ฉินโม่หานชะงักไป
แน่นอนเขารู้ว่าวันนี้เขาควรจะไปรายงานผลของภารกิจกับK
แต่ว่า ตอนที่อยู่เมืองหรงนั้น หลังจากที่เขาจับเฉิงคังได้แล้ว เฉิงคังก็ไม่ได้อธิบายอะไร
ต่อให้ถูกทรมานขนาดไหนเขาก็ยังไม่ยอมพูดอะไร
ฉินโม่หานก็ต้องรีบร้อนให้คนแต่งหน้าให้เขา เตรียมใส่หน้ากาก ก็เลยไม่มีเวลาไปสนใจว่าเฉิงคังจะยอมพูดความจริงหรือไม่
ดังนั้น ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะมาถึงเมืองสตัฟฟ์ มาถึงฐานของเจียงหลีพร้อมกับเจียงหลีแล้ว
แต่ว่า……
เขาไม่รู้ว่าจะต้องไปตามหาKคนนั้นได้ที่ไหน
แต่ว่า ตามที่เฉิงคังเคยได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ ตอนเด็กๆ เฉิงคังเคยฝึกอยู่ที่นี่ เขาค่อนข้างที่จะคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้
เฉิงคังรู้ว่าKอยู่ที่ไหนและจะตามหาเธอยังไง
แต่ว่าฉินโม่หานไม่่รู้
ดังนั้นพอตื่นขึ้นมาแต่เช้า เขาก็ทำได้แค่ทำความสะอาดอยู่ที่นี่ คอยดูความเปลี่ยนแปลง
เพราะเห็นว่าผ่านไปนานแล้วฉินโม่หานก็ยังไม่พูดอะไร เจียงหลีก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน เราก็มองเขาด้วยความสงสัย “แล้วอีกอย่าง นายกลับอยู่ที่นี่แล้วช่วยฉันทำความสะอาดอย่างนั้นเหรอ?”
“น่าเกลียดคนที่มาทำความสะอาดที่นี่ทุกวันไม่ใช่เหรอ?”
แม้ว่าตอนที่อยู่ที่เมืองหรงนั้นเฉิงคังจะปลอมตัวเป็นคนจรจัดที่เก็บคอยขยะ
แต่ว่าจริงๆ แล้วเขา เดิมก็เป็นคนรกรุงรังอยู่แล้ว
ไม่อย่างนั้น เขาจะยอมปลอมตัวเป็นคนสกปรกแบบนั้นได้ยังไง?
แล้วการปลอมตัวนี้ก็ยาวนานถึง 10 20ปี?
แต่ว่าตอนนี้ เฉิงคังที่อยู่ตรงหน้าเจียงหลี ไม่ใช่แค่ทำความสะอาดตัวเอง แถมยังตื่นแต่เช้ามาเพื่อทำความสะอาดหน้าทางเดินของเธอด้วย
เธอขมวดคิ้ว แล้วก็หรี่ตาลง พร้อมกับจับจ้องไปที่ใบหน้าของฉินโม่หาน “เฉิงคัง นายผิดปกตินะ”
ฉินโม่หานก้มหน้า จับไม้ถูพื้นด้วยมือทั้งสองข้างอย่างแน่นหนา เขาไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับมันอย่างไรดี
ในอากาศมีเพียงแค่เสียงลมหายใจของทั้งสองคนเท่านั้น
“นาย……”
เจียงหลีจ้องหน้าฉินโม่หาน แล้วก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “นี่นาย……”
มือของฉินโม่หานจับไม้ถูพื้นอยู่นั้น เตรียมจะโจมตีเจียงหลีได้ทุกเมื่อ
นี่คือเรื่องที่ไม่มีทางออก
เขาไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเฉิงคังเลย
เขาเพิ่งจะจับเฉิงคังได้เมื่อวันก่อน แล้วเมื่อวานก็ปลอมตัวเป็นเฉิงคัง
ระยะเวลาเพียงแค่สองวันเขาสามารถเรียนรู้เสียง รอยยิ้ม และรูปลักษณ์ของเฉิงกังได้80-90% ก็ถือว่ายากมากแล้ว
เรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ เขาไม่ใช่เทพ ไม่สามารถทำให้เหมือนเป๊ะได้ทุกอย่าง
ซิงหยุนที่อยู่ด้านข้างก็ตัวตรง มองดูเจียงหลีด้วยสีหน้าที่จริงจัง เตรียมจะลงไม้ลงมือพร้อมกับแด๊ดดี้ได้ทุกเมื่อ
ตอนที่สองพ่อลูกเตรียมพร้อมนั้น——
เจียงหลีก็ยิ้ม
“เฉิงคัง หรือว่านายมีเรื่องอยากขอร้องฉัน?”
“นายรู้ว่าฉันชอบความสะอาด ก็เลยทำแบบนี้ เพราะว่าไม่อยากจะไปเจอK อยากให้ฉันช่วยนายใช่ไหม?”
ฉินโม่หานชะงักไปในทันที
เขาสบตากับซิงหยุน
สุดท้าย ชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก้มหน้าแล้วก็ยิ้ม “แน่นอนสิ”
“ฉันไม่ได้กลับมาที่นี่นานมากแล้ว แม้แต่ว่าKอยู่ที่ไหนแล้วจะไปหาเธอเจอได้ยังไง ฉันก็ลืมไปหมดแล้ว”
เจียงหลีหัวเราะออกมาดัง “พรืด” “เฉิงคัง นายเองก็มีวันนี้เหมือนกันเหรอเนี่ย!”
“หรือว่านายเองก็ลืม ว่าตอนที่ฉันมาที่ฐานครั้งแรก นายรังแกฉันยังไง?”
“แต่ว่า เหอะๆ ในที่สุดในก็ต้องขอร้องฉันแล้ว!”
เธอมองหน้าเฉิงคังอย่างพึงพอใจ หลังจากนั้นก็เชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง “ถ้าเกิดว่าKลืมเข้า ว่านายลืมแม้แต่จะไปตามหาเธอได้ยังไง ห้องวางยานายจนตาย มันคือชะตากรรมของนาย!”
พอพูดจบ เธอก็ชี้ไปที่ห้องทั้งหมดในห้องอย่างเย่อหยิ่ง “ฉันให้เวลานายสองชั่วโมง ทำความสะอาดที่นี่ให้เรียบร้อย แล้วฉันจะพานายไปหาK”
“แต่ว่าฉันจะพาไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ หลังจากครั้งนี้ถ้าเกิดว่านายยังจำไม่ได้อีก นายก็ไปขอพรเอาแล้วกัน!”
ฉินโม่หานพยักหน้าอย่างจริงจัง “โอเค”
พอพูดจบ ชายหนุ่มคนนั้นก็รีบไปทำความสะอาดห้องอย่างรวดเร็วและจริงจัง
ซิงหยุนยืนอยู่หน้าประตู มองดูแด๊ดดี้ ยุ่งวุ่นวายเหมือนคนทำความสะอาด หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความหม่นหมองในทันที
แด๊ดดี้ของเขาคือท่านชายฉิน ท่านประธานผู้ยิ่งใหญ่ที่เอาแต่ใจนะ!
เมื่อก่อนตอนอยู่บ้าน เขาไม่เคยทำอะไรเลย
เพื่อหม่ามี๊แล้ว เขาก็ฝืนทำของอร่อยอยู่บ้าง
ตอนนี้ เพื่อซิงเฉิน เขาก็เริ่มทำงานบ้าน
ถ้ารู้แบบนี้คงไม่ทำแต่แรกใช่ไหม?
ถ้าเกิดว่าตอนแรกแด๊ดดี้สามารถดูแลหม่ามี๊ได้อย่างดี อธิบายให้หม่ามี๊ฟังอย่างชัดเจน เรื่องราวคงไม่กลายเป็นแบบนี้หรอกใช่ไหม?
พอคิดได้แบบนี้ เด็กน้อยก็ถอนหายใจออกมา “ลุงเฉิงคัง สู้ๆ นะครับ”
“อิจฉาภรรยากับลูกของลุงในอนาคตจริงๆ ต่อไปที่บ้านจะมีคุณลุงคอยทำความสะอาดบ้านให้ พวกเขาต้องมีความสุขมากๆ แน่เลย”
มือของฉินโม่หานที่ทำความสะอาดอยู่นั่นก็ชะงักไปทันที!
เจ้าเด็กคนนี้!
หมายความว่ายังไง!
“เขาน่ะ ไม่มีทางมีภรรยาหรือว่าลูกหรอก”
เจียงหลียืนพิงประตู เอาทิชชูเช็ดหน้าแล้วก็หัวเราะไปด้วย “เขาไม่มีแม้แต่แก่นสำคัญของผู้ชาย จะไปมีลูกหรือว่าเมียได้ยังไง? ”
พอพูดจบ เธอก็เลิกคิ้วแล้วก็มองมาที่ซิงหยุน “เด็กน้อย หนูเพิ่งห้าขวบใช่ไหม?”
“ช่างมันเถอะ ฉันพูดเรื่องนี้ไปหนูก็ไม่เข้าใจหรอก”
ซิงหยุนหรี่ตา “ผมก็เข้าใจนิดหน่อยนะ”
“คุณหมอเจียง ความหมายของคุณก็คือ ต่อไปคุณลุงเฉิงคัง จะต้องขึ้นคานใช่ไหมครับ?”
เจียงหลีหัวเราะอย่างเย็นชา “ใช่”
เฉิงคังคนนี้ ถ้าเข้ามาในองค์กร เพื่อที่จะฝึกพวกเขาให้ดี Kก็ตัดความปรารถนาของพวกเขาออก ดังนั้นหลังจากที่เด็กผู้ชายทุกคนมาที่นี่เพื่อเป็นนักฆ่า ก็จะถูกKป้อนยาพิษที่ได้วิจัยขึ้นมาเอง
ผู้ชายที่ได้รับยาพิษชนิดนี้ไป……
ก็จะไม่เป็นผู้ชายอีกตลอดชีวิต
ถ้าคิดได้แบบนี้ เจียงหลีก็เริ่มรู้สึกดีใจที่ได้เป็นผู้หญิง
ไม่อย่างนั้นล่ะก็……
เธอเหลือบมองไปที่ฉินโม่หานที่ยังทำความสะอาดอย่างขยันขันแข็ง “น่าเสียดายจริงๆ ”
ฉินโม่หาน:“……”
เฉิงคังไม่มีอุปกรณ์ที่จะเป็นผู้ชายแล้วสินะ
แต่ว่าก็ยังดี
ถือว่าเขารู้ไม่ช้าเกินไป
ไม่อย่างนั้นละก็ เขาเตรียมจะใช้ตัวตนของเฉิงคัง ไปตามจีบเจียงหลี แล้วก็หลอกเอาข้อมูลมา
ถ้าเกิดว่ารู้ช้ากว่านี้อีกนิด ต้องเคยเห็นพิรุธอย่างแน่นอน
ยังไงผู้ชายอย่างเฉิงคัง ก็ไม่มีทางชอบเจียงหลีอยู่แล้ว
ไม่นาน ฉินโม่หานก็ทำความสะอาดห้องอย่างเรียบร้อย
เจียงหลีตรวจสอบความเรียบร้อย แล้วสุดท้ายก็ยิ้มออก “ไม่แย่ๆ ”
“ต่อไปถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไรจะขอร้องฉันล่ะก็ ก็ช่วยฉันทำความสะอาดแล้วกัน”
เธอรู้ว่าเฉิงคังเกลียดการทำความสะอาดมากที่สุด ดังนั้นการที่ได้เห็นเฉิงคังทำความสะอาด เธอรู้สึกมีความสุข
พอพูดจบ เธอก็หันไปมองซิงหยุนที่ยืนมองเหตุการณ์ที่ตื่นเต้น “เด็กน้อย เก็บของเตรียมออกไปข้างนอกกัน”
ซิงหยุนชะงักไป “ผมก็ต้องไปด้วยเหรอ?”
เจียงหลีจะพาฉินโม่หานไปหาKไม่ใช่เหรอ?
“หนูก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว”
เจียงหลียิ้ม “ฉันบอกหนูแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ที่หนูมาที่นี่ ต้องมีการเจาะเลือดทุกวัน”
“วันนี้เป็นวันแรก ฉันจะพาหนูไปเจอK แล้วก็……รวดเจอผู้ชายคนหนึ่ง”
ซิงหยุนขมวดคิ้วเข้าหากัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “ผู้ชายคนนั้นเหรอครับ?”
“ผู้ชายคนไหน?”