สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 189คุณเองก็รู้จักเฉินเชี่ยนเหมือนกันเหรอ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

ซูสือเยว่พากลุ่มของไป๋ลั่วเข้าล้อมพวกของฉินหลิงยี่เอาไว้แล้ว

คนที่เป็นหัวหน้าขมวดคิ้วเบาๆ เงยหน้าขึ้นมามองซูสือเยว่ “ไม่ทราบว่า คุณนายน้อยสามกำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ?”

มุมปากของซูสือเยว่แย้มขึ้นเล็กน้อยแล้วมองไปยังหญิงสาวชุดแดงที่อยู่ในกลุ่มคน “เธอคนนั้นเป็นใคร”

ผู้หญิงคนนั้นใส่ผ้าคลุมสีแดงไว้บนตัว ผ้าคลุมผืนนั้นใหญ่มาก ใหญ่จนสามารถปกปิดใบหน้าของเธอได้

พอได้ยินคำพูดของซูสือเยว่ หญิงสาวคนนั้นก็สะดุ้งไปทีหนึ่ง

หลังจากนั้น เธอก็เปิดผ้าคลุมออก เผยให้เห็นใบหน้าที่เปล่งประกายใบนั้น “ซูสือเยว่”

ซูสือเยว่ค่อยๆ หรี่ตาลง

ผู้หญิงที่สวมผ้าคลุมสีแดงคนนี้ ไม่ใช่เย่เชียนจิ่ว

เธอคือหยางชิงโยว

ซูสือเยว่ยิ้มออมาเล็กน้อย ยกมือขึ้นมาขยี้ที่คาง “ไม่ใช่ว่าคุณยังอยู่ที่อำเภอเสวียนซานเหรอคะ? ทำไมถึงกลับมาเร็วขนาดนี้?”

ที่เธอกลับมาได้ เป็นเพราะสภาพร่างกายของฉินโม่หานนั้นไม่ดี ดังนั้นไป๋ลั่วจึงขับรถกลับมาอย่างเร่งรีบ

แล้วทำไมหยางชิงโยวถึงมาอยู่ที่นี่ได้เร็วแบบนี้?

“แน่นอนว่าเป็นเพราะมีค่าพอที่จะให้ใช้งาน พี่สองฉินใช้เครื่องบินรับฉันกลับมาค่ะ”

หยางชิงโยวเงยหน้าขึ้นมามองเวลา จากนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ดูจากเวลาแล้ว ตอนนี้เย่เชียนจิ่วน่าจะนั่งอยู่บนเครื่องแล้วมั้งคะ?”

“แอฟริกา เป็นสถานที่ที่อำนาจของฉินโม่หานไม่สามารถแทรกแซงเข้าไปได้”

พูดจบ เธอก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ “คุณหาเธอไม่เจอแล้ว”

พอเห็นท่าทางที่ได้ใจของเธอ ซูสือเยว่ก็ยักไหล่ขึ้น “ถ้าอย่างนั้นคุณก็คงต้องผิดหวังแล้วล่ะค่ะ”

“ว่าแต่”

ซูสือเยว่เหลือบตาขึ้นมามองหยางชิงโยวแวบหนึ่ง “ทำไมฉินหลิงยี่ถึงกล้าเอาลูกน้องทั้งหมดของเขามาจัดฉากแหกตาแบบนี้ด้วย?”

“เขาไม่กลัวว่าฉันจะแบ่งคนของฉินโม่หานออกเป็นหลายๆ ทีม แล้วออกตามหาไปทั่วรึไง?”

หยางชิงโยวเหลือบมองขึ้นมาแล้วขำออกมาเบาๆ “การดำเนินการของคุณ อยู่ในการควบคุมของฉินหลิงยี่หมดแล้ว คุณจะเชื่อมั้ยล่ะ?”

หญิงสาวพยักหน้า “ก็ต้องเชื่ออยู่แล้ว”

“ในเมื่อคุณพูดมาแบบนี้……ฉันก็ได้ข้อสรุปแล้ว”

พูดจบ เธอก็หันไปพูดกับไป๋ลั่วว่า “ตรวจเลยค่ะ”

ภายในทีมของพวกเขา มีสายของฉินหลิงยี่อยู่ด้วยจริงๆ

ไป๋ลั่วพยักหน้า แล้วหันไปถลึงตาใส่กลุ่มคนชุดดำด้านหลัง “กลับไปก่อน!”

“อย่าให้ฉันรู้นะว่าในกลุ่มพวกนายมีใครเป็นหนอนบ่อนไส้!”

เขาถลึงตาใส่คนกลุ่มนั้นอย่างเดือดดาล “ถ้าหาเจอเมื่อไหร่ ฉันจะสั่งสอนมันทั้งครอบครัวเลย!”

ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ระหว่างทาง ตอนที่ฉินหนานเซิงกับซูสือเยว่วางแผนกันอยู่ เขายังรู้สึกไม่พอใจมาก

“ผมกับพี่น้องของผม เราทำงานให้ท่านชายฉินมานานหลายปี ไม่มีทางมีไส้ศึกแน่นอน!”

“ทำไมพวกคุณถึงต้องสงสัยในพวกเราด้วยครับ?” ตอนนั้นซูสือเยว่ยังยิ้มให้เขาอีกด้วย “ถามเกิดไม่มีไส้ศึกจริงมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามีละก็……ฉันไม่อาจที่จะเสี่ยงกับมันได้”

ตอนนี้พอมานึกถึงเรื่องเมื่อตอนนั้น ไป๋ลั่วก็รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าเข้าอย่างแรง

เขาถลึงตาใส่กลุ่มคนด้านหลังอย่างไม่พอใจ “ไป!”

กลุ่มคนชุดดำก้มหน้าก้มตา เดินตามไป๋ลั่วไปอย่างเงียบเชียบ

ตอนที่เดินผ่านซูสือเยว่นั้น ชายชุดดำคนหนึ่งก็ได้ขมวดคิ้ว แล้วตรงเข้ามาจับคอของซูสือเยว่อย่างสมบูรณ์ จากนั้นก็ล็อกเธอเอาไว้

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ซูสือเยว่กับไป๋ลั่วถึงกับสะดุ้ง

หลังจากนั้น ไป๋ลั่วก็ขมวดคิ้ว “เป็นแกเองสินะ?” “ฉันเอง!”

ชายชุดดำคนนั้นขมวดคิ้ว แล้วจ้องมองไป๋ลั่วด้วยสายตาที่เย็นชา “ให้ตามแกกลับไป แล้วยอมให้แกตรวจนะเหรอ?”

“ถ้ารอแกตรวจจนรู้แล้วว่าเป็นฉัน ถึงตอนนั้นฉันยังจะรอดอยู่อีกเหรอ?”

“ตอนนี้แก รีบ หาเครื่องบินส่วนตัวให้สักลำเดี๋ยวนี้ แกจะบินหนี!”

“ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันจะฆ่าเธอซะ!”

ชายชุดดำรู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน “เธอเป็นของรักของหวงของท่านชายฉิน ตอนนี้เขายังไม่ได้สติ ถ้าฉันทำอะไรเธอไป แกเองก็ไม่มีหน้าไปพบท่านชายฉินเหมือนกัน!”

“ยังไม่รีบไปอีก!”

“แผนการที่วางไว้แบบนี้ก็ถือว่าไม่เลวเหมือนกัน”

ซูสือเยว่ที่ถูกเขาล็อกคอไว้ยิ้มออกมาจางๆ “คุณฝึกฝนมากับฉินหลิงยี่ใช่มั้ย?”

ชายชุดดำถึงกับตกใจ เหมือนเขาจะนึกไม่ถึงว่าซูสือเยว่ที่ถูกเขาจับตัวไว้ ยังสามารถพูดคุยกับเขาได้อย่างใจเย็นแบบนี้

หลังจากนั้น เขาก็ทำเสียงฮึดฮัด “ใช่!”

“ท่านชายฉิน เคยเป็นผู้บังคับบัญชาในหน่วยของฉัน ตอนที่เขาปลดประจำการฉันก็ตามเขามาด้วย ฉันได้แฝงตัวอยู่ในกลุ่มของฉินโม่หานมานานหลายปีแล้ว”

พูดจบ เขาก็เล็กแขนของซูสือเยว่ไว้แน่นๆ “อย่าขยับ ไม่อย่างนั้นฉันจะบีบคอเธอจนตาย!”

ซูสือเยว่ค่อยๆ แย้มมุมปากขึ้น แล้วขำออกมา “ความจริง……ฉันเองก็สามารถบีบคอคุณจนตายได้เหมือนกัน”

ทันทีที่พูดจบ เธอก็สามารถหลุดพ้นจากการพันธนาการของชายชุดดำได้ แล้วเร่มต่อสู้กับเขาขึ้นมา

ตอนแรกชายชุดดำไม่รู้ถึงความสามารถของเธอ แต่หลังจากที่ถูกเล่นงานจนฟกช้ำเต็มหน้าแล้ว เขาถึงได้รู้ตัวว่า ผู้หญิงที่ชื่อซูสือเยว่คนนี้ เคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาก่อน!

แต่เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เขาประมาทเกินไป จนถูกเธอเล่นงานจนอาการหนักแล้ว พอจะมาตั้งใจสู้กับเธออีกครั้งก็สู้ไม่ไหวเสียแล้ว

ซูสือเยว่จัดการเขาได้อย่างช่ำชอง จนสามารถกดเขาไว้กับพื้นได้

ชายชุดดำดิ้นรนอยู่นานก็ยังไม่อาจดิ้นออกมาได้

ผ่านไปพักใหญ่ ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ แล้วถอนหายใจออกมา “ไม่นึกเลยว่า คุณนายน้อยสามที่ดูอ่อนปวกเปียก กลับเป็นยอดฝีมือซะได้”

“ชมเกินไปแล้ว”

ซูสือเยว่ขำออกมาเบาๆ เหลือบตาขึ้นมามองไป๋ลั่วที่หน้าเหวอไปแล้ว “ยังไม่รีบเข้ามาอีก?”

แล้วไป๋ลั่วก็เพิ่งได้สติกลับคืนมาจากความตกใจ

เขาสั่งการคนที่อยู่รอบๆ ให้เขาไปช่วยกันคุมตัวชายชุดดำเอาไว้

สุดท้าย ไป๋ลั่วก็วิ่งเตาะแตะมาถึงตรงหน้าของซูสือเยว่ คุณนายครับ คุณนี่ช่าง……เก่งกาจจริงๆ”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว “ฉันฝึกฝนจากการสแตนด์อินสายบู๊มาเป็นเวลาหลายปี”

ถึงแม้ว่าเจี่ยนเฉิงจะกำชับนักกำชับหนาว่าห้ามเธอแสดงฝีมือของตัวเองต่อสาธารณชนเด็ดขาด

แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันเร่งด่วนเกินไป

อย่างแรก ทางฝั่งของฉินหนานเซิงก็คงควบคุมฉินหลิงยี่ได้ไม่นานนัก

อีกอย่างก็คือ เธอเองก็กลัวว่าไป๋ลั่วจะถูกคนของฉินหลิงยี่ควบคุมเพราะเธอจริงๆ

แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว……คงไม่เป็นไรหรอกมั่ง?

ระหว่างที่คิดแบบนั้น เธอก็พาพวกไป๋ลั่วเดินออกจากสนามบินไป เดินไปยังลานจอดที่อยู่นอกสนามบิน

ในมุมหนึ่งของสนามบิน คนชุดดำที่ท่าทางลึกลับคนหนึ่งได้เก็บมือถือที่ถ่ายวิดีโอไว้เข้าไป

………

ตอนที่กลุ่มของซูสือเยว่มาถึงลานจอดนั้น คนของฉินหนานเซิงได้คุมตัวเย่เชียนจิ่วเอาไว้แล้วเย่เชียนจิ่วที่ใส่ชุดขาวทั้งตัวกำลังถูกบอดี้การ์ดสองคนจับตัวไว้ เธอดิ้นรนไม่ยอมหยุด

พอเห็นซูสือเยว่มาถึง เธอก็เงยหน้าขึ้นมาถลึงตาใส่ด้วยความโมโห “อย่าคิดว่าเธอจับฉันได้ แล้วเธอจะเป็นฝ่ายชนะนะ”

“ถึงแม้ฉินโม่หานจะสนใจเธอแล้วมันจะทำไม ถึงแม้ซิงหยุนซิงเฉินจะชอบเธอแล้วมันยังไง!”

“ยังไงเธอก็เป็นแค่สแตนด์อินของเฉินเชี่ยนไปตลอดกาล ไม่มีวันที่เธอจะเทียบเฉินเชี่ยนได้เด็ดขาด!”

“เชียนจิ่ว หุบปาก!”

ฉินหลิงยี่ที่อยู่ข้างๆ พูดขัดสิ่งที่เย่เชียนจิ่วจะพูดต่อด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ “จนถึงขั้นนี้แล้ว ยังไม่รู้จักสำนึกอีก!”

พูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้น มองซูสือเยว่ด้วยความเกรงใจไปแวบหนึ่ง “นี่น้องสะใภ้”

“ฉันเองที่ไม่ได้สั่งสอนเด็กนี่ให้ดี เธอถึงได้พูดจาไม่มีหูรูดแบบนี้”

“เธออย่าเอามันไปใส่ใจเลยนะ ความจริงในใจของโม่หาน เธอนั้นสำคัญกว่าเฉินเชี่ยนเป็นไหนๆ”

ซูสือเยว่ค่อยๆ เลิกคิ้วขึ้น “พี่รองคะ พี่เองก็รู้จักเฉินเชี่ยนด้วยเหรอคะ?”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท