“แกว่าใครเป็นแมลงวันฮะ?”
หวังเหม่ยลี่เปลี่ยนสีหน้าทันที พูดเสียงเย็นแฝงความไม่พอใจ
“ที่นี่เป็นโรงแรมห้าดาว มีแต่พวกเราที่เป็นคนรวยถึงจะมาได้ คนจนอย่างแกนั่นแหละ ที่เป็นแมลงวันต่ำต้อยน่ารังเกียจ!”
“วันนี้ผมกำลังกินข้าวกับหลัวผิงอยู่ ไม่ใช่กับคุณ แล้วคุณถือดียังไงมาพูดพล่อยที่นี่?
เซี่ยงเส้าหลงขมวดคิ้ว ดวงตาแสดงความรังเกียจ
กับผู้หญิงที่เห็นแก่อำนาจแล้ว เขาก็ชังนัก คนแบบนี้ถ้าพูดกันตรงๆ ก็คือขี้เกียจทำงาน จะเอาแต่ได้ อาศัยความสาวของตัวเอง แต่กลับไม่รู้ว่าเงินทองที่ใช้ความสาวแลกมานั้นไม่อาจกินไปตลอดชีวิตได้
“เชอะ หลัวผิงเป็นคนจน คนที่อยู่ด้วยจะดีไปไหนได้?!”
สายตาและใบหน้าของหวังเหม่ยลี่เต็มไปด้วยการดูแคลน ถึงชายตรงหน้าจะหน้าตาดี แต่เครื่องแต่งกายทั้งตัวกลับเป็นของตลาด ดูก็รู้ว่าไม่มีเงิน
หล่อแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีเงิน ก็สวยแต่รูปจูบไม่หอม
“หวังเหม่ยลี่ เธออย่าให้มากนักนะ! ลบหลู่ฉันได้ แต่ห้ามลบหลู่คุณเซี่ยง!”
สีหน้าหลัวผิงเปลี่ยนไปทันที พูดเสียงกร้าว
เซี่ยงเส้าหลงเป็นคนแรกที่ไม่รังเกียจฐานะของเขา ทั้งยังจริงใจกับเขาอีก เขาซาบซึ้งใจมาก ดังนั้นหลัวผิงจะไม่ยอมให้ใครมาลบหลู่เซี่ยงเส้าหลงเด็ดขาด!
เมื่อก่อนหวังเหม่ยลี่ยังไม่ได้ชื่อนี้ แต่ชื่อเอ้อยา เป็นคนที่มาจากหมู่บ้านเดียวกับเขา อดีตคู่ชื่นวัยเด็ก เคยสาบานว่าจะรักชั่วฟ้าดินสลาย ทั้งยังสัญญาว่าจะต่อสู้ในเมืองใหญ่เพื่ออนาคตของตัวเองด้วยกัน แต่ก่อนเธอไร้เดียงสาราวกับบัวขาวบริสุทธิ์ แต่เมื่อเข้าสังคมและเห็นโลกแสงสีแล้วเธอก็เปลี่ยนไป รังเกียจความจน ไร้การศึกษาของเขา และเลิกรากับเขาในที่สุด
“แหม ท่าทางจนๆ อย่างนี้ มีเพื่อนกับเขาด้วยเหรอ? เห็นไหม แฟนฉันซื้อกำไลให้ฉันด้วย ตั้งแสนหยวนแน่ะ แกซื้อได้ไหมล่ะ?”
หวังเหม่ยลี่ยื่นมือขวาออกมาโชว์กำไลเขียวใส พูดจาดูถูก
กำไลเขียวนั้นเป็นหยกเขียวชั้นดี ก็เพราะชายหัวล้านซื้อกำไลวงนี้ให้เธอ เธอถึงได้ชอบเขา
เมื่อได้ยินการดูถูกของหวังเหม่ยลี่แล้ว หลัวผิงก็เลือดขึ้นหน้า กำหมัดแน่น เล็บจิกเข้าเนื้อจนเลือดซึมออกมา ทว่าเขากลับไม่รู้สึกเจ็บ
หยาม! นี่มันหยามน้ำหน้ากันสุดๆ!
หลัวผิงไม่มีความสามารถ ไม่อาจซื้อกำไลราคาเป็นแสนได้ แต่เมื่อก่อนเขาจริงใจกับหวังเหม่ยลี่มาก ขนาดมีขนมปังชิ้นเดียวตัวเองไม่ยอมกิน ให้อีกฝ่าย แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นการหักหลังอย่างเลือดเย็น
“คุณเซี่ยง ขอโทษด้วยครับ อาหารมื้อนี้ทำให้คุณต้องเสียอารมณ์”
ทันใดนั้นหลัวผิงก็หันกลับไปขอโทษกับเซี่ยงเส้าหลง
เพราะเซี่ยงเส้าหลง ตัวเองถึงเข้าโรงแรมหรูขนาดนี้ได้ ได้กินสุราแพงหูฉี่ แต่การปรากฏตัวของแฟนเก่าของเขากลับทำให้เซี่ยงเส้าหลงต้องรับความอับอาย ดังนั้นเขาจึงรู้สึกผิดมาก
เซี่ยงเส้าหลงตบบ่าเขา “หลัวผิง ในเมื่อผมนั่งอยู่ตรงนี้ ก็แสดงว่าผมเซี่ยงเส้าหลงยินดีคบหาเป็นเพื่อนกับคุณ!”
“และในเมื่อเป็นเพื่อนกัน ผมก็ต้องทนเห็นเพื่อนถูกลบหลู่ไม่ได้อยู่แล้ว!”
“เชอะ ตะเภาเดียวกันก็ต้องเข้าข้างกันอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ ก็แค่เศษเดนที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง เป็นเพื่อนกับเขาแล้วไม่รู้สึกอายหรือยังไง?”
หวังเหม่ยลี่เลิกคิ้ว ทำหน้าดูถูกพูด
“ถ้าพูดถึงความน่าอาย ผมว่าคุณยังน่าอายเสียกว่า ได้ของปลอมมาแล้วยังเอามาอวดอยู่นั่นแหละ”
“หมายความว่ายังไง?!”
“ตามที่พูด ฟังไม่ออกเหรอครับ? กำไลหยกของคุณเป็นของปลอม เข้าใจหรือยังครับ?”
เซี่ยงเส้าหลงเหลือบมองเธอแบบเฉยชา พูดเสียด
คำพูดของเซี่ยงเส้าหลงราวกับสายฟ้า ผ่าเปรี้ยงจนทุกคนหน้าเปลี่ยนสี โดยเฉพาะหวังเหม่ยลี่ที่ตกใจเป็นที่สุด
“แกว่าของฉันอันนี้เป็นของปลอม?” หวังเหม่ยลี่หน้าถอดสี ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“ใช่! กำไลหยกของคุณวงนี้เป็นของปลอม ปลอมแน่นอน100% ก็แค่ของแผงลอย อย่างมากคงสักสิบหยวน”
เซี่ยงเส้าหลงพูดไปแบบทื่อๆ
“สิบหยวน? แกหลอกใครน่ะ แฟนฉันบอกว่าซื้อตั้งแสนหนึ่งเชียวนะ!”
“แหม ผมว่าสิบหยวนก็สิบหยวนสิ! ไม่เชื่อก็ถามเขาดูแล้วกัน”
“พี่หลงขา พี่บอกฉันหน่อยนะว่ากำไลหยกอันนี้ราคาเท่าไหร่?”
หวังเหม่ยลี่ถอดกำไลออก สอบถามกับชายกลางคนหัวล้าน
“เหม่ยลี่จ๊ะ ก็ต้องเป็นของแท้แสนหยวนอยู่แล้ว ดูสิ ใบเซอร์ยังอยู่ในอกฉันอยู่เลย”
ชายกลางคนหัวล้านเหงื่อตก ล้วงใบเซอร์ออกมาจากอก ถึงปากจะบอกว่าเป็นของจริง แต่ท่าทางตื่นตระหนกกลับเผยพิรุธเขา
แต่น่าเสียดาย…หวังเหม่ยลี่ที่เป็นผู้หญิงโง่ ดันถูกอีกฝ่ายหลอกเสียได้
“แกได้ยินไหม แฟนฉันบอกว่าของจริง มีใบเซอร์ด้วย”
หวังเหม่ยลี่ถือใบเซอร์อยู่ในมือโอ้อวดพูด
“เหอะๆ ใบเซอร์อันเนี่ย ไปบริษัทโฆษณานะ หยวนเดียวก็ทำได้แล้ว อ้อ ถ้าบวกกับราคากำไลหยกในมือ ต้นทุนก็คือสิบเอ็ดหยวน”
เซี่ยงเส้าหลงส่ายหน้า ท่าทางราวกับมองคนเขลา
เมื่อได้ฟังคำพูดของเซี่ยงเส้าหลงแล้ว สีหน้าชายกลางคนก็เปลี่ยนไปทันที ไอ้คนนี้โผล่มาจากไหนกันแน่ วิธีทำเทียมของตนถึงได้ถูกเขาดูออกหมด เขาตกตะลึงหนัก
“พี่หลงขา พี่บอกฉันหน่อยนะว่าใบเซอร์นี่เป็นของปลอมหรือเปล่า?”
เมื่อเห็นความตกตะลึงบนใบหน้าของอีกฝ่าย หวังเหม่ยลี่ก็สอบถามด้วยความสงสัย
ตอนนี้ เธอเองก็เริ่มเชื่อคำพูดของเซี่ยงเส้าหลงแล้วเหมือนกัน เพราะท่าทางเลิ่กๆ ลั่กๆ บนใบหน้าของพี่หลงเป็นของจริง
ใครก็รู้ ที่หวังเหม่ยลี่เป็นแฟนสาวกับเขาก็เพราะอีกฝ่ายซื้อกำไลหยกราคาแสนหยวนให้ แต่ถ้านี่เป็นของปลอม เช่นนั้นเธอก็เสียทั้งตัว เสียทั้งหน้า
“เหม่ยลี่จ๊ะ ฉันเป็นแฟนเธอนะ เธอไปเชื่อคนอื่นแล้วมาสงสัยฉันได้ยังไง?” สีหน้าชายกลางคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย แก้ต่างให้ตัวเอง
“ไอ้น้อง ถ้าแกกล้าพูดว่าของของฉันเป็นของปลอมอีก ฉันจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
ดวงตาชายกลางคนดุดัน ถลึงตาใส่เซี่ยงเส้าหลง
“ร้อนตัวหรือไง? เห็นแก่ที่เธอรู้จักกับหลัวผิง ผมจะสอนวิธีที่ง่ายที่สุดในการพิสูจน์หยกจริงหยกปลอมให้”
“จะพิสูจน์น่ะง่ายมาก แค่ใช้ไฟแช็กลนกำไลหยกแป๊บเดียวก็พอ ถ้าดำ ก็คือของปลอม”
“หยกแท้จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น”
เซี่ยงเส้าหลงเอามือไขว่หลัง พูดเรียบ
ด้วยฐานะของเขา มีเพชรนิลจินดาอะไรบ้างที่ไม่เคยเจอ?
ของแผงลอยแบบนี้ เห็นแวบเดียวก็รู้แล้ว!
เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยงเส้าหลงแล้วก็หยิบไฟแช็กออกมาจากกระเป๋าทันที ลนกับกำไลหยก แค่แพล็บเดียว…ผิวกำไลก็เปลี่ยนเป็นสีดำ!
“สีดำ ของปลอม!”
หวังเหม่ยลี่มองกำไลหยกที่เปลี่ยนเป็นสีดำ หน้าเขียวปั๊ด ดวงตาเต็มไปด้วยไฟโทสะ
เธอถูกหลอก ถูกตาเฒ่าหลอก!
ถ้าเป็นกำไลหยกชั้นดีจริง ถึงถูกเผาก็จะไม่ดำ มีแต่หยกของปลอมที่ใช้พลาสติกกับถ่านทำเท่านั้นที่พอถูกไฟเผาแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำ อย่างไม่ต้องพูดอีก กำไลหยกวงนี้เป็นของปลอม 100 %
“แกมันไอ้สารเลว! ใช้ของปลอมมาหลอกให้ฉันเป็นแฟนแก ฉันจะตีแกให้ตายเลย!”
หวังเหม่ยลี่โพล่งคำด่า ออกแรงมือที่ถือกำไลหยกอยู่ทุบหน้าอีกฝ่าย
“โอ๊ย เจ็บๆ!”
ชายวัยกลางคนหัวล้านกุมใบหน้าตัวเองร้องโอย ใบหน้าเขาถูกกระแทบจนเป็นรอยดำ
เมื่อเห็นหวังเหม่ยลี่กับอีกฝ่ายเริ่มตบตีกัน มุมปากของเซี่ยงเส้าหลงก็ยกขึ้นทำมุมโค้ง
ที่เขาต้องการก็คือแบบนี้แหละ ถ้าเทียบกับการอัดสองคนนั้น ก็ไม่สู้ให้พวกเขาฆ่าฟันกันเองจะดีเสียกว่า
ศึกภายใน…การได้เห็นศัตรูของตัวเองตั้งตนเป็นอริกันเองแบบนี้นั่นแหละ ถึงจะเป็นการแก้แค้นศัตรูที่ดีที่สุด!