บรรยากาศภายในห้องรับรองราวกับหยุดชะงักขึ้นมาในทันที
ดวงตากลมโตกระจ่างใสราวกับลูกผลซิ่งของซูสือเยว่มีความตื่นตระหนกอยู่ แม้แต่จะพูดก็ยังพูดไม่ชัด
ฉินโม่หานยกน้ำชาขึ้นมาจิบอย่างแผ่วเบาหนึ่งอึก “เกินความคาดหมายมากเหรอ?”
ซูสือเยว่พยักหน้างึก ๆ ราวกับโขลกกระเทียม
นี่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเกินความคาดหมาย แต่เรื่องที่ไม่คาดฝันราวกับฟ้าผ่าลงมาตอนกลางวันแสก ๆ เลยล่ะ!
ซูสือเยว่รู้สึกราวกับว่าตัวเองถูกฟ้าผ่าเข้าให้แล้ว
ไม่ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่นับไม่ถ้วนเลยล่ะ!
ตอนนี้เธอก็คือคนที่ถูกฟ้าผ่าเสียจนกรอบนอกนุ่มในประหลาดใจขึ้นสุด ทั่วทั้งร่างดำทะมึนเสียจนน่าสงสาร!
หัวสมองของหญิงสาวว่างเปล่า
“ดื่มชาสงบสติอารมณ์ก่อน”
ฉินโม่หานรินน้ำชาให้เธออย่างใส่ใจ “ไม่ต้องอายขนาดนั้นก็ได้”
เขายิ้มมุมปากอย่างแผ่วเบา “ความจริงแล้วผมก็ถูกเข้าใจผิดไม่น้อยเลยเหมือนกัน”
“หน้าตาอัปลักษณ์ เสียโฉม กดขี่ภรรยา วิปริต”
ชายหนุ่มรินน้ำชาให้ตัวเองด้วยท่วงท่าที่สง่างามอีกครั้งแล้วยกขึ้นมา “เทียบกับพวกนี้…”
“อายุเยอะ”
“คนแก่”
“รักคุณปานจะขาดใจ”
“ไล่ตามจีบคุณอย่างบ้าคลั่ง”
ทุก ๆ คำที่เขาพูด ใบหน้าของซูสือเยว่ก็จะแดงก่ำขึ้นมาเป็นบางส่วน
เมื่อรอให้เขาพูดจนเสร็จ ใบหน้าของหญิงสาวก็ร้อนผ่าวเสียจนจะทอดไข่ได้อยู่แล้ว
“เพียงแต่ สิ่งที่คุณพูดเหล่านี้ มีบางส่วน ที่อาจเป็นความจริง”
ซูสือเยว่อึ้งไปสักพัก แล้วขบคิดดูอย่างละเอียดสักพัก
เธอเคยพูดถึงเขาว่าอายุมาก รักเธอ ยังมี…
หญิงสาวรีบยกแก้วน้ำชาขึ้นมา แล้วกรอกให้ตัวเองแรง ๆ
ความจริงที่เขาพูด คงจะเป็นปัญหาเรื่องอายุอย่างแน่นอน!
ใช่ ต้องเป็นปัญหาเรื่องอายุแน่ ๆ แต่ใครจะไม่เปลี่ยนเป็นแก่บ้างล่ะ จริงไหม?
แน่นอน…แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นข้อที่เขารักเธอปานจะขาดใจนี้แน่นอน…
เมื่อน้ำชาอุ่นร้อนลงท้อง ซูสือเยว่ก็สงบลงมาไม่น้อย
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเงยหน้ามองฉินโม่หานก่อนที่จะหัวเราะอย่างอาย ๆ “คือว่า ฉัน…ฉันก็นึกว่าครูฉินที่คุณลั่วเยียนแนะนำให้ฉันจะเป็นคนอายุเยอะเสียอีก…”
“ดังนั้นก็เลย…”
ดวงตาสีดำขลับราวกับหินก็มิปานจ้องมองดูใบหน้าของเธออย่างราบเรียบ “หรือว่าจะไม่ใช่เพราะผมไม่รู้จักแสดงออกทางสีหน้า ทั้งยังพูดจาแข็งทื่ออีกต่างหาก ถึงได้เห็นผมเป็นคนแก่?”
ซูสือเยว่ : “……”
เธอยกมือขึ้นแสดงการยอมแพ้ “ฉันใจแคบเอง คิดไปเองว่าใช่!”
“ฉัน…”
“เอาล่ะ ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ก็ได้”
ชายหนุ่มเอ่ยตัดบทเธออย่างเรียบเฉย
ซูสือเยว่เม้มริมฝีปาก มองดูเขาด้วยความหวาดกลัว ว่านอนสอนง่ายไม่พูดไม่จาอีกแล้ว
เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอเอง เธอไม่เคยนึกว่าครูฉินจะเป็นฉินโม่หานได้เลยสักนิดเดียว…
ตอนนี้ความจริงได้ถูกเปิดเผยแล้ว นอกจากเธอจะอับอายแล้วก็ยังอับอายอีก
หนำซ้ำฉินโม่หานยังเป็นสามีของเธอ ต่อให้เธอจะหลบเขาที่นี่ได้ แต่หลังจากที่กลับไปบ้านล่ะยังจะหลบไปได้ตลอดอยู่อีกเหรอ?
พวกเขานอนห้องเดียวกันทุกวัน แล้วยังนอนเตียงเดียวกันอีก แม้แต่เรื่องลูกสาวก็ยังคุยกันไว้แล้วด้วย…
พอเห็นใบหน้าแดงของหญิงสาว ฉินโม่หานก็หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่ได้จะเอาผิดอะไรคุณสักหน่อย”
เสียงที่ทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างแผ่วเบา “นับตั้งแต่ยังเด็ก ผมก็รู้ว่าในอนาคตผมจะทำอะไร แล้วต้องทำอย่างไร”
“นอกจากสิ่งที่ผมสนใจแล้ว อย่างอื่นผมก็ขี้เกียจจะสนใจ ขี้เกียจจะเข้าใจ”
“แม้แต่การแต่งงานกับเธอ ก็ยังเป็นเพราะว่าซิงหยุนกับซิงเฉินชอบคุณ”
มือทั้งสองข้างของซูสือเยว่บิดเข้าหากันแน่นอยู่ใต้โต๊ะ
เธอรู้ว่าที่เขาพูดมานั้นเป็นความจริง
แต่…
ถึงแม้ว่าเขาจะพูดคำพูดพวกนี้ออกมาอย่างสบายใจ แต่เธอก็มักจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง
“ปีนี้ผมอายุยี่สิบแปด มากกว่าคุณไปห้าปี”
“สภาพแวดล้อมในชีวิตผมต่างจากคุณมาก”
“ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดว่าห้าปีนี้คือระยะห่าง ทั้งยังไม่คิดอีกด้วยว่าสภาพแวดล้อมของชีวิตที่แตกต่างกันนั้นจะส่งผลกระทบอะไร”
เมื่อสิ้นเสียง เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเธอแวบหนึ่ง “แต่ว่าตอนนี้ ผมสัมผัสได้แล้วว่า ระหว่างคุณกับผมนั้นไกลกันมาก”
แสงสว่างข้างในดวงตาของซูสือเยว่ค่อย ๆ มืดสลัวลงมา
มัน…ห่างไกลมากเลยเหรอ?
ความจริงแล้วก็ดีอยู่นะ…
เธอพยายามที่จะขจัดระยะห่างเล็กๆ นี่อย่างสุดความสามารถ แล้วพยายามทำตัวให้เหมาะสมกับตำแหน่งคุณนายฉินให้มากที่สุด…
“ดังนั้นหลังจากนี้”
ฉินโม่หานเอ่ยปากพูดอย่างจริงจัง “ฉันจะพยายามหาเวลา ทำความเข้าใจการแสดงออกทางสีหน้าและการใช้ภาษาอินเทอร์เน็ต พยายามเข้าใจวงการบันเทิงและบริษัทโบรกเกอร์”
ซูสือเยว่เงยหน้าขึ้นด้วยความตกตะลึง
ริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย “ผมแก่กว่าคุณ ทั้งยังฉลาดกว่าคุณ”
“ดังนั้นเรื่องระยะห่างระหว่างพวกเรา ให้ผมเป็นคนทำลายมันเถอะ”
ซูสือเยว่จ้องมองเขาอย่างอึ้ง ๆ รู้สึกว่าเซลล์ทุกส่วนในร่างกายกำลังสั่นเทาขึ้นมาเบา ๆ
เธอได้ยินน้ำเสียงของตัวเองสั่นเล็กน้อย “ฉัน…ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด”
“ผมอยากลองเข้าใจคุณ”
ชายหนุ่มมองเธอนิ่ง ๆ “ตอนที่ของคุณแต่งงานนั้นเป็นเพราะซิงหยุนกับซิงเฉิน”
“แต่ที่อยากลองเข้าใจคุณ เข้าใกล้คุณ เป็นความคิดของผมเอง”
ซูสือเยว่รู้สึกเหมือนตัวเองลอยไปแล้ว
ถ้อยคำของฉินโม่หานนี้ ทำให้ทั่วทั้งตัวของเธอดูเหมือนกับกำลังเหยียบอยู่บนก้อนเมฆ รู้สึกล่องลอย ไม่เป็นความจริง
เธอไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าฉินโม่หานจะพูดกับตนอย่างนี้
เขาไม่ได้ใช้คำพูดที่คลุมเครืออะไร แต่น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำนั้น ดวงตาที่ลึกล้ำ อีกทั้งทุกคำที่เขาพูดออกมา…
ทั้งหมดนี้ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นและดีใจ
แต่ สิ่งเหล่านี้ยังไม่พอ!
เธอเม้มริมฝีปาก เงยหน้ามองดูเขาด้วยความขวัญหนีดีฝ่อ “ท่านชายฉิน คำพูดพวกนี้ของคุณ…”
“เป็นการสารภาพรักกับฉันเหรอคะ?”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างแผ่วเบา “ตอนนี้ไม่ตื่นเต้นแล้วเหรอ?”
ซูสือเยว่อึ้งไปสักพัก
ดูเหมือนว่า…จะไม่ตื่นเต้นแล้วจริง ๆ
ตอนนี้ห้วงสมองของเธอเต็มไปด้วยคำพูดที่ทำให้คนรู้สึกสั่นไหวเหล่านั้น แล้วยังจะตื่นเต้นได้อย่างไรกัน!
“อย่างนั้นก็ดี”
ชายหนุ่มวางแก้วชาลงด้วยท่วงท่าที่สง่างาม “พวกเรามาคุยกันต่อ เรื่องที่คุณหาว่าผมเป็นคนแก่”
ซูสือเยว่ : “……”
ดังนั้นผู้ชายคนนี้แกล้งโจมตีเพื่อที่จะถอยอย่างนั้นเหรอ คำพูดเหล่านี้ก็เพื่อคลายบรรยากาศที่น่ากระอักกระอ่วน?
แต่ที่เขาพูด…ดูเหมือนความจริงมากเลย
เธอเกือบจะเชื่ออยู่แล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก้มหัวลงด้วยความท้อถอย “เอาล่ะ เป็นความผิดของฉันเอง”
“ฉันไม่ควรคิดว่าครูฉินไม่เข้าใจเรื่องการแสดงอารมณ์ พูดจาแข็งทื่อและสุขภาพก็เลยคิดมีครูฉินเป็นคนแก่”
เมื่อสิ้นเสียง เธอก็เงยหน้าขึ้นมองดูใบหน้าของเขา “ครูฉินอย่าโกรธเลยนะ”
“ไม่ได้โกรธ”
“ผมยังอยากฟังคุณเล่าสักหน่อยว่าผมตามจีบคุณยังไง”
ซูสือเยว่ : “……”
ทำไมวกกลับมาเรื่องนี้อีกแล้วล่ะ?
เธอเม้มริมฝีปากแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ “คือว่า ครูฉินคะ เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษจากฉัน”
“ให้ฉันรับปากคำเรียกร้องของคุณข้อหนึ่งดีไหม?”
ฉินโม่หานเลิกคิ้ว “จริงเหรอ?”
“จริงสิ”
หญิงสาวพยักหน้าอย่างจริงจัง “แต่บอกไหวก่อนนะ ต้องเป็นสิ่งที่ฉันมีความสามารถถึง แล้วก็ทำได้”
“ถ้าคุณจะให้ฉันมอบของขวัญให้คุณราคาเป็นล้าน ฉันคงให้ไม่ไหวหรอก”
พอพูดจบ จู่ ๆ ก็ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรขึ้นได้ “ยังมีเรื่องคลอดลูกสาวอีกที่ไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉันรับประกันไม่ได้ว่าฉันจะคลอดลูกสาวให้คุณได้รึเปล่า”
ฉินโม่หานยิ้มอย่างแผ่วเบา “วางใจเถอะ”
“เธอได้เซ็นสัญญาเรื่องที่จะคลอดลูกสาวแล้ว ผมไม่ชอบทำเรื่องอะไรที่เกินความจำเป็น”
ซูสือเยว่ : “……”
ชายหนุ่มมองดูใบหน้าดวงเล็กที่แดงระเรื่อของเธอ ดวงตาสีดำสนิทหรี่ลงเล็กน้อย “เพียงแต่ ผมมีเรื่องที่ต้องให้คุณทำ”
“อะไร?”
“ภายในห้าปี คว้ารางวัลนักแสดงหญิงดีเด่นมาให้ได้”
“ทำได้ไหม?”
“ตกลงตามนี้!”