“ไอ้สารเลว! ฉันจะไปจับพวกโจรนั่น มากดฉันทำไมเนี่ย?!”
เมื่อร่างกายถูกเซี่ยงเส้าหลงกดไว้ ใบหน้าอันงดงามของสวีซินหยาวจึงเต็มไปด้วยความโกรธ
“พวกมันมีปืนในมือ คุณคิดว่าคุณคนเดียวจะเอาชนะพวกมันสี่คนได้เหรอ?”
เซี่ยงเส้าหลงหัวเราะเย็นชา กระซิบ
เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนมุทะลุเสียจริง ถึงจะมีฝีมืออยู่บ้าง แต่กลับดูสถานการณ์ไม่ออกเลย
สี่คนนี้เป็นโจรทมิฬที่ฝึกฝนมาอย่างดี ฝีมือร้ายกาจ แถมยังลงมือโหดเหี้ยม พวกเขาไม่ปล่อยเธอไปเพราะเธอสวยหรอก!
อย่างพวกเขาที่เอาชีวิตมาและกับเงินแบบนี้ แค่สวีซินหยาวดาหน้าไปก็ต้องถูกยิงตายแล้ว!
“ไอ้เลว! พวกเราก็ลูกหลานในยุทธภพเหมือนกัน มีคุณต้องทดแทนมีแค้นต้องชำระ เจอเรื่องแบบนี้แล้วไม่ยื่นมือเข้าช่วย หรือจะดูพวกมันหนีไปต่อหน้าต่อตาเหรอ?!”
หน้าสวยของสวีซินหยาวอมโทสะ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขึงขัง
เซี่ยงเส้าหลงหรี่ตา ขยับเล็กน้อย
ลูกหลานในยุทธภพ?
คนที่พูดอย่างนี้ออกมาได้ ถ้าไม่ใช่พวกสมองนิ่มที่ถูกนิยายกำลังภายในล้างสมอง เช่นนั้น…ที่สวีซินหยาวพูดมาก็เป็นไปได้ มากว่าจะเป็นความจริง!
คนทั่วไปอาจไม่รู้ แต่ฐานะของเซี่ยงเส้าหลง เขากลับรู้สึกถึงเรื่องนี้ได้ตงิดๆ
อันว่ายุทธภพ สืบทอดมาแต่โบราณ ซ่อนเร้นแอบแฝง พวกเขาไม่ออกสู่โลกภายนอกง่ายๆ แต่ก็ไม่เคยหายสาบสูญด้วยเช่นกัน…
แต่…ถึงสวีซินหยาวจะเป็นศิษย์สำนักหนึ่งในยุทธภพแล้วจะอย่างไร อาศัยวรยุทธ์ย่องเบาของเธอจะเอาชนะโจรทมิฬที่มีอาวุธครบมือสี่คนได้หรือ?
“ไอ้หัวงู หลีกไปเลย! ถ้าคิดไม่ช่วยก็อย่ามาขวางฉันช่วยคนอื่น!”
สวีซินหยาวตะคอกใส่เขาอย่างหงุดหงิด
“ยัยทึ่มเอ๊ย เธอคิดว่าพวกมันมีแต่ปืนหรือไง?”
เซี่ยงเส้าหลงกดเสียงลงต่ำ จริงจังกว่าปกติ
ถ้าโจรสี่คนนั้นมีแต่ปืน เซี่ยงเส้าหลงก็ออกโรงไปนานแล้ว จัดการจับกุมพวกเขา แต่ที่เขาไม่ลงมือ เพราะเขาพบว่าสี่คนนั้นมัดวัตถุระเบิดไว้กับตัวต่างหาก!
นั่นมันระเบิดนะ! แค่มีคนจุดชนวนคนเดียว ทุกคนในที่นี้ก็ต้องถูกระเบิดเป็นจุณ
หวอ…
จู่ๆ เสียงไซเรนตำรวจก็ดังขึ้น ที่แท้ก็มีคนแจ้งความนั่นเอง สายสืบของกองบังคับการละแวกนี้จึงเร่งมาทันที
“ผู้ร้ายด้านในจงฟัง พวกคุณถูกล้อมไว้หมดแล้ว วางอาวุธ แล้วออกมามอบตัวซะ!”
ตำรวจผมทรงลานบินคนหนึ่งถือโทรโข่ง ตะโกนพูดกับคนด้านในธนาคาร
ข้างตัวเขามีสายสืบกองบังคับการสิบกว่านาย ถือปืนเล็งด้านในธนาคาร
เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของสายสืบด้านนอก สวีซินหยาวก็ดีใจ เธอรู้ว่าคนของกองบังคับการมาแล้ว หากมีพวกเขาก็ไม่ต้องกลัวโจรพวกนี้อีก
เธอคิดว่าตัวเองกับคนข้างนอกสิบกว่าคน สู้กับโจรสี่คนในนี้ได้สบายเหลือเฟือ
ฟืบ!
เมื่อคิดถึงจุดนี้ สวีซินหยาวก็ลุกขึ้นมาทันใด อาศัยตอนที่โจรสนใจด้านนอกตะครุบชายล่ำที่อยู่ใกล้เธอที่สุดราวเสือนักล่า ชายผู้นั้นไม่ทันระวังถูกเธอตะครุบลงกับพื้น สวีซินหยาวแย่งปืนในมืออีกฝ่ายแล้วจ่อที่ศีรษะเขา พูดเสียงดัง “อย่าขยับ!”
“มึงเป็นใคร! รีบปล่อยพวกของกูเร็ว!”
เมื่อเห็นพวกของตัวเองถูกสวีซินหยาวจับได้ ทั้งยังถูกปืนจ่อที่ศีรษะอีก สีหน้าชายกำยำตาเดียวก็เปลี่ยนไปทันที พูดเสียงเย็นชา
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ ที่สำคัญคือพวกแกถูกล้อมไว้หมดแล้ว วางอาวุธซะ พวกแกยังมีทางรอด ถ้าขืนดึงดันไม่ฟังเสียงอีก ก็ตายสถานเดียว!”
สวีซินหยาวหัวเราะเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความยะเยือก
แต่เล็กมาเธอก็ถูกกรอกความคิดช่วยเหลือผู้คนผดุงความยุติธรรม ขจัดความชั่วส่งเสริมความดี ดังนั้นกับโจรพวกนี้เธอจึงไม่ออมมือให้แม้แต่น้อย!
“ยัยจอมทึ่มเอ๊ย เฮ้อ!”
เซี่ยงเส้าหลงหมอบอยู่ที่พื้น ในใจก็ด่าไปประโยค รู้สึกพูดไม่ออกกับการออกหน้าของสวีซินหยาว
ชายฉกรรจ์พวกนี้แค่ดูก็รู้ว่าเป็นโจรใจเหี้ยม แถมบนตัวยังมีระเบิด อาศัยแค่ปืนในมือเธอก็เหมือนเอาไข่ไปกะเทาะกับหิน
แล้วก็เป็นจริงดังนั้น ชายกำยำตาเดียวแสยะยิ้ม จู่ๆ ก็เปิดเสื้อตัวเองออกมา เผยระเบิดที่อยู่ด้านใน พูดเสียงเย็นชา “ปล่อยพวกของกู ไม่งั้นกูจะจุดระเบิด ถึงตอนนั้นก็ลงนรกพร้อมกันเถอะ!”
“ตัวแกมีของพรรค์นี้ด้วยเหรอเนี่ย?!”
สวีซินหยาวตะลึงค้าง ดวงตาปรากฏความตื่นตระหนก
เธอรู้ว่าหากชายกำยำตาเดียวจุดชนวนที่อยู่บนตัว ถึงตอนนั้นทุกอย่างในนี้ก็จะราบเป็นหน้ากลอง ในสถานการณ์กระชั้นชิดอย่างนี้ ไม่เพียงตัวเองจะหนีไม่รอด คนบริสุทธิ์พวกนั้นก็ต้องตายไปพร้อมกับเธอด้วย
สวีซินหยาวลังเลทันที ลูกหลานในยุทธภพ เป็นตายคำเดียว ถ้ามีแค่เธอ อย่างมากก็สละชีวิตแลกคุณธรรม แต่มีคนมากขนาดนี้ เธอกลับลูบหน้าปะจมูก ไม่กล้าลั่นไก
เพราะผู้คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์!
ปัง!
ขณะที่สวีซินหยาวกำลังเหม่อลอยอยู่นั้น ชายกำยำตาเดียวก็ลงมือยิงมือขวาของเธอให้ปืนหลุดออก จากนั้นก็ใช้ปืนจ่อไปที่ศีรษะเธอแล้วขึ้นลำปืน
“พี่ใหญ่! เดี๋ยวก่อน!”
ทันใดนั้นชายที่ยืนอยู่ปากประตูก็เปิดปากพูด
“เจ้ารองยัยคนนี้มีฝีมือ ทิ้งไว้จะเป็นภัยทีหลัง!”
ชายกำยำตาเดียวมองคนที่อยู่ปากประตูอย่างเย็นชา น้ำเสียงขุ่นเคือง
“พี่ใหญ่ พวกเราถูกคนของกองบังคับการล้อมไว้หมดแล้ว ถ้าจะออกไปก็ต้องมีตัวประกัน ยัยคนนี้ผิวพรรณดี ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ดูท่าน่าจะเป็นคนใหญ่คนโต สายสืบพวกนั้นต้องไม่กล้าทำอะไรแน่ ใช้เป็นตัวประกันของพวกเราได้พอดี!”
เห็นชัดว่าน้องคนรองมีแผน แพล็บเดียวก็คิดถึงวิธีใช้ตัวประกันออกไป
“เจ้ารองสมกับที่เป็นกุนซือของพวกเรา สมองดีจริง ใช้ยัยนี่เป็นตัวประกันแล้วกัน พวกเรา ไป!”
ชายกำยำตาเดียวพูดชมน้องคนรองไปคำหนึ่ง จากนั้นก็หยิบเชือกมัดสวีซินหยาวไว้ แล้วใช้ปืนจ่อศีรษะเธอเดินออกไปข้างนอก
“ยัยจอมทึ่มเอ๊ย เป็นไงล่ะ!”
เมื่อเห็นพวกชายกำยำตาเดียวพาสวีซินหยาวออกไป เซี่ยงเส้าหลงก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ถึงจะเซ็งกับไอคิวของเธอ แต่เซี่ยงเส้าหลงก็ต้องไม่นั่งดูอยู่เฉยๆ อยู่แล้ว
ถึงจะเพิ่งรู้จัก แต่เขาก็มองออกว่าเธอคนนี้เป็นคนรักความยุติธรรม เขาไม่อยากเห็นสาวสวยที่รักความยุติธรรมขนาดนี้ต้องตายไปก่อนวัยอันควร
แต่ขณะที่เซี่ยงเส้าหลงกำลังจะลุกขึ้นก็ต้องหมอบลงอีกครั้ง เพราะเขาพบว่าโจรทั้งสี่ได้ถึงนอกประตูใหญ่แล้ว เวลานี้หากเขาไปช่วยสวีซินหยาว ต้องเผยความสามารถของตัวเองไปแน่ ทั้งยังจะก่อให้เกิดอันตรายเรื่องระเบิดอีก
เมื่อไตร่ตรองแล้ว เขาก็หมอบลงอีกครั้ง “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ช่างเถอะ เดี๋ยวค่อยช่วยยัยทึ่มคนนั้นแล้วกัน”
เซี่ยงเส้าหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย ตัดสินใจว่ารอโจรพาสวีซินหยาวจากไปแล้วค่อยไปช่วยเธอ
“หัวหน้าครับ ที่พวกโจรจับตัวออกมานั่นคงไม่ใช่คุณหนูสวีหรอกมั้ง?”
เมื่อเห็นชายกำยำตาเดียวกุมตัวสวีซินหยาวออกมา สายสืบทรงผมลานบินด้านนอกก็จ้องตาไม่กะพริบ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที มือเท้าเย็นวาบ
ถ้าคุณหนูสวีคนนี้เกิดเรื่องอะไรแม้แต่นิดเดียว เมืองอ๋องเซี่ยงต้องสั่นสะเทือนตามไปด้วยแน่!