเซียวนำทัพเดินทางหลายพันไมล์เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือ ท่ามกลางผู้คนที่ล้มตาย เขาได้ช่วยชีวิตของเซี่ยงเส้าหลง อย่างไรก็ตาม เขาได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา นั่นจึงทำให้เขากลายเป็นคนพิการและการเกษียณก่อนกำหนดจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย
ความคิดลอยผ่านไป เซี่ยงเส้าหลงถอนหายใจพร้อมกับพยุงเขา “ลุกขึ้นมาคุยกันเถอะ!”
เผิงเซียวลุกขึ้น แต่ทันใดนั้น คิ้วของเขาย่นลึก ร่างกายเริ่มเอนเอียง ริมฝีปากเปลี่ยนไปเป็นสีม่วงด้วยความเร็วที่ตาสามารถมองเห็นได้!
ดวงตาที่เฉียบคมและมือที่ว่องไวของเซี่ยงเส้าหลงรีบจับเขาในทันที จากนั้นใช้มือวัดชีพจรของเขา ฟังอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก “นายโดนวางยาพิษ!”