นี่ถือเป็นการตัดสินใจอันขมขื่นสำหรับฮาโรลด์ แม้ว่าที่ดินแดนสุเมรากิจะไม่ใช่ภัยคุกคามโดยตรงต่อชีวิตของเขา แต่มันก็เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยธงอันตรายพอๆกับการทำงานภายใต้การดูแลของยูสทัส เพราะที่ดินแดนแห่งนี้มีระเบิดลูกใหญ่ที่เรียกว่าเอริกะอาศัยอยู่
นอกจากนี้ การที่ลีฟาถูกยูสทัสจับตามอง หมอนั้นก็คงรู้ตัวแล้วว่าฮาโรลด์กำลังเดินทางไปกับเธอด้วยเช่นกัน กล่าวโดยสรุปคือ หมอนั้นคงพบความเชื่อมโยงที่ฮาโรลด์มีกับตระกูลสุเมรากิอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อรู้ว่าเหตุการณ์จะกลายมาเป็นเช่นนี้ แต่ทำไมยังเดินทางมาดินแดนของสุเมรากินั้นก็เพราะว่า หากเขาปล่อยให้ลีฟาลงมือด้วยตัวเองต่อไปเรื่อยๆ มีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะถูกฆ่าตาย แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ฮาโรลด์ก็เดาไม่ออกเช่นกันว่าเนื้อเรื่องจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน
และเมื่อพิจารณาความคืบหน้าของไลเนอร์และชาวคณะ คงมีเวลาอีก 2-3 เดือนกว่าศึกสุดท้ายจะมาถึง ดังนั้นจากนี้เป็นต้นไป ยูสทัสคงจะต้องหัวหมุนอยู่กับปัญหาที่ไลเนอร์เป็นคนก่อขึ้นเรื่อยๆแน่ ซึ่งเป้าหมายจริงๆของฮาโรลด์ก็คือคอยซ้อนแผนของยูสทัสและคอยสนับสนุนคนอื่นๆอยู่เบื้องหลัง แต่ในเมื่อเหตุการณ์ดำเนินมาถึงจุดนี้ ก็คงไม่มีน่าที่อะไรที่ฮาโรลด์สามารถทำได้อีก และก่อนที่ยูสทัสจะรู้ตัวว่าถูกหักหลัง ฮาโรลด์ก็หวังว่าเขาเองจะชิ่งหนีได้ทันเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเขาควรเสี่ยงชิ่งตั้งแต่ตอนนี้เลยดีมั้ย ?
ความจริงคือ ฮาโรลด์ก็คิดมาสักพักใหญ่แล้วว่ายูสทัสคงจะต้องสงสัยในตัวของเขา แม้ว่าฮาโรลด์จะไม่ได้รู้สึกถึงมันจากคำพูดหรือการกระทำของยูสทัสเลย แต่ถ้าหากพิจารณาจากมุมมองของบุคคลที่ 3 เป็นไปไม่ได้ที่ยูสทัสจะไม่รู้สึกสงสัยแน่ๆ
และเหตุผลที่ทำให้ยูสทัสจับตาดูความเคลื่อนไหวของลีฟาก็เพราะฮาโรลด์พาเธอเข้ามาหาเขาอย่างโจ่งแจ้งจนเกินไป กล่าวอีกนัยคือ คนที่ทำให้ลีฟาตกอยู่ในอันตรายคือตัวของเขาเอง
ถึงกระนั้น ยูสทัสก็ยังคงเก็บตัวของฮาโรลด์เอาไว้ข้างกาย อาจเพราะเขายังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะเปิดโปงตัวของฮาโรลด์ได้ หรือบางทียูสทัสอาจจะยังมองว่าฮาโรลด์ยังคงมีประโยชน์สำหรับเขาอยู่ ดังนั้นฮาโรลด์จึงตัดสินใจว่าจะพยายามทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้จนกว่าเรื่องจะแดงออกมา
สำหรับในปัจจุบัน ลีฟาคือกุญแจดอกสุดท้ายในการโค่นล้มยูสทัสของปาร์ตี้ผู้กล้า ถ้าฮาโรลด์สามารถพาเธอเข้าร่วมชาวคณะได้สำเร็จ ก็ถือว่าได้งานของฮาโรลด์เสร็จสมบูรณ์ ที่เหลือหลังจากนั้นเขาก็เพียงแค่ไปไล่เก็บไอเท็มสำคัญต่างๆและทำงานอยู่เบื้องหลัง ให้คำแนะนำต่างๆกับกลุ่มฟรีรี่ เพื่อให้สิ่งต่างๆดำเนินไปอย่างราบลื่น
ดังนั้น ถ้าหากยูสทัสจะสงสัยเขา ก็สงสัยไปเถอะ กว่าหมอนั้นจะรวบรวมหลักฐานเปิดโปงตัวของเขาได้ฮาโรลด์คงหนีไปไหนต่อไหนแล้ว
สิ่งที่เหลือให้ฮาโรลด์ต้องทำมีเพียงเอาชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้จนกว่าจะถึงศึกสุดท้าย และกว่าจะถึงตอนนี้ ความชั่วร้ายที่ยูสทัสปกปิดเอาไว้คงถูกเปิดโปงไปแล้ว และต่อให้ถูกยูสทัสตามไล่ล่าจริง เขาก็แค่ทนหนีต่อไปสัก 2-3 เดือนก็พอ
ดังนั้น ความสงสัยที่ยูสทัสมีต่อฮาโรลด์จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่สำหรับตอนนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงจริงๆคือชีวิตของลีฟา หากเธอยังมัวทำอะไรตามใจอยู่แบบนี้ ชีวิตของเธอคงตกอยู่ในอันตราย เว้นเสียแต่ว่าฮาโรลด์หรือกลุ่มของไรเนอร์อยู่กับเธอด้วย ดังนั้น ในเมื่อใช้คำพูดโน้มน้าวไม่ได้ผล ฮาโรลด์จึงคิดว่าแสดงให้เธอเห็นด้วยการกระทำน่าจะเห็นผลกว่า
และนั้นคือเหตุผลว่าทำไมฮาโรลด์ถึงเดินทางมาที่ดินแดนของสุเมรากิพร้อมกับเธอ พร้อมกับทิ้งข้อความแบบเอาสีข้างถูๆให้กับยูสทัสว่า “การฆ่าปิดปากลีฟาคงจะทำให้เรื่องยุ่งยากเกินไปหน่อย ดังนั้นชั้นจะพาเธอกลับไปส่งที่หมู่บ้าน” แน่นอนว่าเขาคงต้องถูกสอบสวนอย่างหนักแน่ๆในภายหลัง แต่ถ้าหากเขายืนยันหัวชนฝาว่าเขาไม่อยากที่จะฆ่าเด็กที่แค่ชอบสอดรู้สอดเห็นเฉยๆ ยูสทัสเองก็คงทำอะไรไม่ได้ และหากถูกคาดคั้นต่อว่าแล้วทำไมถึงพาเธอไปยังดินแดนสุเมรากิ ก็แค่บอกว่าเธอบังเอิญเจอกับคนรู้จักที่นั้น และตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ นั้นเพราะวิธีเดินทางจากเมืองหลวงไปยังหมู่บ้านไวส์ของลีฟาจะต้องผ่านดินแดนของสุเมรากิอยู่แล้ว ดังนั้นแม้จะถูกสงสัย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้ออ้างสะทีเดียว
[ ว้าวว นี่น่ะเหรอดินแดนของตระกูลสุเมรากิ ช่างเป็นทิวทัศน์ที่แปลกประหลาด ] – ลีฟา
มันก็ผ่านมานานมากแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ฮาโรลด์ได้มายังสุเมรากิ สำหรับตัวของลีฟาเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงเขตที่อยู่อาศัย ตัวของเธอก็มองไปรอบๆด้วยความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น
ภาพของลีฟาตอนนี้ทำให้ฮาโรลด์นึกถึงตอนที่ลีฟาเดินทางมาถึงเมืองหลวงครั้งแรก ตอนที่พาเธอเที่ยวชมภายในเมือง
[ อะไร ? นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเคยมางั้นหรอ ? ทั้งๆที่มันอยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านของเธอเนี้ยนะ ? ] – ฮาโรลด์
[ ก็ฉันไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่จะต้องมาที่นี่สักหน่อย แถมอีกอย่าง ฉันก็หมกตัวอยู่ในบ้านเกือบตลอดเพื่อทำงานวิจัยของฉัน ] – ลีฟา
ขณะกล่าวออกมาเช่นนั้น ลีฟาเธอก็ยักไหล่ออกมาเบาๆ
แน่นอนว่าสำหรับโลกใบนี้ ถึงจะบอกว่าเมืองอยู่ใกล้ๆก็เถอะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอันตรายอะไรในการเดินทางเสียน้อย เช่นอาจจะถูกมอนเตอร์โจมตีระหว่างทางก็เป็นได้ ดังนั้น หากไม่มีเหตุจำเป็นอะไรจริงๆ พวกชาวบ้านทั่วๆไปก็ไม่ค่อยเดินทางข้ามเมืองเท่าไหร่หรอก ซึ่งสำหรับลีฟาที่เป็นคนเก็บตัวด้วย ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะออกไปเที่ยวชมเมืองข้างๆ
[ แล้ว ? นายบอกกับฉันว่าพวกเรามีงานจะต้องมาจัดการที่นี่แต่ไม่ยอมอธิบายอะไรต่อ ฉันว่ามาถึงเวลาที่จะต้องบอกอะไรบ้างแล้วล่ะ ] – ลีฟา
[ อันดับแรก พวกเราต่อไปหาใครบางคนก่อน ] – ฮาโรลด์
[ ใครบางคน ? ] – ลีฟา
เอาจริงๆแล้ว ภารกิจหลักก็คือ ตามหาไลเนอร์ คลอเล็ต และฮิวโก้ให้เจอ แล้วจับยัยนี่ยัดเข้าปาร์ตี้ และเหตุผลที่จะทำให้ลีฟาเข้าร่วมปาร์ตี้ของไลเนอร์นั้น ก็คงมาจากนิสัยใจดีและชอบช่วยเหลือคนอื่นที่มีเหมือนๆกันกับคนอื่นๆในปาร์ตี้ ในระหว่างที่ไลเนอร์และชาวคณะออกเดินทางตามหาดาบตัวเองคืน พวกเขาก็คอยช่วยเหลือผู้คนและแก้ไขสถานการณ์ผิดปกติต่างๆไปด้วย
ดังนั้น หัวหน้าปาร์ตี้ผู้ฝันว่าจะเป็นผู้นำกลุ่มของอัศวินอย่างไลเนอร์ ที่ตอนนี้คงมาถึงที่เมืองข้างๆแล้ว เขาคงทราบถึงเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในดินแดนสุเมรากิ และคงกำลังเดินทางมาที่นี่
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฮาโรลด์ถึงไม่แก้ไขปัญหาหมอกพิษด้วยตนเอง เพราะตามเนื้อเรื่องของเกมส์แล้ว ฉากๆนี้ จะเป็นฉากที่เอริกะจะได้เข้าร่วมปาร์ตี้
ดังนั้นสำหรับตอนนี้ เขามีแผนที่จะบอกให้ลีฟาไปเข้าร่วมคณะเดินทางกับพวกของไลเนอร์ โดยที่เขาจะไม่ออกไปปรากฎตัวให้พวกของไลเนอร์เห็นเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์มันวุ่นวาย แต่ถ้าจำเป็นจริงๆต่อให้เขาต้องไปปรากฎตัวต่อหน้าของไลเนอร์ เขาก็จะทำ แต่ขอให้มันเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆเท่านั้น
[ พวกเขาเป็นกลุ่ม 3 คน หัวแดง หัวทอง และหัวฟ้า , อันดับแรกพวกเราค่อยๆมองหาเจ้าพวกนี้ในเมืองสุเมรากิก่อนเถอะ ] – ฮาโรลด์
กลุ่มของไลเนอร์หาตัวได้ไม่ยากเพราะสีผมที่โดดเด่นและอาวุธที่พวกเขาพกพาค่อนข้างเป็นจุดเด่น ถ้าหากพวกของไลเนอร์เคยมาที่เมืองนี้แล้วต้องมีชาวบ้านจำได้บ้างแน่
จากรายงานที่ได้รับมาจากเอลล์และคำนวนจากระยะเวลาแล้ว พวกของไลเนอร์คงจะเดินทางมาถึงที่เมืองนี้ในไม่ช้า ดังนั้นจะบอกว่าเริ่มต้นด้วยการค้นหาก็คงไม่ผิดนัก
อย่างไรก็ตาม ฮาโรลด์คิดว่าจะปรับเวลาให้เอลล์รายงานเขาถี่ขึ้นกว่าเดิมสักหน่อย เพราะโลกใบนี้ไม่มีโทรศัพท์หรืออีเมล ดังนั้นตามปกติแล้ว หากต้องการจะสื่อสารกับใครก็ตามที่อยู่ห่างไกล ความล่าช้าจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
และความล่าช้านั้น เป็นเหตุผลที่ทำให้ฮาโรลด์ไม่รู้ว่าลีฟาไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านไวส์นั้นเอง
[ นี่ ฮาโรลด์ ] – ลีฟา
ขณะที่ฮาโรลด์กำลังจมอยู่กับความคิดตัวเอง เขาก็ถูกลีฟาเรียกขึ้น
[ อะไร ? ] – ฮาโรลด์
[ กลุ่ม 2 คนที่มีผมสีดำและสีขาวต้องมองหาด้วยมั้ย ? ] – ลีฟา
[ … เธอพูดเรื่องอะไร ? ] – ฮาโรลด์
อาจเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ลีฟาพยายามจะสื่อ น้ำเสียงของฮาโรลด์จึงเต็มไปด้วยความสงสัย
อย่างไรก็ตาม ลีฟาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น พร้อมกับยกแขนขวาของเธอและชี้ไปทางด้านหลังของเขา
[ ก็ ที่ฉันจะบอกกับนายก็เพราะว่า—– ] – ลีฟา
ก่อนที่ลีฟาจะพูดจบ ก็มีมือมาวางลงที่ไหล่ของฮาโรลด์ทั้ง 2 ข้าง และทันใดนั้นเอง เสียงที่ฮาโรลด์ไม่อยากจะได้ยินที่สุดก็ดังขึ้นมาจากทั้ง 2 ฝั่ง
[ ชั้นว่า 2 คนที่เธอหมายถึง .. ] – อิสุกิ
[ คงหมายถึงพวกเราทั้ง 2 ละมั้ง ? ] – ฟรานซิส
น้ำเสียงที่สดใจของทั้งคู่ดังดังขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ฮาโรลด์ได้ยิน หัวใจของเขาก็ไม่ได้สดใสตามไปด้วย มีเพียงเหงื่อเย็นที่ไหลอาบแผ่นหลังของเขา แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าภาพที่เขาไม่อยากจะพบที่สุดกำลังยืนคอยอยู่ด้านหลังแต่เขาก็ยังค่อยๆหันกลับไปเพื่อเผชิญหน้ากับมัน
[ ไม่ได้เจอกันนายเลยนะ ฮาโรลด์ ] – ฟรานซิส
[ แต่ การมาเที่ยวเล่นกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่เอริกะนี่มันไม่ดีเลยนะ ] – อิสุกิ
[ แถมยังกล้ามาเดทกันภายในดินแดนสุเมรากิอีกด้วย ] – ฟรานซิส
1 ใน 2 คนนั้นคืออิสุกิ ผู้ที่มีรอยยิ้มอันเจิดจ้าราวกับเป็นซิกเนเจอร์ของสองพี่น้องแห่งตระกูลสุเมรากิ ส่วนอีกคนคือฟราซิส ที่กำลังยืนส่ายหัวราวกับรับไม่ได้
ไอ้ 2 คนนี้เข้าขากันสุดๆ พวกเขารุมประนามฮาโรลด์ราวกับว่าเขาเป็นสามีที่ถูกจับได้ว่านอกใจภรรยา แต่ก่อนที่จะได้โต้แย้ง ฮาโรลด์มีบางสิ่งที่เขาอยากจะยืนยันเสียก่อน
[ …. นายมาทำบ้าอะไรที่นี่ ฟรานซิส ? ] – ฮาโรลด์
[ ฉันก็แค่มาเที่ยวเล่นบ้านเพื่อนเฉยๆ ] – ฟรานซิส
[ ถึงครั้งก่อนหมอนี่จะทำตัวไม่ดีไว้กับเอริกะ แต่ตอนนี้เขาคิดจะทำอะไรแบบนั้นแล้ว ดังนั้นสบายใจได้ ] – อิสุกิ
[ ใช่สิ ถ้าฉันทำอะไรแบบนั้นอีก คงถูกหมาเฝ้าบ้านแถวนี้กระโดดขย้ำแหง ] – ฟรานซิส
[ ถ้านายหวังจะโดนแบบนั้น ให้ชั้นฉีกคอหอยของนายและกินมันให้ดูตอนนี้เลยเป็นไง ? ] – ฮาโรลด์
[ เฮ้ย หยุดเลยนะ หยุดคิดที่จะฆ่าฉันซักที มุขตลกของนายมันไม่ขำเลยสักนิด ] – ฟรานซิส
ฮาโรลด์ได้แต่สงสัยว่ามุขของเขามันไม่ขำตรงไหน
คลอเล็ตไม่ยอมติดตามไลเนอร์ไป ฮิวโก้ก็ดันไม่ได้อยู่ที่ซักปรักหักพังคาดิซ ลีฟาก็มัวแต่ขุดคุ้ยประวัติของฮาโรลด์ และตอนนี้ ฟรานซิสที่ควรจะปรากฎตัวเข้าร่วมทีมหลังจากเนื้อเรื่องดำเดินผ่านไปได้สักครึ่งเรื่องแล้วดันโผล่มา
ทำไมเจ้าพวกนี้ไม่ใช้ชีวิตกันให้เหมือนกับเนื้อเรื่องดั้งเดิมกันนะ ? ปัจจุบัน มีเพียงคนเดียวที่แสดงตามบทบาทได้อย่างถูกต้องก็คือไลเนอร์ ในขณะที่ฮาโรลด์กำลังคิดอยู่เช่นกัน เขาก็นึกขึ้นได้ ไม่ใช่ว่าเมื่อถึงคิวของเอริกะ ก็อาจเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นเหมือนกัน ?
( ไม่สิ ใจเย็นๆก่อน บางทีแบบนี้มันอาจจะดีกว่าก็ได้ ) – ฮาโรลด์
ฮาโรลด์ที่กำลังเตือนสติตัวเองและเริ่มใช้หัวคิดอีกครั้ง การกระทำของฟรานซิสที่ผ่านมาทั้งหมดจนถึงตอนนี้ไม่เหมือนกับเจ้า พวก 3 คนก่อนหน้า แทนที่จะห้ามและไล่ให้ฟรานซิสค่อยมาเข้าร่วมปาร์ตี้ในตอนครึ่งเรื่องหลัง จะเป็นยังไงถ้าเขาผลักดันให้ฟรานซิสเข้าร่วมทีมตั้งแต่ตอนนี้เลย
ถ้าหากเขาหาทางไล่ฟรานซิสกลับไปอยู่จุดที่ตัวเองควรอยู่ บางทีอาจมีปัจจัยทำให้มีความไม่แน่นอนที่ทำให้ฟรานซิสจะไม่ได้เข้าร่วมปาร์ตี้เกิดขึ้น ดังนั้น การทำให้ฟรานซิสเข้าตี้ตั้งแต่ตอนนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ภายในเกมส์นั้น หากจำนวนสมาชิกของปาร์ตี้สูงขึ้น นั้นยิ่งทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของทีมสูงขึ้นไปด้วย เพราะรูปแบบการต่อสู้ของแต่ละคนที่แตกต่างกันทำให้ผู้เล่นเกมส์สามารถมิกตัวละครต่างๆคอมโบกันได้อย่างหลากหลายมากขึ้นอีกด้วย แต่ยังมีจุดที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่อาจเปลี่ยนแปลงไปจนไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้นฮาโรลด์จึงต้องรีบเร่งให้ผ่านฉากนี้ให้ไวที่สุด เพื่อถอยมามองภาพรวมของเหตุการณ์ว่าตอนนี้ตาช่างแห่งเหตุการณ์กำลังเอียงไปทางไหนกันแน่
[ นี่ … ] – ลีฟา
ลีฟาพูดขึ้นมาขณะที่กำลังจับไปที่ชายกระโปรงของตนเอง
[ คนพวกนี้เป็นใครหรอ ? ] – ลีฟา
[ เจ้าคนแปลกๆนี่เป็นซิสค่อน ส่วนอีกคนเป็นเสือผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าจะถูกเหล่าสาวๆที่เขาจีบแทงตายตอนไหนไม่รู้ ] – ฮาโรลด์
[ อ้อออ … ] – ลีฟา
[ ช่วยหยุดแนะนำพวกเราในทางเสียๆหายๆซักทีจะได้ไหม… ] – ฟรานซิส
สายตารอบๆทั้งหมดมุ่งตรงมาที่พวกเขาที่กำลังเอะอะโวยวายกัน นั้นเพราะภายในดินแดนสุเมรากิ ที่ชุดกิโมโนสามารถหาพบได้ทั่วไปบนท้องถนน ทั้งฮาโรลด์ ลีฟา และฟรานซิส ต่างเป็นภาพที่แปลกตาสำหรับผู้คนทั่วไปภายในเมือง อีกทั้งอิสุกิที่เป็นฐานะเป็นถึงผู้นำตระกูลรุ่นถัดไปและเป็นที่รู้จักโดยทั่วจากผู้คนภายในดินแดน ต่อให้พวกเขาไม่ได้สร้างความวุ่นวายมันก็ไม่แปลกที่ผู้คนรอบๆจะให้ความสนใจกลุ่มของพวกเขา
[ ชั้นว่าพวกเราออกจะเป็นจุดเด่นกันไปหน่อย พวกเราย้ายสถานที่ไปคุยกันที่บ้านของชั้นเป็นไง ? ] – อิสุกิ
[ ไม่ และชั้นก็ไม่มีเวลาว่างมาข้องแวะกับพวกนาย ] – ฮาโรลด์
[ หืม ? นายมีธุระต้องไปจัดการก่อนหรอ ? ] – อิสุกิ
[ ชั้นกำลังตามหาคนกลุ่มหนึ่ง พวกเขามีกัน 3 คน หัวแดง หัวฟ้า และหัวทอง ] – ฮาโรลด์
[ เรื่องด่วนหรอ ? เอางี้มั้ย เดี่ยวชั้นให้คนของสุเมรากิออกตามหาให้ก็ได้นะ ] – อิสุกิ
สิ่งที่อิสุกิเสนอมา ฮาโรลด์ก็คิดว่ามันน่าจะเห็นผลมากกว่าจริงๆนั้นแหละ เพราะการตามหาคนบนถนนอันกว้างใหญ่ของดินแดนสุเมรากิด้วยคนเพียง 2 คนมันคงยากเกินไปจริงๆ แถมฮาโรลด์ก็กำลังรีบเสียด้วย ถึงแม้ว่าเขาอยากจะรับข้อเสนอนี้ใจจะขาด แต่ปัญหาใหญ่ก็คือเอริกะเองก็อยู่ที่คฤหาสน์สุเมรากิด้วยเช่นกัน
หากฮาโรลด์คิดดูดีๆ ลีฟาก็ไม่ค่อยมีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวเขาที่เขาไม่อยากให้เอริกะรับรู้ ถ้าจะมีก็มีเพียงเรื่องที่ฮาโรลด์ใช้อายุไขของตนแลกเปลี่ยนเป็นพลัง และเวลาชีวิตของฮาโรลด์เหลือน้อยเต็มที— แต่คงไม่มีปัญหาอะไร หากเขาสั่งกับลีฟาเอาไว้ว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ซึ่งเอาจริงๆแล้ว ฮาโรลด์ก็หาจังหวะที่จะบอกความจริงกับลีฟาอยู่เช่นกันว่าเรื่องเหล่านั้นมันเป็นเรื่องโกหก แต่เมื่อพิจารณาจากบุคคลิคของลีฟาและปากเวรตะไลของตัวเขาเอง มีความเป็นไปได้สูงที่เหตุการณ์จะพัฒนากลายเป็นเลวร้าย
และถ้าไม่ใช่เพราะปากเวรนี้ เขาก็อยากจะเล่าความจริงทั้งหมดทันที และเตรียมใจที่อาจจะถูกต่อว่าหรือถึงขั้นยุคิความสัมพันธ์ ในเนื้อเรื่องของเกมส์นั้น นอกจากเอริกะที่ได้ตบเขา ตอนนี้เขาคงจะถูกลีฟาตบอีกคนด้วยแน่ๆ แต่เมื่อพิจารณาถึงคำโกหกเหล่านั้น แค่ถูกตบมันยังดูเบาเกินไปเลยด้วยซ้ำ
[ แล้ว? นายจะเอายังไงล่ะฮาโรลด์ ] – อิสุกิ
[ … ตกลง จัดการให้ด้วย ] – ฮาโรลด์
[ ถ้างั้น เดี่ยวชั้นเป็นคนนำทางให้เอง ] – อิสุกิ
ขณะที่เดินตามอิสุกิไป ทั้งกลุ่มก็มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์สุเมรากิ หลังจากเดินทางได้สักระยะหนึ่ง พวกเขาทั้งกลุ่มก็ขึ้นรถม้าที่จอดรอรับพวกเขาอยู่ และนั่งรถม้าต่ออีกราวๆ 1 ชั่วโมง
และในที่สุด ภาพของคฤหาสน์สุเมรากิที่ห้อมล้อมไปด้วยดอกซากุระก็ปรากฎขึ้นในสายตา
[ งดงามมาก ….. ] – ลีฟา
เมื่อลีฟาลงมาจากรถม้า เธอถึงกับตะลึงกับภาพและบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้าของเธอซึ่งเธอไม่เคยพบเห็นแบบนี้ที่ไหนมาก่อน แม้แต่ฮาโรลด์เองที่มีหัวใจเป็นคนญี่ปุ่น ไม่มีทางที่ภาพทิวทัศน์เหล่านี้จะไม่กระตุ้นให้เขารู้สึกคิดถึง
อย่างไรก็ตาม ฮาโรลด์ไม่สามารถปล่อยให้เธอตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้าไปตลอดกาลได้ เขาจึงเขกหัวเธอเบาๆ
[ เฮ้ มันเจ็บนะ ! ] – ลีฟา
[ ไปกันได้แล้ว ] – ฮาโรลด์
[ เอ๋ รอฉันด้วย ! ] – ลีฟา
อิสุกิและฟรานซิสที่เดินนำออกไปแล้ว ฮาโรลด์และลีฟาจึงเดินตามพวกเขาไป และเมื่อพวกเขาใกล้ถึงที่ประตูคฤหาสน์ พวกเขาก็ได้ยินเสียงเอะอะอะไรบางอย่าง
[ เกิดอะไรขึ้น ? ] – ฟรานซิส
[ ฮืม มีอะไรรึปล่าว? ] – อิสุกิ
อิสุกิได้แต่เอียงหัวด้วยความสงสัย ขณะที่ฮาโรลด์หันไปดูต้นตอของเสียงเอะอะนั้น ลีฟาก็พึมพัมขึ้นมา
[ ผมสีแดง สีทอง และ สีฟ้า … ] – ลีฟา
[ … ] – ฮาโรลด์
ฮาโรลด์กดสายตาของตัวเองลงต่ำพร้อมกับนวดขมับของตัวเองอยู่เงียบๆ
ที่หน้าประตูของคฤหาสน์ของตระกูลสุเมรากิ ไม่ต้องสงสัยเลย คนพวกนั้นคือ ไลเนอร์ คลอเล็ต และ ฮิวโก้ นั้นเอง