นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature) – ตอนที่ 92 ฝุ่นผงจางหาย

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

ตอนที่ 92 – ฝุ่นผงจางหาย

 

บนรถ MPV หัวหน้าคนร้ายเห็นว่าสลัดชิ่งเฉินไม่หลุดมานานแล้ว ใจที่เต้นระทึกค่อย ๆ ผ่อนคลายลง

เขายังมีปืน แต่อีกฝ่ายไม่มีปืนแล้ว

ตอนที่ถึงทางโค้งแห่งหนึ่ง จู่ ๆ เขาลดกระจกรถลง

พริบตาที่ตัวรถเปลี่ยนทิศทางจากการเลี้ยว หัวหน้าคนร้ายยกปากกระบอกปืนออกไปนอกตัวรถ เล็งใส่ชิ่งเฉินแล้วลั่นไก!

แต่สิ่งที่หัวหน้าคนร้ายคิดไม่ถึงคือ วินาทีที่เขาเริ่มลดความเร็ว ชิ่งเฉินถึงกับชักปืนอีกกระบอกจากเอว ลั่นไกออกไปในเวลาเดียวกันกับเขา

ปืนบนตัวชิ่งเฉินมีสองกระบอก!

การกระทำที่จงใจยิงกระสุนจนหมดแล้วโยนปืนทิ้งก่อนหน้านี้ก็คือจงใจทำให้หัวหน้าคนร้ายเห็น เพราะเขารู้ว่าตนเองไล่ตามรถทันได้ยากมาก

ไม่สู้ทำให้หัวหน้าคนร้ายผ่อนความเร็วลงเอง หรือว่ากลับมาฆ่าเขา

หัวหน้าคนร้ายแตกตื่นแล้ว เขาก้มศีรษะหลบในเวลาเดียวกับที่ยิงปืน ปากประบอกปืนเบี่ยงเบนไปทันที

หูของหัวหน้าคนร้ายชาไป คล้ายกับว่ามีสิ่งของอะไรแทงทะลุตรงนั้น เขาถึงขนาดยังสามารถได้กลิ่นเหม็นไหม้ของเส้นผมตนเองที่ถูกลูกกระสุนเผา

การดวลปืนยามเที่ยงคืนเปิดฉากบนถนนภูเขา ชิ่งเฉินก็โดนยิง

ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะสูญเสียศูนย์ปืน แต่ลูกกระสุนยังคงบินเฉียดไหล่ของเขา ทิ้งร่องเลือดลึกเส้นหนึ่งเอาไว้บนแขนขวาของเขา

ชิ่งเฉินสูญเสียการทรงตัวและล้มลงพื้น แรงเฉื่อยอันมหาศาลในการวิ่งรวมทั้งพื้นที่ลาดเอียงลงเขาทำให้เขากลิ้งบนพื้นไม่หยุด

เขาเม้มปากคืบคลานลุกขึ้นมาใหม่ มองดูเงารถที่ยิ่งมายิ่งห่างไกลไปบนถนนภูเขาอย่างเย็นชา

ถัดจากนั้น เพื่อที่จะร่นระยะทางกับรถ MPV เขาถึงกับเดินทางตัดป่าเขาระหว่างทางด่วนเท้าเปล่า!

ระหว่างถนนภูเขา ชิ่งเฉินวิ่งพลางถือก้อนหินที่ใหญ่กว่าหัวของเขาหนึ่งก้อน

เขาเหยียบย่ำไปบนกิ่งไม้และก้อนหิน เส้นประสาทที่ฝ่าเท้าส่งคำเตือนที่ทำให้คนสั่นเทา

ไม่รู้ว่าเมื่อใด ฝ่าเท้าที่เดิมทีเรียบลื่นนั้นเลือดเนื้อเลอะเลือนไปแล้ว ส้นเท้าดำปี๋ ดูโหดร้ายทารุณเป็นพิเศษ

เพียงแต่เขาไม่ได้ไปแคร์รอยเลือดบนแก้มที่กิ่งไม้บาด ไม่ได้ไปแคร์ร่องเลือดบนไหล่

แล้วก็ไม่ได้ไปแคร์เศษหินกับกิ่งไม้ใต้เท้า

สิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็คือละทิ้งความเจ็บปวดที่รับรู้ทั้งหมดด้วยพลังใจ

จากนั้นให้คนร้ายตัวการของคืนนี้จ่ายค่าตอบแทน

ชิ่งเฉินยิ่งวิ่งยิ่งเร็ว

ตอนที่ทะลุผ่านภูเขา ฟ้าดินเหมือนกับจะกลายเป็นกระดานหมากรุกขนาดยักษ์

ชั่วขณะนี้เขาไม่ได้เป็นผู้เดินหมากแล้ว ทว่าเป็นทหารกล้าที่กำลังข้ามแม่น้ำระหว่างฉู่ฮั่นคนนั้น!

เลือดผู้กล้าทั้งตัว!

กระดานหมากรุกถนนภูเขากระดานนี้ค่อย ๆ กลายเป็นแบบแผนในสมองชิ่งเฉิน เขาคำนวณความเร็วของตนเองเงียบ ๆ ยังมีความเร็วในการขับรถของอีกฝ่าย

ข้อมูลสำคัญแต่ละชิ้นส่วนสอดประสานกันในสมองชิ่งเฉิน

พริบตาต่อมา ชิ่งเฉินวิ่งอย่างบ้าคลั่งไปทางหน้าผาสูงชันของป่าเขา สิบกว่าเมตรข้างใต้ก็คือทางด่วนผานซานที่ต้องผ่าน หยาดเหงื่อที่ใสกระจ่างเปล่งประกายหยดลงมาจากปลายผมเขา

“หายใจ”

“ควบคุม”

“ครอบงำ”

ที่นี่ไม่ได้มีแต่ทหารกล้าที่ข้ามแม่น้ำ ยังมีปืนใหญ่ที่โจมตีใส่หัว!

พริบตานั้น เขาไม่ได้แม้แต่จะมองว่ารถ MPV ขับไปถึงที่ไหนก็ปล่อยก้อนหินในอ้อมกอดออกจากมือ

เห็นเพียงหินก้อนนั้นถูกโยนขึ้นสูง มันค้างอยู่กลางอากาศสูงสิบกว่าเมตรแล้ววาดเส้นโค้งพาลาโบราตกไปตรงที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ

ก้อนหินกลิ้งอยู่กลางอากาศ ในเวลาเดียวกันภายใต้ความเร่งของแรงโน้มถ่วงก็ยิ่งบินยิ่งเร็ว!

ม่านตาของหัวหน้าคนร้ายหดตัวลงอย่างฉับพลัน!

เขาเหยียบเบรคกะทันหันแต่ว่าไม่ทันแล้ว รถ MPV สีดำเหมือนกับขับไปชนกับก้อนหินที่บินมาจากฟ้าด้วยตัวเอง

เสียงตูม  หัวหน้าคนร้ายถูกกระแทกบนเบาะที่นั่งคนขับ รถ MPV หลังสูญเสียการควบคุมก็ชนเข้ากับภูเขาข้างถนน

ในค่ำคืนมืดมิด ไม่มีคนสังเกตเห็นว่าบนทางด่วนผานซานเพิ่งจะเกิดอุบัติเหตุรถชน

หัวหน้าคนร้ายนั่งอยู่ในรถเงียบ ๆ เนื่องจากศีรษะกระแทกพวงมาลัยจึงมีเลือดไหลเต็มหน้าแล้ว

ดูแล้วน่าสยดสยองอย่างยิ่ง

กระโปรงรถบิดเบี้ยวจนไม่เป็นรูปทรง ในรถยังส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเหมือนกับว่ามีตรงไหนรั่ว

ปืนก็ไม่รู้ว่าลอยไปที่ไหนแล้ว

เขาใช้หัวไหล่กระแทกเปิดประตูรถ เดินกะโผลกกะเผลกออกจากรถคิดจะเดินเท้าเข้าไปในภูเขา

แต่ทว่า หัวหน้าคนร้ายจู่ ๆ มองเห็นว่าเด็กหนุ่มปิดหน้าคนนั้นถึงกับปรากฏตัวตรงทางแยกของทางด่วนผานซาน

เขาคิดไม่ตกเลยว่าฝ่าเท้าของอีกฝ่ายเลือดเนื้อเลอะเลือนไปแล้ว เหตุใดยังต้องไล่ตนเองอย่างกัดไม่ปล่อยด้วย!

พริบตาถัดมา ความเร็วของเด็กหนุ่มยิ่งมายิ่งเร็ว ถึงกับวิ่งขึ้นมาอีกแล้ว!

พริบตานี้หัวหน้าคนร้ายหวาดกลัวอยู่บ้าง เห็น ๆ อยู่ว่าตนเองมีอวัยวะจักรกล แต่ไม่อาจดึงความกล้ามาสู้กับอีกฝ่ายซึ่งหน้าเอาเสียเลย!

เขาหมุนตัวอยากจะวิ่งหนี แต่ยังวิ่งไม่ถึงสองช่วงตัวก็เสียการทรงตัวล้มลงพื้น

อุบัติเหตุรถชนเมื่อครู่นี้เหมือนกับจะส่งผลกระทบต่อมันสมองส่วนล่าง* ของเขา ตอนเดินไม่อาจควบคุมการทรงตัว

หัวหน้าคนร้ายดิ้นรนคืบคลานขึ้นมา ในใจเขาเห็นเด็กหนุ่มมาถึงเบื้องหน้าแล้ว ใจเต้นตูมตาม

เขายืนตัวตรงคำรามว่า “มาสิ! ไม่ใช่ว่าอยากฆ่าฉันเหรอ มาสิ!”

แต่เด็กหนุ่มนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงสักคำ

เห็นเพียงในมือเด็กหนุ่มจู่ ๆ มีมีดพับหนึ่งเล่มปรากฏขึ้นมา แทงไปที่ลำคอของหัวหน้าคนร้ายอย่างดุดัน

หัวหน้าคนร้ายตระหนกอยู่ในใจ อวัยวะจักรกลที่แข็งแกร่งทรงพลังของเขาไขว้อยู่ข้างหน้าอย่างว่องไว

แต่ทว่าในชั่วพริบตา มีดในมือเด็กหนุ่มเปลี่ยนทิศกลางอากาศ คมมีดอันแหลมคมเสียดสีกับอวัยวะจักรกล ส่งประกายไฟออกมา

หัวหน้าคนร้ายตกตะลึงอย่างไม่อาจบรรยาย อีกฝ่ายเก็บแรงเร็วเกินไป อย่างกับว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายไม่ใช่ลำคอของตนเองเลย

กลับเห็นเด็กหนุ่มถอยหลังกดเอวต่ำ มีดในมือฟันไปทางต้นขาหัวหน้าคนร้าย

ครั้งนี้ หัวหน้าคนร้ายเร็วขึ้นหนึ่งก้าว อวัยวะจักรกลอันแข็งแกร่งออกตัวที่หลังแต่ถึงก่อน

ขอเพียงเขาสามารถคว้าข้อมือที่ถือมีดของเด็กหนุ่มแล้วหักซะ อย่างนั้นชัยชนะของการต่อสู้นัดนี้ยังคงเป็นของเขา

หัวหน้าคนร้ายรู้สึกตาพร่าไป ครั้งนี้ เด็กหนุ่มที่ปิดหน้ายังคงเป็นการโจมตีหลอก!

พริบตาที่เขาออกแรงจับแขน อีกฝ่ายถึงกับก้าวออกด้านข้างไปถึงด้านซ้ายของเขาแล้ว ที่นี่ประตูเปิดอ้าซ่า!

ยังไม่ทันที่เขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง มีดพับในมืออีกฝ่ายแทงใส่ม้ามของเขาอย่างหนักหน่วงแล้ว

ชั่วขณะหนึ่ง หัวหน้าคนร้ายจู่ ๆ รู้สึกว่าตัวเองคล้ายจะกลับไปสู่สนามรบของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังเผชิญหน้ากับปรมาจารย์วิชามีดคนหนึ่ง

ตั้งแต่ที่เริ่มสู้ ตนเองถึงขนาดไม่สามารถสัมผัสถูกร่างกายของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ

ถึงแม้ว่าตนเองจะได้รับบาดเจ็บ สมองกระเทือน นี่ก็น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง

อีกฝ่ายเหมือนกับลมหอบหนึ่ง จับไม่อยู่ สัมผัสไม่โดน

แต่สามารถฆ่าคน

เด็กหนุ่มเหมือนกับปฏิบัติตามแผนที่กำหนดไว้แล้วอย่างแม่นยำ ชักจูงเขาให้เปิดเผยจุดอ่อนข้างลำตัวของตนเองออกมาไปทีละก้าว ส่วนทุกย่างก้าวของตนเองล้วนอยู่ในการคำนวณของอีกฝ่าย

เหมือนกับศิลปะเลย เขาหวาดผวาในใจ เด็กหนุ่มดึงมีดออก หมุนตัวจากไป

หัวหน้าคนร้ายรู้สึกว่าเลือดทั้งร่างของตนเองไหลออกมาเหมือนเขื่อนแตก

เขามองดูเงาหลังที่ไม่สะทกสะท้านสักนิดของอีกฝ่าย คล้ายกับว่าตนเองเป็นแค่ตัวละครเล็ก ๆ ไม่มีความจำเป็นต้องสนทนากันเลย

ที่แท้ เด็กหนุ่มนั่นทนต่อความเจ็บปวดบนเท้าอย่างขมขื่นไล่ตามมาก็เพียงเพื่อให้ตนเองตายเท่านั้น ไม่ได้เหลือความเป็นไปได้แม้แต่เศษเสี้ยวให้ตนเองอีก

“เพราะอะไร”

หัวหน้าคนร้ายกระเสือกกระสนถามออกมา เขาฉงนสงสัยมาก

ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ผมรับปากกับคนอื่นว่าคืนนี้คุณต้องตาย”

พูดจบ เด็กหนุ่มหมุนตัวตั้งใจจะจากไป เวลานี้ ในกระเป๋าหัวหน้าคนร้ายมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา

ร่างที่จากไปของเด็กหนุ่มหยุดชะงัก คล้ายกับเกิดความหวาดระแวง

…………………………………

*มันสมองส่วนล่าง (cerebellum) เป็นส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย

 

 

 

ตอนที่ 93 – การเริ่มต้นใหม่

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature)

Status: Ongoing

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท