การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 146 สันตะปาปา ปะทะ ราชาอมตะ

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 146 สันตะปาปา ปะทะ ราชาอมตะ

 

 

ลิชคือจุดสูงสุดของมอนสเตอร์ประเภทอันเดธ ไม่ต่างอะไรกับแวมไพร์

 

ทว่าพวกมันก็ไม่ได้เหมือนกับพวกแวมไพร์ที่จะมีลักษณะร่วมกันทางสายพันธุ์ ขอแค่เป็นอันเดธที่สามารถยกระดับสายพันธุ์ตัวเองไปถึงขั้นสูงสุดได้มันก็เพียงพอจะให้เรียกว่าลิชแล้ว

 

 

ดังนั้นต้นกำเนิดของพวกมันอาจจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ตัว

 

จึงทำให้มีหลายกรณีเป็นอย่างมากที่ลิชกะเกิดขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่ซากศพภายในสนามรบได้รับมานาจำนวนมากเป็นเวลานอนจนเกิดอัตตาขึ้นและกลายเป็นลิช ถึงขั้นว่าในอดีตเคยมีบางตัวที่แกร่งขึ้นขนาดได้รับสมญานามว่าราชาแห่งลิช

 

ส่วนกรณีอื่นก็จะมีอย่างพวกจอมเวทที่เข้าถึงเวทต้องห้าม จนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ผิดเพี้ยนไป ก่อนจะจบลงที่การเป็นลิช

 

การกระทำและเป้าหมายของพวกเขามันก็แตกต่างกันออกไปตามแต่ต้นกำเนิด และไม่ใช่ว่าลิชทุกตัวจะทำร้ายมนุษย์ บางตัวก็แอบไปสร้างอาณาจักรของตัวเอง เพื่อวิจัยเรื่องที่ตนสนใจโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์

 

แต่ในความเป็นจริง ของแบบนั้นมันก็ช่างหาได้ยากนัก เพราะพวกลิชส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นศัตรูกับมนุษย์

 

จึงทำให้ทางศาสนจักรต้องคอยรับมือกับพวกมันอยู่เสมอ โดยเฉพาะทางวิหารแห่งกฏหมายที่มีความพยายามจะกำจัดมอนสเตอร์และพวกอันเดธแล้ว ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเขาได้กำจัดพวกมันไปในจำนวนที่นับไม่ถ้วน

 

 

 

จนถึงขั้นที่ว่าเกิดเหตุการณ์อย่างพวกลิชร่วมมือกันเองเพื่อเข้าต่อต้านวิหารแห่งกฏหมายก็มี

 

 

ยาไค (งานเลี้ยงยามสายัณห์)

 

 

มันคือชื่อขององค์กรที่เป็นจุดรวมตัวกันของเหล่าลิชที่น่าสะพรึงกลัว――

 

 

 

『เอริ เอริ อุรุส เอริ อุรุส ฝูงแห่งแมลง ผู้สยายปีกแห่งการกลืนกินจงปรากฏ』

 

 

 

 

เป็นองค์กรที่ต้องการจะให้พระสันตะปาปาโนอาห์ผู้สังหารราชาแห่งลิชทั้ง 3 ในอดีต ตายลง

 

 

 

คนทั่วไปไม่อาจจะเข้าใจได้ถึงการร่ายมนตร์ของชารามอน เพราะมันคือการร่ายที่รวดเร็วเป็นพิเศษซึ่งเกิดมาจากทักษะอันโดดเด่นในฐานะจอมเวทของเขา และการลดบทร่ายที่เกิดมาจากทักษะของนักวิจัย ความสามารถในการดัดแปลงบทร่ายของเวทที่มนุษย์ไม่อาจจะทำตามได้

 

 

 

 

『เสียงปีกบินที่ มิอาจหยุดความหิวกระหาย――ปฐมจักรพรรดิแห่งเหล่าตั๊กแตน』

 

 

ฝูงตั๊กแตนจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาหลังการร่าย แน่นอนว่ามันไม่ใช่ตั๊กแตนจริงๆ แต่มันคือเวทมนตร์ที่ก่อกำเนิดร่างขึ้นมา

 

 

 

ถึงจะเป็นเวทของมิโรสลาฟก่อนหน้านี้ก็คงไม่สามารถหักล้างการโจมตีด้วยฝูงตั๊กแตนจำนวนมากขนาดนี้ได้

 

 

คลื่นแห่งพลังเวทได้ถาโถมเข้ามาใส่พวกเธอด้วยความโกรธแค้น

 

 

 

ไม่มีทางจะป้องกันมันได้แน่ ทั้งมิโรสลาฟและลูนามาเรียต่างก็สัมผัสได้ถึงเคียวแห่งความตายที่มาจ่อคอของพวกเธออยู่

 

 

 

――ทว่าก็เกิดเสียงดังก้องขึ้นมาภายในหูของพวกเธอ มันแตกต่างจากเสียงของฝูงตั๊กแตนนั่น

 

 

 

 

「『ขอองค์เทพจงคุ้มครองพวกเรา』」

 

 

 

บาเรียแห่งแสงได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของมิโรสลาฟและคนอื่นๆ ก่อนจะล้อมพวกเธอไว้ด้วยความรวดเร็ว หากมองดูให้ชัดๆ บริเวณตัวของบาเรียจะมีรอยอักษรอันวิจิตรติดอยู่นับไม่ถ้วน

 

 

มันคือหนึ่งในเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่เทพแห่งกฎหมายจะประทานมาให้แด่สันตะปาปา

 

หญิงสาวที่ชารามอนเรียกว่าสันตะปาปาได้นำมันออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย ทั้งที่แต่เดิมมันควรจะเป็นเวทที่ต้องใช้เวลาในการร่ายสักพักหนึ่ง

 

และนี่คือเหตุการณ์ที่เวทของลิชและสันตะปาปาได้มาปะทะกัน

 

 

 

ทุกครั้งที่ฝูงตั๊กแตนบินมาแตะที่บาเรีย เสียงระเบิดก็จะดังกึกก้องขึ้นทั่วไปทีทิส การระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นกว่าหลายสิบ หลายร้อย หรืออาจจะเป็นพันครั้ง จนทำให้รู้สึกว่าแค่ความรุนแรงในการระเบิดเพียงครั้งเดียวก็น่าจะเพียงพอในการคร่าาชีวิตคนนับสิบได้แล้ว

 

 

พลังทำลายอันมหาศาลที่มากพอจะทำลายกำแพงเมืองหลวงให้เป็นผุยผงได้ในชั่วพริบตา ภาพของต้นไม้รอบๆ ก็เปลี่ยนจากสีเขียวไปสีดำในชั่วพริบตา

 

 

ดินได้ถูกคว้านออกไปจนหมดสิ้น เปลวไฟได้ลุกโชนไปรอบๆ สายลมก็เกิดจากเปลวไฟก็พัดกระโชกแรง พวกกูลทมิฬที่อยู่โดยรอบก็เละจนไม่เหลือซาก

 

 

เวทที่ร่ายโดยชารามอนนั้นน่าจะสามารถฆ่าคนเป็นแสนๆ ได้โดยง่าย มันช่างเป็นเวทที่น่ากลัวถึงขั้นที่เวทระดับ 9 ซึ่งเป็นเวทระดับสูงสุดที่พวกจอมเวทจะใช้ได้ยังไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ――อย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่มิโรสลาฟคิด

 

 

หากเวทมนตร์ระดับนี้สามารถเปิดใช้งานได้ในช่วงสั้นๆ แม้แต่การพิชิตนานาประเทศก็คงไม่ใช่เรื่องเกินฝันอีกต่อไป ถึงเธอจะเคยได้ยินความน่ากลัวของพวกลิชมาบ้างแล้ว แต่ก็อดประหลาดใจไม่ได้จริงๆ ที่ได้เห็นตัวเป็นๆ แบบนี้

 

 

ทว่า――

 

 

 

「พวกท่านเป็นอะไรหรือเปล่า? 」

 

 

เธอก็อดทึ่งกับหญิงสาวที่สามารถหยุดเวทมนตร์ของมอนสเตอร์ระดับนั้นได้อย่างสมบูรณ์ตรงหน้าเธอไม่ได้จริงๆ

 

 

 

――ในตอนนี้ แน่นอนว่าถึงพวกเธอจะประหลาดใจ แต่พวกเธอก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด ทางลูนามาเรียเองก็เช่นกัน

 

หากเป็นพวกเธอเมื่อครึ่งปีก่อน เธอก็คงจะรู้สึกเกรงกลัวต่อลิชแล้วก็พระสันตะปาปาไปแล้ว ทว่าด้วยประสบการณ์ที่พวกเธอคนพบเจอมาก่อนหน้านี้มันช่วยพวกเธอไว้

 

 

แม้จะตกใจแต่ก็ไม่ได้หวาดกลัว นั่นจึงทำให้สายตาของสันตะปาปาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทั้งสอง

 

 

 

ในขณะเดียวกัน เสียงของชารามอนก็ดังขึ้นมาจากอีกฝั่งของบาเรีย

 

 

 

『คาดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเจ้าจะสามารถป้องกันเวทมนตร์ที่ข้านำศิลานักปราชญ์มาช่วยเสริมพลังได้สำเร็จ น่าทึ่งจริงๆ สันตะปาปาโนอาห์』

 

 

ลิชได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากฝุ่นได้ฟุ้งหายไป เมื่อเห็นแบบนั้นพวกคนของศาสนจักรก็เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องพระสันตะปาปา แต่เธอก็ได้ยกมือขึ้นห้ามพวกเขาก่อน

 

จากนั้นเธอก็เปิดปากพูด

 

「นี่คือโล่ที่ฉันได้รับมาจากพระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าเวทมนตร์ของเจ้าจะทรงพลังสักเพียงใด ก็ไม่อาจเจาะทะลุมันได้หรอก」

 

 

『สำหรับข้าผู้ศึกษาเวทมนตร์จนได้เป็นจ้าวแห่งศาสตร์เวทแล้ว การพูดแบบนั้นโดยทั้งหมดเป็นแค่การหยิบยืมมาจากเหล่าเทพ ช่างกล้าหาญเสียจริง』

 

 

「ฉันก็ไม่เห็นจะต้องสนใจคำของผู้ตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกชั่วร้ายเสียหน่อย ชารามอนสินะ จำได้ว่าชื่อนั้นอยู่ในลำดับที่ 3 ของยาไค เจ้าเป็นชารามอนตนนั้นจริงๆ สินะ? 」

 

 

 

『จะใช่หรือเปล่านะ』

 

 

ทันทีที่มันตอบกลับ พลังเวทภายในร่างของชารามอนก็เพิ่มขึ้น เป็นสองเท่า เสียงครวญครางแปลกประหลาดได้ออกมาจากปากของมัน

 

 

ทางพระสันตะปาปาที่เห็นก็ขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย ก่อนที่ชารามอนจะพูดต่อ

 

 

『นอกจากนี้ก็อย่าคิดเชียวว่าข้าจะเหมือนกับพวกกระจอกที่เจ้าปราบลงได้ ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือนอกนครศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ที่ไม่ได้มีบาเรียแสนน่ารังเกียจที่สามารถลบล้างพลังของพวกข้าได้』

 

 

「พวกเราไม่ได้ต่อสู้โดยใช้บาเรียนั่นเพียงอย่างเดียว แต่พวกเราต่อสู้โดยได้รับพรจากพระผู้เป็นเจ้า และเหล่าผู้ศรัทธาทุกคนก็จะได้รับมันจากพระองค์อย่างเท่าเทียมไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกนครศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม」

 

 

 

『ถ้าเช่นนั้นก็ลองใช้พรจากพระเจ้าที่ว่าในการทำลายล้างพวกเราดูเสียสิ』

 

 

 

พอพูดจบชารามอนก็หยิบเอาคริสทัลขนาดใหญ่ออกมาจากกระเป๋าของมัน จำนวน 1 2 3 และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

 

 

ความบริสุทธิ์ของมันช่างแตกต่างจากของมิโรสลาฟเคยใช้ที่เขาสกิมเป็นอย่างมาก หากให้เทียบก็เหมือนกับดื่มน้ำจากโคลน กับน้ำที่ละลายจากเทือกเขา

 

ศิลานักปราชญ์ มันคือหินเวทมนตร์ที่มีความบริสุทธิ์สูง ขณะนี้พวกมันจำนวน 6 ชิ้น ได้ลอยอยู่รอบๆ ตัวของชารามอน เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าเวทที่มันจะใช้นับจากนี้ไปจะแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 6 เท่า

 

 

จากนั้นหินเหล่านั้นก็ได้ลอยตัวขึ้นไปในอากาศก่อเป็นรูปดาว 6 แฉก ทันทีที่พระสันตะปาปาเห็น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

 

 

 

『ว่ากันว่าตั้งแต่โบราณ โล่ที่แข็งแกร่งที่สุดจะถูกทำลายได้ด้วยหอกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น ได้ว่าเวลาตามหาความจริงแล้ว ไม่ว่าโล่ที่พระเจ้ามอบมันให้กับเจ้าจะแข็งแกร่งที่สุดหรือไม่ ข้าชารามอนผู้นี้จะเป็นผู้ทดสอบมันให้เอง――ปลดปล่อยพลังเวท』

 

 

 

 

ชารามอนพูดพร้อมกับปล่อยพลังเวทจำนวนมหาศาลภายในตัวเขาและศิลานักปราชญ์ออกมา

 

 

 

「คึก?!」

 

 

 

มันคือหอกแห่งแสงขนาดมหึมาที่พุ่งตรงมายังบาเรียศักดิ์สิทธิ์ พระสันตะปาปาส่งเสียงแห่งความเจ็บปวดออกมาจนมิโรสลาฟได้ยิน นอกจากนั้น

 

 

บาเรียที่สามารถป้องกันเวทมนตร์ทุกชนิดมาได้จนถึงก่อนหน้านี้กลับส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดออกมาแล้ว

 

 

บาเรียตรงหน้าของพวกมิโรสลาฟได้ขณะนี้ได้เริ่มมีรอยแตกร้าวขึ้น แต่เมื่อพระสันตะปาปายกมือขึ้นไปด้านหน้า ส่วนหนึ่งของมันก็ได้รับการซ่อมแซม ทว่าเพียงช่วงสั้นๆ มันก็เริ่มเกิดการพังทลายลงอีกครั้งและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ราวกับไม่สามารถต้านพลังนั้นได้

 

ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด เหงื่อของเธอได้ไหลลงมาจากหน้าผากไปถึงแก้ม

 

 

ช่วงเวลานี้พวกมิโรสลาฟต่างก็อยู่ในสภาวะตกตะลึงและหาทางคิดว่าพวกตนจะสามารถทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์เช่นนี้

 

 

 

แต่เมื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเธอก็รู้ดีว่าการต้านพลังกันระดับนี้ หากมีมือที่ 3 เข้าไปยุ่งก็มีแต่จะเป็นอุปสรรคเปล่าๆ โดยเฉพาะกับทางมิโรสลาฟและลูนามาเรีย พวกเธอไม่ได้มีความสามารถด้านเวทศักดิ์สิทธิ์ แถมทางฝ่ายศาสนจักรก็ไม่คิดจะเคลื่อนไหวอะไรด้วย ดังนั้นก็คงไม่มีอะไรที่พวกเธอจะช่วยได้

 

นอกจากนี้ถึงเธอจะเข้าไปช่วยเหลือโดยการโจมตีชารามอน แต่ทันทีที่พวกเธอออกจากบาเรียไป พวกเธอคงได้หายไปจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกแน่ สุดท้ายก็คงได้แต่ภาวนาว่าขอให้บาเรียของพระสันตะปาปาสามารถต้านเวทมนตร์ของชารามอนได้สำเร็จ

 

 

 

แต่แล้วความหวังนั้นก็ได้ถูกพัดหายไป เมื่อบาเรียเริ่มเกิดความเสียหายมากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่าพลังของชารามอนนั้นเหนือกว่า

 

 

กลับกันพระสันตะปาปาได้กัดฟันทนต้านเอาไว้จนหน้าซีด ตอนนี้ไม่มีจุดไหนในบาเรียที่ไม่เกิดรอยร้าวอีกแล้ว

 

 

 

จุดจบของพวกเธอกำลังจะใกล้เข้ามา

 

 

 

『จงอย่าได้เสียใจไปเลย เพราะพวกเจ้าได้ตายด้วยน้ำมือของชารามอนผู้นี้ จงรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจเสียเถิด』

 

 

 

ราวกับว่ามันกำลังรอให้คำพูดของชารามอนสิ้นสุดลง ในที่สุดบาเรียก็ได้แตกสลายไป

 

 

เพียงเสี้ยววินาทีนั้น

 

ชารามอนได้ทำการอัดพลังเวทให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้มั่นใจว่าเป้าหมายจะไม่เหลือแม้แต่ซาก――

 

 

 

 

「ก็นึกว่าไอ้โง่ที่ไหน แกนี่เอง」

 

 

 

โซระที่ตามเสียงระเบิดซึ่งดังสนั่นไปทั่วป่าจนมาถึงตรงนี้ ได้ทำการผ่าครึ่งร่างของชารามอนตั้งแต่ส่วนหัวลงมาในดาบเดียว

 

 

——–

Note 1 : พระเอกมาตอนจบตามสูตร // อันนี้โนอาห์ ใน WN ไม่มีฉากที่นางไปเจอพวกมิโรตอนแรก เลยเอามาลงนี่ละกัน

Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท