บทที่ 14 แด๊ดดี้ต้องไปตามหาหม่ามี๊แล้ว
ณ ระเบียงทางเดินของโรงแรมซิงฮั่น
ซูโม่มองไปยังซูสือเยว่ด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะแสยะยิ้ม
” ทำงานสตั๊นท์แมนเป็นปี ๆ นึกว่าทนแรงทุบได้ ไหงสลบไปซะงั้นล่ะ ”
” คุณซู จะเอายังไงต่อ ”
เสียงของชายรูปร่างสูงใหญ่พวกนั้นที่พาตัวซูสือเยว่ที่ถูกมัดไว้อยู่ข้าง ๆ ได้ถามขึ้น
” เอาไปไว้ห้อง1102 ประธานหวางใกล้จะถึงแล้ว ”
” ครับ ”
ชายพวกนั้นเมื่อได้ยินคำสั่งแล้ว ก็พาตัวซูสือเยว่ไปไว้ห้องข้าง ๆ
ขณะที่หญิงสาวถูกลาก ก้อนหยกนั้นได้ตกลงมาจากตัวเธอ
หยกมรกตก้อนนั้น ตอนนี้ได้ประกายแสงเล่นไฟอยู่บนพื้นดูดึงดูดสายตายิ่งนัก
ซูโม่ขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินไปเก็บหยกก้อนนั้นขึ้นมา ” ที่แท้ตาแก่ขี้เหล้านั่นก็เอาหยกนี่ให้ซูสือเยว่แล้วสินะ ”
เธอเปล่งเสียงหึในลำคอเบา ๆ เป็นเชิงไม่พอใจ เธอและเจี่ยนเฉิงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาตลอด เธอเคยเห็นหยกอันนี้มาก่อน
จู่ ๆ เจี่ยนเฉิง ก็พูดเรื่องนี้แบบไม่มีปีไม่มีขลุ่ย ว่าหยกนี่ คือสิ่งที่จะใช้เป็นของยืนยันเป็นหลักฐานกับแม่แท้ ๆ ของเธอได้แล้วยังบอกอีกว่า แม่แท้ ๆ ของเธออยู่ในชนชั้นที่ไม่ธรรมดาเลย
ในตอนที่เธอออกมาจากสลัมนั่น ก็อยากเอาหยกนั่นติดตัวไปด้วย แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
นึกไม่ถึงเลยว่าเจี่ยนเฉิงจะยกมันให้คนโง่เขลาอย่างซูสือเยว่
เธอถอนหายใจก่อนจะเก็บหยกลงไป
ซูสือเยว่ เธอคิดว่าจะหาแม่แท้ ๆ เจองั้นหรอ
ฝันไปเถอะ!
” คุณซู”
หลังจากนั้นก็มีชายอ้วนลงพุง หัวล้านมีผมเพียงครึ่งหัวเดินเข้ามา ” เธอเตรียมตัวเรียบร้อยหรือยัง ครอบครัวฉินคงไม่รู้เรื่องนี้หรอกนะ ”
” วางใจเถอะค่ะ ”
ซูโม่ ยิ้มอย่างสะใจ ” เธอดีใจที่ได้ปรนนิบัติคุณนะคะ เธออยู่กับตระกูลฉินก็ไม่มีความสำคัญอะไร ใคร ๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นแหละค่ะ ”
อย่าว่าแต่ท่านชายฉินที่มีนิสัยโหดเหี้ยมนั่นเลย ยังไงมันก็ไม่ส่งคนมาปกป้องซูสือเยว่ ถึงจะส่งคนมาคุยคุ้มกัน ยัยนั่นก็ต้องปฏิเสธอยู่ดี
อันที่จริง เจี่ยนเฉิงเป็นพ่อที่ขี้เหล้าขนาดนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์ซักเท่าไหร่ ซูสือเยว่คงไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้แน่ ๆ
ซูโม่ก็กะไว้แล้วว่าซูสือเยว่ต้องกลับไปส่งเงินให้เจี่ยนเฉิง ก็เลยให้คนไปดักซุ่มอยู่แถว ๆ บ้านเจี่ยนเฉิง
” งั้นก็ดี! ”
ประธานหวาง ถูมือไปมาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะรับสัญญามาจากมือของ ซูโม่ แล้วเซ็นชื่อลงไป ” แค่เธอปรนนิบัติผมอย่างดี อีกหน่อยผมก็จะสนับสนุนตระกูลซูอย่างพวกคุณทุกปีเลยละกัน! ”
” ถ้างั้นคงต้องขอบคุณประธานหวางแล้วล่ะค่ะ ”
ซูโม่แสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ ” คืนนี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่ล้ำค่ายิ่งนัก ท่านรีบเข้าไปเถอะค่ะ ”
ชายแก่ยิ้มอย่างหื่นกระหาย ก่อนจะเดินเข้าไป
ประตูโรงแรมถูกทำขึ้นเป็นพิเศษ ส่วนกำแพงของห้องก็ยังเก็บเสียง เธอเลยไม่กลัวที่ซูสือเยว่จะหนีรอดไปได้เลยสักนิด
อีกอย่าง ซูสือเยว่ควรจะขอบคุณเธอสิ
ใคร ๆ ก็พูดกันว่าเพลิงไหม้เมื่อห้าปีก่อน ไม่ได้ทำลายแค่ใบหน้าของท่านชายฉิน แต่มันทำลายไปถึงร่างกายส่วนล่างของเขา นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่เขาดูโหดเหี้ยมกับผู้หญิงนัก หรือจริง ๆ ส่วนนั้นของเขามันใช้การไม่ได้แล้วกันแน่นะ!
ถึงแม้ว่าประธานหวาง จะดูแก่ไปสักหน่อย แต่เรื่องอย่างว่านั่นก็คงจะพอได้อยู่ละมั้ง
ณ คฤหาสน์บ้านฉิน
ในห้องหนังสือกำลังจัดประชุมทางไกลระหว่างประเทศ
ฉินโม่หานกำลังนั่งในตำแหน่งเก้าอี้ของหัวหน้า สีหน้าเคร่งเครียด ตั้งใจฟังหญิงต่างชาติผมทองตาสีเขียวมรกต ที่กำลังใช้ภาษาฝรั่งเศษอธิบายแผนของโครงการใหม่อยู่
ทั้งการประชุมดูสุขุมและเคร่งเครียด ถึงแม้จะเป็นแค่การคุยกันผ่านกล้อง แต่ก็น่ากดดันจนผู้ร่วมประชุมแทบจะหายใจหายคอกันไม่คล่องเท่าไหร่นัก
” ปัง!! ” เกิดเสียงดังขึ้น ประตูของห้องหนังสือถูกเปิดอย่างแรงจากด้านนอก
ซิงเฉินเข้ามาในห้องด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน ” แด๊ดดี๊ หม่ามี๊เกิดเรื่องแล้ว! ”
คำพูดนี้โพร่งขึ้นมา ผู้ประชุมที่อยู่พร้อมหน้าต่างพากันเงียบอย่างพร้อมเพรียงไปชั่วครู่
จากนั้นทุกคนในที่ประชุมก็เบิกตามองฉินโม่หานอย่างตกอกตกใจยกใหญ่
บอสมีภรรยาตั้งแต่เมื่อไหร่
ชายหนุ่มผู้สูงส่งและดูเย็นชาผู้นี้ยังคงนิ่งเฉย ” มีอะไร ”
” เมื่อกี้พี่กำลังคุยโทรศัพท์กับหม่ามี๊ หม่ามี๊กรี๊ดออกมา แล้วก็หายไปเลย! ”
” โทรไปใหม่อีกรอบก็ไม่มีคนรับ! ”
ซิงเฉินรีบร้อนจนหน้าแดงไปหมด ก่อนจะกุมมือฉินโม่หานไว้ ” แด๊ดดี้รีบไปช่วยหม่ามี๊เดี๋ยวนี้นะ! ”
” เธออาจจะโดนลักพาตัวไปแล้วก็ได้! ”
” ถ้ามีคนเห็นว่าหม่ามี๊สวยแบบนี้แล้วทำมิดีมิร้ายเธอขึ้นมาจะทำยังไง! ”
เด็กน้อยลากฉินโม่หานออกไปด้วยท่าทีที่ดูมุ่งมั่น ” รีบไปช่วยเร็ว! ”
ฉินโม่หานเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
ซิงเฉินเป็นเด็กที่ซนและเอาแต่ใจมาก แต่ก็ไม่น่าจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ขนาดนี้
เหมือนว่าทุกอย่างที่เล่าจะเป็นเรื่องจริง
ชายหนุ่มยืนขึ้น ก่อนจะอุ้มซิงเฉินแล้วสาวเท้าออกไปจากห้อง
ที่นั่งตำแหน่งบอสว่างเปล่า กลุ่มคนที่กำลังนั่งร่วมการประชุมมีสีหน้าสับสน ไม่รู้ว่าควรจะจบการประชุม หรือรอบอสกลับมาดี
เจ้าเด็กน้อยซิงหยุนปีนขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด พูดต่อด้วยท่าที่สุขุมว่า ” สวัสดีผู้ร่วมการประชุมทุกท่าน เนื่องจากที่บ้านของกระผมเกิดปัญหานิดหน่อย ตอนนี้แด๊ดดี้ต้องไปต่อสู้เพื่อคู่ชีวิตของเขา จึงขอเลื่อนการประชุมออกไป สวัสดี ”
พูดจบ เด็กน้อยก็ปิดคอมพิวเตอร์อย่างมีมารยาท
ตอนนี้บริษัททางซีกยุโรป ทุกคนกำลังฮือฮากับเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นยกใหญ่ ในที่สุด ต้นไม้เก่าแก่หมื่นปีต้นนี้ก็ได้ผลิดอกออกผลแล้ว!
คนบ้างานอย่างฉินโม่หาน ในที่สุดก็มีโมเมนต์ที่เลื่อนงานเพราะทำเพื่อภรรยาสักที
*
” ตามตำแหน่งที่ตั้งของโทรศัพท์หม่ามี๊แล้ว ผมหาที่อยู่สุดท้ายเจอแล้ว อยู่ตรงนี้ ”
ข้าง ๆ ตรอกละแวกสลัมแห่งหนึ่ง ซิงหยุนใส่เอียร์พอด และค้นหาผ่านโน๊ตบุ๊คอย่างรวดเร็ว
” คุณฉิน เจอโทรศัพท์ของภรรยาคุณแล้ว ”
จากนั้น ก็ส่งโทรศัพท์ของซูสือเยว่ให้ฉินโม่หานด้วยสองมือ
หน้าจอโทรศัพท์เก่า ๆ เครื่องนั้นได้แตกละเอียดไปแล้ว
ฉินโม่หานนิ่งไปอึดใจ ก่อนจะเขวี้ยงโทรศัพท์ลงถังขยะไป
” ผมจะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้หม่ามี๊เอง! ”
ซิงเฉินที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับก็คว้าแท็บเล็ตขึ้นมา ก่อนจะค่อย ๆ เปิดหาร้านค้าออนไลน์ในนั้น
เมื่อมองไปรอบ ๆ แล้ว ซิงหยุนถึงกับถามด้วยความสงสัย ” ว่าแต่ หม่ามี๊มาทำอะไรถึงตรงนี้ล่ะ ”
ที่นี่ไกลจากที่ทำงานของเธอมาก
ชายหนุ่มที่นั่งข้างซิงหยุนชี้นิ้วไปที่จอแสดงผลขอโน๊ตบุ๊คทันที ” โรงแรมซิงฮั่น ”
ซิงหยุนถือโน๊ตบุ๊คของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะหันไปพูดกับคนที่อยู่ข้าง ๆ ว่า ” รู้ได้ไงว่าหม่ามี๊อยู่โรงแรมซิงฮั่น ”
” ข้างในตรอกไม่มีกล้องวงจรปิดแต่ข้างนอกมี ”
” จากกล้องวงจรปิด ร่องรอยสุดท้ายที่พบคือโรงแรมซิงฮั่น ”
ปกติแล้วฉินโม่หานเป็นคนพูดน้อย แต่สำหรับลูกชายของเขานั้น เขายอมที่จะอธิบายอย่างละเอียดและตั้งใจในทุก ๆ เรื่อง
ซิงหยุนเคาะไปที่หัวของตัวเองหนึ่งที ” สุดท้ายแด๊ดดี้ก็ฉลาดกว่าจริง ๆ ”
เขาทำได้แค่หาสัญญาณที่อยู่สุดท้ายที่หม่ามี๊หายตัวไป แต่ดันลืมเรื่องกล้องวงจรปิดไปซะได้!
อีกอย่าง….
เด็กน้อยเงยหน้ามอง ” แด๊ดดี้ใช้เวลาแค่นิดเดียว ก็หาเจอแล้วเหรอ ”
ชายหนุ่มตอบรับสั้น ๆ ก่อนจะเปิดประตูลงไป ” ลูก ๆ กลับไปก่อนเถอะ พ่อพาคนไปช่วยก็พอแล้ว ”
ซิงหยุนพยักหน้ารับ เขากับน้องยังเล็ก ถึงไปก็คงไม่ได้ช่วยอะไร ” แด๊ดดี้ พาหม่ามี๊กลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้นะ! ลิ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอบเด็ดขาด! ”
” จะพยายามนะ ”
ชายหนุ่มพูดจบ ก็ขึ้นรถอีกคัน ก่อนรถจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมซิงฮั่นอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้
ตอนนี้ ระยะเวลาที่ซูสือเยว่ถูกลักพาตัวไป ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่กล้ารับประกันว่า ตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอจริง ๆ หรือไม่
*
” ปัง! ”
ประตูโรงแรมถูกถีบออกอย่างแรง กลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งไปทั่ว
เตียงสีขาวหลังใหญ่ของโรงแรมเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด ร่างกายของซูสือเยว่ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นโชกไปด้วยเลือด เสื้อผ้าของเธอขาดวิ่น สีหน้าดูซีดเซียว
ภาพตรงหน้า ทำให้ฉินโม่หานถึงกับพูดไม่ออก
” ปิดตา เเล้วหันออกไปให้หมด! ”
ชายหนุ่มตะโกนเสียงดัง การ์ดที่ยืนอยู่หลังเขาค่อยๆ หลับตาแล้วหันตัวไปอย่างไว
ฉินโม่หานก้าวเข้าไปในห้องทีละก้าว
ยิ่งเข้าไปในห้องเท่าไหร่ กลิ่นคาวของเลือดก็ยิ่งชัดขึ้นเรื่อย ๆ
สุดท้าย เขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนจะเอื้อมอืมไปกุมมือเธอเอาไว้อย่างสั่นเทา ” ซูสือเยว่…..”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจตะโกนเรียกชื่อเธอแบบนี้ แต่นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะมาเกิดในช่วงเวลาแบบนี้