สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 330 ช่วยฉันป้องปกซิงเฉินให้ดี

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

คิ้วของฉินโม่หนาขมวดเข้าหากันแน่น

คนนำทางคนนั้น คือคนที่ลากถังขยะกลับไปที่เขตเมืองฝั่งตะวันตก

ถ้าเขาจำไม่ผิด ตอนแรกซิงเฉินก็ถูกพบอยู่ในกองขยะใกล้กับสถานีตำรวจเขตเมืองฝั่งตะวันตก!

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมา ถลึงตาใส่ไป๋ลั่วอย่างโมโห “ในเมื่อมองเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาลากถังขยะกลับไปที่เมืองฝั่งตะวันตก ทำไมไม่บอกตั้งนานแล้ว!”

ไป๋ลั่วถูกฉินโม่หานทำจนงุนงงสับสนไปหมดแล้ว

เขามองฉินโม่หานด้วยสีหน้าอึ้งตะลึง “ผม……”

“ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็น……”

คนนำทางที่เขาหามาคนนี้ เป็นคนยากจนข้นแค้นของเมืองฝั่งตะวันตก

ตอนแรกที่คนของไป๋ลั่วหาพวกเขาเจอนั้น พวกเขาก็เก็บขยะไปทั่ว

คนกลุ่มนี้ความจริงแล้วไม่มีความสามารถอะไร ความสามารถเดียวที่มีก็คือเคยไปที่ป่าเมืองฝั่งตะวันออก รู้จักป่าเป็นอย่างดี มีประสบการณ์สำรวจผจญภัยในป่าก็เท่านั้น

แต่ภายในเมือง พวกเขาก็เป็นเหมือนกับคนเร่ร่อน เก็บขยะไปทั่ว

ก่อนหน้านี้ที่ไป๋ลั่วเห็นคนนำทางลากถังขยะ เดินไปพลาง เก็บขยะบนถนนไปพลาง ยังคิดว่าพวกเขาน่าสงสารมาก

ดังนั้นเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องที่ซิงเฉินหายตัวไปเลย

มาตอนนี้ ถูกฉินโม่หานด่าแบบนี้ ไป๋ลั่วตีศีรษะทันที “จริงด้วย!”

ตอนแรกที่พวกเขาอยู่ในป่า นอกจากคนขององค์กรK ก็มีแค่คนนำทางคนนี้ที่อยู่ด้วย

คนนำทางคนนี้อยู่ที่เมืองฝั่งตะวันตก สุดท้ายก็ปรากฏตัวที่เมืองฝั่งตะวันตก และหลังจากที่ซิงเฉินหมดสติ ก็พบตัวที่เมืองฝั่งตะวันตกอีก

คนนำทางคนนี้ชอบเก็บขยะ ซิงเฉินก็ถูกพบข้างถังขยะอีก!

ความบังเอิญมากขนาดนี้ ทำให้ไป๋ลั่วนึกขึ้นได้อย่างฉับพลันว่า “ดังนั้นคุณชาย ความหมายของคุณก็คือวันนั้นคุณชายน้อยซิงเฉิน ถูกคนนำทางคนนี้เอาตัวไปที่เมืองฝั่งตะวันตกเหรอครับ”

“ก็มีเหตุผลนะ!”

“ผมจะไปหาตัวคนนำทางคนนี้ตอนนี้ จับตัวเขามาดีมั้ยครับ”

ซูสือเยว่ขมวดคิ้ว กลอกตามองบนให้ไป๋ลั่ว “นายไปตอนนี้ คนเขาหนีไปไม่เห็นแม้แต่เงานานแล้ว”

ไป๋ลั่วอึ้ง กำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉินโม่หานกลับขมวดคิ้วพลางเอ่ยเบาๆว่า “ไม่หรอก”

เขาใช้มือข้างเดียวนวดเบาๆตรงหว่างคิ้วที่ปวด “ถ้าคนนำทางคนนี้เป็นคนขององค์กรK ทั้งยังมีความคุ้นเคยกับทุกสิ่งของเมืองหรงมากขนาดนี้อีก อย่างนั้นก่อนที่เจียงหลีจะออกจากเมืองหรงไป เขาจะไม่มีทางจากไปง่ายๆ”

อย่างน้อย ก็ต้องอยู่ดูแลเจียงหลีที่นี่ต่อไป

“อย่างนั้นผมไปจับเขาตอนนี้เลยดีมั้ยครับ”

ไป๋ลั่วเงยหน้าถาด้วยความดีใจ

ฉินโม่หานหรี่ตามองเบาๆ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มออกมา “จับ แน่นอนว่าต้องจับ”

“แต่ว่า ต้องจับอย่างที่ไม่ให้รู้ตัวเลย ทางที่ดีที่สุดอย่าให้เจียงหลีรู้”

พูดจบ ชายหนุ่มหันไปมองซูสือเยว่ “เพื่อนคุณที่แต่งหน้าสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ได้ ยังติดต่อได้มั้ย”

ซูสือเยว่อึ้งไป ไม่เข้าใจว่าจู่ๆเขาถามคำถามนี้ขึ้นมาทำไม แต่ก็ยังพยักหน้าอย่างจริงจัง “แน่นอนว่าติดต่อได้”

“ติดต่อเขาหน่อย มีงานใหญ่รายได้ดีต้องทำ”

……

เช้าตรู่วันต่อมา

ซูสือเยว่จ้องมองรอยคล้ำรอบดวงตาคู่นั้น ถือกระบอกเก็บอุณหภูมิมาที่โรงพยาบาล

เธอถอนหายใจเดินไปด้านในห้องผู้ป่วย ถอนหายใจ เปิดกระบอกเก็บอุณหภูมิบนหัวเตียงของเด็กน้อย “แม้ว่าแม่จะไม่ยอมให้ลูกจากไป แต่แด๊ดดี้ของลูกก็บอกว่า เขารับปากเอาไว้แล้ว ข้อตกลงก็เซ็นกับเขาไปแล้ว”

“ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้น พ่อของลูกต้องทำตามที่พูดไว้ คงต้องลำบากลูกแล้วนะ”

เด็กน้อยบนเตียงมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก

เขาเงยหน้ามองซูสือเยว่ น้ำตาเอ่อนอง “ผมไม่ไปได้มั้ยครับ”

“เด็กดี”

ซูสือเยว่สูดจมูก อยากพูดอะไรบางอย่าง น้ำตากลับไหลลงมาก่อนแล้ว

เธอส่งชามกับตะเกียบไปให้เด็กน้อยพลาง ถอนหายใจอย่างหนักหน่วงไปพลาง “หม่ามี๊คลอดพวกหนูออกมาห้าปีแล้ว”

“ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจำพวกลูกๆได้ใหม่อีกครั้ง ก็จะต้องแยกจากลูกอีกแล้ว”

“แต่ว่า……เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของลูก หม่ามี๊ก็ต้องยอมสูญเสียของบางอย่าง”

“กินอาหารมื้อนี้ให้เต็มที่ อีกเดี๋ยวคุณหมอเจียงก็น่าจะมารับลูกแล้ว……”

“……ครับ”

เด็กน้อยบนเตียง ปาดน้ำตา รับโจ๊กไป ซดเบาๆ

ด้านนอกห้องผู้ป่วย

เจียงหลีมองซูสือเยว่และเด็กน้อยที่อยู่ในห้องอย่างเยาะเย้ย มุมปากยกขึ้นอย่างเย็นเยือกโหดร้าย

ปากก็บอกว่าเธอเป็นคนเลว ปากก็บอกว่าทำใจจากลูกไม่ได้ แต่ตอนนี้ ก็ตอบรับเงื่อนไขเธออย่างเชื่อฟังไม่ใช่เหรอ

ถ้ารู้ว่าฉินโม่หานกับซูสือเยว่รับมือได้ง่ายดายขนาดนี้ตั้งแต่แรก เธอก็คงไม่ทำข้อตกลงกับพวกเขาแค่หนึ่งปี

ซิงเฉินเป็นคนเหมือนกับต้นแบบที่พวกเขาไม่ได้ตามหาได้ง่ายๆ ต้องใช้เวลานานหลายปี จึงพอจะเทียบได้กับของเดิม

“คุณหมอเจียง”

หญิงสาวออกจากห้องผู้ป่วย เพิ่งเดินมาถึงทางลงบันได เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น

