“แก๊งหมาป่า?”
รูม่านตาของฟางเฉิงโจวหดเล็กลง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนของตระกูลฝึกยุทธ์เก่าแก่ แต่พวกเขาไม่ได้ยึดเอาความคิดของตัวเองเป็นหลักโดยไม่คำนึงความเป็นจริง พวกเขาไม่เข้าใจเกี่ยวกับชีวิตความเป็นไปในทางโลก แต่พวกเขามีความเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับพลังอันยิ่งใหญ่ในโลกนี้!
แก๊งหมาป่าถือเป็นองค์กรนักฆ่าอันดับหนึ่ง แน่นอนว่าพวกเขาเป็นหนึ่งในนั้น!
“หยูโชว ปรมาจารย์กายวิภาค มีนิสัยที่โหดร้าย เก่งเรื่องกายภาพ โดยเฉพาะผิวหนังของมนุษย์! เป็นลำดับที่ห้าในขุนพลหมาป่าแห่งแก๊งหมาป่า!”
ในที่สุดสายตาของฟางเฉิงโจวก็เคร่งขรึม จากนั้นเขามองไปที่เซี่ยงเส้าหลง “ไม่คิดว่า คุณจะสามารถเชิญเขามาได้ เกรงว่าคงจะเสียเงินไปไม่น้อยใช่ไหม?”
“เสียเงินหรือ? ไม่เสียเงินจริง ๆ จะบอกว่าแค่เสียน้ำลายนิดหน่อยเท่านั้น!”
“ฮึ่ม! คุยโวโอ้อวดโดยไม่กระดากปาก!”
ฟางเฉิงโจวไม่เชื่อแม้สักนิด “ขุนพลหมาป่าเป็นตัวแทนของแก๊งหมาป่า เป็นนักฆ่าที่มีพลังต่อสู้ที่สุดของโลก จะเชิญออกมาง่ายดายได้อย่างไร”
“อย่างไรก็ตาม อาศัยหยูโชวคนเดียว ไม่เพียงพอที่จะปกป้องคุ้มครองชีวิตคุณได้!”
“ชอบพูดจาไร้สาระ!”
เสียงแหบของหยูโชวดังขึ้น คิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อย ร่องรอยของดวงตาที่ไร้อารมณ์สะท้อนออกมาใต้เลนส์ มองไปที่ฟางเฉิงโจวด้วยสีหน้าที่ราบเรียบ “ผมชอบผิวหนังของคุณมาก ผมคิดว่า มันจะเป็นชิ้นงานศิลปะที่ดีชิ้นหนึ่ง!”
“บังอาจ!”
ฟางเฉิงโจวรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ สถานะของเขาสูงส่ง แม้แต่ในสำนักกระบี่ ก็มีคนไม่กี่คนที่กล้าพูดกับเขาเช่นนี้ เขาจะทนต่อการเหยียดหยามของหยูโชวได้อย่างไร?
“เป็นเพียงหนูที่แอบย่องอยู่ในความมืดเท่านั้น มีอะไรน่าทะนง!”
“ปรมาจารย์กายวิภาค? ฮึ่ม! คุณคิดว่าพวกเราเทียนหยู่สิบเก้าจอมกระบี่ สามารถล่วงเกินได้ง่าย ๆ หรือ?”
“เจ้าเจ็ด เจ้าแปด ลุย! ฆ่ามันล้างแค้นให้เจ้าเก้า!”
“โอเค!”
มีเงาของคนสองคนเดินถือกระบี่ออกมา!
ฉึก!
ทันใดนั้น ประกายเลือดแวบผ่านทั้งสองคน เจ้าเจ็ดก้มศีรษะมองปลายกระบี่ที่อยู่ตรงหน้าอกขอตนเอง หันศีรษะไปตามสัญชาตญาณ ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ทำ…….ทำไม?”
ตอนนี้สีหน้าของเจ้าแปดนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ริมฝีปากซีดลงทันที “ผม…….ผมไม่รู้ ผมไม่รู้จริง ๆ!”
ซ่า!
ทันใดนั้นกระบี่ยาวในมือก็ถูกดึงออกมา จากนั้นเทียนหยู่จอมกระบี่ลำดับที่เจ็ดก็ล้มลงบนพื้นทันที!
“ไอ้สารเลว! แกทำอะไร!”
สีหน้าของฟางเฉิงโจวแดงก่ำ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แล้วมองไปที่เจ้าแปด “แก……แกรู้ไหมว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่?”
“แกฆ่าพี่น้องของตนเอง!”
“เปล่า! ผมไม่ได้เป็นคนทำ!”
เจ้าแปดตัวสั่นสะท้าน สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “กระบี่ กระบี่มันเคลื่อนไหวเอง!”
“อะไรน่ะ?!”
สายตาของฟางเฉิงโจวควบแน่นทันที มองกระบี่ที่อยู่ในมือของเจ้าแปด ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กระบี่ของเจ้าแปดถูกพันด้วยเส้นด้ายสีขาว ราวกับหุ่นเชิดกำลังบังคับใช้กระบี่!
เมื่อมองตามเส้นด้ายสีขาวจนถึงปลายสาย เห็นชายผอมแห้งเดินออกมาจากความมืดอย่างช้า ๆ มือที่เรียวราวกำลังควบคุมบางอย่างอยู่ในความว่างเปล่า
เมื่อเห็นฟางเฉิงโจวจ้องมองตนเอง ชายผอมแห้งก็ยิ้ม “โอ้ ไม่คิดว่าจะถูกค้นพบเร็วขนาดนี้ น่าเบื่อชะมัด!”
“หุ่นเชิดตัวนี้ไม่สนุกแล้ว งั้นเปลี่ยนตัวอื่นดีกว่า!”
ฟางเฉิงโจวรู้สึกตกใจ และตะโกนใส่เจ้าแปดทันที “เร็ว! รีบถอดเสื้อผ้าออกเร็ว! เร็วเข้า!”
“อะไรน่ะ?”
เจ้าแปดตะลึงทันที ไม่เข้าใจความหมายของฟางหวา เห็นเพียงแต่ชายผอมแห้งกำมือไว้แน่น!
ฉึก!
ขณะที่ทุกคนตกตะลึง ร่างของเจ้าแปดดูเหมือนจะถูกตัดอย่างเรียบร้อย สายลมพัดมา และทันใดนั้น มันก็กระจัดกระจายไปทั่วพื้นดิน!
มีเส้นด้ายสีขาวเล็ก ๆ พันกันในแนวตั้งและแนวนอน ในสถานที่ที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านั้น เลือดที่หยดลงมา ดูเหมือนจะบอกว่าทุกอย่างเมื่อสักครู่นั้นไม่ใช่ภาพลวงตา!
แหวะ!
เมื่อเห็นภาพที่น่าสลดนี้ ผู้ที่มีสภาพจิตใจไม่แข็ง อาเจียนออกมาทันที ส่วนสิบสององครักษ์เสื้อเลือดที่คุ้นเคยกับการเห็นชีวิตความเป็นความตาย แต่เมื่อพวกเขาเห็นฉากนี้ ทุกคนก็หน้าซีดและเวียนศีรษะ!
ดูเหมือนชายผมแห้งจะทำเรื่องเล็กน้อยชายเท่านั้น เขาเดินไปหาเซี่ยงเส้าหลงอย่างช้า ๆ แล้วมองใบหน้าที่แดงก่ำของฟางเฉิงโจว และโค้งคำนับเล็กน้อย “ขอบคุณที่ชมการแสดงของผมเมื่อสักครู่!”
“ผมขอแนะนำตนเอง!” ขณะที่เขากล่าว ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏบนใบหน้า “เก้าขุนพลหมาป่าแห่งแก๊งหมาป่า!”
“ปรมาจารย์เชิดหุ่น ชูปิง!”
“มีเก้าขุนพลหมาป่าปรากฏขึ้นมาอีกคน?!”
ฟางเฉิงโจวกัดฟันแน่น หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อโดยไม่รู้ตัว!
นักฆ่าคือเพชฌฆาตที่ซุ่มซ่อนอยู่ในคืนที่มืดมิด ซึ่งยากต่อการจัดการ และเก้าขุนพลหมาป่าอยู่อันดับต้น ๆ ของนักฆ่า เพียงพอที่จะถูกเรียกว่าเทพสังหาร!
ชูปิง ปรมาจารย์เชิดหุ่น เก่งเรื่องควบคุมร่างกายมนุษย์เป็นหุ่นเชิด ด้ายเล็กแข็งแรง ฆ่าคนไร้ร่องรอย!
อยู่ลำดับที่เจ็ดในเก้าขุนพลหมาป่า!
“ปรมาจารย์กายวิภาคคนหนึ่ง และปรมาจารย์เชิดหุ่นคนหนึ่ง เซี่ยงเส้าหลงคนนี้มีความสามารถอะไร ที่สามารถทำให้คนสองคนของเก้าขุนพลหมาป่าทำงานถวายชีวิตให้กับเขาได้?”
ประกายความเคร่งขรึมอยู่ในสายตาของฟางเฉิงโจว ตอนที่หยูโชวปรากฏตัว เขาไม่รู้สึกกลัว แต่เมื่อชูปิงปรากฏตัว ทำให้เขาตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
สำหรับเทพสังหารในความมืดมิด ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนแล้ว มันไม่ง่ายเหมือนหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง…….
“จะถอยแบบนี้หรือ?”
“ไม่ได้!”
“เทียนหยู่สิบเก้าจอมกระบี่ออกมาสู่โลกภายนอกเป็นครั้งแรก หากพ่ายแพ้แล้วถอยหนีไปเช่นนี้ ทั้งตระกูลจะกลายเป็นตัวตลกให้คนอื่นหัวเราะเยาะอย่างแน่นอน!”
“ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ตายไปสามคนแล้ว หากพวกเขาพ่ายแพ้กลับไป งั้นชื่อเสียงของเทียนหยู่สิบเก้าจอมกระบี่จะจบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์!”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ดวงตาของฟางเฉิงโจวก็เปล่งประกายความมุ่งมั่น ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนว่า “ทุกคน บุกพร้อมกัน!”
“ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย ทุกคนที่อยู่ข้างหน้าบุกไปพร้อมกัน!”
พรึ๊บ!
หลังจากที่เขากล่าวจบ เงาสีดำเล็ก ๆ ก็แวบผ่าน ทันใดนั้นก็กระทบไปที่ใบหน้าของเขาอย่างแรงจากมุมที่คาดไม่ถึง!
“มันคืออะไร?!”
ฟางเฉิงโจวรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และสะบัดกระบี่ไปมาตามสัญชาตญาณ กระบี่ของเขารวดเร็วว่องไว แต่เงาดำนั้นเร็วกว่า เงาดำโจมตีไปที่กระบี่ของเขา ด้วยแรงสะท้อนกลับ ทำให้ความเร็วนั้นเพิ่มขึ้น แล้วกระโจนเข้าใส่ใบหน้าของคนที่อยู่ข้างเขา!
“โอ๊ย!”
เสียงร้องโหยหวนชวนหัวขนลุกดังขึ้นมา เมื่อหันไปมองก็เห็นเงาสีดำแวบผ่าน และมีหลุมดำสองหลุมบนใบหน้าของชายคนนั้น และมีเลือดหยดย้อยลงมา!
“เจ้า…….เจ้าสี่ ตาของคุณ?”
เขาหันไปมองด้วยความสั่น ภายใต้แสงจันทร์ เงาสีดำค่อย ๆ หันศีรษะมา เป็นเด็กน้อยที่มีสีหน้าเฉื่อยชา กำลังเคี้ยวอะไรบางอย่างอยู่ในปาก เมื่อได้ยินคำพูดของฟางเฉิงโจว ก็คายสิ่งที่อยู่ในปากไว้บนฝ่ามือ นัยน์ตาสีเทาเข้ม และถามด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาว่า “คุณอา กำลังหาสิ่งนี้อยู่หรือเปล่า?”