เป็นเรื่องน่ายินดีที่ฮาโรลด์สามารถผ่านเหตุการณ์เฉพาะหน้าครั้งนี้มาได้ แม้จะยุ่งยากนิดหน่อย แต่เขาก็สามารถจบการสนทนาที่ห้องนั้นได้อย่างสมบูรณ์ โดยที่ยังคงเก็บความลับที่เขาไม่อยากให้ใครรู้เอาไว้ได้อยู่ และจากการสังเกตคลอเล็ต ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้บอกเรื่องนั้นกับเอริกะ และถ้าเธอคอยเฝ้าไลเนอร์เอาไว้ตลอด ความลับนั้นก็คงไม่มีทางรั่วไหลออกมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวละครหลักทั้งหมดจากเนื้อเรื่องของเกมส์ได้ตั้งทีมเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกพิษตามที่หวังไว้ ดังนั้นนี่ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่สำหรับฮาโรลด์
แต่เขายังคงคิดไม่ตกเกี่ยวกับเส้นทางของตัวเขาที่จะต้องเดินไปในอนาคต เพราะโดยรวมแล้วมันก็ยังไปได้ดีอยู่จนกระทั้งถึง “ฉากนั้น”
“ฉากนั้น” คือตอนที่ฮาโรลด์ต้องเผชิญหน้ากับไลเนอร์และคนอื่นๆ
ในเหตุการณ์นั้น ปาร์ตี้ผู้กล้าได้เข้าไปยังป้อมปราการลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยยูสทัสและใกล้จะถึงตัวเขา แต่ทว่ากลับมีคนหนึ่งปรากฎขึ้นมาขวางทางพวกเขาเอาไว้ และคนๆนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจาก ฮาโรลด์ สโตร์ก เขาโดนยูสทัสใช้คำพูดเป่าหูและเสริมพลังด้วยน้ำยาแห่งดวงดาว ดังนั้น ฉากที่จะต้องสู้กับฮาโรลด์ สโตร์กนี้ถือเป็นหนึ่งในด่านที่เรียกได้ว่ายากที่สุดในเกมส์เลยก็ว่าได้ และเมื่อพวกเขาสามารถเอาชนะฮาโรลด์ สโตร์กมาได้ ยูสทัสก็หนีไปแล้ว และเวทีก็เลื่อนไปสู่การต่อสู้ครั้งสุดท้าย แต่นั้นแหละคือสิ่งที่ฮาโรลด์ยังคงเป็นกังวล
มีวิธีอื่นที่จะหลีกเลี่ยงปัญหานี้หรือหาใครสักคนที่เหมาะสมมาสู้กับไลเนอร์และคนอื่นๆแทนตัวของฮาโรลด์ในศึกนั้นรึปล่าว คำตอบคือไม่ เพราะเหลือเวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น และในเวลาที่จำกัด ไม่มีทางที่จะใหใครซักคนที่จะสามารถหยุดไลเนอร์และคนอื่นๆในตอนท้ายของเรื่องได้
แล้วถ้าหากให้เหล่าปาร์ตี้ผู้กล้าผ่านฉากนั้นโดยไม่ต้องมีฮาโรลด์/ตัวสำรองเป็นคู่ต่อสู้ล่ะ ? คำตอบคือฮาโรลด์ก็ไม่รู้เช่นกัน
หากพวกเขาเอาจับยูสทัสได้ก่อนหมอนั้นจะหนีไป และเรื่องราวจบลงแค่นั้น ฮาโรลด์เองก็ดีใจด้วยเช่นกัน แต่มันยากที่จะเชื่อว่าตัวของยูสทัสเองจะไม่มีแผนรับมือ แน่นอนว่ายูสทัสคงต้องเตรียมมาตรการบางอย่างไว้รับมืออยู่แล้ว หรือถ้าหากยูสทัสถูกไล่ต้อนจนเกินไปและจบลงด้วยการที่เขาหลอมรวมเข้ากับพลังของดวงดาวและกลายเป็นบอสตัวสุดท้ายที่โหดกว่าในเนื้อเรื่องของเกมส์ โอกาสที่เหล่าผู้กล้าจะพ่ายแพ้ก็จะยิ่งสูง
