สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 301 ครั้งนี้​ในที่สุด​ก็จบลงแล้ว​ใช่ไหม​

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

ฉินโม่หานยกยิ้ม ก่อนจะยื่นมือออกไปหยิกแก้มอันนุ่มนวลของหญิงสาวเบาๆ “คุณยังจำได้อยู่​เหรอว่าผมเป็นสามีของคุณ”

น้ำเสียงที่แผ่วเบาของเขาแฝงไปด้วยความรักใคร่​ “รู้ว่าผมเป็นสามีของคุณ แล้วยังแสร้งทำเป็นไม่รู้จักผม สร้างสถานะปลอมอย่างสวี่หรงขึ้นมาเพื่อจะทิ้งผมไป”

หัวใจของซูสือเยว่หน่วงเล็กน้อย

หญิงสาวนิ่งเงียบไปสักพัก​ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก แล้วหันกลับมา สองมือโอบใบหน้าของชายหนุ่ม​ไว้ แล้วกดจูบที่ริมฝีปากของเขา

“ฉันผิดไปแล้ว​ค่ะ”

“เสมอกัน​แล้วนะคะ”

การกระทํา​ของ​หญิงสาว​ ทำให้​ฉินโม่หานอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

ในบางครั้ง เขาก็ต้องยอมรับเลยว่า ซูสือเยว่ออดอ้อน​เก่งมาก

เธอแอบหนีเขาไป ปล่อย​ให้​เขาตามหาเธอไม่ทุกที่ อีกทั้งยังเปลี่ยนชื่อ ปลอมตัวให้น่าเกลียด​ ให้​เขาจำเธอไม่ได้…

เกิดเรื่อง​ขึ้น​มากมายขนาดนี้ จะชดเชยด้วยจุมพิต​เพียงครั้งเดียวจะพอหรือไง

แต่ที่ต้องยอมรับ​เลย​ก็คือ เธอรู้จักเขาดีมาก​​

เขาใจอ่อน​กับ​ไม้ตาย​นี้ของ​เธอ​จริงๆ​

ชายหนุ่มยกยิ้มแล้วดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่น “โอเค เสมอกัน​แล้ว​”

ทั้งสองหยอกเย้า​กันในห้องพักของโรงแรมเป็นเวลานาน จนกระทั่งเจี่ยนหมิงจงโทรเข้ามา ซูสือเยว่กับฉินโม่หานจึงต้อง​แยกออกจากกันอย่างไม่เต็มใจนัก คนหนึ่งกลับไปที่โรงฝึกซ้อม​ อีกคนกลับไปที่บริษัท

ตอนที่​ซูสือเยว่มาถึงโรงฝึกซ้อม​ ด้านนอกของโรงฝึกซ้อม​ยังเหมือนเมื่อวาน​ ถูกคนชุยเฉิงเก๋อ​ล้อมเอาไว้แน่นหนา​ โดยชุยเฉิงเก๋อ

กำลังถือโทรโข่ง แล้วพูดอย่างเรียกร้อง​ความถูกต้อง​

“ส่งสวี่หรงออกมาซะ”

“ให้เธออธิบายให้ชัดเจน​ ว่าทำไมถึงหาเฉินตานตานกับคนในครอบครัวไม่พบ?”

“เธอฆ่าพวกเขาไปแล้ว​ใช่ไหม​?”

“เราต้องการ​จะเจอเฉินตานตาน!”

“สวี่หรงออกมาพูดเดี๋ยว​นี้นะ ออกมาชดใช้ความผิด​ด้วยชีวิตตัวเองซะ”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้วของเธอแน่น

เธอสูดหายใจเข้าลึก ยกมือข้างหนึ่งล้วงไว้ในกระเป๋า แล้วเดินผ่านฝูงชน​เข้าไปข้างในอย่างสง่างาม ก่อนจะหยุดยืนต่อหน้าชุยเฉิงเก๋อ

“ทำไมคะ จะให้ฉันรับผิดชอบครอบครัวของ เฉินตานตานอีกแล้ว​หรือไง​”

คำพูดของหญิงสาวทำให้กลุ่มของชุยเฉิงเก๋อหันมองไปตามเสียง

“เธอแน่มาก นี่เธอแอบหลบพวกเรากลับมาจากข้างนอกอย่างนั้น​เหรอ​!”

ชุยเฉิงเก๋อมองที่ซูสือเยว่แล้ว​พูด​ “ส่งตัว​เฉินตานตานแฟนสาว​ของ​ฉันพร้อมกับครอบครัวมาเดี๋ยว​นี้!”

“ถ้าหากเธอไม่ยอมส่งตัวทุกคนคืนมา ฉันจะให้ตำรวจมาจับเธอซะ!”

ซูสือเยว่ยกยิ้มย่อง​ “ให้ตำรวจมาจับฉันอย่างนั้น​เหรอ​?”

“ในข้อหาอะไรล่ะ?”

ชุยเฉิงเก๋อยิ้มเยาะ​

“แน่นอนว่าข้อหาก็คือลอบฆ่าเฉินเจี้ยนฮั๋วกับเฉินตานตานและครอบครัว”

“ลอบฆ่า​อย่างนั้น​เหรอ​?”

ซูสือเยว่ยกยิ้มย่อง​ น้ำเสียงของเธอเย็น​ชาราวกับน้ำแข็งในฤดูหนาว “ใครบอกคุณว่าฉันจะฆ่าเฉินตานตานกับคนในครอบครัว?”

“ใครเป็นคนบอกคุณ ว่าเฉินตานตานกับคนในครอบครัวทั้งสามตายไปแล้ว”

มือข้างหนึ่งของ​เธอล้วงไว้ในกระเป๋า แล้วมองหน้า​ชุยเฉิงเก๋อด้วยสายตา​หยิ่งทระนง​และเย็นชา​

“คุณ​จะ​โทรแจ้งตำรวจก็ได้ตามใจคุณ​”

“แต่ว่า ถ้าเฉินตานตานกับครอบครัว ยังไม่ตาย ก็ถือว่าคุณใส่ร้ายฉัน”

ด้วยท่าทางที่มั่นอกมั่นใจของเธอ ทำให้​ชุยเฉิงเก๋อขมวดคิ้ว​ขึ้นเล็กน้อย และเริ่มขาดความมั่นใจไป

“นี่เธอ……”

“ต้องเป็นเธอทำแน่ๆ!”

“ถ้าไม่ใช่เธอ……”

ชุยเฉิงเก๋อขมวดคิ้วและลังเลไปเล็กน้อย​ “ยังไงก็ต้องเป็นฝีมือเธอแน่ๆ!”

วันนี้​เขาไปตามหา เฉินตานตานตั้งแต่​เช้า แต่หายังไง​ก็หาเธอไม่เจอ

ไปหาเฉินตานตานที่บ้าน กลับพบว่ามีคนจำนวนมากยืนขวางประตูเธอแล้วบอกว่าจะฆ่าเธอเพื่อล้างแค้น​แทนเจ้าของสวี่

พอคิดถึงเรื่องนี้ ชุยเฉิงเก๋อก็จ้องเขม็ง​

เจ้าของสวี่ที่พูดนอกจากสวี่หรงที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว จะมีใครอีก?

แม้ว่าเขาจะไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าเฉินตานตานถูกคนของสวี่หรงฆ่าตาย แต่เบาะแส​ทั้งหมดก็ชี้ไปที่สวี่หรงคนเดียว

ดังนั้น ชายหนุ่ม​จึงยิ้มเยาะออกมา “สวี่หรง ไม่จำเป็นต้องแก้ตัวแล้ว”

“ผมโทรแจ้งตำรวจเรียบร้อย​แล้ว!”

“อย่างนั้น​เหรอ​?”

ซูสือเยว่หยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าของเธอ ก่อนจะปัดหาเบอร์โทรออกมา​แล้ว​กดโทรออกทันที

เธอกำลังโทรวิดีโอคอล และคนที่อยู่อีกด้านของโทรศัพท์ มองจากโทรศัพท์​ของ​เธอ​ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

คนที่อยู่หน้ากล้องอีกด้านของโทรศัพท์ คือคนที่ชุยเฉิงเก๋อพูดออกมาเต็มปากเต็ม​คำว่า ถูกสวี่หรงลอบฆ่าไปแล้ว​ อย่างเฉินตานตานและ​ครอบครัว

“ฮัลโหล​”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ที่กำลังนอน​อยู่บนเตียงในโรงพยาบาลเป็นคนรับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว​

ตอนที่​เห็นชุยเฉิงเก๋อ สีหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวทันที “ชุยเฉิงเก๋อ?”

ภาพในโทรศัพท์​คือเฉินตานตานกำลังขมวดคิ้ว “ฉันเลิกกับนายไปแล้ว นายโทรมาหาฉันอีกทำไม?”

ดวงตาของ ชุยเฉิงเก๋อเบิกกว้างในทันที

เขามองผู้หญิงที่อยู่​ในวิดีโอคอลอย่างไม่เชื่อสายตา

นี่คือเฉินตานตาน ไม่ผิด​แน่ๆ

เขาจ้องไปที่ใบหน้าของเฉินตานตานอย่างอึ้ง​ทึ่ง​ “ที่รัก นี่คุณ…”

“คุณ​ยังไม่ตายเหรอ?”

เฉินตานตานเลิกคิ้วด้วยสีหน้า​เย็นชาทันที

“นี่นายอยากให้ฉันตายมากเลยใช่ไหม”

“ฉันเกือบตายไปแล้ว​ แต่ฉันโชคดี ที่ยังไม่ตาย”

พอพูดจบ เธอก็ถลึงตา​มองชุยเฉิงเก๋อ “นี่นายยังยืนก่อกวน​อยู่​หน้าสถานฝึกศิลปะป้องกันตัวหรงใช่ไหม”

“ฉันขอเตือนนายไว้เลยนะ รีบพาคนของนายกลับไปเดี๋ยว​นี้”

“เจ้าของสวี่เป็นคนที่ดีที่สุดในโลก”

“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เมื่อคืนนี้​ฉันคงตายไปแล้ว”

คำพูดของหญิง​สาว ทำให้ชุยเฉิงเก๋อตกตะลึงไปทันที

เขามองที่เฉินตานตานอย่างตกตะลึง​

“แต่ว่า……”

แต่เมื่อวานเขาเพิ่งโทรหาเฉินเจี้ยนฮั๋ว

เฉินเจี้ยนฮั๋วบอกว่าให้เขาหาเวลามาก่อกวนสวี่หรง​นี่นา…

“ใช่แล้วล่ะ”

เฉินเจี้ยนฮั๋วที่อยู่​ปลายสายถอนหายใจออกมา “เจ้าชุยนะเจ้าชุย นายอย่าไปก่อกวนอีกเลย”

“ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้าของสวี่ เมื่อคืนนี้​พวกเราสามคนคงตายไปแล้ว”

ชุยเฉิงเก๋อตกตะลึงไปแล้ว​

หลังจากพูดกับชุยเฉิงเก๋อจบเฉินตานตานกับเฉินเจี้ยนฮั๋ว สองพ่อลูกก็หันไปมองซูสือเยว่พร้อมกันก่อนจะ​พูด​ว่า

“เจ้าของสวี่ ขอบคุณมากนะครับ/คะ”

“คุณถูกครอบครัวเราพูดจาใส่ร้าย หาเรื่องสารพัด​ แต่ก็ยังช่วยชีวิต​พวกเราโดยไม่คิดแค้นเคือง​…”

“พวกเราไม่รู้​จะ​ตอบ​แทนบุญคุณ​ยังไง​แล้ว​จริงๆ​”

ซูสือเยว่ตอบกลับ​แค่ “อืม”เบาๆ แล้ว​กดวางสายไป

หลังจากที่วางสายแล้ว ในห้องผู้ป่วยที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ มือใหญ่ข้างหนึ่งก็ดึงโทรศัพท์มือถือในมือของเฉินตานตานไป

“คุณเจี่ยน พวกเราทำตามคำสั่งของคุณ พูดกับเจ้าของสวี่ไปแล้ว​”

เจี่ยนหมิงจงเหลือบมองทั้งสามคนที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างเย็นชา ก่อนจะยิ้มเยาะออกมา “ถือว่าไม่เลว”

“ไม่ตีพวกคุณ​แล้ว​ก็ได้”

พอพูดจบ ชายหนุ่ม​ก็หันหลังเดินจากไป

หยาดเหงื่อไหลออกมาเต็มหน้าผากของเฉินเจี้ยนฮั๋ว

หลังจากที่เจี่ยนหมิงจงปิดประตูลง เขาถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วกอดภรรยากับลูกสาวของเขาไว้แน่น

เมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งสามคนผ่านประสบการณ์ต่างๆมามากจริงๆ​

เริ่มด้วยคนของฉินหลิงยี่ที่ส่งมาให้เงินค่าจ้าง จากนั้นเขาก็ฆ่าพวกเขา จนพวกเขาเกือบเสียชีวิต

ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน​ คนของฉินโม่หานก็พุ่งเข้ามา แล้วช่วยชีวิต​พวกเขาสามคนกลับมาจากประตู​นรก

ตอนแรกพวกเขาคิดว่าในที่สุดพวกเขาก็พ้นอันตรายแล้ว แต่พอรุ่งเช้า ที่บ้านเขาก็มีคุณเจี่ยนสองคนเดินเข้ามา

เริ่มด้วยเจี่ยนเฉิงที่ทำการทำร้ายพวกเขาอย่างสุดแรง จากนั้นเจี่ยนหมิงจงก็บังคับให้พวกเขาขอโทษต่อสวี่หรงผู้หญิง​น่าเกลียดคนนั้น ……

เจี่ยนหมิงจงยังบอกอีกด้วยว่า ถ้าหากไม่พูดขอโทษ เขาเองก็จะทำร้ายพวกเขาเหมือนกัน

และทักษะของเขา ก็ดีกว่าเจี่ยนเฉิงทำเมื่อตะกี้​มาก…

เฉินเจี้ยนฮั๋วตกใจกลัวแทบตาย​ เจี่ยนหมิงจงพูดอะไรก็ตามนั้น​

“ครั้งนี้​ในที่สุด​ก็จบลงแล้ว​ใช่ไหม…”

เฉินเจี้ยนฮั๋วหลับตาลง ในใจรู้สึกนึก​เสียใจ​ทีหลัง​เป็นอย่างมาก

พวกเขาทำอะไรไม่ทำ กลับเข้าไปมีปัญหา​กับ​สวี่หรงได้

“เป็นยังไง​บ้าง​?”

หลังจากที่วางสายแล้ว ซูสือเยว่ก็มองชุยเฉิงเก๋อที่อยู่​ตรงหน้าอย่างหยิ่งทระนง ​รอยยิ้มบนใบหน้าแฝงไปด้วยความเยาะเย้ย

สีหน้าของชุยเฉิงเก๋อกลายเป็นจานประสมสี ที่แดงก่ำและซีดขาวสลับกันไปมา

คนที่อยู่​รอบข้างก็เริ่มซุบซิบ​

“ที่แท้​ก็​เลิกกันแล้วนี่เอง แล้ว​ยังจะมายุ่งเรื่องของคนอื่นเขาอีก”

“ปรากฎว่าไม่มีใครโอเคเลย ตัวเขาเองก็กำลังแพร่ข่าวลือและใส่ร้ายป้ายสีที่นี่”

“นี่ยังดีนะที่ไม่ได้แจ้งตำรวจ ถ้าโทรเรียกตำรวจ พวกเราก็จะกลายเป็น​ผู้สมรู้ร่วมคิดกับเขาด้วย…”

ทุกคนต่างพูดถึง เสียงพูด​เจื้อยแจ้ว​เหมือนนกทำรัง

ชุยเฉิงเก๋อทรุดตัวลงบนพื้นอย่างหมดแรง

“รุ่นพี่ชุย”

ซูสือเยว่ย่อตัวลง แล้ว​มองไปที่ชุยเฉิงเก๋อยิ้มๆ “เมื่อก่อน​ตอนที่คุณตามจีบฉัน ฉันไม่รู้​เลย​จริงๆ​ ว่าคุณ​จะหน้าด้านได้ขนาดนี้”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท