ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 162 หามโลงศพเข้าสุสานตระกูลเซี่ยง

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

อารมณ์หวาดหวั่นซึมซาบเข้าสู่จิตใจทุกคน การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเซี่ยงเส้าหลง ทำให้ความคิดพวกเขาว้าวุ่นไปหมด

เสิ่นเสว่เหลียนตั้งสติ เธอรู้ดีว่าถึงคนอื่นจะลนลาน แต่เธอจะเป็นเช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด!

จากนั้นเธอก็ทำหน้าเป็นปกติ มองเซี่ยงเส้าหลง พูดด้วยเสียงกร้าว “เซี่ยงเส้าหลง นี่มันหมายความว่ายังไง?”

“ทำลายประตูตระกูลเซี่ยง แล้วยังเอาโลงศพเข้ามาอีก คิดจะทำอะไรกันแน่?!”

เซี่ยงเส้าหลงเงยหน้าเล็กน้อย สบตากับเธอ และทันใดนั้น ที่มุมปากก็วาดโค้งชั่วร้าย ตบมือเบาๆ เมื่อนั้นกลิ่นอายความเคร่งขรึมและเย็นยะเยือกทั้งห้าสิบนายก็เดินออกมาจากด้านข้างทั้งสองเป็นแถว เมื่อเห็นการแต่งกายของพวกเขาแล้ว เสิ่นเสว่เหลียนก็พลันตกใจ “องครักษ์ปาอ๋อง?!” แต่…ไม่ใช่ว่าถูกเซี่ยงเวิ่นเหอเอาตัวไปแล้วเหรอ?

ทำไมตอนนี้ถึงมาอยู่ตรงนี้ได้? อีกอย่างดูท่าทางแล้วยังเหมือน…ว่าฟังคำสั่งของเซี่ยงเส้าหลงด้วย?!

หรือว่า…หรือว่าคนที่นอนอยู่ในโลงนั้นจะเป็น…

ด้วยใจอาทรในบุตร เสิ่นเสว่เหลียนรีบเดินหน้าไปทันที ไม่อาจสนใจสถานการณ์อีก ถามไปตรงๆ “เซี่ยงเส้าหลง! เวิ่นเหอลูกฉันล่ะ?!”

“เซี่ยงเวิ่นเหอ?!”

เซี่ยงเส้าหลงยิ้มมุมปาก ใช้น้ำเสียงเย็นชาถึงที่สุดพูด “ตายแล้ว”

เปรี้ยง!

ราวกับถูกฟ้าผ่า เสิ่นเสว่เหลียนหน้าซีดทันที ร่างกายโครงเครง พวกเซี่ยงเวิ่นไห่รีบเข้ามาพยุงเธอไว้ เสิ่นเสว่เหลียนอ้าปากกระหืดกระหอบ มองโลงศพตรงหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อ “ลูก…ลูกชายฉัน อยู่…อยู่ในนี้?”

“เหอะๆ…เซี่ยงเวิ่นเหอก็คู่ควรให้ผมเตรียมโลงศพให้ด้วยเหรอ?”

“ศพของเขา…เหมาะอยู่กับที่โสมมที่สุดเท่านั้น เพื่อให้เขาสำนึกผิดกับสิ่งที่เขาก่อ!”

“เซี่ยงเส้าหลง!”

เซี่ยงปิงมองเขาด้วยตาแดงก่ำ “แกทำอะไรพ่อฉัน? ไอ้สัส ฉันจะฆ่าแก!”

เซี่ยงเส้าหลงไม่หวั่นการข่มขู่ของเขาแม้แต่น้อย ไม่สนใจสายฝนที่ลงกระหน่ำ มองพวกเขาอย่างเย็นชา “บัญชีของพวกเราเดี๋ยวค่อยคิดกัน ตอนนี้ ฉันจะส่งพี่ฉันกลับบ้าน!”

เสิ่นเสว่เหลียนฉุกคิดขึ้นมาได้ทันที มองตรงไปที่โลงศพ จากนั้นก็หัวเราะดังลั่น “ที่อยู่ในนั้น เป็นเซี่ยงเส้าจุน?”

“ฮ่าๆ…เซี่ยงเส้าหลง! แกไม่ใช่เก่งกาจไร้เทียมทานเหรอ? ทำไมแค่พี่ชายตัวเองก็คุ้มครองไม่ได้ล่ะ?!”

“ตายได้ดี ตายได้ดี!”

จากนั้นเสิ่นเสว่เหลียนก็มองเซี่ยงเส้าหลงด้วยใบหน้าชั่วร้าย “ในเมื่อลูกฉันตาย งั้นพี่แก ก็ควรตายไปกับเขาด้วย!”

ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นนัดหนึ่ง เสียงของเสิ่นเสว่เหลียนหยุดชะงักทันที เธอใช้มือที่สั่นระริกลูบแก้มที่มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย อีกนิดเดียว แค่นิดเดียวเท่านั้น! เธอก็จะได้ไปอยู่เป็นเพื่อนลูกชายตัวเองแล้ว!

ดวงตาเซี่ยงเส้าหลงราวกับเหยี่ยว ปากกระบอกปืนที่ถืออยู่ในมือยังมีควันออกมาจางๆ น้ำเสียงเย็นยะเยือก “อย่ามาท้าทายความอดทนของผมนะ ผมเคยบอกแล้ว ว่าจะค่อยๆ คิดบัญชี!”

ทันใดนั้นดวงตาเสิ่นเสว่เหลียนก็แวบความอาฆาตขึ้นมาทันที

ไหนๆ เรื่องราวก็มาถึงขั้นนี้แล้ว งั้นก็ต้องตายกันไปข้าง!

ระหว่างเธอกับเซี่ยงเส้าหลงต้องตัดสินความเป็นความตายกันในคืนนี้!

ผู้ชนะ ได้กุมอำนาจตระกูลเซี่ยง

ผู้แพ้ ชดใช้ด้วยชีวิต!

“ได้! เซี่ยงเส้าหลง!”

“แกอยากส่งเซี่ยงเส้าจุนกลับบ้าน ฉันรับปาก!”

“แต่สุสานบรรพชนตระกูลเซี่ยง เป็นทางเขาอยู่ห่างจากนี่สามลี้ แกคิดจะแบกโลงไปคนเดียว หรือจะให้คนติดตามต่ำต้อยข้างหลังแกพวกนั้นแบกไปด้วยกัน?”

เซี่ยงเส้าหลงจ้องเขม็งทันที

ในดวงตาเสิ่นเสว่เหลียนพุ่งรอยยิ้มแห่งการเอาคืน “ดูท่าแกคงยังไม่รู้สินะ ไม่ว่าใครในตระกูลเซี่ยงตาย เพื่อให้เห็นว่าฐานะของผู้ตายสูงส่ง ได้รับความเคารพไปชั่วกัลปาวสาน จะต้องมีผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงในตระกูลเป็นคนจัดการให้ มีพี่น้องร่วมสายเลือดเป็นคนแบก!”

“แกเป็นลูกภรรยาหลวงตระกูลเซี่ยง ยังไงก็ยังพอนับได้คนหนึ่ง แต่…นอกจากแกแล้ว คนแบกโลงคนอื่นล่ะ?”

“แกคงไม่คิดใช้คนต่ำต้อยข้างตัวพวกนั้นหรอกมั้ง? ฮ่าๆ…ฉันจะบอกให้นะ ฐานะของคนแบกโลงยิ่งสูงส่ง ก็ยิ่งให้เห็นว่าผู้ตายมีบารมีมาก ถ้าฐานะคนแบกโลงต่ำตม งั้นต่อให้เข้าสุสานบรรพชนไปก็จะถูกคนรุ่นหลังในตระกูลดูถูกชั่วลูกชั่วหลาน!”

เซี่ยงเวิ่นไห่พูดเย้ยหยันต่อ “เซี่ยงเส้าจุนไม่เอาถ่านมาทั้งชีวิต ถึงจะให้คนพวกนี้แบกโลงก็ถือว่าคู่ควรแล้ว!”

“อีกอย่าง ตอนนี้ นอกจากแกแล้วยังมีใครมีสิทธิ์แบกโลงไปฝังอีก?”

เซี่ยงเส้าหลงไม่สนใจคำพูดเย้ยหยันของพวกเขา ลูบโลงศพเบาๆ ดวงตาเผยความอ่อนโยน “พี่ใหญ่ พี่ลำบากมาทั้งชีวิต ไม่เคยได้รับความเคารพใดๆ ที่คุณชายใหญ่ตระกูลเซี่ยงควรมี แต่วันนี้ นาทีนี้ เส้าหลงจะให้พี่ได้รับความเคารพที่ทุกคนในตระกูลเซี่ยงไม่เคยได้รับมาก่อน!”

ว่าแล้วก็จับไม้หามโลงศพ ตะโกนเสียงดัง “เซี่ยงเส้าหลง นายพลน้อยแห่งชายแดนเหนือ ยินดีเป็นผู้หามโลงศพ ส่งท่านพี่เข้าสุสาน!”

เสิ่นเสว่เหลียนตะคอกเย็นชา “นายพลน้อยแห่งชายแดนเหนือช่างดีจริงนี่!”

“ในเมื่อแกตะโกนฐานะออกมาแล้ว งั้นฉันก็จะดูสิว่าทั้งเมืองอ๋องเซี่ยงยังมีใครแบกโลงกับแกได้อีก จะมีใครกล้าแบกโลงกับแก!”

ปัง!

เมื่อพูดจบ แขนกำยำหนึ่งก็รับไม้หาบอีกอันมา พูดด้วยเสียงหนักแน่น ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายยังดังชัดถึงหูคนตระกูลเซี่ยงทุกคน “ซ่งจื้อตง ไฉเสินแห่งเจียงเป่ย ใช้ความมั่งคั่งเก้ามณฑลเป็นฐาน หากใครกล้าขวาง จะใช้ทรัพย์สมบัติล้านล้านโปรยจนสิ้น ตบรางวัลตระกูลเซี่ยงด้วยหัว 3,192 คน ไม่ตายไม่เลิกรา มาหามโลงที่นี่แล้ว ไม่ทราบฐานะคู่ควรหรือไม่? ไม่ทราบตระกูลเซี่ยงจะขัดหรือไม่?!”

เสียงสนั่นนี้ทำให้ใบหน้าพวกเสิ่นเสว่เหลียน แข็งทื่อไปทันที!

แต่ความตกใจนั้นยังไม่หมด ตอนนี้เอง เงาโซเซก็เข้ามาจากปากประตู แค่พริบตาเดียวก็ปรากฏอยู่ข้างโลงศพแล้ว เขากรอกสุราไปอึกใหญ่ เผยความเย็นชาไร้ที่สิ้นสุดออกมาจากดวงตาเมามาย “เหล้าลมจัดหนึ่งกา เชิญสุภาพบุรุษสู่ปรโลก!”

“ไอ้ขี้เมาตัวคนเดียว ไร้เงินไร้อำนาจ มีเพียงเหล้ากาเดียว หากมีใครกล้าขวางก็จะมอบเหล้ากานี้ให้ มาหามโลงศพที่นี่แล้ว! ไม่ทราบฐานะคู่ควรหรือไม่? ไม่ทราบตระกูลเซี่ยงจะขัดหรือไม่?!”

เมื่อพูดจบ ก็เป็นชายหนุ่มร่างผอมบางอีกคน ถึงจะสวมแว่นแต่กลับมีใบหน้ามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว มองพวกเสิ่นเสว่เหลียน พูดด้วยความแน่วแน่ “ราชาแฮกเกอร์เฉิงอี๋ ควบคุมสุดยอดแฮกเกอร์ 366 คน หากใครกล้าขวางจะให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว มีข่าวเหม็นโฉ่ทั่วแผ่นดินในเสี้ยววินาที มาหามโลงศพที่นี่แล้ว! ไม่ทราบฐานะคู่ควรหรือไม่? ไม่ทราบตระกูลเซี่ยงจะขัดหรือไม่?!”

ฝนเทห่า สายลมยิ่งหนาวเหน็บ แต่ในใจของพวกเสิ่นเสว่เหลียนกลับสะท้านพสุธา!

คนหนึ่งเป็นเจ้าพ่อวงการธุรกิจ อีกคนเป็นนักฆ่าทรงคุณธรรม แล้วยังราชาแฮกเกอร์ บวกกับเซี่ยงเส้าหลง เทพรบแห่งชายแดนเหนือ คนหามโลงศพที่มีฐานะสูงส่งแบบนี้ เหนือเกินกว่าทุกคนที่เคยเข้าสุสานบรรพชนตระกูลเซี่ยงแล้ว!

เสิ่นเสว่เหลียนมองเซี่ยงเส้าหลงอย่างไม่พอใจ “โลงศพแปดคน ใช้สี่คนหาม เซี่ยงเส้าหลง แกก็ได้เพียงเท่าเนี่ยเหรอ?”

“เหรอ? สี่คนไม่พอ? งั้นถ้ารวมฉันอีกล่ะ?!”

คนยังไม่ปรากฏ แต่เสียงมาก่อนแล้ว

ทรงอำนาจ และยิ่งใหญ่!

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท