ซูสือเยว่มองไปยังหน้าตาเย่อหยิ่งของเซี่ยงหวั่นฉิง
“ในสายตาของพวกเขา คุณเป็นคนอ่อนแอที่สามารถรังแกได้ตามต้องการ”
เธอมองดูตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตาของเซี่ยงหวั่นฉิง
ฉินโม่หานพูดไม่ผิด
ในสายตาของเซี่ยงหวั่นฉิง เธอเป็นคนอ่อนแอที่สามารถรังแกได้ตามต้องการ
แต่เธออ่อนแอกว่าเซี่ยงหวั่นฉิงจริงเหรอ
ซูสือเยว่หรี่ตา “ทำไม วันนี้คนของพวกเธอไม่ได้ถ่ายรูปฉันกับเฉิงเซวียนอย่างใกล้ชิด ดังนั้นจึงเป็นสุนัขจนตรอกหรือไง”
“เธอ———!”
คำพูดของหญิงสาวแทงใจดำเซี่ยงหวั่นฉิงเข้าอย่างจัง!
ถ้าวันนี้ไม่มีใครออกมาสร้างปัญหา คนของเธอก็ถ่ายรูปซูสือเยว่กับเฉิงเซวียนได้แล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นตอนนี้ในอินเตอร์เน็ตคงจะรื่นเริงไปด้วยการรุมประณามไปแล้ว!
แต่ตอนนี้ มันไม่มีอะไรทั้งนั้น
ที่เธอจ่ายเงินซื้อนักข่าวบรรณาธิการสื่อมวลชนในราคาสูง ที่ลงทุนไปมันเสียเปล่าหมดแล้ว!
ก่อนหน้านี้เพื่อระงับฮ็อตเซิร์ชของซูสือเยว่ เธอเอาเงินทั้งหมดไปเดิมพันกับเธอและเฉิงเซวียนไปแล้ว และมันสูญเปล่า
ตอนนี้เธอสูญเสียเงินทั้งหมดที่ซูโม่ให้เธอมาอีกครั้ง!
เซี่ยงหวั่นฉิงไม่สามารถกล้ำกลืนฝืนทนได้ จะกล้ำกลืนฝืนทนมันได้อย่างไร!
เธอมองไปที่ใบหน้าของซูสือเยว่ ความเกลียดชังเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ! มันเป็นความผิดของเธอ!
ถ้าซูสือเยว่ทำตัวดีๆ ปล่อยให้เธอหลอกใช้ วันนี้มันจะเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นได้อย่างไร!
ทั้งหมดเป็นความผิดของซูสือเยว่!
ความเกลียดชังขับเคลื่อนให้เซี่ยงหวั่นฉิงก้าวเดินไปตรงหน้าซูสือเยว่ ยกมือขึ้นไปทางใบหน้าของซูสือเยว่ ออกแรงตบลงไปอย่างรุนแรง——-
มือของเธอยังไม่ทันได้สัมผัสลงบนใบหน้าของซูสือเยว่ ก็ถูกจับเข้าเสียก่อน
ที่จับข้อมือของเธอไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือซูสือเยว่ที่ถูกเธอดูถูก
“คิดว่าฉันยังเป็นซูสือเยว่ที่พวกเธอรังแกจะได้ตามใจงั้นเหรอ”
หญิงสาวสะบัดมือของเซี่ยงหวั่นฉิงทิ้งอย่างแรง แล้วยกมืออีกข้างขึ้น “เพี๊ยะ—–!” ตวัดมือตบอย่างโหดเหี้ยม
ใบหน้าของเซี่ยงหวั่นฉิงบวมขึ้นเป็นรอยฝ่ามือทันที
“เซี่ยงหวั่นฉิง ตบนี้ สำหรับเธอชดใช้หนี้ฉัน!”
ซูสือเยว่หรี่ตา “ตบนี้ ที่จริงแล้วฉันควรให้เธอตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน!”
เซี่ยงหวั่นฉิงถูกตบจนเซถอยหลังไปหลายก้าว
ตอนที่เธอกำลังจะล้ม ก็มีแขนของชายคนหนึ่งมาช่วยประคองเธอไว้
“หวั่นฉิง คุณไม่เป็นไรนะ”
ได้ยินเสียงอ่อนโยนของเฉิงเซวียนอยู่ข้างหลัง เซี่ยงหวั่นฉิงก็น้ำตาร่วงทันที “เฉิงเซวียน ซูสือเยว่ตบฉัน!”
“ซูสือเยว่!”
เฉิงเซวียนประคองเซี่ยงหวั่นฉิงไว้ในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง จ้องหน้าซูสือเยว่ด้วยสายตาโกรธจัด “เมื่อเช้าคุณเรียกคนคนนั้นมาดูหมิ่นผม กลั่นแกล้งผม ทั้งหมดผมทนได้!”
“ตอนนี้คุณมาลงมือกับหวั่นฉิงอีก!”
“หวั่นฉิงเป็นคนจิตใจดีขนาดนี้ ทำไมคุณไม่ปล่อยเธอ!”
คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้ซูสือเยว่หัวเราะเยาะออกมาอย่างทนไม่ไหว
เซี่ยงหวั่นฉิงจิตใจดีงั้นเหรอ
เธอไม่ปล่อยเซี่ยงหวั่นฉิงงั้นเหรอ
ความสามารถในการกลับดำเป็นขาวช่างเก่งกาจจริงๆ
“轩”
เซี่ยงหวั่นฉิงอิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของเขา น้ำตาไหลพรากไม่หยุด “ฉันแค่อยากมาหาเธอเพื่อขอโทษและยอมรับผิด คิดไม่ถึงว่าเธอ…”
มองดูฉากเสแสร้งตรงหน้า ซูสือเยว่ก็หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “เซี่ยงหวั่นฉิงถ้าเธอแสดงละครให้เหมือนกับตอนที่เธอแสดงตบตาหลอกผู้ชาย ป่านนี้เธอได้รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปแล้ว”
พูดจบ เธอก็ถืออาหารไว้ในมือแล้วหันหลังเชิดหน้าเดินจากไป
“ซูสือเยว่ หวั่นฉิงท้องแล้วนะ!”
“ถ้าเธอกับลูกในท้องเป็นอะไรไป ผมจะให้คุณชดใช้ด้วยชีวิต!”
ซูสือเยว่หยุดก้าวเดิน
เธอหันกลับมามองสองคนที่อยู่ข้างหลังด้วยสายตาเย็นชา “ในเมื่อท้องแล้ว งั้นฉันก็แสดงความยินดีกับเธอทั้งคู่ด้วย”
“แต่…”
ซูสือเยว่หรี่ตา “ตอนนั้นเรื่องที่พวกเธอทำร้ายลูกของฉัน ก็อย่าให้กรรมตามสนองพวกเธอก็แล้วกัน”
ทันทีที่ประโยคนี้ออกมา เซี่ยงหวั่นฉิงกับเฉิงเซวียนก็หน้าซีดขึ้นมาฉับพลัน
หญิงสาวหันกลับไป หัวใจตึงแน่นราวกับถูกบดขยี้ด้วยบางสิ่ง
เธอเดาถูกอีกครั้ง
ตอนนั้นที่เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะตั้งครรภ์ ก็เป็นพวกเขาที่วางแผนไว้
ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ทุกการก้าวเดินของเธอ ก็เป็นพวกเขาที่วางแผนและวางกับดักเอาไว้
“นังสารเลวกับหมาขี้เรื้อน ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย”
หญิงสาวกำสองมือแน่น ทิ้งคำเหล่านี้ไว้อย่างเย็นชาแสนสาหัส ก่อนจะเชิดหน้าเดินจากไป
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอจะไม่คิดถึงอดีตอีก และจะไม่ยอมให้พวกเขาดูหมิ่นอีกแล้ว
……
เพราะคนเขียนบทเปลี่ยนบท ดังนั้นซูสือเยว่จึงมีเวลาพักผ่อนเพิ่มอีกสัปดาห์
ฟู๋เชียนเชียนจึงชวนเธอไปเที่ยวที่เมืองข้างๆ
“สือเยว่ ตอนนี้เป็นฤดูร้อนพอดี ชายหาดที่เมืองข้างๆ กำลังครึกครื้นเลย”
“ช่วงนี้เฉิงเซวียนกับเซี่ยงหวั่นฉิงทำให้เธออารมณ์ไม่ดี หรือไม่เธอใช้โอกาสในวันหยุดไปคลายเครียดดีไหม”
“ไปเถอะๆ ฉันได้ตั๋วสวนน้ำมาด้วย ไอดอลของฉันจี้หนานเฟิงจะไปถ่ายที่สวนน้ำนั่นด้วย ฉันอยากไปดู!”
“สือเยว่…”
ฟังเสียงอ้อนวอนของฟู๋เชียนเชียนที่อยู่ปลายสายแล้ว ซูสือเยว่ก็ถอนใจอย่างอ่อนใจ “ก็ได้”
ที่จริงเธอก็อยากออกไปพักผ่อนหย่อนใจเหมือนกัน
“งั้นตกลงไปพรุ่งนี้เลย!”
ฟู๋เชียนเชียนส่งเสียงโห่ร้องดีใจก่อนจะวางสายไป
เวลาอาหารเย็น ซูสือเยว่เคลียร์คอ “เอ่อ…พรุ่งนี้ฉันวางแผนจะออกไปเที่ยวนะ”
“เที่ยวเหรอครับ”
ซิงเฉินกะพริบตาปริบๆ หน้าตาตื่นเต้นทันที “หม่ามี๊ไปเที่ยวไหนเหรอครับ”
“จะพาผมไปด้วยไหม”
“พาผมหรือว่าพี่ชายไป หรือว่าพาไปทั้งสองคนครับ”
ซิงหยุนที่อยู่ข้างๆ เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา “อาจจะพาคุณพ่อไปก็ได้”
“ฉันไม่ว่าง”
ชายหนุ่มที่นั่งทานอาหารเงียบๆ มาตลอดเอ่ยปากพูดเสียงบางเบา “พรุ่งนี้มีงาน”
เขาต้องไปตรวจสอบโครงการสวนน้ำที่เมืองถงที่อยู่ข้างๆ
“จังหวะไม่ดีจังครับ”
ซิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย
ซิงเฉินก็ถอนหายใจ “งั้นหม่ามี๊อยากไปเที่ยวเวลาอื่นอีกไหมครับ”
ซูสือเยว่ “……..”
เธอยังไม่ได้บอกเลยว่าอยากไปกับใคร
ทำไมสามคนพ่อลูกถึงมั่นใจว่าเธอจะไปเที่ยวกับฉินโม่หาน
หญิงสาวเอ่ยปากขึ้นมาเงียบๆ “ฉันตั้งใจจะไปกับเพื่อนรักของฉัน”
พูดจบเธอก็ยิ้มหวานมองซิงหยุนกับซิงเฉิน “จะไปเที่ยวสามวันนะ สามวันนี้ พวกเธอต้องเป็นเด็กดีทานอาหารที่ป้าหลี่ทำอย่างเชื่อฟังนะ”
ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของซิงเฉินมุ่ยลงทันที
“ป้าหลี่ทำอาหารไม่อร่อยเหมือนที่หม่ามี๊ทำ”
ก่อนหน้านี้เขาชอบทานอาหารที่ป้าหลี่ทำ
แต่ว่าตั้งแต่ซูสือเยว่กลายมาเป็นแม่ของเขา ทุกครั้งที่เขาทานอาหารที่ป้าหลี่ทำ ก็รู้สึกเบื่อชีวิตมาก
“เดี๋ยวฉันจะทำพวกขนมของหวานเอาไว้ให้พวกเธอนะ”
หญิงสาวรู้สึกมีความสุขมากที่เขาแสดงท่าทีการพึ่งพาเธอออกมา “สามวันไม่นานก็ผ่านไปแล้วจ้ะ!”
“รอฉันกลับมาค่อยชดเชยให้พวกเธอนะดีไหม”
“ดีครับ!”
ซิงเฉินกระโดดโลดเต้นอย่างตื่นเต้นดีใจ “ผมจะกินสตูว์กุ้ง แล้วก็พวกอาหารทะเลเยอะๆ ด้วย!”
ซิงหยุนก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ระวังตัวด้วยครับ”
ซูสือเยว่พยักหน้า “วางใจเถอะจ้ะ เมืองถงอยู่ใกล้ๆ นี่เอง ฉันแค่ไปสวนน้ำ ไม่ได้มีอะไรที่เป็นอันตรายเลย!”
ชายหนุ่มที่นั่งหัวโต๊ะขมวดคิ้ว “คุณจะไปสวนน้ำของเมืองถงเหรอ”