ไม่ว่าการพัฒนาเหตุการณ์จะออกมาเป็นในรูปแบบใด ฮาโรลด์ก็อยากที่จะคงเนื้อเรื่องเดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะนั้นหมายความว่าเขาจะได้เปรียบในการเตรียมพร้อมและคุ้นชินกับสถานการณ์ในศึกสุดท้าย โอกาสที่เขาจะรับมือและเอาผ่านไปได้ก็จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากที่จะเปลี่ยนมัน
เมื่อคิดได้เช่นนั้น …
(คงมีแต่จะต้องทำมันจริงๆสินะ … ) – ฮาโรลด์
ตอนแรกฮาโรลด์คิดว่าจะเข้าร่วมปาร์ตี้ผู้กล้าด้วยเพื่อคอยจับตาดูและชี้นำการกระทำของไลเนอร์และคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ผลสรุปออกมาว่าเจ้าพวกนี้แต่ละคนควบคุมยากเกินไป แถมความสัมพันธ์ของเขากับเอริกะยังแย่สุดๆ แม้ว่าเขาอาจจะเคลียใจกับเธอได้ในที่สุด แต่ความบาดหมางของพวกเราที่กินระยะเวลามานานใช้ว่าจะรักษากันได้ง่ายๆ
และอีกสิ่ง ฮาโรลด์ไม่รู้ว่าการเคลื่อนไหวของยูสทัสจะเหมือนกับในเนื้อเรื่องของเกมส์หรือไม่ แต่จะมามัวแต่คิดถึงมันก็ไม่มีความหมาย เพราะถ้าหากการเคลื่อนไหวของยูสทัสเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ ฮาโรลด์ก็หมดหนทางแล้วเช่นกัน
ขณะที่ฮาโรลด์กำลังจมอยู่กับความคิดเหล่านั้น เขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเอะอะที่ดังขึ้น
[ สุดยอดดดดด ] – ฮิวโก้
[ ผมไม่เคยเห็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่เท่านี้มาก่อนเลย! ] – ไลเนอร์
[ ดูเหมือนเจ้าสิ่งนี้จะถูกเรียกว่าบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง ถึงฉันจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับวัฒนธรรมของพวกเขา แต่มันวิเศษมาก ] – ฟรานซิส
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่าสิ่งที่ฮาโรลด์ชื่นชอบที่สุดในดินแดนสุเมรากิคือเจ้าบ่อน้ำพุร้อนนี่แหละ หลังจากพูดคุยกันจบพวกเขาติดสินใจแยกย้ายกันไปพักผ่อนก่อน ซึ่งฮาโรลด์ต้องการชาตพลังเลยปลีกตัวมาแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งอย่างสงบอยู่คนเดียว แต่ความสงบนั้นกลับพังทลายลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงเอะอะเหล่านั้น
[ เอ๊ะ ฮาโรลด์ไม่ใช่หรอ ? ] – ฟรานซิส
[ เอ๋ นายก็มาที่นี่ด้วยหรอ ? ] – ไลเนอร์
ทั้ง 2 กระโดดลงบ่อน้ำพุจากทั้ง 2 ข้างของฮาโรลด์จนน้ำพุร้อนกระเด็นไปทั่ว และแทบจะในทันที ทั้งคู่ดีดตัวขึ้นจากน้ำพร้อมกับเสียงร้องว่า “โอ้ยร้อนนน!!” และเริ่มโวยวาย และเพื่อตอบสนองกับการกระทำของทั้งสองฮาโรลด์จึงส่งสายตาไปที่พวกเขาราวกับต้องการจะถามว่า “พวกเอ็งทำบ้าอะไรกัน”
[ เฮ้ย! เจ้าพวกงั้ง! อย่าลงมาในบ่อทั้งๆที่ยังไม่ล้างตัวให้สะอาดสิฟร่ะ! ] – ฮาโรลด์
[ ค-ครับ! ] – ไลเนอร์
[ ต้องขออภัยด้วย ! ] – ฟรานซิส
หลังจากโดนบ่นไปทีนึง ไลเนอร์และฟรานซิสก็รีบชิ่งหนีไปสถานที่สำหรับล้างตัว จริงๆแล้วการล้างตัวก่อนลงมาที่บ่อน้ำพุร้อนไม่ได้ถือเป็นพิธีที่ต้องเคร่งอะไรขนาดนั้น แต่ฮาโรลด์ผู้ซึ่งเป็นผู้คุมกฎแห่งบ่อน้ำพุร้อน เรื่องนี้จึงเข้มงวดเป็นพิเศษ
ขณะที่กำลังเดินสวนกับทั้ง 2 คนเข้ามา ฮิวโก้ที่ชะล้างตัวเสร็จแล้วจึงลงมาแช่ที่บ่อน้ำพุร้อนด้วยเช่นกัน
[ .. นี่ เอ่ออ.. ฮาโรลด์ ใช่รึปล่าว ? ] – ฮิวโก้
ฮิวโก้ลงมาแช่ที่ข้างๆฮาโรลด์ หลังจากที่เงียบกันอยู่ซักพัก ฮิวโก้ก็เริ่มต้นการสนทนา
[ นายต้องการอะไร ? ] – ฮาโรลด์
[ ก็ อันที่จริง ข้าเคยพบใครบางคนคล้ายๆกับนายมาเมื่อเร็วๆนี้ ถึงข้าจะไม่ได้เห็นหน้าเขาก็เถอะ แต่น้ำเสียงและบรรยากาศหมอนั้นดูคล้ายๆกับนายมากทีเดียว ] – ฮิวโก้
ดูเหมือนฮิวโก้จะค่อนข้างแน่ใจแล้วล่ะ แม้ว่าตอนนั้นฮาโรลด์จะปิดบังใบหน้าและชื่อของเขาเอาไว้ไม่ให้ฮิวโก้รู้ แต่ทั้งน้ำเสียงท่าทางและอื่นๆเพราะไม่มีเวลาเตรียมการ ฮาโรลด์จึงไม่ได้ปกปิด มันจึงช่วยไม่ได้ล่ะนะถ้าฮิวโก้จะปะติดปะต่อได้
[ … แล้วไง ? ] – ฮาโรลด์
[ ก็ไม่มีอะไรหรอก และข้าก็ไม่คิดจะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเช่นกัน เพียงแต่ว่า ตอนนั้มีอีก 2 คนที่เดินทางมาพร้อมกับหมอนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้าแค่นึกสงสัยว่า 2 คนนั้นจะสบายดีรึปล่าวนะ บางทีมันอาจเป็นแค่เรื่องไร้สาระของข้าเองก็ได้ ] – ฮิวโก้
[ ชั้นไม่รู้หรอกนะว่านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แล้ว 2 คนนั้นเป็นใคร …แต่ที่ชั้นบอกได้ว่านายไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก ] – ฮาโรลด์
[ โอ้ เป็นงั้นเองรึ ? งั้นก็ดีแล้วล่ะ ] – ฮิวโก้
แม้ว่าฮาโรลด์จะไม่รู้ว่าฮิวโก้จะคิดยังไงกับเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับเหตุการณ์ในซากปรักหักพังไฮบาร์ บางทีเพราะได้ยินเรื่องราวที่ฮาโรลด์เล่ามา เขาเลยเป็นกังวลเกี่ยวกับสภาพของลิเลี่ยมและเวนโตสที่ความสามารถในการพูดของทั้ง 2 หายไป
ฮิวโก้คงปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าบางที 2 คนนี้อาจจะเป็นคนจากเผ่าสเตลล่าที่ถูกยูสทัสจับไปทดลองตามที่ฮาโรลด์พึ่งจะเล่าไป และนั้นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาทั้ง 2 สูญเสียทักษะการพูด
[ ได้ยินแบบนั้น ข้าเองก็สบายใจแล้ว ถ้างั้น ถึงเวลาไปแอบดูบ่อน้ำพุร้อนฝั่งผู้หญิง! ] – ฮิวโก้
บรรยากาศที่จริงจังพลันหายไปทันทีพร้อมกับคำพูดเหล่านั้นของฮิวโก้ และทันทีที่เขาลุกขึ้นยืนเตรียมที่จะไปแอบดูฝั่งผู้หญิง เขาก็ถูกฮาโรลด์ถีบเข้าที่แผ่นหลังทันทีจนล้มหน้าคว่ำลงที่บ่อน้ำพุร้อน
หลังจากนั้น บ่อออนเซนก็วุ่นวายไปหมด ไลเนอร์และฮิวโก้เริ่มสาดน้ำร้อนใส่กัน ซักพักพวกเขาก็จับฟรานซิสและโยนลงบ่อน้ำพุร้อน พร้อมกับฟรานซิสที่ร้องออกมาว่า “ร้อนโว้ย ร้อนเกินไปแล้ววว” ภาพที่อยู่ตรงหน้าน้ำให้ฮาโรลด์รู้สึกว่าเจ้าพวกนี้มันจะสนิทกับเร็วไปไหน แต่นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและเหมาะสมแล้วสำหรับคนหนุ่มวัยเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เพราะเจ้าพวกนี้ส่งเสียงดังกันจนทนไม่ไหว ฮาโรลด์จึงชิ่งออกมาจากทั้ง 3 คนที่กำลังมีความสุขจากการได้แช่บ่อน้ำพุร้อนเป็นครั้งแรก
“ผมไปเปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะแล้วรีบหนีกลับห้องดีกว่า” ขณะที่ฮาโรลด์คิดเช่นนั้น และออกมาที่ทางเดิน เขาก็พบกับลีฟาโดยบังเอิญ
และทันทีที่เธอเห็นฮาโรลด์ ลีฟาก็มีสีหน้าหงุดหงิด
[ นี่ เจ้าพวกนั้นทำบ้าอะไรกัน ? ทำไมเอะอะเสียงดังขนาดนั้น มันน่ารำคาญจนฉันหมดอารมณ์ที่จะแช่น้ำเลย ] – ลีฟา
เห็นได้ชัดว่าเจ้าพวกนั้นเล่นกันเสียงดังมากจนได้ยินไปถึงบ่อน้ำพุร้อนฝั่งผู้หญิง อย่างไรก็ตาม แม้ลีฟาจะบ่นกับเขาแบบนั้น แต่เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน
[ ช่างบังเอิญเสียจริง เพราะชั้นก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ] – ฮาโรลด์
นั้นเพราะ เหตุการณ์เหล่านั้นมาเกิดขึ้นต่อหน้าของเขา เสียงคนกำลังทะเลาะกัน เสียงน้ำสาด และเล่นกันเสียงดังมาก และเขาก็ทำอะไรไม่ได้
[ … เฮ้อ ฉันพอจะเห็นภาพแล้วล่ะว่าเกิดอะไรขึ้น ] – ลีฟา
ลีฟาที่เริ่มเข้าในสถานการณ์ของฮาโรลด์จึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ลีฟาที่กำลังจะกลับห้องของเธอเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงเดินไปพร้อมๆกับฮาโรลด์ตามทางเดิน ระหว่างทางนั้น เธอก็นึกอะไรขึ้นได้ และเรียกเขาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่นัก
[ อ้อใช่ ฮาโรลด์ ! รอบหน้านายช่วยบอกรายละเอียดต่างๆกับฉันก่อนก็ดีนะ ] – ลีฟา
[ เธอพูดถึงเรื่องอะไร ? ] – ฮาโรลด์
[ ก็ไอ้เจ้าเครื่องนั้นไง ที่นายเอาให้ฉันดูระหว่างทางและบอกว่า “วิเคราะมันซะและหาวิธีปิดการทำงานของมัน” ตอนนั้นฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องสำคัญขนาดนี้ ] – ลีฟา
[ ชั้นจะอธิบายก่อนหรือหลังมันก็ไม่ต่างกัน เพราะผลของมันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในเมื่อสุดท้ายเธอก็ต้องจัดการมันอยู่ดี ] – ฮาโรลด์
[ ใช่แบบนั้ซะทีไหน!! ] – ลีฟา
แม้ว่าลีฟาจะโกรธฮาโรลด์อยู่หน่อยๆ แต่จริงๆแล้ว ฮาโรลด์มีเหตุผลที่เขาต้องทำแบบนั้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดอันดับแรกคือลีฟาต้องหาทางปิดการทำงานของเจ้าเครื่องนี้ให้ได้ก่อน เขาถึงจะดำเนินแผนขั้นถัดไปได้ ในเนื้อเรื่องของเกมส์นั้น เมื่อปาร์ตี้ได้มาถึงที่ภูเขาเพื่อหาสาเหตุต้นตอของหมอกพิษ จนเจอเข้ากับอุปกรณ์นี้และลีฟาสามารถปิดการทำงานของมันลงได้ในทันที
เพราะนั้นเป็นเซ็ตติ้งภายในเกมส์เลยไม่รู้ว่าในโลกนี้มันจะง่ายจริงๆสำหรับลีฟาหรือไม่ ดังนั้นฮาโรลด์จึงให้เธอวิเคราะห์เจ้าอุปกรณ์นี้มาก่อนล่วงหน้า และเขาไม่ต้องการให้มีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้สมองของเธอวอกแวกหรือเป็นกังวล เช่น การค้นหาพวกของไลเนอร์ หรือการแก้ปัญหาหมอกพิษ โดยเฉพาะอย่างหลังอาจเป็นสาเหตุหลักในการสร้างแรงกดดันให้กับเธอได้
ฮาโรลด์ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสิ่งที่เขาทำลงไปรึปล่าว แต่ดูเหมือนว่าผลของมันจะออกมายอดเยี่ยม เธอตอบอย่างมั่นใจ และขอให้ฮาโรลด์ไว้ใจเธอได้ในการปิดการทำงานของเจ้าเครื่องนี้
[ จริงๆเลย นายนี่มันเอาแต่ใจจริงๆ ] – ลีฟา
[ ไม่ดูตัวเองเลยนะ ] – ฮาโรลด์
ทั้งๆที่เหตุการณ์ในเมืองหลวงเธอคือผู้ไม่ยอมฟังเขาเลยแม้แต่น้อย จนสุดท้ายเขาต้องลงเอยออกมาจากเมืองหลวงพร้อมๆกับเธอแท้ๆ
[ … แม้ว่านายจะเอาแต่ใจ— แต่นายก็ยังเป็นห่วงเธอคนนั้น … ] – ลีฟา
จู่ๆลีฟาก็พึมพัมอะไรบางสิ่งออกมา
[ เธอพูดถึงเรื่องอะไร ? ] – ฮาโรลด์
[ ฉันกำลังพูดถึงเอริกะ นายยืนกรานว่าเธอไม่ใช่คู่หมั้นของนาย แต่ดูเหมือนว่าพี่ชายของเธอจะไม่คิดแบบนั้นนะ ] – ลีฟา
[ เจ้าหมอนั้นมันคิดเองเออเองทั้งนั้น ] – ฮาโรลด์
[ แล้วเอริกะไม่ดีตรงไหน ? เธอทั้งสวย สง่างาม เธอปฎิบัติต่อฉันและคลอเล็ตดีมาก แม้ว่าพวกฉันจะไม่ใช่ขุนนาง แต่เธอก็ไม่ถือตัวเลยซักนิด เธอช่างเพียบพร้อมในทุกๆด้าน ] – ลีฟา
[ …. ] – ฮาโรลด์
ฮาโรลด์ไม่สามารถหาคำพูดใดๆตอบกลับไปได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบเอริกะ ที่เขากันเธอออกจากตัวก็เพราะกลัวว่าวันหนึ่งเธออาจจะกลายเป็นธงแห่งความตายสำหรับเขา
หากไม่นับเรื่องธงนั้น เขาเองก็ไม่ได้ไม่พอใจหรือมีข้อตำหนิใดๆเกี่ยวกับเอริกะในฐานะเพศตรงข้าม เธออยู่ในระดับที่ใครๆต่างสงสัยว่า จะมีผู้ชายคนไหนในโลกใบนี้ที่สามารถบ่นหรือหาข้อตำหนีในตัวเธอได้ ด้วยเหตุนี้เธอจึงเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่ผู้เล่น
ขณะที่กำลังคิดเกี่ยวเรื่องนี้ ฮาโรลด์ได้แต่เงียบ
[ ถึงนี่จะไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน และฉันไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่ง แต่ฉันคิดว่าทัศนคติที่นายมีต่อเอริกะมันเหมือนไม่ใช่ตัวนายเลยนะ ฮาโรลด์ ] – ลีฟา
[ เธอจะบอกว่าชั้นไม่รู้จักตัวเองดีพอรึไง ? ] – ฮาโรลด์
[ ใช่ แม้นายจะชอบพ่นคำพูดเสียดสีต่างๆนาๆเพื่อผลักไสคนอื่นออกไป แต่กลับทนไม่ค่อยได้เวลาโดนคนอื่นเข้าหา ฉันคิดว่ากรณีของฉันเป็นตัวอย่างที่ดีทีเดียว นายลักพาตัวฉัน สั่งให้ฉันกลับบ้าน แล้วเป็นไง สุดท้าย ฉันก็มาอยู่ตรงนี้ ] – ลีฟา
[ นั้นก็เพราะเธอโครตจะหัวรั้นต่างหาก ] – ฮาโรลด์
[ มันก็อาจจะจริงตามนั้น แต่ว่าทำไมนายถึงพยายามกันเอริกะออกไปไกลกว่าคนอื่นกันล่ะ ? ทำไมนายถึงไม่ยอมให้เอริกะเข้าใกล้นายได้เลย ? ] – ลีฟา
มันเป็นไปไม่ได้ที่ฮาโรลด์จะตอบคำถามเหล่านั้น เพราะจะให้อธิบายไปว่า โลกใบนี้มีหลายๆสิ่งที่คล้ายคลึงกับเกมส์ที่เคยเล่น และ นั้นทำให้เขารู้อนาคต บลา– เธอคงจะมองว่าเขาบ้าปล่าวๆ
[ นายพูดว่าพี่ชายของเธอพูดเองเออเองว่าเธอเป็นคู่หมั้นของนาย และเธอกับนายทั้งคู่ต่างไม่ได้แคร์อะไรซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม หากนั้นเป็นความจริง และนายไม่แคร์จริงๆ ฉันคิดว่าไม่เห็นจำเป็นเลยที่นายจะต้อง “กัน” เธอให้ออกห่างจากตัวซักนิด ] – ลีฟา
จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสังเกตเห็นเรื่องนี้เลยซักคน แม้แต่ตัวของฮาโรลด์เองก็ตาม มันเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับการกระทำของเขา ลีฟามองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำ ความสามารถในการสังเกตและวิเคราะห์เหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเป็นอัจฉริยะ
[ หรือก็คือ นายปฎิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียม นายพูดจารุนแรงกับทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ไว้หน้าเลยซักคนอย่างเท่าเทียม นายไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไรกับนาย ทอดทิ้งนายหรือไม่ เหมือนกับตอนที่นายปฎิบัติกับคนที่ศูนย์วิจัย ] – ลีฟา
ลีฟายังคงกล่าวออกมาเรื่อยๆ โดยที่ฮาโรลด์ไม่สามารถโต้อะไรกลับไปได้
[ ที่นายทำแบบนั้นเพราะนายไม่สนว่าคนอื่นๆจะคิดยังไงกับนาย นายไม่แคร์คนเหล่านั้นเลยซักนิด แต่สำหรับเอริกะกลับไม่ใช่ เธอถูกผลักไสออกจากตัวของนายไกลกว่าคนเหล่านั้นเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่นายปฎิบัติต่อเธอไม่เหมือนกับคนอื่นๆ มันเหมือนกับ นายพยายาม “เย็นชา” ต่อเธอ ราวกับเธอมีบางสิ่งที่นาย”กลัว” ] – ลีฟา
นั้นเกือบจะถูกต้อง ฮาโรลด์กลัว เขากลัวว่าเอริกะจะเป็นผู้นำธงมรณะมาให้แก่เขา บางทีความรู้สึกเหล่านั้นอาจจะส่งผลต่อการกระทำของเขา และทำให้ลีฟามองว่าสิ่งที่เขาทำมันคือการเย็นชาใส่เธอ
[ ชั้นเนี้ยนะกลัว ? พูดบ้าอะไรของเธอ ? ] – ฮาโรลด์
[ … ก็ จะมองว่าฉันใส่ความก็ได้นะ ขอโทษทีฉันผิดเอง ลืมๆไปเถอะ ] – ลีฟา
“แล้วเจอกัน” หลังกล่าวออกมาเช่นนั้น เธอก็เดินไปทางห้องของเธอโดยที่ไม่หันกลับมามองฮาโรลด์อีก เธอบอกให้เขาลืมๆมันไปซะ แต่ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง คำพูดของลีฟาได้เสียบทะลุเข้าไปในอกเขา และเขาก็ไม่สามารถลืมมันไปได้อีกเลย
————————————–
ปล.ปูมาขนาดนี้ไม่ใช่ในเนื้อเรื่องของเกมส์ เอริกะเป็นคนฆ่าฮาโรลด์หรอกนะ
