สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 72 นี่คุณกำลังสารภาพรักกับฉันอยู่เหรอ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

บรรยากาศภายในห้องรับรองราวกับหยุดชะงักขึ้นมาในทันที

ดวงตากลมโตกระจ่างใสราวกับลูกผลซิ่งของซูสือเยว่มีความตื่นตระหนกอยู่ แม้แต่จะพูดก็ยังพูดไม่ชัด

ฉินโม่หานยกน้ำชาขึ้นมาจิบอย่างแผ่วเบาหนึ่งอึก “เกินความคาดหมายมากเหรอ?”

ซูสือเยว่พยักหน้างึก ๆ ราวกับโขลกกระเทียม

นี่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเกินความคาดหมาย แต่เรื่องที่ไม่คาดฝันราวกับฟ้าผ่าลงมาตอนกลางวันแสก ๆ เลยล่ะ!

ซูสือเยว่รู้สึกราวกับว่าตัวเองถูกฟ้าผ่าเข้าให้แล้ว

ไม่ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่นับไม่ถ้วนเลยล่ะ!

ตอนนี้เธอก็คือคนที่ถูกฟ้าผ่าเสียจนกรอบนอกนุ่มในประหลาดใจขึ้นสุด ทั่วทั้งร่างดำทะมึนเสียจนน่าสงสาร!

หัวสมองของหญิงสาวว่างเปล่า

“ดื่มชาสงบสติอารมณ์ก่อน”

ฉินโม่หานรินน้ำชาให้เธออย่างใส่ใจ “ไม่ต้องอายขนาดนั้นก็ได้”

เขายิ้มมุมปากอย่างแผ่วเบา “ความจริงแล้วผมก็ถูกเข้าใจผิดไม่น้อยเลยเหมือนกัน”

“หน้าตาอัปลักษณ์ เสียโฉม กดขี่ภรรยา วิปริต”

ชายหนุ่มรินน้ำชาให้ตัวเองด้วยท่วงท่าที่สง่างามอีกครั้งแล้วยกขึ้นมา “เทียบกับพวกนี้…”

“อายุเยอะ”

“คนแก่”

“รักคุณปานจะขาดใจ”

“ไล่ตามจีบคุณอย่างบ้าคลั่ง”

ทุก ๆ คำที่เขาพูด ใบหน้าของซูสือเยว่ก็จะแดงก่ำขึ้นมาเป็นบางส่วน

เมื่อรอให้เขาพูดจนเสร็จ ใบหน้าของหญิงสาวก็ร้อนผ่าวเสียจนจะทอดไข่ได้อยู่แล้ว

“เพียงแต่ สิ่งที่คุณพูดเหล่านี้ มีบางส่วน ที่อาจเป็นความจริง”

ซูสือเยว่อึ้งไปสักพัก แล้วขบคิดดูอย่างละเอียดสักพัก

เธอเคยพูดถึงเขาว่าอายุมาก รักเธอ ยังมี…

หญิงสาวรีบยกแก้วน้ำชาขึ้นมา แล้วกรอกให้ตัวเองแรง ๆ

ความจริงที่เขาพูด คงจะเป็นปัญหาเรื่องอายุอย่างแน่นอน!

ใช่ ต้องเป็นปัญหาเรื่องอายุแน่ ๆ แต่ใครจะไม่เปลี่ยนเป็นแก่บ้างล่ะ จริงไหม?

แน่นอน…แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นข้อที่เขารักเธอปานจะขาดใจนี้แน่นอน…

เมื่อน้ำชาอุ่นร้อนลงท้อง ซูสือเยว่ก็สงบลงมาไม่น้อย

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเงยหน้ามองฉินโม่หานก่อนที่จะหัวเราะอย่างอาย ๆ “คือว่า ฉัน…ฉันก็นึกว่าครูฉินที่คุณลั่วเยียนแนะนำให้ฉันจะเป็นคนอายุเยอะเสียอีก…”

“ดังนั้นก็เลย…”

ดวงตาสีดำขลับราวกับหินก็มิปานจ้องมองดูใบหน้าของเธออย่างราบเรียบ “หรือว่าจะไม่ใช่เพราะผมไม่รู้จักแสดงออกทางสีหน้า ทั้งยังพูดจาแข็งทื่ออีกต่างหาก ถึงได้เห็นผมเป็นคนแก่?”

ซูสือเยว่ : “……”

เธอยกมือขึ้นแสดงการยอมแพ้ “ฉันใจแคบเอง คิดไปเองว่าใช่!”

“ฉัน…”

“เอาล่ะ ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ก็ได้”

ชายหนุ่มเอ่ยตัดบทเธออย่างเรียบเฉย

ซูสือเยว่เม้มริมฝีปาก มองดูเขาด้วยความหวาดกลัว ว่านอนสอนง่ายไม่พูดไม่จาอีกแล้ว

เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอเอง เธอไม่เคยนึกว่าครูฉินจะเป็นฉินโม่หานได้เลยสักนิดเดียว…

ตอนนี้ความจริงได้ถูกเปิดเผยแล้ว นอกจากเธอจะอับอายแล้วก็ยังอับอายอีก

หนำซ้ำฉินโม่หานยังเป็นสามีของเธอ ต่อให้เธอจะหลบเขาที่นี่ได้ แต่หลังจากที่กลับไปบ้านล่ะยังจะหลบไปได้ตลอดอยู่อีกเหรอ?

พวกเขานอนห้องเดียวกันทุกวัน แล้วยังนอนเตียงเดียวกันอีก แม้แต่เรื่องลูกสาวก็ยังคุยกันไว้แล้วด้วย…

พอเห็นใบหน้าแดงของหญิงสาว ฉินโม่หานก็หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่ได้จะเอาผิดอะไรคุณสักหน่อย”

เสียงที่ทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างแผ่วเบา “นับตั้งแต่ยังเด็ก ผมก็รู้ว่าในอนาคตผมจะทำอะไร แล้วต้องทำอย่างไร”

“นอกจากสิ่งที่ผมสนใจแล้ว อย่างอื่นผมก็ขี้เกียจจะสนใจ ขี้เกียจจะเข้าใจ”

“แม้แต่การแต่งงานกับเธอ ก็ยังเป็นเพราะว่าซิงหยุนกับซิงเฉินชอบคุณ”

มือทั้งสองข้างของซูสือเยว่บิดเข้าหากันแน่นอยู่ใต้โต๊ะ

เธอรู้ว่าที่เขาพูดมานั้นเป็นความจริง

แต่…

ถึงแม้ว่าเขาจะพูดคำพูดพวกนี้ออกมาอย่างสบายใจ แต่เธอก็มักจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง

“ปีนี้ผมอายุยี่สิบแปด มากกว่าคุณไปห้าปี”

“สภาพแวดล้อมในชีวิตผมต่างจากคุณมาก”

“ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดว่าห้าปีนี้คือระยะห่าง ทั้งยังไม่คิดอีกด้วยว่าสภาพแวดล้อมของชีวิตที่แตกต่างกันนั้นจะส่งผลกระทบอะไร”

เมื่อสิ้นเสียง เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเธอแวบหนึ่ง “แต่ว่าตอนนี้ ผมสัมผัสได้แล้วว่า ระหว่างคุณกับผมนั้นไกลกันมาก”

แสงสว่างข้างในดวงตาของซูสือเยว่ค่อย ๆ มืดสลัวลงมา

มัน…ห่างไกลมากเลยเหรอ?

ความจริงแล้วก็ดีอยู่นะ…

เธอพยายามที่จะขจัดระยะห่างเล็กๆ นี่อย่างสุดความสามารถ แล้วพยายามทำตัวให้เหมาะสมกับตำแหน่งคุณนายฉินให้มากที่สุด…

“ดังนั้นหลังจากนี้”

ฉินโม่หานเอ่ยปากพูดอย่างจริงจัง “ฉันจะพยายามหาเวลา ทำความเข้าใจการแสดงออกทางสีหน้าและการใช้ภาษาอินเทอร์เน็ต พยายามเข้าใจวงการบันเทิงและบริษัทโบรกเกอร์”

ซูสือเยว่เงยหน้าขึ้นด้วยความตกตะลึง

ริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย “ผมแก่กว่าคุณ ทั้งยังฉลาดกว่าคุณ”

“ดังนั้นเรื่องระยะห่างระหว่างพวกเรา ให้ผมเป็นคนทำลายมันเถอะ”

ซูสือเยว่จ้องมองเขาอย่างอึ้ง ๆ รู้สึกว่าเซลล์ทุกส่วนในร่างกายกำลังสั่นเทาขึ้นมาเบา ๆ

เธอได้ยินน้ำเสียงของตัวเองสั่นเล็กน้อย “ฉัน…ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด”

“ผมอยากลองเข้าใจคุณ”

ชายหนุ่มมองเธอนิ่ง ๆ “ตอนที่ของคุณแต่งงานนั้นเป็นเพราะซิงหยุนกับซิงเฉิน”

“แต่ที่อยากลองเข้าใจคุณ เข้าใกล้คุณ เป็นความคิดของผมเอง”

ซูสือเยว่รู้สึกเหมือนตัวเองลอยไปแล้ว

ถ้อยคำของฉินโม่หานนี้ ทำให้ทั่วทั้งตัวของเธอดูเหมือนกับกำลังเหยียบอยู่บนก้อนเมฆ รู้สึกล่องลอย ไม่เป็นความจริง

เธอไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าฉินโม่หานจะพูดกับตนอย่างนี้

เขาไม่ได้ใช้คำพูดที่คลุมเครืออะไร แต่น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำนั้น ดวงตาที่ลึกล้ำ อีกทั้งทุกคำที่เขาพูดออกมา…

ทั้งหมดนี้ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นและดีใจ

แต่ สิ่งเหล่านี้ยังไม่พอ!

เธอเม้มริมฝีปาก เงยหน้ามองดูเขาด้วยความขวัญหนีดีฝ่อ “ท่านชายฉิน คำพูดพวกนี้ของคุณ…”

“เป็นการสารภาพรักกับฉันเหรอคะ?”

ชายหนุ่มยิ้มอย่างแผ่วเบา “ตอนนี้ไม่ตื่นเต้นแล้วเหรอ?”

ซูสือเยว่อึ้งไปสักพัก

ดูเหมือนว่า…จะไม่ตื่นเต้นแล้วจริง ๆ

ตอนนี้ห้วงสมองของเธอเต็มไปด้วยคำพูดที่ทำให้คนรู้สึกสั่นไหวเหล่านั้น แล้วยังจะตื่นเต้นได้อย่างไรกัน!

“อย่างนั้นก็ดี”

ชายหนุ่มวางแก้วชาลงด้วยท่วงท่าที่สง่างาม “พวกเรามาคุยกันต่อ เรื่องที่คุณหาว่าผมเป็นคนแก่”

ซูสือเยว่ : “……”

ดังนั้นผู้ชายคนนี้แกล้งโจมตีเพื่อที่จะถอยอย่างนั้นเหรอ คำพูดเหล่านี้ก็เพื่อคลายบรรยากาศที่น่ากระอักกระอ่วน?

แต่ที่เขาพูด…ดูเหมือนความจริงมากเลย

เธอเกือบจะเชื่ออยู่แล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก้มหัวลงด้วยความท้อถอย “เอาล่ะ เป็นความผิดของฉันเอง”

“ฉันไม่ควรคิดว่าครูฉินไม่เข้าใจเรื่องการแสดงอารมณ์ พูดจาแข็งทื่อและสุขภาพก็เลยคิดมีครูฉินเป็นคนแก่”

เมื่อสิ้นเสียง เธอก็เงยหน้าขึ้นมองดูใบหน้าของเขา “ครูฉินอย่าโกรธเลยนะ”

“ไม่ได้โกรธ”

“ผมยังอยากฟังคุณเล่าสักหน่อยว่าผมตามจีบคุณยังไง”

ซูสือเยว่ : “……”

ทำไมวกกลับมาเรื่องนี้อีกแล้วล่ะ?

เธอเม้มริมฝีปากแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ “คือว่า ครูฉินคะ เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษจากฉัน”

“ให้ฉันรับปากคำเรียกร้องของคุณข้อหนึ่งดีไหม?”

ฉินโม่หานเลิกคิ้ว “จริงเหรอ?”

“จริงสิ”

หญิงสาวพยักหน้าอย่างจริงจัง “แต่บอกไหวก่อนนะ ต้องเป็นสิ่งที่ฉันมีความสามารถถึง แล้วก็ทำได้”

“ถ้าคุณจะให้ฉันมอบของขวัญให้คุณราคาเป็นล้าน ฉันคงให้ไม่ไหวหรอก”

พอพูดจบ จู่ ๆ ก็ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรขึ้นได้ “ยังมีเรื่องคลอดลูกสาวอีกที่ไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉันรับประกันไม่ได้ว่าฉันจะคลอดลูกสาวให้คุณได้รึเปล่า”

ฉินโม่หานยิ้มอย่างแผ่วเบา “วางใจเถอะ”

“เธอได้เซ็นสัญญาเรื่องที่จะคลอดลูกสาวแล้ว ผมไม่ชอบทำเรื่องอะไรที่เกินความจำเป็น”

ซูสือเยว่ : “……”

ชายหนุ่มมองดูใบหน้าดวงเล็กที่แดงระเรื่อของเธอ ดวงตาสีดำสนิทหรี่ลงเล็กน้อย “เพียงแต่ ผมมีเรื่องที่ต้องให้คุณทำ”

“อะไร?”

“ภายในห้าปี คว้ารางวัลนักแสดงหญิงดีเด่นมาให้ได้”

“ทำได้ไหม?”

“ตกลงตามนี้!”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท