ตอนที่ 42 – นักฆ่า
นับถอยหลัง 40:20:00
เช้าตรู่
ชิ่งเฉินเดินออกจากประตูเลื่อนโลหะ เขาเห็นนักโทษบนทางเดินใช้สายตาแปลกประหลาดมองดูตนเอง คล้ายกับตื่นตะลึงมากที่ตนเองปรากฏตัวอีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไปห้าวัน
แต่ว่าครั้งนี้เขาไม่ได้เดินทะลุทางเดินแล้ว ทว่ายืนอยู่กับที่อย่างเรียบ ๆ ร้อย ๆ
รอเสียงตามสายของเรือนจำ จากนั้นเข้าแถวเดินลงบันไดไปรับข้าว
เหล่านักโทษเชื่อข่าวลือหลายวันก่อนขึ้นมาทันที เด็กหนุ่มนี้ทำให้หลี่ซูถงโกรธถูกขังอยู่ในห้องมืดเล็กอยู่หลายวัน แล้วยังรับทัณฑ์ทรมานบางอย่างมา
ดังนั้น ตอนนี้เด็กหนุ่มนี้สูญเสียการดูแลเป็นพิเศษของเรือนจำหมายเลข 18 ไปแล้ว
แต่นักโทษยังคงไม่กล้ายั่วยุเขาอย่างบุ่มบ่าม เพราะหลี่ซูถงสามารถบาดหมางกับตระกูลชิ่ง แต่พวกเขาไม่สามารถ
เวลากินข้าว ลู่ก่วงอี้และชิ่งเฉินนั่งตรงสถานที่ซึ่งห่างไกลจากหลี่ซูถง
ชิ่งเฉินก้มหน้ากินข้าว เคี้ยวอย่างละเอียด ทำให้แน่ใจว่าอาหารล้วนถูกเคี้ยวแหลกแล้วจึงกลืนลงไป
ตอนนี้กระเพาะของเขาบอบบางมาก จำเป็นต้องใส่ใจ
ในระหว่างที่กินข้าว ชิ่งเฉินไม่พูดสักคำ นอกจากความเงียบก็เหลือเพียงความเงียบ
ด้านของเขา ด้านของหลี่ซูถง แบ่งแยกชัดเจน
คล้ายกับว่าหลายวันก่อนยังเป็นเพื่อน วันนี้กลายเป็นคนแปลกหน้าแล้ว
เหล่านักโทษกระซิบกระซาบ ซุบซิบกันว่าสรุปเป็นเรื่องอะไร
ทุกคนคาดเดากันอีกว่าวัตถุต้องห้ามที่หลี่ซูงถงเฝ้ารักษาสรุปแล้วคืออะไร ถึงมีค่าให้อีกฝ่ายตื่นตัวและรุนแรงอย่างนี้
ขณะนี้ มีเพียงกัวหู่ฉานที่ยังมีท่าทางเอ้อระเหยไม่ใส่ใจ
เขาถือถาดอาหารนั่งลงข้างชิ่งเฉิน กล่าวอย่างมีความสุขว่า “คุณไปทำให้หลี่ซูถงโมโหได้ยังไงล่ะเนี่ย ถึงขนาดถูกเขาทรมานจนกลายเป็นสภาพนี้เลย?”
ชิ่งเฉินเงยหน้ามองเขา “นั่งลงข้างผม หรือว่าไม่กลัวทำให้หลี่ซูถงโมโห?”
กัวหู่อานกล่าวอย่างไม่แคร์ว่า “เราโพธิ์ดำแม้แต่กลุ่มการเงินยังไม่กลัว ยังจะกลัวหลี่ซูถงเหรอ”
“งั้นคุณมาหาผมทำไร” ชิ่งเฉินเหมือนจะไม่ค่อยรู้สึกสนใจกัวหู่ฉานชายฉกรรจ์ที่พูดสัญญาไปเรื่อยอย่างใหญ่โตคนนี้นัก
“ผมกับคนอื่นไม่เหมือนกัน คนอื่นอาจจะเห็นความสำคัญตระกูลชิ่งที่อยู่เบื้องหลังคุณ แต่ผมไม่เหมือนกัน ผมเห็นความสำคัญความสามารถของคุณ!” กัวหู่ฉานกล่าว “ผมซีเรียสนะ อยากจะเชิญคนอย่างคุณที่มีความทะเยอทะยานเป็นสมาชิก”
“ไม่สนใจ” ชิ่งเฉินพูดอย่างสงบนิ่งจบแล้วลุกขึ้น เขาโยนถาดอาหารให้ลู่ก่วงอี้ไปล้าง จากนั้นเดินอย่างโดดเดี่ยวไปที่เขตอ่านหนังสือ
เดินไปยังไม่ทันสองก้าวก็มีท่าทางคล้ายกับพละกำลังหมดสิ้นล้มลงกับพื้น ยังดีที่เขาใช้มือยันได้ทันเวลาจึงไม่ขายหน้า
ชิ่งเฉินลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าต่อ
อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ด้านหลังของเขามีนักโทษสองคนเดินตามมาไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังเข้าใกล้เขาที่ไม่ทันระวัง
แต่ทว่าในพริบตาถัดมา ชิ่งเฉินที่อยู่ด้านหน้าซึ่งเดิมทียังอ่อนแอจู่ ๆ ก็หมุนตัวกลับมามองทั้งสองคน
สายตาของเด็กหนุ่มใสกระจ่างแต่มีพลังกดดันเป็นพิเศษ คล้ายกับว่ามองทะลุทั้งสองคน
นักโทษทั้งสองคนตะลึงงัน พวกเขาสบตากันและกันเหมือนว่าจะตกลงใจอะไร
พริบตานั้น ทั้งสองคนแต่ละคนหยิบด้ามแปรงสีฟันที่ฝนจนแหลมคมออกมาจากขอบกางเกงพุ่งเข้าหาชิ่งเฉิน
ในสายตาของชิ่งเฉิน บนขาจักรกลของทั้งสอง กลไกไฮดรอลิกจู่ ๆ ถ่ายทอดพลังงานออกมา เขาถึงขนาดสามารถมองเห็นว่ามีไอน้ำพ่นออกมาจากอวัยวะจักรกลของอีกฝ่าย
นั่นไม่ใช่ปฏิกิริยาทางกายภาพที่อวัยวะจักรกลนำมา ทว่าเป็นโครงสร้างจักรกลของอวัยวะจักรกลตรงไหนไม่รู้บีบอัดอากาศ ทำให้ความชื้นในอากาศระเหยในพริบตา!
แต่พวกเขาเพิ่งจะกระโดดลอยขึ้นโถมเข้ามากลับหลับตาลงสลบไปในเวลาเดียวกัน
ชิ่งเฉินยืนอยู่กับที่เอนตัวไปด้านข้างให้สองคนนี้เฉียดผ่านไหล่ตัวเอง แล้วก็กลิ้งไปบนพื้นสิบกว่ารอบจึงหยุดลงในที่สุด
ทั้งสองคนไม่สามารถลุกขึ้นมาอีก สติสัมปชัญญะของพวกเขาได้ถูกฝันร้ายของหลินเสี่ยวเสี้ยวผูกมัดไว้อย่างแน่นหนาแล้ว
ชิ่งเฉินนั่งยอง ๆ สังเกตอยู่ข้างกายพวกเขา แล้วลู่ก่วงอี้ก็มาใช้แขนจักรกลอ้าปากของพวกเขาออก แล้วใช้กำลังถอนฟันกรามของทั้งสองคนออกมา
เหล่านักโทษพากันตกตะลึง ทุกคนล้วนเห็นไม่ชัดเจนว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วเกินไปแล้ว
พวกเขาล้วนไม่รู้ว่านักโทษสองคนนี้เหตุใดจึงอยากลงมือต่อชิ่งเฉิน แล้วก็ไม่รู้ว่าพวกเขาล้มลงไปได้อย่างไร
ลู่ก่วงอี้ยื่นฟันกรามในมือให้ชิ่งเฉินดู นั่นเป็นถุงพิษสีเงินถุงหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด
ณ ขณะนี้ชิ่งเฉินเข้าใจแล้ว นักฆ่าพลีชีพสามคนนั้นที่ตายก่อนหน้านี้ไม่ได้มาหาหลี่ซูถงเลย เป้าหมายของอีกฝ่าย……คือตนเอง
นักฆ่าพลีชีพสองคนนี้ในวันนี้เป็นคนที่เข้ามาห้าวันก่อนพร้อม ๆ กับเจี่ยนเซิงชาวชวนโจว
เริ่มแรกเขาไม่ได้แคร์เลย แต่วันที่สี่ที่อยู่ในห้องมืด ชิ่งเฉินยิ่งโดดเดี่ยวแต่ยิ่งมีสติแจ่มใส ถึงขนาดที่เคยรีเพลย์เรื่องแปลกทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสมองไปรอบหนึ่ง
เขาจึงมอบโอกาสให้อีกฝ่าย โอกาสที่ตนเองโดดเดี่ยวแถมยังอ่อนแอ
เช่นนี้จะยืนยันได้ว่านักฆ่าพลีชีพเหล่านั้นสรุปว่ามาเพื่อใคร
ถ้าหากสองคนนี้ไม่ลงมือ งั้นเขาก็จะชี้ตัวสองคนนี้ออกมา ถ้าหากสองคนนี้ลงมือ อย่างนั้นคำตอบก็จะเปิดเผยออกมาในทันที
คำนวนเวลา นักฆ่าพลีชีพชุดแรกตามเขาเข้ามาพร้อมกัน
ดังนั้น อันที่จริงวันแรกที่เขาทะลุมิติมาก็มีคนอยากฆ่าเขาแล้ว หากไม่ใช่เขาไปหาหลี่ซูถงตั้งแต่แรก ทำให้จิตใจของอีกฝ่ายมีความหวั่นเกรง ตนเองก็ตายตั้งแต่แรกแล้ว
สรุปว่าใครอยากฆ่าตนเองล่ะ ผู้ท้าชิงเงาคนอื่นเหรอ
ดูท่าสังเวียนแห่งเงาจะอันตรายยิ่งกว่าที่ตนเองจินตนาการเสียอีก
เงาของกลุ่มการเงินตระกูลชิ่งที่ชำนาญการทำเรื่องสกปรกเป็นพิเศษย่อมเป็นคนที่ไม่สนใจวิธีการ กล้ากำจัดผู้เห็นต่าง จึงสมกับเป็นเงา
การแข่งขันของเก้าคนในความมืดมิดนี้ ตั้งแต่เริ่มแรกก็ไม่ใช่ใครปฏิบัติภารกิจได้แกร่งยิ่งกว่า ทว่าเป็นใครโหดเหี้ยมและเด็ดขาดยิ่งกว่า
ตอนนี้ พัศดีจักรกลสี่ตัววิ่งเข้ามาอย่างเป็นระเบียบ
แต่พวกเขาไม่ได้มารบกวนชิ่งเฉินเลย ทว่ามาแบกนักฆ่าพลีชีพสองคนนี้ออกไป
ชิ่งเฉินรู้ว่าพวกเขาจะเผชิญกับการสอบสวนและการลงทัณฑ์ที่หนักหน่วงอย่างยิ่ง เพราะว่าเขาเพิ่งจะประสบมา
“บอส ตอนนี้ทำไงครับ” ลู่ก่วงอี้ถาม
“รอพวกเขาเปิดปาก” ชิ่งเฉินพูดจบแล้วก็สบตากับหลินเสี่ยวเสี้ยวที่อยู่ห่างออกไป จากนั้นเดินไปที่เขตอ่านหนังสือ
……
กลางคืน เรือนจำหมายเลข 18 ฟื้นฟูสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง
ขณะที่ชิ่งเฉินนอนอยู่บนเตียงคิดเรื่องราว ประตูเลื่อนโลหะของห้องขังเขาจู่ ๆ ก็เปิดขึ้นมาเอง
เขาไม่ได้ประหลาดใจเลย ทว่าเดินออกไปอย่างไร้สุ้มเสียง หลี่ซูถง, เยี่ยหว่าน, หลินเสี่ยวเสี้ยวรอเขาอยู่ที่เขตออกกำลังกายชั้นล่างแล้ว
หลี่ซูถงมองชิ่งเฉินที่อยู่เบื้องหน้าถามว่า “มีอะไรอยากถามไหม เรื่องอื่นที่สามารถจัดการก่อนเรียน”
“ใครอยากฆ่าผม” ชิ่งเฉินถาม
“ยังสอบไม่ได้ความ” หลินเสี่ยวเสี้ยวที่อยู่ด้านข้างกล่าว “สองคนนี้กระดูกแข็งมาก ในฝันร้ายยังสามารถกัดฟันไม่ปริปาก อวัยวะจักรกลเหมือนกับจะเปลี่ยนมาเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้หาสถานที่จำหน่ายและสถานที่ผลิตอวัยวะจักรกลของพวกเขาได้ แต่คุณวางใจเถอะ ให้ผม 7 วัน ผมจะให้คำอธิบายกับคุณ”
“ขอบคุณ” ชิ่งเฉินพยักหน้า
หลี่ซูถงคิดแล้วกล่าวว่า “ยังไงซะก็เป็นผู้เยาว์ไม่กี่คนนั้นของบ้านชิ่งนั่นแหละ คิดจะแย่งชิงตำแหน่งของเงา อันตรายเป็นเส้นทางที่ต้องเดิน อันนี้เธอต้องทำใจเตรียมให้พร้อมนะ”
“เพราะอะไรถึงอยากจะแย่งชิงตำแหน่งเงานี้กันนักครับ” ชิ่งเฉินไม่เข้าใจ “ถึงจะตายเก้ารอดหนึ่งก็ไม่ลังเลเลยเหรอ”
หลี่ซูถงยิ้มแล้วกล่าวว่า “เพราะไม่รู้ว่าตระกูลชิ่งเริ่มตั้งกฎตั้งแต่รุ่นไหน ว่าคนที่เคยเป็นเงาจึงจะสามารถเป็นผู้นำตระกูล”
……………………………………………………
ตอนที่ 42 – หายใจ