คือเฉิงคัง

เฉิงคังและพี่น้องสามคนของเขา เป็นสายที่Kให้แฝงตัวอยู่ที่เมืองหรง

พวกเขาแต่ละคนล้วนเป็นนักฆ่าได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี หลายปีมานี้เพื่อหลบเลี่ยงสายตาผู้คน จึงได้แต่ปลอมตัวเป็นคนเร่ร่อนเก็บขยะ

อาจเป็นเพราะชีวิตคนเร่ร่อนที่โชกโชนมาหลายปีทำให้พวกเขาสูญเสียประสิทธิภาพในการต่อสู้ สามคนพี่น้องของเฉิงคังกลับสู้ฉินหลิงยี่ไม่ได้ ในทางกลับกันกลับถูกฉินหลีงยี่ฆ่าตาย แขวนคอไว้ในป่า

เฉิงคังก็กลายเป็นคนที่อยู่โดดเดี่ยวตัวคนเดียวเพียงลำพัง

ครั้งนี้เธอพาซิงเฉินกลับไปที่ต่างประเทศ เฉิงคังเองก็จะตามกลับไปด้วย กลับไปที่องค์กรรายงานผลงาน

“ไฟล์ทบินจองเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย”

“อืม”

เสียงของเฉิงคังที่อยู่ปลายสายนั้นเบามาก เป็นเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย “ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว เครื่องบินของเก้าโมงตรงวันนี้ ตอนนี้แปดโมงตรง คุณควรจะพาเด็กคนนั้นออกเดินทางได้แล้ว”

“ผมอยู่ที่ถนนฝั่งตรงข้ามขับรถตู้มือสองคนหนึ่ง”

เจียงหลีกลอกตามองบน

รถตู้มือสองเหรอ

คงไม่ใช่ไปเก็บขยะกลับมาอีกนะ

แม้ว่าจะเหมือนกับเธอ ต่างก็เป็นคนที่ได้รับการฝึกจากองค์กรออกมา

แต่เจียงหลีรับคนสกปรกเลอะเทอะอย่างเฉิงคังแบบนี้ไม่ได้จริงๆ

เธอส่งเสียงฮึ่มในลำคอ “ฉันไม่นั่งรถคุณหรอกนะ อีกเดี๋ยวฉันจะนั่งรถไปเอง”

“ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจคุณหรอกนะ แต่ว่ารถคุณกลิ่นแรงมาก ฉันกลัวว่าเด็กที่หมดสติไปนานแล้วเพิ่งฟื้นอย่างซิงเฉินจะรับไม่ไหว”

ชายหนุ่มปลายสายส่งเสียงฮึ่ม “แม้แต่ชีวิตก็จะไม่เหลือแล้ว ยังหยิ่งยโสขนาดนี้”

“คุณว่าใครชีวิตจะไม่มีแล้ว”

เจียงหลีขมวดคิ้ว ดุด่าเฉิงคังรอบหนึ่ง “รู้มั้ยว่าซิงเฉินเด็กคนนี้มีความหมายอะไรกับK”

“ยังจะมาบอกว่าชีวิตจะไม่เหลืออยู่อีก”

“ถ้าซิงเฉินตายแล้ว ผู้ชายคนนั้นก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้ ถ้าผู้ชายคนนั้นมีชีวิตอยู่ไม่ได้ คุณเดาสิว่าKจะเป็นบ้าหรือเปล่า จะสับคุณเละเป็นชิ้นๆมั้ย”

คำพูดของหญิงสาว ทำให้เฉิงคังที่อยู่ปลายสายนั้นอดไม่ที่จะนิ่งเงียบลง

พักใหญ่ เขาจึงตอบกลับมาอย่างอึดอัด

“ผมสำนึกผิดแล้ว”

“สำนึกผิดก็ดีแล้ว ตลอดการเดินทางนี้ก็ปกป้องซิงเฉินไว้ให้ดี!”

พูดจบ หญิงสาวก็วางสายอย่างเย็นเยือกทันที

บนถนนตรงข้ามกับโรงพยาบาล รถตู้มือสองจอดนิ่งอยู่ตรงนั้น

ชายหนุ่มภายในรถวางสายโทรศัพท์อย่างเย็นชา ใบหน้านั้นมองกระจกมองหลังในรถของตนเอง มุมปากก็เกิดเป็นรอยยิ้มเย็นยะเยือก

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท