สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 176 เกี่ยวกับลูกสาวของซูสือเยว่

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

เย่เชียนจิ่วงุนงงออกมา

เธอได้ยินเสียงตัวเองผิดแปลกไปเล็กน้อย “พี่รอง พี่รองพี่…กำลังพูดอะไรอยู่?”

“ฉันว่า”

ฉินหลิงยี่ย่นคิ้วถลึงตาจ้องมองเธอ “เธอคิดว่าการตายของเหลียงเยี่ยนมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆงั้นเหรอ?”

“ปากของผู้หญิงคนนั้นจะแข็งแค่ไหน ฉินโม่หานก็มีวิธีแงะออกมาได้!”

เย่เชียนจิ่วถอยออกไปข้างหลังทันที “งั้นการตายของพี่เหลียง…”

“ฉันเป็นคนทำเอง”

ฉินหลิงยี่กวาดสายตามองเย่เชียนจิ่วไปอย่างเย็นชา “บอกกับพี่ตั้งหลายรอบแล้วว่าอย่าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องฉินโม่หานกับซูสือเยว่อีก”

“ที่จริงเมื่อตอนนั้นฉันมีวิธีที่จะทำให้เธอกับฉินโม่หานได้คู่กันแล้ว แต่หลายปีผ่านไป เธอก็ควรจะเข้าใจได้แล้วว่าเธอกับเขามันเป็นไปไม่ได้เลย!”

“สิ่งที่เธอทำไปเมื่อตอนนั้นเธอลืมมันไปหมดแล้ว?”

“เธอเกือบจะฆ่าพวกเขาสามแม่ลูกไปหมด!”

“เธอพูดถึงเฉินเชี่ยนที่ไม่มีอยู่จริงคนนั้นขึ้นมาต่อหน้าซูสือเยว่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่ออยากให้เธอเข้าใจให้ชัดเจน ตัวเธอเป็นเฉินเชี่ยนหรือไง?”

“หรือว่า…”

ฉินหลิงยี่มองไปอย่างเหนื่อยหน่ายใจ “เธอคิดว่าชีวิตตอนนี้ของฉันมันว่างเกินไป เลยตั้งใจจะหาเรื่องที่มันไม่น่าอภิรมย์มาให้ฉัน?”

เย่เชียนจิ่วกัดริมฝีปาก พร้อมกับก้มหน้าลง “ฉัน…”

“ฉันก็แค่ไม่อาจทนดูซูสือเยว่มันอยู่ข้างๆฉินโม่หานตลอดเวลาได้ และก็ไม่อาจทนเห็นว่าภายในใจของฉินโม่หานมีแต่ซูสือเยว่มาโดยตลอดได้เหมือนกัน…”

ฉินหลิงยี่ยิ้มขมขื่นออกมา “งั้นถ้าฉันไม่อาจทนเห็นว่าภายในใจของเธอมีแต่ฉินโม่หานอยู่ตลอดได้ล่ะ?”

“ฉันควรจะเรียนรู้มาจากเธอโดยการใช้กำลังแย่งชิงมาใช่มั้ย?”

เย่เชียนจิ่วตกตะลึงออกมาทันที

เธอเงยหน้าขึ้นไป ริมฝีปากสีชมพูขยับออกมาเล็กน้อย

ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ กว่าเธอจะฝืนกัดฟันพูดออกไป “พี่รอง…พี่แก่กว่าฉันสิบกว่าปีนะ”

“พี่เป็นเพื่อนร่วมรบกับพ่อของฉัน”

“ฉันเห็นพี่เป็น…พี่ชายมาโดยตลอด”

คำพูดของหญิงสาวทำให้ฉินหลิงยี่ได้ยิ้มขมขื่นออกมาโดยไม่รู้ตัว “ก็แค่ล้อเธอเล่นเท่านั้นเอง”

“ฉันสามารถปกป้องเธอครั้งนี้ได้ แต่ไม่มีทางจะปกป้องเธอไปทุกครั้งได้”

“ฉันเคยรับปากพ่อของเธอ จะต้องเป็นที่พึ่งในอนาคตให้กับเธอ แต่ที่พึ่งนี้ มันก็ไม่ได้มีผลไปตลอดเวลาหรอกนะ”

ชายหนุ่มลุกยืนขึ้น หันหลังให้กับเย่เชียนจิ่ว “เธอจะต้องจัดการให้เรียบร้อยด้วยตัวเอง”

พูดจบ เขาก็เปิดประตูเดินออกไป

แสงอาทิตย์ส่องลงมาตรงทางเดินของคฤหาสน์ แสบตาอย่างมาก

ในภวังค์ เขาเหมือนราวกับว่าได้เห็นเชียนจิ่วพ่อของเย่เชียนจิ่ว

เขานอนอยู่บนเตียงด้วยร่างที่เต็มไปด้วยเลือด จับมือของเขาเอาไว้ “หลิงยี่ ฉันรู้ว่านายฐานะทางบ้านดี ตัวนายเองก็หนักแน่นมั่นคง”

“ยังไงฉันมันก็ใกล้จะตายอยู่แล้ว ภาระหน้าที่ในภารกิจครั้งนี้ล้มเหลว นายก็โยนมาที่ฉันเอาก็ได้”

“ฉันขอแค่เพียงอย่างเดียว…”

“นายแต่งลูกสาวฉันเข้าบ้านไปได้หรือเปล่า?”

ในเวลานั้น เขาได้ทอดถอนหายใจออกมา “แต่ว่าฉันแก่กว่าเธอเป็นสิบกว่าปี”

“งั้นนายก็ช่วยฉันปกป้องเธอ ดูแลเธอ จนเธอแต่งงานได้หรือเปล่า?”

“ได้ครับ..”

ฉินหลิงยี่หลับตาลง

ตอนนั้นเชียนจิ่วช่วยเขาแบกรับความผิดทั้งหมดเอาไว้เอง

เขาสามารถเลื่อนขั้นขึ้นมาได้ ได้รับคุณงามความดี กลายเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลฉิน ทั้งหมดก็ต้องขอบคุณเชียนจิ่ว

เขาไม่อาจขัดต่อคำสัญญาที่มีต่อเขาได้

……

หลังจากที่ฉินหลิงยี่เดินออกไป เย่เชียนจิ่วเหม่อลอยอยู่ภายในห้องตลอดทั้งเช้า

ตอนเที่ยง เธอก็ได้ติดต่อกับหยางชิงโยวไปอีกที ทั้งสองคนนั่งกันอยู่ในร้านกาแฟทบทวนเรื่องเมื่อวานกันอีกครั้ง

พวกเธอทั้งสองคนไม่ว่ายังไงก็นึกไม่ถึงเลยสักนิดว่าเมื่อวานทั้งๆที่ซูสือเยว่เป็นคนที่ไม่มีอะไรดี เป็นคนที่ถูกดูถูกเหยียดหยาม

แต่เธอกลับพลิกสถานการณ์กลับมาได้ ทำให้พวกเธอเป็นฝ่ายเสียเปรียบแทน

ถ้าไม่เพราะฉินหลิงยี่มีการตอบสนองออกมาอย่างรวดเร็ว เรื่องเมื่อตอนนั้นวันนี้มันก็เกือบจะเปิดเผยออกมาแล้ว!

เย่เชียนจิ่วยังคงช็อกตกใจ และก็นึกกลัวขึ้นมาเป็นช่วงๆ

“ทำยังไงดี?”

เมื่อก่อนหน้านี้เธอพูดข้อมูลเกี่ยวกับเฉินเชี่ยนออกไปเยอะเกินไป แต่ละเรื่องล้วนแล้วแต่จะเป็นเรื่องที่เธอแต่งมาทั้งนั้น

ถ้าซูสือเยว่กับฉินโม่หานสืบต่อไป…

ในตอนที่เย่เชียนจิ่วกำลังร้อนรนจนเหมือนกับมดที่อยู่บนกระทะร้อน โทรศัพท์ของหยางชิงโยวก็ได้ดังขึ้นมา

“สวัสดีครับ พวกเราเป็นเจ้าหน้าที่จากศูนย์นิติเวชวิทยาของเมืองหรง ตัวอย่างเส้นผมสองชุดที่คุณส่งมาเมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้ผลการชันสูตรได้ออกมาแล้ว…”

“เดี๋ยวฉันจะไปเอา”

หลังจากที่วางสายไป เย่เชียนจิ่วก็ย่นคิ้วออกมา “เป็นอะไรไป?”

“ไม่มีอะไร”

หยางชิงโยวยักไหล่ออกมา “จี้หนานเฟิงมีลูกสาวบุญธรรมอยู่คนนึง เธอรู้หรือเปล่า?”

เย่เชียนจิ่วพยักหน้าตอบออกมาเล็กน้อย

ลูกสาวบุญธรรมคนนั้นของจี้หนานเฟิงเมื่อก่อนหน้านี้เธอก็เคยบังเอิญเจอมาแล้วบ้าง

หน้าตา…เหมือนกับซูสือเยว่มาก

เธอรู้สึกไม่ดีมาโดยตลอด

“เด็กคนนี้เป็นเด็กที่จี้หนานเฟิงรับมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเมืองหรงเมื่อก่อนหน้านี้”

“อายุของเธอก็ประมาณลูกชายของฉินโม่หานด้วยเหมือนกัน”

หยางชิงโยวลุกยืนขึ้น “บวกกับที่เธอกับซูสือเยว่หน้าตาเหมือนกันขนาดนั้น…”

เย่เชียนจิ่วเบิกตากว้างออกมาทันที “ดังนั้นแล้วเธอก็เลยสงสัยว่า…”

“ฉันเดาว่าบางทีเธออาจจะเป็นเด็กผู้หญิงคนนั้นที่ถูกเธอทิ้งไปเมื่อตอนนั้นก็ได้”

“ฉันก็เลยแอบเอาผมของเด็กผู้หญิงคนนั้น กับผมของซูสือเยว่ส่งไปตรวจดูความเข้ากันทางพันธุกรรม”

“เมื่อกี้นี้ผลก็ออกมาแล้ว อยากจะไปดูด้วยกันสักหน่อยมั้ย?”

เย่เชียนจิ่วลุกขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “ไป!”

ผลการชันสูตรก็เป็นไปอย่างที่หยางชิงโยวคาดเดาไว้ไม่มีผิด

จี้ซิงกวง ก็คือลูกสาวของซูสือเยว่จริงๆ

“ตอนนี้มันก็น่าสนใจขึ้นมาแล้ว…”

หยางชิงโยวกำหนังสือการชันสูตรชุดนั้นเอาไว้ มุมปากแสยะยิ้มเยือกเย็นออกมา “ลูกสาวบุญธรรมของจี้หนานเฟิง เป็นลูกสาวแท้ๆของซูสือเยว่…”

เย่เชียนจิ่วกัดริมฝีปากออกมา ในหัวมันมีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาทันที

ถึงแม้ว่าฉินโม่หานจะไม่แคร์เรื่องที่ว่าซูสือเยว่เคยมีลูกมาก่อนเรื่องนี้แค่ไหน แต่ถ้าเขารู้ว่า…ซูสือเยว่มีลูกสาวกับศัตรูหัวใจของตัวเองล่ะ?

จี้หนานเฟิงถึงแม้ว่าจะประกาศออกสู่สาธารณะไปว่าซิงกวงเป็นลูกสาวบุญธรรมของเขา

แต่ก็มีหลายสื่อที่คาดเดากันว่าลูกสาวบุญธรรมเป็นเพียงแค่คำแก้ตัวที่ไม่อยากจะทำลายวิถีคนโสดไปอย่างหนึ่งก็เท่านั้นเอง

และมันก็มีหลายคนที่เชื่อกันว่าเด็กที่เรียกว่าเป็นลูกสาวบุญธรรมคนนี้เป็นลูกสาวที่แท้จริงของเขา

ดังนั้นแล้ว…

“เรื่องนี้อย่าเพิ่งหลุดออกไปก่อน”

ในตอนที่เย่เชียนจิ่วเกิดความคิดหลากหลายอย่างผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย หยางชิงโยวก็ได้ย่นคิ้วออกมาจางๆ เอาหนังสือการชันสูตรชุดนั้นใส่ในกระเป๋าไป

“พูดออกไปในโอกาสที่ไม่เหมาะสม มันรังแต่จะทำให้พวกเขาพบพิรุธกัน เราต้องค่อยๆวางแผนกันให้ดีๆเสียก่อน”

“ฉันเข้าใจแล้ว”

เย่เชียนจิ่วพยักหน้าตอบรับออกมา ทันทีที่อยากจะพูดอะไรออกไป โทรศัพท์ของหยางชิงโยวก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง

เป็นสายที่คนทางบ้านเร่งให้เธอไปร่วมงานศพของเหลียงเยี่ยน

เธอถูกบ่นจนเกิดความรำคาญขึ้นมา จึงตรงไปหาแท็กซี่เดินทางไปโดยทันที

เย่เชียนจิ่วลังเลอยู่ในศูนย์ชันสูตรอยู่นาน สุดท้ายแล้วก็ได้เปิดประตูเดินเข้าไป “หนังสือผลการชันสูตรชุดนั้นที่หยางชิงโยวเอาไปเมื่อสักครู่ สามารถเอาชุดสำเนาให้ฉันอีกสักชุดได้มั้ยคะ?”

“ฉันรู้ว่าพวกคุณที่นี่จะต้องมีการสำรองข้อมูลเอาไว้แน่ๆ”

“เท่าไหร่ฉันก็จ่าย”

……

ตอนที่ฉินโม่หานรับสายของเย่เชียนจิ่ว ทั้งครอบครัวก็กำลังกินมื้อเย็นกันอยู่

ซิงหยุนกับซิงเฉินเด็กน้อยทั้งสองคนกำลังคีบอาหารใส่ชามของซูสือเยว่กันไปอย่างไม่หยุดหย่อน

“หม่ามี๊ หม่ามี๊กินอันนี้!”

“หม่ามี๊ หม่ามี๊ลองอันนี้!”

เผชิญกับเด็กน้อยทั้งสองคนที่กระตือรือร้นกันออกมา ซูสือเยว่ทำได้เพียงต้องเงยหน้าขึ้นไปขอความช่วยเหลือจากฉินโม่หานไปอย่างจนใจ

ชายหนุ่มยิ้มออกมาจางๆ ทันทีที่คิดจะพูดอะไรออกไป โทรศัพท์ของเขาก็ได้ดังขึ้นมา

เป็นเบอร์ของทางบ้านใหญ่

เขาย่นคิ้วออกมาเล็กน้อย แล้วกดรับไป

“พี่สาม ฉันเอง เชียนจิ่ว”

“พี่อย่าเพิ่งวางนะ”

เย่เชียนจิ่วที่อยู่ทางปลายสายสูดหายใจเข้าลึกๆ “ฉันมีเรื่องที่สำคัญมากจะบอกพี่”

“เกี่ยวกับ…เกี่ยวกับเรื่องลูกสาวของซูสือเยว่”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท