ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 104 การเผชิญหน้าที่ดุเดือด

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ณ คุกพิเศษแห่งหนึ่งในตระกูลเจียง !

เจียงเส้าชื่อฟาดแส้อย่างแรงลงบนตัวของคนขี้เหล้า จากเดิมที่ร่างกายเต็มไปด้วยรอบแผลแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มรอยแผลเลือดเข้าไปอีกหนึ่งแผล

“บอกมา ว่าทั้งหมดนี้ใช่เซี่ยงเส้าหลงเป็นคนสั่งให้แกทำใช่ไหม”

ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแผล เหมือนกับว่าไม่ใช่ร่างกายของตัวเอง คนขี้เหล้ายิ้มขึ้นเบาๆ มองเขา “คุณใช้เป็นแต่วิธีสกปรกแบบนี้หรอ”

“แก!……”

เจียงเส้าชื่อกำลังจะยกแส้ขึ้นฟาดอีกครั้ง แต่กลับมีคนขวางเอาไว้ก่อน

“ไม่ต้องฟาดแล้ว ดูท่าทางมันแล้ว ต่อให้ฟาดให้ตายคงไม่ปริปากพูดออกมาหรอก” เจียงเส้าชื่อโยนแส้ลงพื้นแล้วพูดอย่างหัวเสีย “ให้ตายเถอะ! ทั้งๆ ที่ใกล้จะสำเร็จแล้วด้วยซ้ำ จู่ๆ กลับมีไอขี้เหล้านี่มาปั่นป่วนจนเสียแผ่นหมด บ้าชะมัด”

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ต้องมากังวลเรื่องนี้ ตอนนี้เซี่ยงเส้าหลงปลอดภัยดี มันคงไม่อยู่นิ่งเฉย เราจะทำยังไงต่อดี?”

เจียงเส้าชื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่โหดเหี้ยม:” จะทำยังไงได้อีก?”

“ต้องทำให้ไอขี้เหล้านี่ปริปากพูดให้ได้ แค่มันยอมบอกเรื่องของเซี่ยงเส้าหลงให้เราละก็ ครั้งนี้แหละมันไม่มีทางที่จะมีที่ยืนอีกแน่นอน!”

เซี่ยงเส้าหลงจะนั่งดูไอขี้เมานี้ตายโดยไม่สนใจหรือเปล่า?

แน่นอนว่าไม่มีทาง

หลังจากที่คนขี้เมาโดนจับตัวไปหนึ่งชั่วโมง หน้าประตูที่ตระกูลเจียง ภายใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน เงาร่างทั้งสิบสามคนซ่อนอยู่ในความมืด

ทั้งสิบสามคนนี้ คือเซี่ยงเส้าหลงและสิบสององครักษ์เสื้อเลือดของเขา

“ทุกคนฟัง!”

เซี่ยงเส้าหลงสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “ภารกิจครั้งนี้ เพื่อช่วยคนเท่านั้น!”

“เมื่อสำเร็จ ถอยทันที!”

“ครับ!”

หลังจากนั้น ทั้งสิบสามคนเปรียบเสมือนเงามืดในยามค่ำคืน ได้แอบเข้าไปในบ้านใหญ่ของตระกูลเจียง

ในฐานะที่ตระกูลเจียงเป็นถึงตระกูลใหญ่ของเมืองหลวง จึงมีบอดี้การ์ดเดินตรวจตระเวนอย่างเข้มงวด แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับสิบสององครักษ์เสื้อเลือดของนายพลน้อย ไม่มีใครอยู่ด้อยกว่า

เซี่ยงเส้าหลงบีบคอคนที่แต่งตัวเหมือนพ่อบ้านไว้ ดวงตาแดงก่ำ “บอกมา เจียงเส้าชื่ออยู่ไหน?”

“ผม……ผมไม่รู้!”

ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงเย็นลงเฉียบพลัน และเขาก็บีบข้อมือของเขาและหัดมันอย่างแรง จนได้ยินเสียงดังแคร็ก ดวงตาของพ่อบ้านเบิก ยังไม่ทันออกเสียงร้อง เซี่ยงเส้าหลงก็ปิดปากเขาไว้แน่น น้ำเสียงเหมือนโยมทูตถามขึ้น “ฉันถามอีกครั้ง รู้หรือไม่รู้?”

“ถ้าเกิดแกยังไม่รู้ ก็ถือว่าไม่มีประโยชน์ต่อฉัน คนที่ไม่มีประโยชน์ต่อฉัน ก็ไม่มีค่าอะไรที่จะอยู่ต่อไป!”

สายตาของพ่อบ้านแสดงความตื่นกลัวออกมา แล้วพยักหน้าให้เซี่ยงเส้าหลงทันที คนหลังยิ้มอย่างเย็นๆ แล้วค่อยๆ ปล่อยมือที่ปิดปากเขาเอาไว้ พ่อบ้านพูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ “คุณ……คุณชายอยู่ในห้องลับ ผม……ผมพาพวกคุณไป”

“ไป!”

ภายใต้การนำทางของพ่อบ้านก็มาถึงห้องลึกลับห้องหนึ่ง เมื่อเดินถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงภายในห้อง ทั้งคำด่าและเสียงฟาดของแส้ เซี่ยงเส้าหลงสีหน้าเปลี่ยนทันที ไม่คิดอะไร ใช้เท้าถีบประตู และภายใต้แรงที่เขาใช้ถีบนั่น ส่งผลให้ประตูทั้งบานพุ่งออกทันที เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาของเซี่ยงเส้าหลงเต็มไปด้วยความอาฆาต พุ่งตรงสู่ท้องฟ้าโดยไม่มีการปิดบัง

เจียงเส้าชื่อและคนอื่นๆ มองไปที่ประตูอย่างตกตะลึง ถามขึ้นอย่างตกใจ “เซี่ยง……เซี่ยงเส้าหลงแกเข้ามาได้ยังไง?”

คนขี้เมาที่ตอนนี้ถูกมัดอยู่บนไม้กางเขนอยู่และทั้งตัวไม่มีที่ไหนที่ไม่มีแผล ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองไปที่เซี่ยงเส้าหลงที่โกรธจนสายตาแดงก่ำ พูดอย่างอ่อนแรง “เธอ……เธอทำไมยังเหมือนเมื่อก่อน ทำไม……ทำไมไม่เชื่อฟังอย่างนี้……”

เหมือนใช้แรงสุดท้ายที่มีอยู่พูดออกมา หัวของคนขี้เมาค่อยๆ ก้มลงและหน้าอกที่หายใจกระพือแรงๆ เมื่อสักครู่ก็ค่อยๆ นิ่งลง

“อ๊ากกก! พี่สาม!”

นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยงเส้าหลงอาการเสียขนาดนี้ เขาพุ่งไปตรงหน้าของคนขี้เมา แก้มัดด้วยมือที่สั่นเทา มองดูร่างกายที่ไม่มีชิ้นดีตรงหน้านี่ หัวใจของเขา เจ็บจนแทบขาดใจ

เขาถอดเสื้อกันหนาวของตัวเองออกมา คุมไว้บนตัวของคนขี้เมา แล้วอุ้มขึ้นมาด้วยความระมัดระวัง แล้วหันกลับไป มีแต่ความเลือดเย็นแผ่ซ่านออกมา เจียงเส้าชื่อและคนอื่นก็สั่นสะท้านทันที ในขณะนี้เขาก็เหมือนนรกชูรามาสู่โลกอีกครั้ง

สายตาที่ไร้ความรู้สึกกวาดมองไปที่เจียงเส้าชื่อที่มีใบหน้าซีดและคนอื่นๆ แล้วพูดอย่างเลือดเย็น “พวกแก ต้องตาย! ”

สิบสององครักษ์เสื้อเลือดไม่เคยเห็นนายพลน้อยของพวกเขาเสียใจขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้ในใจของพวกเขาก็ต่างระงับความโกรธไว้ เพียงแค่สิ้นเสียงคำสั่งของเซี่ยงเส้าหลง ทั้งสิบสองคนส่งเสียงคำรามเบาๆ แล้วหยิบโซ่เหล็กบนไม้กางเขน ที่ปลายทั้งสองด้านเป็นปลายแหลม ทิ่งเข้าไปที่ไหปลาร้าของทุกคนโดยไม่ลังเล

“อ๊ากกกกก!”

เสียงร้องที่เต็มไปด้วยความทรมานดังขึ้นไม่หยุด ความเจ็บที่เกิดขึ้นจากการโดนโซ่เหล็กเจาะผ่านกระดูกไหปลาร้า แทบจะทำให้พวกคุณชายไร้ประโยชน์พวกนี้เป็นลมไปทันที แต่เซี่ยงเส้าหลงกลับไม่สะทกสะท้านอะไร พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดีที่สุดพวกแกอธิษฐานให้พี่สามฉันปลอดภัย ไม่อย่างนั้น ไม่ใช่แค่พวกแกเท่านั้น แต่แม้กระทั่งตระกูลที่อยู่เบื้องหลังพวกแกก็จะถูกสังเวยชีวิตชดใช้เพื่อเขา!”

เจียงเส้าชื่อทนความเจ็บปวดแล้วมองเซี่ยงเส้าหลงด้วยปาดที่ซีด แม้น้ำเสียงจะฟังดูแข็งแต่ก็ไม่สามารถซ่อนความกลัวที่มีอยู่ได้ ” เซี่ยงเส้าหลง นี่แกกำลังประกาศศึกกับตระกูลใหญ่ทั้งแปดอยู่! ”

“ฉันรับประกันได้เลย ถ้าแกกล้าทำอะไรพวกเราแม้แต่นิดเดียว แกไม่มีทางออกจากเมืองหลวงได้แน่นอน ไม่มีทางที่จะออกไปแน่นอน!”

เซี่ยงเส้าหลงมองเขาด้วยสายตาเลือดเย็น “เดินออกไปไม่ได้ งั้นก็ฆ่าออกไป! ”

“คนขวางก็ฆ่าคน ! เทพขวางก็ฆ่าเทพ ! ”

“พาพวกมันไป !”

ณ เวลาใกล้เที่ยงคืนของถนนฉางอาน ก็จะเงียบสงบเป็นพิเศษ

ร่างเงาสิบกว่าคนวิ่งผ่านอย่างรวดเร็วภายใต้แสงจันทร์ แต่ถ้ามองดีๆ ก็จะเห็นว่าเงาทุกคนจะแบกร่างที่ไร้เรี่ยวแรง และมีโซ่เหล็กเจาะกระดูกไว้ มีเลือดไหลเป็นทาง!

ทันใดนั้น เซี่ยงเส้าหลงที่เดินหยุดหน้าก็หยุดกะทันหัน และมองไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง สิบสององครักษ์เสื้อเลือดเมื่อเห็นท่าทางของเซี่ยงเส้าหลงแล้ว ก็ยืนเป็นวงกลม ล้อมเซี่ยงเส้าหลงไว้ทันที !

พรืด !

แสงไฟฉายสว่างขึ้นทุกทิศทาง จากที่มืดสนิทก็สว่างขึ้นมาทันตา เซี่ยงเส้าหลงหรี่ตาเล็กน้อย ใต้แสงไฟที่พร่างพราย เงาชายชราและน่าเกรงขามทั้งหลายก็ปรากฏขึ้นมา

“คุณปู่ ! ”

เลือดไหลจนหมดแรงอย่างเจียงเส้าชื่อ เมื่อเห็นชายชราตรงหน้า สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันทีราวกับเห็นแสงสว่าง “คุณปู่ ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วย ”

“เซี่ยงเส้าหลงแกตายแน่ คุณปู่ฉันมาแล้ว ฮ่าฮ่าๆ ”

คุณชายคนอื่นๆ ต่างก็เรียกชื่อญาติของตัวเอง เจียงกู้แม้จะอายุเยอะแล้ว แต่ความน่าเกรงขามยังมีอยู่ เมื่อเห็นสภาพอันน่าทรหดของหลานชายตัวเองแล้ว ก็พูดอย่างโมโห “เซี่ยงเส้าหลง แกนี่ช่างกล้าดีจริงๆ

“ปล่อยหลานชายฉันซะ ฉันจะเห็นแก่หน้าของฉินหยวนติ่ง จะให้แกทรมานน้อยลงหน่อย”

เซี่ยงเส้าหลงยกยิ้มมุมปาก “ตาแก่ อายุเยอะแล้ว สมองใช้งานได้ไม่ค่อยดีเหรอ?”

“เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่แกตาย ก็คือฉันตาย แกคิดว่าฉันจะไร้เดียงสาเชื่อแกอีกหน่ะเหรอ?”

ใบหน้าของเจียงกู้มีรอยยิ้มเย็นปรากฏขึ้น “หึหึ สมแล้วที่เป็นทายาทที่ไอ้ฉินหยวนติ่งเลี้ยงมากับมือ เซี่ยงเส้าหลง จากความสามารถของเธอ เธอน่าจะมีอนาคตที่ดีเลยทีเดียว น่าเสียดาย เธอไม่ควรมาเป็นศัตรูกับตระกูลใหญ่ทั้งแปด……”

“ภายใต้การร่วมมื้อของตระกูลใหญ่ทั้งแปดนั่น ไม่ว่าใคร ก็เปรียบเสมือนมดตัวหนึ่งเท่านั้นแหละ!”

สิ้นเสียงคำนี้ ก็มีเสียงใหญ่ดังขึ้น ได้ยินเสียงนี้ เซี่ยงเส้าหลงและคนอื่นๆ สีหน้าเปลี่ยนทันที พวกเขาที่เกิดในสนามรบนั่น ต่างรู้ดีว่าเสียงนี้คือเสียงอะไร!

มันคือเสียงของรถถัง !

ไม่ได้มีแค่นั้น!

บนฟ้า เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธหลายลำบินวนเป็นวงกลม หลังรถถัง มีทหารที่มีอาวุธพร้อมยืนออกมา ปืนจำนวนนับไม่ถ้วน เล็งไปที่เซี่ยงเส้าหลงพร้อมกัน

ชายอายุวัยกลางคนคำนับให้กับเจียงกู้ “ช่ายทง ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมืองหลวง รายงานตัวครับ!” รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงกู้ ค่อยๆ กว้างขึ้นและมองไปที่เซี่ยงเส้าหลงอย่างได้ใจ “เซี่ยงเส้าหลง ตอนนี้เธอก็เหมือนลูกไก่ในกำมือ เธอจะเอาอะไรมาสู้กับฉัน?!”

“ใครกล้าแตะต้องนายพลน้อยของพวกเรา”

เสียงคำรามดังมาจากขอบฟ้า ด้านหลังราชายักษ์กับราชารบนำทีม นักรบยอดเยี่ยมของชายแดนเหนือห้าร้อยคนรวมตัวกันในชุดเครื่องแบบ รวมตัวกันที่ด้านหลังของเซี่ยงเส้าหลง!

ทันใดนั้น สถานการณ์ตึงเครียด พายุสายฝนกำลังเคลื่อนไหวเตรียมที่จะพาดพา!

“ผู้บัญชาการช่าย คุณยังรออะไรอีกครับ!”

“เซี่ยงเส้าหลง สนับสนุนทหารของเขา พร้อมที่จะต่อต้านเรา ฉันสั่งคุณตรงนี้เลย ให้โจมตีทันที ฆ่าพวกมันทันที!”

หลังสิ้นเสียง กองทัพชายแดนเหนือกำอาวุธในมือไว้แน่น ถึงแม่พวกเขาจะเป็นนักรบยอดเยี่ยม เป็นราชาแห่งทหาร แต่ยังไงซะพวกเขาก็เป็นร่างกายมนุษย์ที่มีเลือด เผชิญกับรถถังที่อยู่ตรงหน้า เฮลิคอปเตอร์ที่มีอาวุธที่บินวนอยู่บนฟ้า ถ้าเกิดปะทะกันขึ้นมา พวกเขาคงตายเก้ารอดหนึ่งแน่นอน!

แต่ข้างหน้า คือนายพลน้อยของพวกเขา คือศรัทธาของพวกเขา! ความจงรักภักดีที่หลั่งไหลอยู่ในสายเลือดคอยบอกพวกเขา ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องตายก่อนนายพลน้อยของพวกเขา

ช่ายทงมองทหารที่พร้อมตายแต่ละคน ใบหน้าครุ่นคิดสักครู่แล้วพูดว่า “นายพลน้อยเซี่ยง ! คุณกับผมต่างก็เป็นทหารด้วยกัน ผมขอเตือนคุณ วางอาวุธและมอบตัวซะ คุณต้องเชื่อว่าข้างบนจะให้ความยุติธรรมแก่คุณ!”

“วางอาวุธ? ฮ่าฮ่าฮ่า……”

อยู่ดีๆ เซี่ยงเส้าหลงก็หัวเราะออกมา “ฉันคือกองทัพเหล็กของชายแดนเหนือ ตั้งแต่วันที่หยิบอาวุธขึ้นมา มีสถานการณ์เดียวเท่านั้นที่จะวางอาวุธ!”

“นั่นก็คือตาย!”

จากนั้น เซี่ยงเส้าหลงกวาดมองทหารที่ใช้ปืนเล็งพวกเขาไว้ อยู่ๆ กลับมีความเศร้าแวบผ่านดวงตาของเขา ลมเย็นพัดผ่าน เขาก็คำรามขึ้นทันที “ราชายักษ์! ”

“ครับท่าน!”

“ทหารหน่วยที่หนึ่ง ออกมา!”

“หน่วยที่หนึ่ง ออกมา!”

ราชายักษ์ตะโกนออกมา ซึ่งหน่วยที่หนึ่งรวมเขาและอีกนับร้อยก้าวออกมาพร้อมกัน

“เรียบอาวุธ ถอดเสื้อ”

เพียงเซี่ยงเส้าหลงออกคำสั่ง ทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างไม่ลังเล ฉีกเสื้อที่ใส่อยู่บนตัวทิ้งทันที!

ภายใต้แสงไฟฉาย ทหารทั้งหมดมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจ!

ร่างกายของทหารทุกคนมีแต่หลุมและบาดแผล ไม่มีคนไหนที่ไม่มีบาดแผล แต่ทุกคนยื่นอกเงยหน้าอย่างภาคภูมิใจ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาลักษณ์ของผู้ชายและสง่าราศีของทหาร!

เซี่ยงเส้าหลงชี้ไปที่พวกเขา พูดด้วยเสียงดังก้อง “ฉันทหารของชายแดนเหนือทุกนาย คอยปกป้องประตูทางเหนือของประเทศ ต่อสู้เป็นเวลาหลายปี ศพถูกฝั่งไปทั่วชายแดนเหนือ ! ”

“พวกเขาทิ้งครอบครัวทิ้งงาน เสียสละแม้กระทั่งชีพเพื่อปกป้องประเทศชาติ ปกป้องพื้นแผ่นดินประเทศ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคืออะไร ! ”

“”เป็นอาวุธของเพื่อนร่วมชาติ เป็นการละทิ้งประเทศ เป็นการใส่ร้ายของคนร้าย”

“ฮ่าฮ่า……”

เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฉันรู้สึกไม่คุ้มแทนพวกเขาจริงๆ พวกเขาทุกคน เมื่อก่อนเคยเป็นพ่อ เป็นลูกชาย เป็นสามี ตั้งแต่ที่เข้าร่วมชายแดนเหนือ พวกเขาเป็นได้แค่สถานะเดียวนั่นก็คือทหารที่พร้อมตายในสนามรบ”

“เข้าร่วมกองทัพชายแดนเหนือ จะไม่สามารถรู้ถึงชะตาชีวิต!”

“พวกเขาไม่ได้ผิดต่อประเทศ ไม่ได้ผิดต่อประชาชน แต่ผิดต่อครอบครัวเพียงอย่างเดียว! ”

ทหารทุกคนมีความรู้สึกปนเปกันอยู่ในใจ แม้กระทั่งหลายคนที่มือถือปืนไว้ก็เริ่มสั่น ทนดูต่อไม่ได้จนต้องเปลี่ยนสายตาไปทางอื่น!

เซี่ยงเส้าหลงก้าวออกข้างหน้าแล้วพูดว่า “ผู้บัญชาการช่าย ! ผมรู้ว่าคำสั่งถือเป็นคำตาย! ผมเซี่ยงเส้าหลงจะรับไว้เอง ปล่อยลูกน้องผมกลับไป!”

“ไม่ !นายพลน้อย! พวกผมไม่ไป!”

กองทัพชายแดนเหนือทุกคนในตาแดงก่ำทันที

“เลอะเทอะ ! ”

เซี่ยงเส้าหลงมองดุไปที่ทุกคน “นี่เป็นคำสั่งของข้า! ”

แต่ครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกที่กองทัพชายแดนเหนือขัดคำสั่งของเซี่ยงเส้าหลง ทุกคนยังยืนหยัดอย่างมั่นคงอยู่ตรงหน้าของเซี่ยงเส้าหลง

พวกเขาต่างรู้ดี ถ้าหากรถถังยิงกวาดมาไม่มีใครสามารถหนีรอดได้ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะยืนอยู่ตรงหน้าของเซี่ยงเส้าหลง แม้จะเป็นเพียงแค่ยื้อเวลาให้กับนายพลน้อยของพวกเขาแค่นาทีเดียว พวกเขาก็พอใจแล้ว

“ช่ายทง! แกยังรออะไรอีก? ออกคำสั่งโจมตีสิ!”

“เจ้าตระกูลเจียง! เข้าใจผิดกันหรือเปล่าครับ พวกเขาต่างเป็นนักรบนะครับ!”

ช่ายทงพูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำ!

“เข้าใจผิดอะไรกัน! ฉันขอสั่งให้แก! โจมตีเดียวนี้!”

เจียงกู้แทบจะพูดด้วยน้ำเสียงตะคอกออกมา !

ปฏิบัติตามคำสั่งเป็นหน้าที่ของทหาร เจียงกู้ยกมือขึ้น เพียงแค่เขาบัดมือลงด้านหลังก็จะมีปืนนับหมื่นยิงออกไป แต่ในขณะเดียวนี้ มือเขากลับหนักเหมือนเป็นตัน ดูทหารชายแดนเหนือที่พร้อมตายแต่ละคน ก็ทำให้เขาบัดมือออกคำสั่งไม่ลง !

“ช่ายทง! โจมตี! ”

เจียงกู้ขู่ออกมา “ถ้าแกยังไม่ออกคำสั่งอีก ฉันจะยกเลิกตำแหน่งของแกทันที !”

เสียงโยนของ

ดวงตาของช่ายทงมีความโกรธแวบผ่าน ใช้มือดึงสัญญาลักษณ์ยศบนบ่าออกแล้วโยนทิ้งลงตรงหน้าของเจียงกู้ “แม่ง! ไม่ต้องแกยกเลิกหรอก!กูไม่ทำแล้ว! ”

“แก!……”

“แกอะไรแก! ไอ้สารเลว! กูไม่ชอบมึงมาตั้งนานละ! อะไรผู้บังคับบัญชาบ้านี่! คิดว่ากูอยากทำหรอ!”

พูดจบ ก็มุ่งเดินตรงไปที่ข้างหน้าของเซี่ยงเส้าหลง แสดงความเคารพของทหาร “ช่ายทงเดิมผู้บังคับบัญชาทหารยามของเมืองหลวง ขอเข้าร่วมกองทัพชายแดนเหนือ ผมพร้อมที่จะรับใช้ครับ! ขอนายพลน้อยอนุมัติด้วยครับ!”

เซี่ยงเส้าหลงมองเขาด้วยสายตาที่แผ่วเบา “กองทัพชายแดนเหนือ รับแค่ทหารที่พร้อมพลีชีพ!”

ช่ายทงตอบอย่างหนักแน่น “เพียงแค่มีชีวิตอยู่ตายร้อยรอบก็ไม่หวั่นครับ!”

เซี่ยงเส้าหลงยกยิ้ม “ยินดีต้อนรับเข้าร่วมชายแดนเหนือ! ”

“ยกธง! ต้อนรับสมาชิกพี่น้อง! ”

พรืด !

ธงใหญ่สองผืนปลิวไปตามสายลม จนได้ยินเสียงพรืดๆ !

ธงผืนสีดำมีตัวอักษรเป็นสีแดงเลือด มีคำว่าแดนเหนือสองคำเขียนอยู่ด้านบนนั่น ธงอีกผืนเป็นผืนสีขาวและมีตัวอักษรเป็นสีดำ มีคำว่านายพลอยู่ด้านบนนั่น!

ภายใต้การบังคับบัญชาของนายพล กองทัพชายแดนเหนือที่พร้อมสู้ตาย!

เจียงกู้กัดฟันแน่น มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เจ้าตระกูลใหญ่ทั้งแปดต่างหันหน้ามาสบตาแล้วพยักหน้าให้กันและกัน จากนั้น ก็มีคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลัง ยิ้มให้กับเจียงกู้ แล้วคำรามออกมาอย่างเสียงดัง “เดิมผู้บังคับบัญชาทหารยามของเมืองหลวงได้ยกเลิกตำแหน่งเอง ตอนนี้ทหารยาม มีผมมาบังคับบัญชาเอง ! ”

“ทุกคนฟังคำสั่ง ! ”

“เตรียมโจมตี!”

“สาม!”

“สอง!”

“หนึ่ง!”

“โจมตี……!”

“ดูสิว่าใครกล้า! ”

เสียงชราที่น่าเกรงขามคำรามขึ้นจากด้านหลัง!

เงาของฉินหยวนติ่งปรากฏขึ้น ค่อยๆ ปรากฏอยู่ตรงข้างหน้า เจียงกู้หรี่ตามองมุกปากยกยิ้ม “ท่านฉินไม่พักอยู่บ้านดีๆ โผล่มาที่นี่ทำไมกัน? ”

“ที่นี่อันตรายเกินไป สหาย มาส่งท่านฉินกลับบ้านสิ!”

ฉินหยวนติ่งคำรามเสียงต่ำ “ตาแก่เจียง อายุปูนนี้แล้ว ยังมีหน้าไปสู้กับคนรุ่นหลังอีกหรอ แกนี่เรียกไม่เสียชื่อจริงๆ ชีวิตนี้ทั้งชีวิตใช้ชีวิตเหมือนหมาหน่ะ!”

“ฉินหยวนติ่ง!”

เจียงกู้ตะคอกออกมา “แกคิดว่าตอนนี้แกยังเป็นผู้นำอันดับห้าหรอ?”

“แกเกษียณไปแล้ว! ไม่มียศไม่มีอำนาจ! เมื่อก่อนฉันสู้แกไม่ได้ แล้วยังไงละ วันนี้ ฉันจะให้แกเห็นทหารที่แกภาคภูมิใจที่สุดตายลงต่อหน้าแก !”

ฉินหยวนติ่งพูดด้วยเสียงนิ่งเฉย “สงสัยคงต้องทำแกผิดหวังแล้วล่ะ! ”

พูดจบก็หยิบกระดาษออกมาใบหนึ่ง เมื่อเห็นข้อความที่อยู่บนกระดาษแล้ว เจียงกู้และเจ้าตระกูลใหญ่ทั้งแปดก็หน้าซีดขึ้นมาทันทีโดยที่ไม่ได้นัดหมาย

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท