ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี – บทที่ 163 เกียรติยศหาผู้ใดเปรียบ

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

เมื่อทุกคนหันไปมองตามเสียงก็เห็นหนึ่งชายหนึ่งหญิง ผู้ชายแม้จะผอมบาง แถมสีหน้าก็ซีดเซียว แต่เนื้อตัวกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้นำ ผู้หญิงเรียบง่ายบริสุทธิ์งามตา ถือร่มยืนอยู่ข้างชายคนนั้น สายตาที่มองเซี่ยงเส้าหลงแฝงความกังวลห่วงใย

จากนั้นผู้เป็นชายก็เชอะทีหนึ่ง ย่างเท้าเข้าสายฝน ถือคันหาบโลงศพ พูดเสียงเข้ม “จางจุนบุตรภรรยาหลวง ครอบครัวหมอเวชศาสตร์ มาหามโลงศพแล้ว!”

“อะไรนะ?! ครอบครัวหมอเวชศาสตร์?!”

เสิ่นเสว่เหลียนพูดโพล่งออกมาทันที ลูกตาแทบถลน บุตรภรรยาหลวงแห่งครอบครัวหมอเวชศาสตร์ เช่นนั้นก็คือผู้นำตระกูลในอนาคตนะสิ!

เวลานี้จิตใจของเสิ่นเสว่เหลียนสะท้านหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่เดิมครอบครัวหมอเวชศาสตร์ก็มีฐานะสูงส่งอยู่แล้ว ด้วยฐานะจางจุนที่เป็นบุตรภรรยาหลวงนั้น เขาสามารถพูดอย่างเท่าเทียมกับผู้นำตระกูลอื่นๆ ได้เลย เซี่ยงเส้าหลงมีอะไรดีกัน ถึงให้จางจุนให้ลดตัวมาหามโลงศพได้!

ความตกใจยังไม่จบเพียงเท่านี้ ร่างองอาจอีกหนึ่งก็ย่างเข้าสายฝนมา พูดเสียงดัง “ฉินซาง บุตรภรรยาหลวงตระกูลฉินแห่งเสียนเฟิง มาหามโลงศพแล้ว!”

ทุกคนในตระกูลเซี่ยงปากกระตุกกันเป็นแถว ถึงฉินซางจะไม่ใช่ผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำคนต่อไปเพียงคนเดียวของตระกูลฉิน แต่ก็เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดที่ทรงอิทธิพลที่สุด เมื่ออยู่ข้างนอกก็สามารถเป็นตัวแทนของตระกูลฉินได้เลย!

“เหอะๆ…ครึกครื้นเสียจริง ดีนะที่ไม่ได้มาสาย!”

“หูหยุนหลง บุตรภรรยาหลวงคนโตแห่งตระกูลหู มาหามโลงศพแล้ว!”

เมื่อเห็นชายแปลกหน้าเบื้องหน้าแล้ว พวกเสิ่นเสว่เหลียนก็รู้สึกด้านชาไปทันที เดิมคิดว่าหูฉี่หรงผู้นำตระกูลหูใช้เงินห้าร้อยล้านซื้อเหมืองทองให้เซี่ยงเส้าหลงก็ถือว่าไว้หน้ามากแล้ว แต่คิดไม่ถึง เวลานี้เขาจะให้ลูกชายคนโตของภรรยาหลวงมาหามโลงศพด้วยตัวเองอีก การที่หูหยุนหรงทำเช่นนี้ถือเป็นการแสดงจุดยืนของตระกูลหู!

ตอนแรกคิดว่าคนที่สี่จะโผล่ออกมาอีก แต่รออยู่ครู่หนึ่งแล้วกลับไม่มีใครปรากฏตัวอีก ดวงตาเสิ่นเสว่เหลียนเป็นประกายทันที “เซี่ยงเส้าหลง ฉันต้องยอมรับเลยว่าเส้นสายของแกทำให้ฉันตกใจมากจริงๆ!”

“แต่…แล้วจะยังไง? ครั้นโบราณมาก็ไม่ใช้เลขคี่หามโลง หรือว่าแกจะใช้คนเจ็ดคนส่งเซี่ยงเส้าจุนเข้าสุสานบรรพชนเหรอ?!”

ดวงตาเซี่ยงเส้าหลงนิ่งค้าง เส้นสายที่มีก็ใช้หมดแล้ว การที่หูหยุนหรงยอมออกหน้ามาหามโลงศพให้เซี่ยงเส้าจุน ก็เป็นเรื่องที่เขาคาดคิดไม่ถึงแล้ว แต่คนที่แปด…เขาหาไม่ได้แล้วจริงๆ

ตอนนี้เอง เสียงเอาแต่ใจก็ดังขึ้น “เชอะ! ยายเฒ่าน่ารังเกียจ!”

ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองทางประตู เห็นหญิงสาวท่าทางทะนงตนยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ที่นั่น เธอมองเสิ่นเสว่เหลียนด้วยความดูถูก

เสิ่นเสว่เหลียนมองใบหน้าเธอ จากนั้นเมื่อมั่นใจว่าเธอไม่ใช่คนในตระกูลหลักของสิบสองตระกูลลึกลับแล้วก็พูดเสียงเกรี้ยว”ยัยเด็กบ้านี่มาจากไหนกัน! ตระกูลเซี่ยงไม่ใช่ที่ที่แกจะมากำเริบได้นะ!”

“เด็กๆ ใช้ไม้พลองตะเพิดยัยเด็กบ้าพูดจาสามหาวคนนี้ออกไปซะ!”

“ใครกล้า?!”

เสียงโทสะดังขึ้นมาทันที จากนั้นก็มีคนหนึ่งกระโดดออกมากระแทกพื้นอย่างแรงราวกับดาวตก ได้ยินเสียงหินอ่อนที่แข็งกร้าวบนพื้นแตก ถูกชายผู้นั้นบดละเอียดไปทันที

สายตาของทุกคนจ้องเป็นสายตาเดียว…ช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน!

ต้องมีกำลังมากแค่ไหนกันนะถึงทำให้หินอ่อนที่แข็งกร้าวแตกออกเป็นเสี่ยงได้

ชายคนนั้นค่อยๆ ยืดตัวตรง แผ่ความดุดันระห่ำออกมาจากตัว เขามองเสิ่นเสว่เหลียน ดวงตาเย็นชา เอ่ยปากพูดด้วยเสียงกระด้าง “แกใช่ไหมที่บอกให้ใช้ไม้พลองตะเพิดน้องฉันออกไป?”

เมื่อรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่ราวกับสัตว์ร้าย เสิ่นเสว่เหลียนก็กลืนน้ำลายลงอึก เธอไม่ได้โง่ แค่วรยุทธ์น่าทึ่งของเขา ก็พอพิสูจน์ได้แล้วว่าเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่!

แต่ถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้ดูแลตระกูลเซี่ยง ดังนั้นจึงเชอะแล้วว่าไป “ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครถึงได้เข้ามาบ้านตระกูลเซี่ยงมาโดยไม่ได้รับการอนุญาต หรือว่าขนาดมารยาทพื้นฐานก็ไม่รู้หรือยังไง?”

“มารยาท?”

ทว่าชายคนนั้นกลับไม่แยแส พูดด้วยความยโส “แผ่นดินนี้ ไม่เคยมีประตูไหนขวางสวีเจิ้นเป่ยได้!”

จากนั้นก็หยุดไปอึกใจหนึ่ง สายตาดุดันกว่าเดิม “เคยได้ยินไหม ใต้หล้านี้ ยังมีที่ไหนที่สำนักมือปราบที่หกไปไม่ได้?”

“อะไรนะ? คุณเป็น…คนของสำนักมือปราบที่หก?”

เสิ่นเสว่เหลียนตกใจหน้าถอดสี ด้วยฐานะของเธอย่อมเคยได้ยินเรื่องของสำนักมือปราบที่หกอยู่แล้ว

นั่นเป็นตระกูลฝึกยุทธ์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียง หากเทียบกับตระกูลลึกลับอย่างพวกเขาแล้วก็สูงไปอีกระดับหนึ่ง

ต่างกับตระกูลลึกลับที่หลบซ่อนอยู่ ตระกูลฝึกยุทธ์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ นอกจากกำลังของแต่ละตระกูลแล้ว ต่อหน้ายังมีฐานะสูงส่งอีก

สำนักมือปราบที่หก เชี่ยวชาญการสืบสวน จับผู้ร้ายเป็นหลัก ด้วยฐานะทางราชการนี้ก็คือ…

ตระเวนทั่วหล้า สอดส่องทั่วแผ่นดิน!

ไม่ว่าตระกูลลึกลับจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็หาสู้อาวุธของแผ่นดินได้ไม่ และสำนักมือปราบที่หกก็คือคมมีดที่คมและสำคัญที่สุด!

เสิ่นเสว่เหลียนคิดไม่ถึงว่าแม้แต่คนของสำนักมือปราบที่หกก็จะมาด้วย!

ตอนนี้เพื่อไม่เป็นการสร้างศัตรูเพิ่ม เธอจึงผ่อนน้ำเสียง พูดอย่างเกรงใจ “ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับตระกูลเซี่ยงเราหรือคะ?” สวีเจิ้นเป่ยเบือนหน้าไปเล็กน้อย เขาเองก็จุกอกอยู่เหมือนกัน น้องสาวหัวแก้วหัวแหวนของตัวเองจู่ๆ ก็วิ่งออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องเหมือนครั้งก่อน ตนจึงได้แต่แอบตามมาปกป้อง แต่ใครจะรู้ว่าเธอกลับมาขัดแย้งกับเสิ่นเสว่เหลียน พอได้ยินเสิ่นเสว่เหลียนสั่งให้คนใช้ไม้พลองไล่ตะเพิดเธอ สวีเจิ้นเป่ยที่เป็นคนคลั่งน้องสาวหนักจึงทนไม่ไหวทันที

พูดเล่นไป!

ตระกูลสวีมีลูกชายเป็นพลพยัคฆ์ห้าคน กว่าจะมีน้องสาวสักคนได้ ทั้งบ้านแทบจะยกพานขึ้นหิ้งแล้ว เสิ่นเสว่เหลียนเป็นใครกัน! อย่าว่าแต่ผู้นำตัวจริงของตระกูลเซี่ยงเลย เพราะถึงจะใช่ ถ้ากล้าแตะน้องสาวเขาแม้แต่ปลายก้อย สำนักมือปราบที่หกไม่ยอมปล่อยไว้แน่!

แต่เมื่อเซี่ยงเส้าหลงเห็นผู้หญิงที่กำลังยิ้มให้เขาด้วยความหมายเชิงลึกแล้ว มุมปากก็กระตุก สวีซินหยาว? ทำไมจู่ๆ ก็มาโผล่ที่นี่ได้ล่ะ?!

เมื่อเห็นสีหน้าของเซี่ยงเส้าหลง สวีซินหยาวก็หัวเราะได้ใจ ยักหน้าใส่เขาราวกับจะบอกว่า ‘นิดหน่อยน่า ไม่ใช่บอกว่าจะไม่เจอกันอีกเหรอ? ถ้าฉันอยากจะเจอซะอย่าง ก็ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ!’

จากนั้น เธอก็บุ้ยปากกับสวีเจิ้นเป่ย เอ่ยปากพูด “พี่สี่ ทางนั้นยังขาดคนหามอีกคน พี่ก็ไปช่วยหน่อยสิ!”

ตาสวีเจิ้นเป่ยถลึงตา พูดด้วยความไม่พอใจ “น้องเล็กพูดเล่นอะไรน่ะ จะให้ฉันไปหามโลง?”

เมื่อได้ฟังเสียงไม่พอใจ สวีซินหยาวก็เท้าสะเอว งอนตุ๊บป่อง “ทำไม? บอกให้ไปยังไม่ไปอีก?”

“ถ้าไม่ใช่เซี่ยงเส้าหลง ตอนนี้พี่ก็ไม่ได้เห็นน้องสาวสุดที่รักแล้ว!”

“อะไรนะ?! เขาก็คือคนที่ช่วยเธอไว้เหรอ?!”

สวีเจิ้นเป่ยชี้เซี่ยงเส้าหลงที่อยู่ด้านหน้าสุด พูดด้วยความตกใจ

เซี่ยงเส้าหลงเซ็งเล็กน้อย ฉันช่วยน้องสาวนายแล้ว ไม่ใช่ว่านายควรจะขอบคุณฉันเหรอ? ทำไมสายตาที่นายมองฉันมันเหมือนจะกินเลือดกินเนื้ออย่างนั้นล่ะ?

เมื่อเห็นสายตาของสวีเจิ้นเป่ยไม่เป็นมิตรมากขึ้นเรื่อยๆ สวีซินหยาวก็กระทืบเท้า “สวีเจิ้นเป่ย! ยังไม่ไปอีก?!”

สวีเจิ้นเป่ยตาโต เข้าไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน กลัวแต่น้องสาวของตัวเองคนนี้เท่านั้น เขาเชอะทีหนึ่งแล้วก็เดินไปที่ไม้หาบสุดท้าย พูด “ไอ้น้อง! บัญชีของเราค่อยสะสางกันทีหลัง!”

“เห็นแก่ที่นายช่วยน้องสาวฉันไว้ ครั้งนี้ฉันก็จะช่วยนายสักครั้ง!”

ว่าแล้วก็พูดด้วยเสียงทรงอำนาจ “สวีเจิ้นเป่ย มือปราบเสื้อทองแห่งสำนักมือปราบที่หก มาหามโลงศพแล้ว!”

หน่วยตระเวนทั้งแผ่นดินหาใช่มีแค่ร้อยพันไม่ และผู้ที่มีฝีมือร้ายกาจจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมือปราบเสื้อทอง แผ่นดินนี้มีเพียงสิบคนเท่านั้น และสวีเจิ้นเป่ยก็เป็นหนึ่งในนั้น!

บัดนี้คนหามโลงศพทั้งแปดก็ครบแล้ว เซี่ยงเส้าหลงมองโลงศพเหล็กที่อยู่ด้านข้าง พูดพึมพำ “พี่ เห็นหรือยัง? เส้าหลงจะใช้รูปแบบที่ทรงเกียรติที่สุด ส่งพี่กลับบ้าน…”

ครืน!

เส้นสายฟ้า ฟาดผ่าสู่พื้น

เสียงคำราม ดังก้องปฐพี

“ยกขึ้น!”

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

ภินท์ฟ้าฆาตปฐพี

Status: Ongoing
ลูกสาวถูกขายให้เป็นเจ้าสาวเด็ก ภรรยาตกเป็นหมากให้คนอื่น เซี่ยงเส้าหลงกลับมาพร้อมกับความโกรธ รวบอำนาจแห่งความยิ่งใหญ่ เทพสงครามเดือดผนึกโลก ยกกองทัพออกศึกสะท้านปฐพี

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท