สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ – บทที่ 382 หยิบของส่งมา

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

ลู่จิ่งเฉินก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว สีหน้าซีดลงราวกับไม่มีชีวิต

แม้แต่สีของผนังที่อยู่ด้านหลังของเขา ยังดูดีกว่าสีหน้าของเขาในตอนนี้มาก

เขาไม่อยากที่จะเชื่อหูของตัวเอง ไม่กล้าที่จะเชื่อเลยว่าคำพูดเหล่านี้ แท้จริงแล้วจะมาจากปากของลู่จื่อเหยาที่อ่อนโยนและจิตใจดี

เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เขาช็อกมาก

รวมถึงซูสือเยว่กับลั่วเยียนที่นำเรื่องพวกนั้นออกมา ทั้งสิ่งที่ลู่จื่อเหยาพูดออกมาทั้งหมด

เขาคิดไปถึงว่าตอนนี้ตนเองอาจจะกำลังอยู่ในฝันอยู่

ถ้าเขาไม่ได้ฝันไป ทำไมจื่อเหยาถึงได้เปลี่ยนไปเป็นไม่รู้จักระมัดระวังในกิริยาแบบนี้ พูดแบบนี้กับตนเองได้ยังไง?

ถ้าหากว่าเขาฝันไปจริงๆ ……

ทำไมหัวใจของเขาถึงรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้

ซูสือเยว่เลิกคิ้วขึ้น กวาดสายตามองไปยังลู่จื่อเหยาอย่างเย็นชา:

“เธอบอกว่า ไม่มีเธอที่เป็นคนให้เงินลงทุนกับพี่ใหญ่ในตอนนั้น ก็จะไม่มีเขาในวันนี้”

เธอหรี่ตาลงมอง “ลู่จื่อเหยา เธอให้เงินเขาไปเท่าไหร่ ถึงต้องให้เขาสำนึกบุญคุณมาจนถึงทุกวันนี้?”

ลู่จื่อเหยาถอนหายใจออกมา:

“1 แสนหยวน!”

“1แสนหยวนสำหรับเธอในตอนนี้ อาจจะไม่มีอะไรมากไปกว่าราคาของกระโปรง 1 ตัว กับรองเท้าอีกคู่หนึ่ง”

“ถ้าไม่มี 1 แสนหยวนนี้ ลู่จิ่งเฉินในตอนนี้ คงยังเป็นเพียงคนงานตัวเล็กๆ ที่กำลังถูพื้นและล้างจานอยู่ในเมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือ!”

พูดจบ เธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ดึงเสื้อคลุมตัวใหญ่วางพาดบนตัว:

“ลู่จิ่งเฉิน ตอนนี้รังเกียจฉันแล้วหรือ?”

“ตอนที่ใช้เงินของฉันไปลงทุนในธุรกิจ ทำไมถึงไม่รังเกียจล่ะ?”

“อยากจะจูบฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนที่อยากจะขึ้นเตียงกับฉัน ทำไมถึงไม่รังเกียจล่ะ?”

เธอยิ่งพูดก็ยิ่งก็ยิ่งแสดงท่าทีลำพองใจ ใบหน้าที่เป็นดั่งแสงจันทร์ขาว ที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจของลู่จิ่งเฉินในก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดูบิดเบี้ยว :

“นายเคยพูดอะไรไว้ นายลืมแล้วหรือ?”

“นายบอกว่าฉันเป็นเหมือนแสงแดดเดียวในช่วงฤดูหนาวของคุณ นายบอกว่าเหตุผลเกินครึ่งที่นายยังมีชีวิตอยู่เป็นเพราะฉัน”

“ทำไม ตอนนี้นายจำไม่ได้แล้วหรือ?”

พริบตาเดียวสีหน้าของลู่จิ่งเฉินก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด

ไม่เพียงแต่เพราะเป็นแสงจันทร์ขาว และแสงแดดในช่วงฤดูหนาวของเขาได้เปลี่ยนไปแล้วเท่านั้น

แล้วยังเป็นเพราะ……

นึกไม่ถึงเลยว่าลู่จื่อเหยาจะกล้ามากขนาดนี้ ทั้งที่อยู่ต่อหน้าคนนอกทั้ง 2 คนอย่างซูสือเยว่กับลั่วเยียน ถ้อยคำหวานที่เคยใช้บอกรักตนเอง คำสาบานรักระหว่างคน2คน กลับถูกเอามาพูดเยาะเย้ยราวกับเป็นเรื่องตลก

เขากัดริมฝีปากแน่น มือทั้ง2ข้างที่อยู่ข้างลำตัว กำหมัดแน่น

“จื่อเหยา ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้เป็นแบบนี้นี่……”

ลู่จื่อเหยายิ้มอย่างเย็นชา พลางมองหน้าของลู่จิ่งเฉิน:

“ใช่แล้ว เมื่อก่อนฉันไม่ได้เป็นแบบนี้”

ว่าพลาง สายตาของเธอก็เต็มไปด้วยความเย็นชา:

“ไม่ใช่เพราะว่าพวกนายหรือไง!”

เธอจ้องเขม็งไปทางลู่จิ่งเฉิน:

“ไม่ใช่ว่านายบอกว่า ฉันเป็นอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตของนายหรือ?”

“ไม่ใช่ว่านายบอกว่า ถ้าฉันไม่ต้องการนายแล้ว นายก็จะไปตายใช่มั้ย?”

“งั้นตอนนี้นายก็ตายให้ฉันเห็นหน่อยสิ!”

สีหน้าของลู่จิ่งเฉินขาวซีด

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ล้วงเอาของที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของตัวเองออกมาทั้งหมด

หลังจากนั้น เขาก็หยิบเอาของที่เป็นของฉินโม่หานทั้งหมดออกมา วางลงข้างๆ ซูสือเยว่

ท้ายที่สุด เขานำเอาบัตรจำนวนหนึ่งและเอกสารรับรองที่เป็นของเขา วางไว้ตรงหน้าของลู่จื่อเหยา

“จื่อเหยา”

“เธอบอกว่า เงินที่ฉันใช้เริ่มต้นกิจการในตอนนั้น เป็นเงินที่เธอหามาได้ด้วยวิธีแบบนี้”

“เธอยังบอกว่า ถ้าไม่มีเธอ ก็ไม่มีฉันในวันนี้”

“ฉันก็ยอมรับว่า ที่เธอพูดออกมามันถูกหมดเลย”

“ดังนั้น ทรัพย์สินทั้งหมดในหานเฉิง ฉันยกให้เธอเป็นของขวัญ”

“อันนี้ คือเงินออมในช่วงไม่กี่ปีมานี้ของฉัน”

“คุณพูดถูก ไม่มีคุณ ผมในตอนนี้คงยังเป็นคนกวาดถนนไม่ก็คนล้างจานอยู่”

“เพราะแบบนั้น สิ่งที่ฉันหามาได้ในช่วงสองสามปีมานี้ ผมให้คุณได้ทั้งหมด”

ในตอนท้ายเขาก็ถอนหายใจออกมา “แต่ว่าของ ของฉินโม่หาน มันก็ไม่ใช่ของฉันตั้งแต่แรก ฉันไม่สามารถให้เธอได้อยู่แล้ว”

“ส่วนชีวิตนี้……”

ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างขมขื่น หยิบเอาปืนพกสีเทามันวาวที่เหน็บอยู่ที่เอวออกมาอย่างเงียบๆ แล้วจ่อลงที่ขมับของตนเอง :

“ถ้าคุณไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดเอาไว้ ชีวิตของฉันก็คงจะไร้ความหมายจริงๆ”

นัยน์ตาของเขาหม่นแสงลง พลางมองมาที่ลู่จื่อเหยา :

“จื่อเหยา ชีวิตนี้ที่คุณได้ช่วยเอาไว้”

“ถ้าไม่มีคุณ ฉันก็คงจะตัดสินใจจบชีวิตลงตั้งแต่เหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนั้นแล้ว”

“ฉันไม่มีทางฮุบเอาเอาทรัพย์สินของฉินโม่หานตามที่คุณบอกได้”

“แล้วก็ไม่มีทางที่จะยอมรับคุณที่เป็นแบบนี้ได้”

“ดังนั้น ฉันก็เลือกที่จะจัดการปัญหานี้ด้วยตนเอง!”

พูดจบ เขาก็หลับตาลง ออกแรงไปที่นิ้วที่วางอยู่ตรงไกปืนอย่างเชื่องช้า

“ปอดแหก!”

เมื่อนิ้วมือของชายหนุ่มกำลังจะกดลั่นไก น้ำเสียงอันเย็นเยือกของหญิงวัยกลางคนดังก้องออกมาจากด้านในของห้องชุด

พร้อมกับเสียงที่ดังก้องของหญิงสาวนั้น ก็มีร่างสีดำร่างหนึ่งพุ่งตรงไปตรงหน้าของลู่จิ่งเฉิน

เจี่ยนหมิงจงพุ่งตรงเข้ามาเตะปืนพกในมือของลู่จิ่งเฉินออกไป

ปืนพกสีเทามันวาวนั้นตกลงดัง “ปึก”

เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นตรงนั้น ทำให้ทั้งลู่จื่อเหยาและลู่จิ่งเฉินตกอยู่ในอารามตกใจ

วินาทีต่อมา ลู่จื่อเหยาก็เป็นคนแรกที่มีท่าทีตอบโต้

เธอเข้าไปหยิบปืนพกที่อยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วจ่อไปทางซูสือเยว่ :

“เอาของที่ลู่จิ่งเฉินพึ่งให้ไปออกมา!”

ในเมื่อซูสือเยว่ เอาสิ่งที่อยู่ในดิสก์ของเธอออกมาได้ นั้นก็พิสูจน์ให้เห็นว่าซูสือเยว่มีเทปเสียงเทปนั้นแล้ว

ไม่แน่ว่า……

ไม่แน่ว่าเทปเสียงเทปนั้น จะสามารถทำให้ฉินโม่หานฟื้นขึ้นมาได้จริงๆ!

เพราะอย่างนั้น ก่อนที่ฉินโม่หานจะฟื้นขึ้นมา ต้องเอาของของฉินโม่หานมาไว้ในมือให้ได้ก่อน!

แต่ว่า……

ของที่ฉินโม่หานเพิ่งจะให้ซูสือเยว่ไป ยังสามารถทำให้หลบหนีไปพร้อมกับเงินนับสิบล้านในเวลาอันสั้น!

ก่อนที่ฉินโม่หานจะฟื้นขึ้นมา เธอต้องการเพียงแค่หนีไปพร้อมกับสิ่งของพวกนี้ เมื่อไปถึงต่างประเทศก็ค่อยเอาของพวกนี้ไปขาย แล้วก็กลับไปใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนอีกครั้ง……

เพียงเท่านี้ก็ไม่มีใครหาเธอพบแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอเคยทำในอดีตแล้ว!

ซูสือเยว่หรี่ตาลงจ้องมองไปยังปืนพกที่อยู่ในมือของซูสือเยว่ :

“เธอยืนยันว่าจะเอาของที่อยู่ในมือของฉันหรือ?”

ลู่จื่อเหยาหัวเราะอย่างเย็นชา แล้ววางนิ้วลงบนไกปืน :

“ซูสือเยว่ ฉันไม่ได้มีความอดทนมากขนาดนั้นนะ”

“ตอนนี้เธอส่งของทั้งหมดมาให้ฉันดีกว่า”

“ไม่อย่างนั้น ถ้าหากว่ามือของฉันมันดันลั่นขึ้นมา…… ถึงแม้ว่าฉินโม่หานจะฟื้นขึ้นมา เธอก็จะไม่ได้เห็นแล้ว”

“ลูกทั้ง3คนของเธอ จากตอนแรกที่ไม่มีพ่อ ก็จะกลายเป็นไม่มีแม่แทน”

“โอ้ ไม่ใช่สิ บางทีอาจจะกลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่เลย ถ้าฉินโม่หานฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอตายแล้ว ไม่แน่ว่าเขาอาจจะตามเธอไปด้วยก็ได้”

พูดจบ เธอก็จ้องมองไปยังซูสือเยว่ :

“เอาของส่งให้เธอ?”

“แล้วถ้าฉันไม่ให้ล่ะ?”

ซูสือเยว่เดินไปหา แล้วจ่อปากกระบอกปืนเข้าที่หน้าผากของตนเอง :

“ถ้าแน่จริง เธอก็ยิงเลย”

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

สามีบอสของฉันทั้งเลวทั้งซื่อ

Status: Ongoing
หลังข่าวลือที่เสียโฉม ท่านชายฉินโหดร้ายอำมหิต ทำคู่หมั้นตายติดต่อกันสองคน ผู้หญิงทั้งเมืองไม่มีใครกล้าแต่งงานด้วย แต่ซูสือเยว่กลับแต่งสาวน้อย ต่อไปให้ฉันปกป้องเธอเองเพิ่งแต่งงาน เธอก็ถูกลูกน้อยน่ารักน่าหยิกสองคนแย่งกันอย่างคลั่งใคล้ซะแล้ว……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท