My Death Flags Show No Sign of Ending – ตอนที่ 62 ท่านลอร์ด is back

My Death Flags Show No Sign of Ending

หลังจากได้ฟังเรื่องราวในอดีตและความลับของฮาโรลด์ ทันทีที่ลีฟากลับถึงห้อง เข่าเธอถึงกับทรุดลง อาจเพราะเรื่องพวกนี้มันหนักเกินไป ชะตากรรมที่ฮาโรลด์แบกรับไว้บนบ่า เรื่องพวกนี้มันวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวของเธอ โดยเฉพาะสิ่งสุดท้ายที่ยูสทัสพูด

 

“ ตอนนี้ ฮาโรลด์เหลือเวลาชีวิตอีกเพียงไม่กี่ปี ผมเดาว่าเขาคงมีอายุอยู่ได้ถึง 20 ปีเท่านั้นแหละ แต่ถ้าหากเขายังฝืนใช้พลังแบบนี้ต่อไปอีก มันอาจจะยิ่งสั้นลงกว่านี้ “ ยูสทัส

 

ตอนนี้ฮาโรลด์พึ่งจะอายุ 18 ปี นั้นหมายความว่าเขาเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น และจะน้อยลงเรื่อยๆหากเขาใช้พลังอย่างไม่ระวัง

มันเป็นช่วงเวลาที่ลำบากสำหรับลีฟาที่จะยอมรับความจริงพวกนี้ให้ได้ เธอไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปดี

 

[ … เธอไม่เป็นไรนะ ? ] – เอลล์

[ เอลล์ … ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี ฉันจะช่วยฮาโรลด์ยังไง– ] – ลีฟา

[ เธอเสียใจเหรอที่ได้ฟังเรืองราวพวกนั้น ? ] – เอลล์

[ … ฉันไม่รุ้ … ] – ลีฟา

[ ขอโทษนะ ] – เอลล์

[ เธอขอโทษทำไมกัน ? ] – ลีฟา

[ เพราะว่าฉันรู้เรื่องพวกนั้นอยู่ก่อนแล้ว ฉันรู้ว่าชีวิตของฮาโรลด์กำลังลดลงเรื่อยๆทุกๆครั้งที่เขาต่อสู้ ] – เอลล์

[ อะไรกัน ?! แล้วทำไม! ทำไมเธอถึงไม่หยุดเขา!! ? ] – ลีฟา

[ เธอคิดว่าจะมีใครสามารถหยุดคนอย่างฮาโรลด์ได้จริงๆ ? ] – เอลล์

[ มันก็– …. เธอพูดถูก ตะ- แต่ว่า !! ] – ลีฟา

 

เอลล์รู้ เธอรู้เรื่องพวกนี้อยู่ก่อนแล้วแต่ก็ยัง– ทำไมเธอถึงพูดคุยกับฮาโรลด์เป็นอย่างปกติได้นะ ? ทำไมเธอถึงยังยิ้มและหัวเราะกับเขาได้นะ ? ลีฟาได้แต่สงสัย และมันก็เหมือนกันสำหรับฮาโรลด์ ทำไมฮาโรลด์ถึงต้องพยายามต่อสู้อยู่ตลอดจนถึงตอนนี้ ? เขาไม่กลัวที่จะตายเลย ? ไม่มีทางที่เขาจะไม่กลัวตาย แล้วทำไมเขาถึงใช้ดาบนั้นด้วยท่าทางที่สงบขนาดนั้นได้ ?

ความคิดของลีฟาได้ตีกันมั่วไปหมด ตอนนี้ แม้แต่คำพูดของเธอก็ยังไม่สามารถที่จะเรียบเรียงได้

 

[ ทำไมกัน ทำไมเธอ … ทำไมทั้งเธอและฮาโรลด์ต่างไม่มีเหตุผลกันเลย … ] – ลีฟา

[ ใช่ บางที ถ้าเธอจะรู้สึกเช่นนั้นมันก็ถูกต้องแล้วล่ะ ] – เอลล์

 

เอลล์ได้ยิ้มออกมาอย่างเศร้าสร้อย

การแสดงความใจดีกับลีฟาตอนนี้ คงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร

 

[ ลีฟา ] – เอลล์

[ … ? ] – ลีฟา

[ ถ้าเธอคิดจะหยุดฮาโรลด์ เธอควรจะล้มเลิกมันตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า ] – เอลล์

[ ตะ-แต่ว่า– ] – ลีฟา

 

ไม่มีอะไรที่ลีฟาสามารถทำเพื่อฮาโรลด์ได้ นั้นคือสิ่งที่สื่อมาในคำพูดของเอลล์ การกระทำของเอลล์ตอนนี้แตกต่างจากเดิมมากจนลีฟาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับมันว่าเอลล์จริงจรังกับคำพูดของเธอมากแค่ไหน แม้ว่าเธอเองจะไม่พอใจก็ตาม

 

[ นี่คือเส้นทางที่ฮาโรลด์เป็นคนเลือกเอง มันไม่ใช่ปัญหาของคนนอกที่ไม่รู้สถานการณ์ของเขาจะยื่นจมูกเข้าไปสอด … ] – เอลล์

[ ถ้างั้น เธอก็จะปล่อยให้เขาตายไปเฉยๆโดยไม่ทำอะไรหรอเอลล์? ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ … ] – ลีฟา

[ ในกรณีนี้ เธอก็ไม่ควรที่จะพบกับฮาโรลด์อีก ] – เอลล์

[ เธอพูดแบบนั้นได้ยังไง !? ] – ลีฟา

 

คำพูดนั้นทำให้ลีฟาถึงกับขึ้นเสียงกับเอลล์

อย่างไรก็ตาม แม้เธอจะจ้องเขม่งไปยังเอลล์ แต่เธอก็ไม่สั่นไหวแต่อย่างใด เธอดูสงบอย่างสมบูรณ์แล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

 

[ ฉันบอกเธอไปแล้วว่าฉันรู้ความลับของฮาโรลด์ก่อนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ? แต่เขาไม่ต้องการให้ฉันบอกเรื่องนี้กับเธอ หรือใครก็ตาม เขามีเป้าหมายของเขา และ นี่คือสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เป้าหมายของเขาเป็นจริงได้ .. ] – เอลล์

[ เป้าหมายอะไรกัน ? … ] – ลีฟา

[ เขาไม่ได้บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แต่ดูเหมือนว่ามันสำคัญมากถึงขนาดมากกว่าชีวิตของตัวเขาเอง ] – เอลล์

 

แต่ว่า .. แล้วอะไรมันจะไปสำคัญกว่าชีวิตของตัวเขาเองล่ะ ? สิ่งนี้เอลล์ได้แต่พูดกับตัวเองในใจ

ฮาโรลด์มาใกลขนาดนี้ได้ยังไงกัน ? เขายอมรับความตายเช่นนี้ได้ยังไง ? อะไรในโลกนี้ที่มันสำคัญสำหรับเขาขนาดนั้น ? หลายๆคำถามผุดขึ้นในหัวเขาลีฟา แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเธอก็หาคำตอบให้กับคำถามพวกนั้นไม่ได้

 

[ เอาเถอะ ถึงเวลาที่พวกเราต้องนอนแล้ว บางที เธออาจจะคิดออกว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดีหากให้สมองของเธอได้พักสักนิด ] – เอลล์

[ …. โอเค ] – ลีฟา

 

ลีฟาลุกไปที่เตียงของเธอตามที่เอลล์เป็นคนบอก ทันทีที่ไฟดับลงห้องก็ถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด อย่างไรก็ตามอารมณ์ความคิดของเธอยังคงไหลเวียนอยู่ในหัวของลีฟาทำให้เธอไม่สามารถหลับลงได้

เธอได้แต่กลิ้งตัวไปมาราวกับพยายามปกป้องหัวใจของตนเองที่ดูเหมือนกำลังจะแหลกสลายได้ทุกเมื่อ มีเพียงสิ่งเดียวที่เด็กสาวผู้บริสุทธิ์คนนี้จะทำได้ก็คือ การสวดภาวนาต่อพระเจ้า ด้วยความปรารถนาเพียงอย่างเดียว

 

[ อย่าตายเลยนะ ฮาโรลด์ ….. ] – ลีฟา

 

——————

 

[ ไปตายซะ ] – ฮาโรลด์

 

นั้นคือสิ่งแรกที่ฮาโรลด์บอกกับอิสุกิ และอิสุกิผู้ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่เป็นมิตรและงดงามเหมือนดังเคย เขาคุ้นเคยกับคำพูดไม่เหมาะสมของฮาโรลด์เป็นอย่างดีและปัดคำพูดพวกนั้นทิ้งไปอย่างง่ายดาย

 

[ ชั้นดีใจนะที่เห็นนายดูแข็งแรงดี เฮ้ นายอยากจะดื่มอะไรหน่อยมั้ย ? ] – อิสุกิ

[ ไม่ ] – ฮาโรลด์

 

ตอนนี้ พวกเขาอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในคาบลาน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาอาหารเย็นแล้ว แต่ฮาโรลด์คิดว่าเขาคงไม่สามารถฟังเรื่องราวจากอิสุกิพร้อมกับทานอาหารเย็นอย่างสงบใจไปพร้อมๆกันได้ ดังนั้นเขาจึงลากตัวอิสุกิมาสถานที่เหมาะๆ ซึ่งก็คือที่นี่

อิสุกิยังคงมีรอยยิ้มที่สดใสเหมือนดั่งเช่นเคย แต่สำหรับฮาโรลด์มันกลับทำให้เขารู้สึกกระอักกระอวนใจ

 

[ เร็ว อธิบายทุกอย่างมาซะ ] – ฮาโรลด์

[ ก็ ถ้าจะให้พูดสั้นๆ ชั้นกำลังจะแต่งงาน ] – อิสุกิ

[ แล้ว ? ] – ฮาโรลด์

 

คำตอบของฮาโรลด์ดูราวกับไม่แยแสอะไรเลย 

แม้จะคิดเอาไว้แล้วว่าปากของเขาจะตอบกับไปในลักษณะนี้ แต่เขาก็อยากที่จะแสดงความยินดีกับอิสุกิออกมาจากใจจริง เขารู้สึกประทับใจอย่างยิ่งที่ได้ยินว่าอิสุกิกำลังจะแต่งงาน เมื่อคิดถึงรูปร่างหน้าตาฐานะของอิสุกิ เขาเป็นตัวละครที่ไร้ที่ติ หน้าตาดี บุคลิคดี มีครอบครัวที่ดี และยิ่งไปกว่านั้น เขายังเก่งเรื่องดาบอีกด้วย มันค่อนข้างหน้าแปลกใจที่หมอนี่ยังคงโสดจนถึงตอนนี้

หากจะให้พูดถึงของเสีย หมอนี่เป็นซิสค่อน

เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ ฮาโรลด์ก็นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาเคยพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานกันตอนก่อนที่เขาจะเข้าร่วมกับกองอัศวิน

มีช่วงนึงอิสุกิยืนกรานที่จะให้ฮาโรลด์แต่งงานกับเอริกะให้ได้ และถามว่าจะแต่งงานกับน้องสาวของเขาตอนไหน ซึ่งตอนนั้นฮาโรลด์ยังไม่สามารถบอกกับอิสุกิได้ว่าเขามีแผนที่จะยกเลิกการหมั้นเอาไว้แล้ว ดังนั้น ฮาโรลด์จึงเลี่ยงคำตอบนี้โดยพูดไปประมาณว่า “จะลองคิดดูหลังจากที่นายแต่งงานไปก่อนแล้ว” ซึ่งพอได้ยินแบบนั้น อิสุกิถึงกับเข้ามากอดเขาพร้อมกับพูดว่า “อีกไม่นานแล้วพวกเราก็จะกลายเป็นพี่น้องกัน” ซึ่งตอนนั้นยูโนะเองก็อยู่ด้วยและได้ยินบทสนทนาทั้งหมด เธอก็เผยรอยยิ้มซึ่งแฝงมาด้วยแรงกดดันเป็นอย่างมาก แค่นึกถึงรอบยิ้มนั้น ก็มีเหงื่อเย็นไหลอาบหลังของฮาโรลด์ ซึ่งเขาเองก็ได้แต่สงสัย ทั้งๆที่ยูโนะก็เป็นคนสวยแท้ๆ ทำไมเธอถึงไม่มีคู่รักกันนะ?

 

[ คนที่จะกลายมาเป็นภรรยาของชั้นคือลูกสาวของเจ้าเมืองนี้ ซึ่งเขาตัดสินใจจัดงานเฉลิมฉลองการแต่งงานของพวกเราก่อนวันจริง ] – อิสุกิ

[ แล้ว ? ] – ฮาโรลด์

[ มันก็ไม่ได้เป็นทางการอะไรขนาดนั้น ดังนั้นทางตระกูลชั้นเลยไม่จำเป็นต้องมาร่วมงานนี้ก็ได้ แต่มันคงแปลกหากชั้นไม่เข้าร่วมงานด้วย แต่ไหนๆก็มาแล้ว ฉันเลยพาเอริกะมาพบกับพี่สะใภ้ในอนาคตด้วยเช่นกัน ] – อิสุกิ

[ ชั้นหนีได้มั้ย ? ] – ฮาโรลด์

[ ปัญหาคือมันไม่ใช่แค่สำหรับตระกูลชั้นเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นงานใหญ่ นายก็รู้ ว่ามันจะต้องมีลูกหลานขุนนางตระกูลอื่นๆและพ่อค้าจำนวนมากเข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน ] – อิสุกิ

 

อิสุกิพูดต่อราวกับไม่ได้ยินคำพูดของฮาโรลด์ เขาเพิกเฉยต่อคำพูดของฮาโรลด์โดยสมบูรณ์ อิสุกิน่าจะเป็นคนเดียวที่พูดคุยกับฮาโรลด์เช่นนี้ได้

 

[ ดังนั้นภารกิจในครั้งนี้ นายจะเป็นเหมือนดั่งยาไล่แมลง ที่คอยไล่เหล่าสัตว์ร้ายที่มาคอยเกาะแกะน้องสาวของชั้น ] – อิสุกิ

[ จะสัตว์ร้ายหรือแมลง เอาให้แน่ ] – ฮาโรลด์

[ พวกเขาเป็นสัตว์ร้ายแน่นอน แต่ก็ไม่เหนือไปกว่าแมลงมากนักหรอก ] – อิสุกิ

 

อิสุกิพูดออกมาอย่างไร้ยางอาย บางที คำพูดนี้คงไม่เหมาะกับภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรของเขาเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ 

 

[ แล้วทำไมชั้นจะต้องตกลงรับปัญหามาใส่ตัวด้วย ? ] – ฮาโรลด์

[ เอ๋ มันไม่ใช่เรื่องปกติหรอ ? ก็นายเป็นคู่หมั้นของเอริกะอยู่แล้วนินา ] – อิสุกิ

[ หัวนายมีปัญหารึไง ? นายลืมไปแล้วเหรอ ว่าชั้นบอกนายไปแล้วว่าชั้นยกเลิกการหมั้นไปแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน ? ] – ฮาโรลด์

[ ชั้นจำได้น่า และชั้นจำไม่เห็นได้ว่ามีใครตกลงยอบรับการยกเลิการหมั้นนั้นเหมือนกัน ] – อิสุกิ

[ นายมัน– … ] ฮาโรลด์

[ อย่างที่ท่านพ่อพูดเอาไว้ “ ข้าเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าวันนี้จะมาถึงในไม่ช้า ซึ่งข้าก็คิดว่าคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงมันได้ ” แต่ท่านพ่อก็ไม่เคยพูดออกมาอย่างชัดเจนว่ายอมรับการยกเลิกการหมั้นนี้ ] – อิสุกิ

 

มันเป็นจริงตามนั้น

อย่างไรก็ตาม ฮาโรลด์คิดไปเองว่า ทาสุคุ ผู้ซึ่งรักลูกสาวมากกว่าสิ่งใด ไม่มีทางยอมให้เอริกะแต่งงานกับใครก็ตามที่ปฎิบัติกับเธออย่างกับหมาแมว ฮาโรลด์เลยคิดไปเองว่า หากทาสุคุมีโอกาสที่จะยกเลิกการหมั้นหมายได้ เขาคงคว้ามันเอาไว้ ดังนั้น ฮาโรลด์จึงคิดว่าสิ่งที่ทาสุคุหมายถึงคือ [[ ข้าคิดว่าคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงการยกเลิกการหมั้นหมายครั้งนี้ได้ ]] จริงๆเขาเลือกที่จะเชื่อว่าทาสุคุหมายความว่าเช่นนั้น

แต่ถ้าหากประโยคที่ว่า [[ ซึ่งข้าก็คิดว่าคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงมันได้ ]] ที่ทาสุคุพูดหมายถึง [[ ซึ่งข้าก็คิดว่าคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงการขอถอนหมั้นของเธอได้ ]] นั้นจะกลายเป็น ตัวของทาสุคุไม่ได้ยอมรับ หรือยืนยันการยกเลิกการหมั้นหมายแต่อย่างใด

ขณะที่ฮาโรลด์กำลังตะลึงกับคำกล่าวของอิสุกิ อิสุกิก็จิบกาแฟที่เขาสั่งไปพลางๆ

หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาก็วางถ้วยกาแฟลงและหันมาเผชิญหน้ากับฮาโรลด์อีกครั้ง ซึ่งไม่รู้ว่าดวงตาของอิสุกิที่มองมาที่เขานั้นจริงจังหรือล้อเล่นกันแน่ แน่ฮาโรลด์ก็สังเกตเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมาที่หน้าผากของอิสุกิ

 

[ เอาจริงๆ นายมันเห็นแก่ตัวเกินไป นายตัดสินทุกๆสิ่งและทำทุกๆอย่างด้วยตัวเองคนเดียว จากนั้นก่อนที่นายจะรู้สึกตัวนายก็จะจมอยู่กับปัญหามากมายที่ถาโถมเข้ามาใส่แล้วตายไปเฉยๆโดยที่พวกเราไม่รู้อะไรเลย นายพยายามเอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่คนที่เป็นห่วงนายต้องรู้สึกไม่สบายใจอยู่ตลอด และแม้พวกเราจะไม่ดึงอารมณ์มาใส่ในเรื่องนี้ นายก็ยังปล่อยให้พ่อของชั้นดูแลฟาร์มซึ่งเป็นความคิดของนายอีกด้วย ซึ่งตอนนั้น ชั้นก็ถูกลากเข้ามาพัวพันกับเรื่องพวกนี้ด้วย แน่นอนว่าชั้นรู้สึกขอบคุณมากสำหรับสิ่งที่นายทำ และชั้นก็รู้ดีกว่าการบ่นเรื่องนี้กับนายมันไร้สาระเพียงใด แต่นายน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้สิ นอกจากนี้ นี่เป็นโอกาสดีที่จะบอกนายว่า ชั้นไม่จำเป็นต้องฟังความคิดเห็นแก่ตัวของคนอย่างนายสักหน่อย ! แม้ว่านายจะพยายามตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเราโดยคิดว่าการหมั้นหมายนี้จะสร้างปัญหาให้พวกเราตระกูลสุเมรากิหรืออะไรโง่ๆพวกนั้น แต่ต้องขอโทษด้วย พวกเรานั้นรอดพ้นวิกฤตินั้นมาได้แล้ว ต้องขอบคุณนาย แล้วทำไมพวกเราต้องสนใจชื่อเสียงแย่ๆของนายด้วย บางทีนายอาจจะคิดว่าชั้นเห็นแก่ตัวตอนนี้ ? แต่ชั้นไม่สน ชั้นจะตัดสินใจอย่างเห็นแก่ตัวเหมือนอย่างที่นายทำ ขณะที่ชั้นกำลังจะแต่งงาน ฉันได้รับมอบหมายหน้าที่มากมายที่เกี่ยวข้องกับตระกูลของชั้น และ 1 ในนั้นคือความรับผิดชอบในการตัดสินใจเกี่ยวกับการแต่งงานของเอริกะ โชคดีที่ “จดหมายฉบับนั้น” ที่นายส่งมาไม่ได้บอกต้องให้ท่านพ่อของชั้นเป็นคนตัดสินในสักหน่อย และชั้นจะพูดดังๆและชัดเจนอีกครั้ง ในฐานะผู้นำตระกูลสุเมรากิรุ่นถัดไปของ อิสุกิ สุเมรากิ จะไม่มีวันยอมรับการยุติการหมั้นหมายระหว่างนายกับเอริกะเป็นอันขาด ! ] – อิสุกิ 

 

ทุกๆคนต่างตกตะลึง ทั้งฮาโรลด์ พนักงานร้านกาแฟ แม้แต่ลูกค้าคนอื่นๆ จากการเทศนาอันยาวนานของอิสุกิและการประกาศออกมาเสียงดังฟังชัดในตอนท้าย เขากล่าวออกมาขณะยืนตัวตรงและกำมือขวาของเขาแน่นราวกับกับผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งอย่างไงอย่างงั้น

เห็นได้ชัดว่าอิสุกิไม่ได้ประมาทเลยเพราะเขาไม่ได้พูดชื่อของฮาโรลด์ออกมาเลยซักครั้งในการเทศนาครั้งนี้ แต่เขาพูดชื่อของสุเมรากิเพื่อเป็นการบอกใบ้เป็นนัยๆ แต่ในความคิดของฮาโรลด์ สิ่งที่สำคัญกว่าที่อิสุกิควรระวังคือ การทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจจากคนทั้งร้านแบบนี้ เพราะตัวของฮาโรลด์เองก็ทนกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน

 

[ แน่นอนว่าชั้นรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งจากสิ่งที่นายมอบให้พวกเรา แต่เรื่องนี้กับเรื่องนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน เป็นไง? แบบนี้ถือว่าชั้นเป็นที่สุดแห่งคนแก่ตัวได้รึยัง ? ] – อิสุกิ

[ อึก … นายเป็นเด็กกะโปโลรึไงฟระ ? ] – ฮาโรลด์

 

อิสุกิเผยใบหน้าและรอยยิ้มให้ชัยชนะออกมา มันเป็นคำพูดไร้สาระอย่างเด็กๆจนฮาโรลด์อดคิดไม่ได้นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะเนี้ย

มันยากที่จะบอกว่านี่มีเหตุผลได้ นอกจากความหงุดหงิดแล้ว ฮาโรลด์ยังรู้สึกกังวล และสงสัยว่าไอ้หมอนี่จะไปแต่งงานได้มั้ยนะทั้งๆที่สมองลมแบบนั้น

 

[ เอาจริงๆ ชั้นก็รู้ดีชั้นมีนิสัยแปลกๆ แต่อย่างน้อยชั้นก็ต้องไร้ยางอายให้มากพอเพื่อที่จะได้คบกับนายได้อย่างเท่าเทียม เอาจริงๆ ชั้นไม่ชอบที่ถูกนายเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ ] – อิสุกิ

[ เฮ้อ ในท้ายที่สุด ไม่ว่านายจะพูดอะไร การสนทนานี้ก็ถูกชักนำโดยอารมณ์ที่มาจากนิสัยชอบแข่งขันของนาย เอริกะช่างน่าสงสารจริงๆ ที่ต้องมาถูกพี่ชายเพี้ยนๆบังคับให้หมั้นหมาย ] – ฮาโรลด์

[ ฮึ ? เดี่ยวนะ ตะกี้นายเรียกชื่อเต็มของเอริกะงั้นเรอะ ? นายเรียกจริงดิ ! อ้อ ชั้นเข้าใจล่ะ เอริกะกับนาย .. ความสัมพันธ์ของพวกนายทั้งคู่แอบพัฒนาโดยที่พี่ชายคนนี้ไม่รู้เลย ] – อิสุกิ

(ชิ .. ! ไอ้หมอนี่เริ่มเหมือนพ่อเพี้ยนๆของมันแล้ว! ) – อิสุกิ

 

ดังคำกล่าวที่ว่า ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น อย่างไรก็ตาม  วิธีโต้ตอบของอิสุกิยังค่อนข้างแตกต่างจากพ่อของเขา  แต่ว่าก็ใช่จะแตกต่างขนาดนั้น อิสุกิมีทักษะที่ดีกว่าในการปลุกปั่นผู้คน ไม่สิ ไม่ใช่ว่านั้นเป็นทักษะที่ทำงานอัตโนมัติเหมือนพฤติกรรมเหยียดหยามของฮาโรลด์หรอกหรอ ? จะยังไงก็ช่าง อิสุกิมุ่งเป้าไปที่ทักษะนั้นและปรับให้เข้ากับเป้าหมายโดยเฉพาะได้ แต่ว่า หากลองคิดดูๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนๆหนึ่งจะปรับเปลี่ยนควบคุมพฤติกรรมตัวเองได้ คนที่แปลกคือฮาโรลด์มากกว่าที่ไม่สามารถควบคุมได้

 

[ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมัวแต่พูดล้นเล่น และชั้นมั่นใจว่านายเข้าใจในสิ่งที่ชั้นตั้งใจจะสื่อ ดังนั้น ชั้นจะมอบความไว้วางใจในนายทำหน้าที่กำจัดแมลงให้เอริกะ ] – อิสุกิ

[ ชั้นบอกนายไปแล้วว่ามันไม่— ] – ฮาโรลด์

[ นี่ของนาย มันคือจดหมายที่ชั้นได้รับมาจากศาสตราจารย์ ] – อิสุกิ

 

น้ำเสียงของอิสุกิยังน่ารำคาญเหมือนเคยขณะที่เขาหยิบม้วนกระดาษอะไรบางอย่างออกมาจากเสื้อ ฮาโรลด์ทำได้เพียงเปิดมันอ่านอย่างสิ้นหวัง ซึ่งเนื้อหาในจดหมายคร่าวๆคือ ยูสทัสได้มอบอำนาจในการออกคำสั่งกับฮาโรลด์ให้กับอิสุกิ 100 % จนกว่าจะถึงวันที่กำหนด พอลองคิดดูดีๆก่อนหน้านี้ที่ยูสทัสเคยบอกกับเขาไว้ว่า เขาไม่สิทธิ์ปฎิเสธข้อเรียกร้องของลูกค้า แสดงว่า ฮาโรลด์ถูกรุกฆาตตั้งแต่เริ่ม และไม่มีทางหนีจากบททดสอบในครั้งนี้ไปได้

 

[ ก็ตามนั้นแหละ ] – อิสุกิ

[ แล้วเอริ– .. แม่นั้นคิดยังไงกับเรื่องนี้ ? ] – ฮาโรลด์

[ ไม่เป็นไรหรอกน่า เรียกเอริกะด้วยชื่อเต็มก็ได้ …. เอริกะยังไม่รู้ว่านายจะมา ชั้นบอกเธอแค่ว่าชั้นจะออกไปพบกับเพื่อนและแอบย่องออกมา ] – อิสุกิ

[ วอท ? ] – ฮาโรลด์

[ มันจะได้เป็นการเซอร์ไพรส์ไง ] – อิสุกิ

 

มันเซอร์ไพรส์จริงๆนั้นแหละ เอาจริงๆ ถ้าหากนี่ไม่ใช่ช่วงเวลาแห่งความสุขที่อิสุกิกำลังจะแต่งงาน ฮาโรลด์อาจตัวระเบิดเองเพราะความเซอร์ไพรส์ไปแล้วก็ได้ แม้ว่าฮาโรลด์อยากจะโกรธอิสุกิที่หาเรื่องยุ่งยากให้กับเขาอีกแล้ว แต่เขาก็รู้ดีว่านี่เป็นวิธีการเอาคืนรูปแบบหนึ่งของอิสุกิเท่านั้น และยังไงซะเขาก็มาถึงที่เมืองนี้แล้ว แม้ว่าจะต้องจำใจร่วมงาน แต่ปัญหาคือปากที่น่ารำคาญของเขาเอง ไม่มีทางเลยที่เขาจะยกเลิกหรือเปลี่ยนน้ำเสียงเหยียดหยามนี้ได้

 

[ สำหรับคืนนี้ ชั้นจะให้นายพักอยู่โรงแรมที่ชั้นจองไว้ใกล้ๆแถวนี้ และพรุ่งก่อนเที่ยงชั้นจะมารับ พวกเราจะไปพบกับเอริกะและคนอื่นๆหลังจากนั้น ] – อิสุกิ

[ พักเรื่องเอริกะไว้ก่อน นายมีแผนจะแนะนำชั้นให้รู้จักกับคู่หมั้นของนายด้วย ? ] – ฮาโรลด์

[ แน่นอนสิ ก็เธอเป็นคู่หมั้นของชั้น ] – อิสุกิ

[ หยุด นี่มันเป็นความคิดที่แย่ ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์ สโตร์ก ชื่อนี่มาพร้อมกับชื่อเสียงที่ไม่ดีเอามากๆ หากวันหนึ่งฮาโรลด์ได้แต่งงานกับเอริกะจริงๆ นั้นก็แปลว่าเขาจะกลายเป็นญาติกับตระกูลคู่หมั้นของอิสุกิ ไม่ต้องสงสัยเลยถ้าอีกฝ่ายเคยได้ยินชื่อเสียงแย่ๆของ ฮาโรลด์ สโตร์ก คงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหลีกเลี่ยงมัน

ฮาโรลด์พยายามเกลี่ยกล่อมอิสุกิอีกครั้งเรื่องการแต่งงานของเขากับเอริกะ เพราะเรื่องนี้ อาจกลายเป็นปัญหาต่อการแต่งงานของอิสุกิได้ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยแล้ว มันอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้

 

[ ฮืมม ? ก็จริงว่ามันอาจเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นได้ แต่ว่า!! ถ้าหากเราให้พวกทหารของตระกูลจัดการทุกๆคนที่เข้ามาหาเรื่องนายจบหมอบก็สิ้นเรื่อง เอาตามนั้นแหละ !! ]  – อิสุกิ

 

และอีกครั้ง ที่อิสุกิตบมือเสียงดังขึ้นราวกับคิดไอเดียดีๆขึ้นได้ มันคือประวัติอันดำมือของฮาโรลด์ ไม่สิ นี่มันคือการเขียนประวัติอันดำมืดขึ้นมาใหม่

 

[ ใช่แล้ว! ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป นายคือคู่หมั้นของเอริกะ ท่านลอร์ด .. ลอร์ด สเตราส์! ] – อิสุกิ

 

————————

อิสุกิ good job ! อย่าให้ฮาโรลด์หนีไปได้ จับแต่งงานไวๆเลยยย

————————

สนับสนุนขนมแมวเลียผู้แปลโปร 11 เดือน 11 ได้ที่

กสิกร 0708329649 กิตติพิชญ์

————————

 

My Death Flags Show No Sign of Ending

My Death Flags Show No Sign of Ending

Status: Ongoing
เมื่อรู้สึกตัวอีกที เด็กหนุ่มมหาลัยธรรมดาๆอย่าง ฮิราซาวะ คาซุกิ ก็ดันมาอยู่ในร่างของตัวละครในเกมส์ ยิ่งกว่านั้น เขาดันมาอยู่ในร่างของ ” ฮาโรลด์ สโตร์ก” สุดยอดตัวร้ายที่มีคนเกลียดมากที่สุดในเกมส์ เจ้าของฉายา [ ราชาสวะ ] สำหรับเขาตอนนี้ มองไปทางไหนก็เจอแต่ธงตายอยู่รายล้อมเต็มไปหมด! คาซูกิจะหาทางหลบเลี่ยงธงตายเหล่านั้นได้หรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท