My Death Flags Show No Sign of Ending – ตอนที่ 70 แผนการปั้มเวลให้เจ้าชายผู้อาภัพ

My Death Flags Show No Sign of Ending

 

มันก็ผ่านมาแล้วเกือบ 2 ชม. ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไร้สาระที่มาจากฝีมือของฟรานซิสและอิสุกิ และตอนนี้ พวกเขาทั้ง 2 กำลังเดินนำทางฮาโรลด์มาสถานที่แห่งหนึ่งบริเวณรอบนอกเมืองคาบุลัน มันเป็นบ้านริมทะเลสาบที่ถูกตกแต่งสไตล์ตะวันตกสีขาวสะอาดท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม อาคารและสวนได้รับการดูแลอย่างดี เห็นได้ชัดว่าบ้านหลังนี้เป็นทรัพย์สินส่วนหนึ่งของตระกูลเบอร์ลิออสที่ถูกจัดเตรียมสถานที่เอาไว้ให้แก่พวกเขา

 

[ จริงๆบ้านหลังนี้ถูกประกาศขายอยู่ แต่ว่าตอนนี้จะยังไม่มีผู้ซื้อ ] – อิสุกิ

 

“อืม ก็พอเข้าใจได้อยู่” นั้นคือสิ่งที่ฮาโรลด์คิด ถึงแม้ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นค่อนข้างไกลจากตัวเมือง แต่มันถือว่าเป็นทำเลที่ดีมากเพราะมีทั้งทะเลสาบและภูเขาอยู่ด้านหลัง ผนังสีขาวบริสุทธิ์ของอาคารสะท้อนกับพื้นน้ำสีฟ้าดูงดงามเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีเรือที่ทอดอยู่ริมทะเลสาบและกะท่อมหลังหนึ่งไม่ไกลจากบริเวณบ้านนัก

“ถ้าจะซื้อบ้านหลังนี้ต้องมีเงินเท่าไหร่กันเนี้ย” หากไม่ใช่ขุนนางก็นึกไม่ออกว่าคนธรรมดาจะหาเงินมาซื้อทั้งหมดนี้ได้ยังไงเหมือนกัน

 

[ มันถือว่าไม่เลวเลยสำหรับใช้เป็นบ้านพักตากอากาศ ถึงแม้มันจะเล็กไปหน่อยก็เถอะ ] – ฟรานซิส

[ ใช่มั้ยล่ะ ? ราคาก็ถือว่าสมเหตุสมผล แต่ที่ยังขายไม่ออกคงเป็นเพราะที่ตั้งล่ะนะ ] – อิสุกิ

 

 

ทั้ง 2 ที่เติมโตมาในสังคมชนชั้นสูงกำลังสนทนากันโดยไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของฮาโรลด์เลยซักนิด ถึงจะเรียกว่าบ้าน 2 ชั้น แต่มันถือว่ามีห้องเล็กๆค่อนข้างมากมายจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นโรงแรมขนาดย่อมๆได้เลย ดังนั้นฮาโรลด์จึงนึกไม่ออกว่ามันจะไปเล็กตรงไหน แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเรียกว่าบ้านพักตากอากาศก็เถอะ ถึงกระนั้น ดูยังไงมันก็ยังใหญ่กว่าคฤหาสน์สโตร์กเสียอีก เจ้าพวกชนชั้นสูงพวกนี้ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ากำลังดูถูกชนชั้นรากหญ้า

และเหตุที่ทั้ง 3 เดินทางมาสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้เพื่อจะมาเยี่ยมชมเพื่อซื้อแต่อย่างใด นั้นเพราะเกี่ยวกับเรื่องการดวลก่อนหน้านี้ เนื่องจากพวกเขายังหาสถานที่ที่จะดวลกันไม่ได้ และมันคงไม่ดีเท่าไหร่ที่จะก่อความวุ่นวายในคฤหาสน์ของตระกูลเบอร์ลิออสอีก ดังนั้นพวกเขาทั้ง 3 จึงเดินทางออกมาจากคฤหาสน์เบอร์ลิออสโดวยอ้างว่า “ฟรานซิสกำลังมองหาบ้านพักตากอากาศ ดังนั้น พวกเราจะพาเขาไปเยี่ยมชมเมืองและไปดูบ้านพักตากอากาศนะ” 

และสถานที่ที่พวกเขาต้องการนั้นคือที่ที่ค่อนข้างกว้างซักหน่อย ห่างไกลสายตาผู้คน และสามารถดวลกันได้อย่างไร้ข้อจำกัด ซึ่งสถานที่แห่งนี้ก็เข้าเงื่อนไขทั้งหมดที่พวกเขาทั้ง 3 ต้องการ

 

[ หากนายจะซื้อบ้านหลังนี้ ช่วยมาซื้อตอนที่ชั้นไม่ได้มาด้วย ] – ฮาโรลด์

[ ใช่แล้ว อิสุกิ จะให้พวกเราไปดวลกันตรงไหน ? ] – ฟรานซิส

[ งั้นไปแถวๆส่วนด้านหลังอาคารกันเถอะ ] – อิสุกิ

 

ดังนั้น อิสุกิจึงพาฟรานซิสและฮาโรลด์ไปยังสถานที่ที่ใช้เลี้ยงม้าด้านหลังที่มีรั้วกั้นล้อมรอบ แน่นอนว่าการขี่ม้าเป็นงานอดิเรกของชนชั้นสูง เพราะแม้แต่คฤหาสน์ของตระกูลสโตร์กก็ยังมีคอกม้า และใช้ม้าสำหรับเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ

แน่นอนว่าสถานที่ตอนนี้มันต้องว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง ถึงแม้จะมีการดูแลสถานที่โดยรอบอยู่เสมอ แต่การขาดม้าในสถานแห่งนี้ไปมันเลยดูไม่เข้ากันสักหน่อย

 

[ ที่นี่แหละ พวกเราสามารถดวลกันได้อย่างเต็มที่แน่นอน ] – อิสุกิ

[ ใจเย็น อย่าให้มันดุเดือดขนาดนั้นเลยจะได้ไหม ] – ฟรานซิส

[ อย่ากังวล ชั้นจะไม่ชักดาบ ] – ฮาโรลด์

 

ด้วยคำพูดเหล่านั้นของฮาโรลด์ ทั้งอิสุกิและฟรานซิสต่างตกตะลึง แต่นั้นก็ถือว่าเป็นปฎิกิริยาปกติสำหรับคนที่ได้ยินคนพูดว่าจะไม่ชักดาบในการดวล หลังจากตะลึงไปชั่วครู่ ฟรานซิสที่เริ่มจะโกรธก็ถามกลับฮาโรลด์

 

[ นายหมายความว่ายังไง ? ] – ฟรานซิส

[ นายสมองกลวงเลยไม่เข้าใจที่ชั้นพูดรึไง ? ดาบน่ะ ไม่จำเป็นสำหรับคู่ต่อสู้เช่นแกหรอกนะ ไอ้โง่ ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์รู้ดีว่าคำพูดที่เขาพ่นออกไปมันเหยียดหยามความรู้สึกของฟรานซิสขนาดไหน แต่ว่า สำหรับฮาโรลด์ในตอนนี้ เขาไม่มีทางที่จะแพ้ให้กับฟรานซิสได้อย่าง 100 %

จากหลายๆสิ่งที่เคยตรวจสอบมาเกี่ยวกับโลกแห่งนี้ในหลายปีที่ผ่านมา ฮาโรลด์พบว่าที่โลกแห่งนี้มี “ระบบ”แบบเกมส์ [Brave Hearts] อยู่ ซึ่งสำหรับตอนนี้ ตัวของฮาโรลด์น่าจะมีเลเวลตัวละครราวๆ 70 ซึ่งตอนในเกมส์นั้น ผู้เล่นจะมีเหตุการณ์ที่ต้องได้ต่อสู้กับตัวละครฮาโรลด์ 3 ครั้งด้วยกัน และในครั้งสุดท้ายนั้น ตัวละครฮาโรลด์จะมีเลเวลอยู่ที่ 70

ซึ่งจริงๆแล้วฮาโรลด์ไม่สามารถมองเห็นจอแสดงค่าสถานะหรืออะไรที่สามารถยืนยันเลเวลของเขาได้หรอก แต่เขาสามารถคำนวนด้วยได้ตนเองจากการทดลองต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวเดิมซ้ำๆหลาย 100 ครั้ง ซึ่งเขาก็พบว่าด้วยการโจมตีเดิมแต่ละครั้งพลังโจมตีของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในท้ายที่สุดก็สามารถฉับเดียวตายได้

นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากในการคำนวน และสมมติว่าระบบอัพเลเวลในโลกแห่งนี้เหมือนกับระบบภายในเกมส์จริงแล้วล่ะก็ หากเขายังคงต่อสู้ไปเรื่อยๆ เลเวลของเขาก็คงค่อยๆอัพขึ้นไปเรื่อยๆที่ละ 1 หรือ 2 ขั้นแบบช้าๆ แต่ว่า หากเขาเผลอได้อัพ exp แบบมหาศาลโดยรวดเดียว บางทีตอนนั้นเขาคงไม่สามารถคาดการณ์เลเวลของตนได้อย่างแม่นยำได้

ดังนั้น เขาจึงใช้เทคนิคอื่นในการตรวจสอบเลเวลของตนเอง ภายในเกมส์ [[Brave Hearts]] นั้น ตัวละครอื่นๆเช่นเดียวกับตัวละครหลัก รวมถึงฮาโรลด์และวินเซนต์ในเกมส์ จะมีการปลดระดับท่าโจมตีรูปแบบต่างๆตามระดับเลเวลของตัวละครภายในเกมส์ และในตอนที่เขามาถึงที่โลกแห่งนี้ อย่างแรกเลย ฮาโรลด์พยายามใช้ท่าต่างๆระดับสูงภายในเกมส์ดู แน่นอนว่าผลลัพธ์มันออกมาได้แย่มาก การเคลื่อนไหวหลายๆอย่างเขาไม่สามารถทำได้ ซึ่งผลการทดลองหลายๆอย่างสรุปว่า มีเพียง 2 อย่างเท่านั้นที่เขาเจอนั้นคือสามารถใช้ท่าการโจมตีนั้นออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบกับใช้การไม่ได้เลย ซึ่งไอ้พวกท่าที่ไม่สามารถใช้ได้มาก่อนนั้น อยู่มาวันหนึ่งมันก็กลับใช้การได้เฉย และด้วยเหตุนี้เองฮาโรลด์จึงสรุปว่าภายในโลกแห่งนี้มีระบบการอัพเลเวลอยู่เหมือนกับภายในเกมส์ Brave Hearts นั้นเอง

ในเกมส์ ตอนที่เราจะต้องสู้กับฮาโรลด์เป็นครั้งสุดท้ายนั้น ตอนนั้นฮาโรลด์จะมี HP ราวๆ 140,000 ซึ่งอาจจะมากกว่าความเป็นจริงเพราะตอนนั้นฮาโรลด์จะอยู่ในสภานะคลุ้มคลั่ง แต่ว่าในตอนที่ได้ต่อสู้กับฮาโรลด์ในครั้งที่ 2 ฮาโรลด์ในตอนนั้นจะมี HP อยู่ที่ 90,000 ดังนั้น HP ของฮาโรลด์ในปัจจุบันน่าจะอยู่ระหว่างๆช่วงนี้

ในทางกลับกัน ระดับเลเวลของฟรานซิสนั้นจะถูกกำหนดให้เฉลี่ยๆเท่าๆกับคนอื่นๆในปาร์ตี้ ณ ตอนที่เขาเข้าร่วมปาร์ตี้ แม้สิ่งนี้จะขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าจะเก็บเลเวลปาร์ตี้ของตนไว้ที่เท่าไหร่ แต่ว่าฟรานซิสมักจะอยู่ในฉากที่ได้เข้าร่วมปาร์ตี้ราวๆเลเวล 30

สมมติว่าตอนนี้ฟรานซิสเลเวล 30 และฮาโรลด์ที่มีHP 100,000 – ดังนั้น HPของฮาโรลด์จะสูงกว่าฟรานซิสอยู่ราวๆ 10 เท่า แม้ว่าฟรานซิสจะไม่ได้เด่นเรื่องพลังโจมตีเท่าไหร่นัก แต่ว่าต่อให้เขาในตอนนี้จัดชุดใหญ่ 100 คอมโบใส่ฮาโรลด์ ก็ไม่อาจจัดการเขาได้นั้นเอง

อย่างไรก็ตาม มันมีข้อยกเว้นสำหรับทุกสิ่งอยู่เสมอ ภายในเกมส์นั้น มันมีรูปแบบการโจมตีที่เรียกว่าการโจมตีจุดตายอยู่ ซึ่งจะแสดงผลก็ต่อเมื่อสามารถโจมตีเข้าจุดสำคัญของศัตรูได้ ภายในเกมส์นั้น ความเสียหายจะ*2หากโจมตีเข้าจุดตาย แต่สำหรับโลกนี้ที่มีระบบของเกมส์ผสมรวมอยู่ด้วย มันคงไม่สามารถคำนวนเป็นตัวเลขดาเมทได้ง่ายดายอะไรแบบนั้น

ในเกมส์นั้น มังกรไฮดร้าที่ถูกฮาโรลด์ฆ่าไปตอนอยู่บนเขากิรันจะมี HP อยู่ราว 20,000 และการโจมตีของลีฟาก็สร้างความเสียหายไปได้แค่ราวๆ 1 ใน 3 ของ HP ทั้งหมดเท่านั้น ถึงกระนั้น ฮาโรลด์ก็สามารถจัดการมันได้โดยการโจมตีเพียงครั้งเดียว โดยการตัดหัวของมัน และเขาก็สังหารอีกตัวด้วยการโจมตีไม่ถึง 10 ครั้งจากเลือดเต็มหลอด ไม่ใช่เพราะพลังโจมตีของฮาโรลด์สูงอะไร มันเป็นเพราะฮาโรลด์เล็งโจมตีจุดสำคัญต่างๆของมังกรนั้นเอง

มันต้องใช้เลเวลและทักษะขั้นสูงหลายๆอย่างจึงสามารถโจมตีเข้าจุดตายของมังกรไฮดร้าได้ และแน่นอนว่า หากคุณยิ่งเลเวลสูงขึ้นพลังป้องกันหลายๆอย่างก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย นั้นจึงทำให้มังกรไฮดร้านั้นแข็งแกร่ง แต่ด้วยระบบการโจมตีจุดตายนี้ แม้ว่าจะเลเวลเพียงแค่ 1 หากคุณเผลอลดการป้อง ก็สามารถโดนลอบโจมตีเข้าจุดตายได้ และสำหรับโลกใบนี้ หากโดนเข้าที่จุดตาย อาจหมายถึงชีวิต

สรุปคือ หากเขาระวังไม่ให้โดนโจมตีเข้าจุดตาย ก็ไม่มีอะไรสามารถขวางเขาสู่ชัยชนะได้

ในทางกลับกัน ฟรานซิสคงจะเจ็บหนัก หากรับการโจมตีของฮาโรลด์เข้าไป ดังนั้นเขาจึงต้องต่อให้ฟรานซิสถึงขนาดไม่ใช้ดาบในการดวลนั้นเอง

 

[ …. ฉันจะทำให้นายถอนคำพูดพวกนั้นให้ได้ ] – ฟรานซิส

[ ตามสบาย อยากทำอะไรก็ทำ หากนายสามารถทำให้ชั้นชักดาบออกมาได้จริงๆ ก็ถือว่านายชนะไปเลย ] – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์กล่าวออกมาอย่างเย้ยหยั่น

นั้นถือว่าเป็นข้ออ้างที่ดีในการแกล้งแพ้กรณีที่พลังของทั้ง 2 แตกต่างกันมากจนเกินไป มันคือแผนการที่ฮาโรลด์วางเอาไว้ โดยการยั่วยุให้ฟรานซิสบุกโจมตีด้วยทั้งหมดที่มีเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง และในตอนที่ฮาโรลด์รู้สึกถึงอันตราย เขาจะยกดาบขึ้นมาป้องกันและแกล้งแพ้ไปในที่สุด

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฮาโรลด์ก็เดินเข้าไปภายในรั้วที่มีฟรานซิสยืนรออยู่ในใจกลางของของสนามขี่ม้า ที่ซึ่งตอนนี้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้กำลังลุกโชน

 

[ นี่คือการยืนยันครั้งสุดท้าย ฮาโรลด์ สโตร์ก และ ฟรานซิส เจ อาร์คไวท์ พวกนายทั้งคู่กำลังจะดวลกัน และชั้น อิสุกิ สุเมรากิ จะเป็นผู้ตัดสิน การดวลนี้จะจบลงก็ต่อเมื่อ ฮาโรลด์สโตร์กใช้อาวุธของเขา หรือ ใครคนหนึ่งยอมแพ้ หรือ ชั้นเห็นว่าการต่อสู้นี้จบลงแล้ว มีใครจะคัดค้านอะไรมั้ย ? ] -อิสุกิ

[ [ ไม่ ] ]

 

เสียงของทั้งคู่ทับซ้อนกัน และในขณะที่สมาธิของทั้งสองกำลังจดจ่ออยู่กับอีกฝ่ายก็มีคำพูดๆหนึ่งดังขึ้น —

 

[ ถ้าเช่นนั้น ขอเริ่มต้นการดวลเพื่อแย่งชิงตำแหน่งผู้ที่จะได้แต่งงานกับ เอริกะ สุเมรากิ ณ บัด— ] – อิสุกิ

[ เดี่ยวสิเห้ย ] – ฮาโรลด์

 

สมาธิของฮาโรลด์ถูกทำลายลงด้วยคำพูดของอิสุกิ นั้นเพราะเมื่อกี้หากเขาฟังไม่ผิด อิสุกิพูดว่าการดวลนี้เพื่อที่จะได้แต่งงานกับเอริกะ

 

[ มีอะไรรึ ? ] – อิสุกิ

[ นายยังมีหน้ามาถามอีกว่ามีอะไรรึ? การแต่งงานกับเอริกะมาเกี่ยวข้องกับการดวลครั้งนี้ได้ยังไงฟร่ะ ? ] – ฮาโรลด์

 

อิสุกิไม่ได้พูดว่าหมั้น แต่เป็น แต่งงาน หรือก็คือ ผู้ที่ชนะการดวลนี้จะได้แต่งงานกับเอริกะ แต่นี่มันแปลก ก็เพราะผลของการดวลนี้คือ หากฮาโรลด์ชนะ ฮาโรลด์จะได้สิทธิ์สั่งฟรานซิสได้ 1 ข้อ และหากฟรานซิสชนะ ฮาโรลด์จะต้องหายไปจากชีวิตของอิสุกิและเอริกะ

 

[ ไม่เป็นไรน่า หากนายอยากจะแต่งงานกับเอริกะ นายก็แค่เอาชนะการดวลนี้เท่านั้นเอง ] – อิสุกิ

[ ไอ้งั้ง นั้นไม่ใช่สิ่งที่ชั้นกังวลซักหน่อย ] – ฮาโรลด์

[ นอกจากนี้ ยังไงซะตอนนี้นายก็กำลังหมั้นอยู่กับเอริกะ สุดท้ายก็จะได้แต่งงานกันเหมือนเดิม แต่ถ้านายแพ้ ฟรานก็จะได้สานสัมพันธ์กับเอริกะต่อเหมือนก่อนหน้านี้ ? ใช่ไหมล่ะ ไม่เห็นมีอะไรแตกต่างเสียหน่อย ? ] – อิสุกิ

[ มันโครตจะแตกต่างเลยต่างหาก … เพราะเห็นชัดๆว่าความตั้งใจของนายคือ- ] – ฮาโรลด์

[ เดี่ยวๆ ขอเวลาเดียว ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ว่า .. สรุปสั้นๆ ถ้าฉันชนะ ฉันสามารถทำให้เอริกะเป็นภรรยาของฉันได้ใช่รึปล่าว ? ] – ฟรานซิส

[ แน่นอน แต่ชั้นค่อนข้างแน่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับนาย ฟราน ] – อิสุกิ

 

อิสุกิยั่วยุฟรานซิสออกมาพร้อมกัยรอยยิ้ม บางทีบุคคลิกนี้คงได้รับอิทธิพลมาจากฮาโรลด์แน่ๆ อย่างไรก็ตาม ฟรานซิสเลือกที่จะหลับตาลง และกอดอกของเขา และจมอยู่ในภวังอย่างเงียบๆ หลังจากเขาทำอยู่แบบนั้นสักพัก เขาก็ลืมตาขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่มุ่งมั่นมากกว่าเดิม

 

[ จู่ๆฉันก็รู้สึกมีแรงจูงใจขึ้นมา มาเอาจริงกันเถอะ ฮาโรลด์! ] – ฟรานซิส

 

ดวงตาสีเขียวมรกตของฟรานซิสเป็นประกาย ขณะที่เขาดึงดาบเรเปียออกมาพร้อมกับตั้งท่า

ฮาโรลด์รู้สึกว่านี่มันท่าไม่ดีแล้ว 

พร้อมกับเสียงของอิสุกิที่ประกาศเริ่มต้นการดวล ฮาโรลด์ก็รู้สึกได้ทันทีว่าเขานั้นคิดถูก

ฟรานซิสลดระยะห่างระหว่างเขากับฮาโรลด์เพียงชั่วอึดใจพร้อมกับแทงเรเปียเข้ามา แม้ว่ามันจะไม่รวดเร็วพอที่จะสามารถเอาชนะฮาโรลด์ได้ เพราะเขายังสามารถตอบสนองและหลบมันได้ทัน อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นการโจมตีที่รุนแรงและเฉียบคมกว่าที่ฮาโรลด์คาดเอาไว้ นั้นคือเหตุผลที่ฮาโรลด์ตอบสนองและหลบมันไปด้วยสัญชาตญาณ การโจมตีครั้งนี้ของฟรานซิสคงจะเป็นการ “ทุ่มสุดตัว” ของเขาจริงๆ

 

(อะไรฟร่ะเนี้ย หมอนี่เปิดใช้งานสถานะผู้กล้าตั้งแต่เริ่มเลยเรอะ ?) – ฟรานซิส

 

มันคือสถานะที่ทำให้ผู้ใช้แทบจะไร้เทียมทาน เช่นเดียวกับที่ไลเนอร์ใช้ตอนงานประลอง มันมีข้อได้เปรียบมากมาย ทั้งเพิ่มพลังโจมตี ลดความเสียหายที่ได้รับลงครึ่งหนึ่ง เพิ่มสถานะป้องกันการโจมตีที่ทำให้ถูกผลักกระเด็น และจะไม่สามารถถูกโจมตีถึงตายได้หากอยู่ในสถานะนี้

อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้จะต้องใช้ “เกจพลัง” ที่สามารถเก็บได้จากการเก็บคอมโบการโจมตีและป้องกัน มันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเปิดใช้งานได้ตั้งแต่เริ่มต้นการดวล

 

( ระ- รึว่า สำหรับโลกนี้มันไม่จำเป็นจะต้องเก็บเกจ ? นี่ไม่ตลกเลยนะโว้ย หากแค่รู้สึกมุ่งมั่นมากพอก็จะสามารถใช่มันได้ ? ล้อกันเล่นรึไง ? ยิ่งกว่านั้น !! … ) – ฮาโรลด์

 

ฮาโรลด์ได้แต่หลบและหลบและหลบอย่างเดียวพร้อมกับพยายามจัดการกับความคิดที่เริ่มยุ่งเหยิงของเขา เดิมที แม้ว่าเขาวางแผนที่จะแกล้งแพ้เอาไว้ แต่เขาก็ตั้งใจที่จะหลบแค่การโจมตีที่เขาสามารถคาดเดามันได้อย่างง่ายๆเท่านั้น

แต่ด้วยตรรกะของโลกนี้ว่าด้วยเรื่องเกจถูกทำลายลง ทำให้เขาลืมแผนการเสริมพลังให้ฟรานซิสไปซะสนิท

 

โดยแผนที่ฮาโรลด์วางเอาไว้นั้นคือการซัดฟรานซิสจนหมอบด้วยมือเปล่า และฟื้นฟูเขาด้วยไอเทมบางอย่างที่เตรียมมา เพื่อให้ฟรานซิสฟื้นตัวและได้รับ “ค่าประสบการณ์” ที่ได้รับจากการต่อสู้กับฮาโรลด์

เหมือนกับที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านี้ ว่าที่โลกใบนี้นั้นมีระบบเลเวลอยู่ นั้นก็หมายความว่าค่าประสบการณ์ที่ได้รับนั้นมาจากการต่อสู้ โดยตัวละครที่ลงสนามต่อสู้จะได้รับ exp 100%หากชนะ ส่วนตัวละครที่ใกล้ตายหรือถูกเก็บไว้สำรองจะได้รับ exp 70% และแน่นอนว่าต่อให้แพ้ ก็ยังมีได้ exp บ้างนิดหน่อย และภายในเกมส์ Brave Hearts นั้น พวกสัตว์ประหลาดในเกมส์จะไม่ได้ให้ exp มากมายอะไรนัก แต่นั้นไม่ใช่สำหรับตัวละครประเภท Boss เพราะพวกมันให้ exp เยอะมาก

ซึ่งในกรณีนี้ ฮาโรลด์ถือว่าเป็นตัวละครประเภท Boss ผู้ซึ่งเข้าปะทะกับตัวละครผู้กล้าบ่อยที่สุดในเกมส์ 

โดยการปะทะครั้งแรกฮาโรลด์จะมอบค่าประสบการณ์ให้ 8000 แต้ม , 35,000 สำหรับการปะทะครั้งที่ 2 และ 72,000 ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย และหากที่ระดับของฮาโรลด์ ณ ปัจจุบัน ถ้าเขาแพ้ คงมอบค่าประสบการณ์ราวๆ 60,000 

ซึ่งต่อให้ฟรานซิสแพ้ในการดวล ผู้แพ้ก็จะยังได้รับค่าประสบการณ์ 10% ซึ่งในกรณีนี้ ก็คือ 6000 

และที่เลเวล 30 จะต้องใช้ค่าประสบการณ์ 5000 ในการเพิ่มเลเวล จนถึงเลเวล 35 จะเริ่มใช้ค่าประสบการณ์ มากกว่า 6000 ขึ้นไป นั้นแสดงว่า ตอนนี้ฟรานซิสจะเลเวลอัพหลังจากที่แพ้ให้กับฮาโรลด์ 1 หรือ 2 ครั้งนั้นเอง

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้มันก็เพียงแค่การคำนวนคร่าวๆของฮาโรลด์เท่านั้น และเขาก็ไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงเหล่านี้ได้ ซึ่งมันยังมีความเป็นไปได้ที่ว่า ไม่ว่าเขาจะซัดฟรานซิสจนหมอบไปซักกี่ครั้ง มันก็อาจกลายเป็นเรื่องไร้ความหมาย

อย่างไรก็ตาม หากสมมติฐานนี้ถูกต้องจริงๆ ฮาโรลด์ก็จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฟรานซิสได้อย่างมหาศาล แม้จะมีข้อผูกมัดอยู่บ้างแต่ตอนนี้ถือโอกาสทองที่เขายังสามารถเคลื่อนไหวทำเรื่องต่างๆได้อย่างอิสระ ก่อนที่จะกลับไปเป็น”หมาก” ให้กับยูสทัส และมันคงยากที่จะหา”โอกาส” ออกมาต่อสู้กับ ไลเนอร์และปาร์ตี้ของเขาเหมือนดั่งในเกมส์

ดังนั้น ถ้าฮาโรลด์จะลงมือ ก็ต้องตอนนี้เท่านั้น เพื่อ ฟรานซิส ผู้ที่ผู้เล่นเกมส์ส่วนใหญ่ตั้งกร่นด่า ถูกด่าว่าไม่เหมาะสมที่เป็น 1 ในตัวละครปาร์ตี้ผู้กล้า ถูกตั้งฉายาให้ว่า “ไอ้กาก” “ทำได้ทุกด้านแต่ไม่ดีสักด้าน” “เจ้าชายผู้อาภัพ” หรือแม้กระทั้งความท้าทายที่ผู้เล่นตั้งกันเองโดย “เคลียเกมส์โดยใช้ตัวละครฟรานซิสเท่านั้น” 

นี่ถือเป็นความสำเร็จเล็กๆหากฮาโรลด์สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฟรานซิสได้จริง และระดับพลังโดยรวมของปาร์ตี้ผู้กล้าจะต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน

ส่วนเรื่องที่เขาจะไปแกล้งแพ้ตอนไหน เรื่องนั้นฮาโรลด์ตัดสินใจว่าค่อยคิดระหว่างดวลละกัน

ด้วยความรู้สึกสิ้นหวังเล็กๆนี้ ฮาโรลด์จึงเตะป๊าบเข้าไปที่สีข้างของฟรานซิส

 

——————————–

 

ปล. อีก 3 ตอนจบเล่ม 3 จะพยายามให้ทันก่อนปีใหม่นะ : )

 

My Death Flags Show No Sign of Ending

My Death Flags Show No Sign of Ending

Status: Ongoing
เมื่อรู้สึกตัวอีกที เด็กหนุ่มมหาลัยธรรมดาๆอย่าง ฮิราซาวะ คาซุกิ ก็ดันมาอยู่ในร่างของตัวละครในเกมส์ ยิ่งกว่านั้น เขาดันมาอยู่ในร่างของ ” ฮาโรลด์ สโตร์ก” สุดยอดตัวร้ายที่มีคนเกลียดมากที่สุดในเกมส์ เจ้าของฉายา [ ราชาสวะ ] สำหรับเขาตอนนี้ มองไปทางไหนก็เจอแต่ธงตายอยู่รายล้อมเต็มไปหมด! คาซูกิจะหาทางหลบเลี่ยงธงตายเหล่านั้นได้หรือไม่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท