การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 175 เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ ความจริง

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 175 ความจริง

 

 

เวทของลาสคาริสได้เปลี่ยนภูมิทัศน์โดยรอบไปอย่างสิ้นเชิง

 

 

ฝูงมอนสเตอร์และซากศพของเบฮีมอธได้หายไป โดยบริเวณใจกลางของเวทได้เกิดเป็นหลุดขนาดใหญ่ทรงกรวยชวนให้นึกถึงรังของมดอเวจี

 

 

ผลกระทบของแรงระเบิดคราวนี้ถึงจะอยู่ที่เบลก้าก็คงจะสามารถเห็นได้ ชวนให้พวกเขาคิดว่าอาจเกิดจากอาวุธโบราณหรืออะไรเทือกนั้นเกิดทำงานขึ้นมา แต่ก็น่าเสียดายเพราะโจเอลกับพวกคนที่อยู่เลโลคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าดราก้อนสเลเยอร์อยู่ตรงนี้ กลับไปคงได้โดนถามจนเพลียแน่

 

 

 

เอาเถอะช่างหัวมัน ยังไงเดี๋ยวก็กลับอิชกะอยู่แล้ว แถมไม่เห็นจะต้องไปอธิบายให้พวกคนในเบลก้าฟังด้วย

 

 

 

แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าตอนนี้ เหตุผลที่ผมมายังเบลก้า――เขาของเบฮีมอธ――ได้ถูกพัดหายไปตามสายลมด้วย

 

 

ก็ไม่ได้สนหรอกนะว่าจะเป็นราชาแห่งอาณาจักรทองคำหรือผู้นำของยาไค――ผมจึงบ่นกับอีกฝ่ายไป แต่ทางนั้นเหมือนจะไม่ได้คิดอะไรมาก

 

 

 

 

「ถ้างั้นฉันขอมอบสิ่งนี้ให้แทนละกัน คิดว่าพอได้ไหม? 」

 

 

พอพูดจบลาสคาริสก็โยนหินเวทขนาดเท่ากับกำปั้นเด็ก ถึงขนาดจะไม่ได้ใหญ่อะไรแต่ความบริสุทธิ์ของหินเวทมันสำคัญกว่า ไอ้ความบริสุทธิ์ที่ว่าก็คือปริมาณพลังเวทภายในหิน

 

 

ดูจากพลังข้างในแล้วหากจะบอกว่ามันคือสมบัติประจำชาติของคานาเรีย ไม่สิจักรวรรดิก็คงฟังขึ้น

 

 

ก็ไม่คิดหรอกนะว่าอีกฝ่ายอ่านความคิดของผมได้ แต่คำพูดของเขาถัดจากนี้เหมือนกับตอบคำถามในหัวผมได้เลย

 

 

「มันถูกเรียกว่าศิลานักปราชญ์น่ะ ขอบอกเลยว่าเป็นของดีประจำอาณาจักรทองคำเลย ถ้าเอาสิ่งนี้ไปให้สันตะปาปาโนอาห์อีกฝ่ายคงไม่บ่นหรอก」

 

 

 

「……เหมือนจะรู้สถานการณ์ดีเลยนี่」

 

 

 

「ของมันแน่อยู่แล้ว แถมยังมากกว่านายด้วยซ้ำ」

 

 

 

ลาสคาริสพูด

 

 

 

เพื่อที่จะใช้มันเป็นตัวกลางในแกนบาเรียในระยะยาวอันที่จริงไม่จำเป็นต้องใช้เขาเบฮีมอธก็ได้ จะเป็นดวงจิตของเลเวียทาน หางของจิซู หรือหนวดของวาฬขาวก็ได้ ดังนั้นถึงเป็นศิลานักปราชญ์ก็ไม่เกี่ยงหรอก

 

แต่จุดเชื่อมของมันทั้งหมดก็คือของพวกนี้หายากสุดๆ

 

ทว่า สันตะปาปาจะกล้าเอาของแบบนี้ไปใช้หรือเปล่านะ คนที่เหลือจะไม่บ่นเอาเหรอ

 

 

 

「หากดราก้อนสเลเยอร์ผู้สังการเบฮีมอธเป็นคนเอาไปให้สันตะปาปาเอง ยังไงก็ไม่น่าจะมีใครคัดค้านนะ คนส่วนมากก็คงจะยอมรับด้วย หรือถ้ามันไม่ได้จริงก็บอกไปเลยว่าไม่มีทางเลือก ไม่ก็บอกว่าสันตะปาปาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเองก็ได้นี่ทางออกมาเยอะแยะ」

 

 

 

 

 

ผมก็คิดไม่ต่างกับหมอนี่เท่าไหร่

 

จากนั้นลาสคาริสก็พูดต่ออย่างสนุกสนาน

 

 

「นอกจากนี้ ในกรณีของนายหากแก้ปัญหาได้เร็วก็ดีไม่ใช่เหรอ คิจินที่นายปกป้องอยู่จะได้ปลอดภัยด้วย ดังนั้นก็รีบๆ ทำอะไรให้เสร็จเถอะน่า」

 

 

「พูดมากนักนะนายเนี่ย แต่ใจจริงอยากจะทดสอบว่าสันตะปาปาจะเคลื่อนไหวยังไงใช่ไหมล่ะ? 」

 

 

「นั่นก็ส่วนหนึ่ง เพราะเหมือนทางนั้นอยากจะได้แอนดร้าจนตัวสั่นเลยนี่นา สำหรับพวกวิหารเทพแห่งกฎหมายแล้วพวกเขาต้องการสิ่งนั้นอย่างมาก」

 

 

 

「วิหารเทพแห่งกฎหมายเหรอ? 」

 

 

「นายก็น่าจะพอนึกออกแล้วนี่ นอกจากนี้ทางวิหารเทพแห่งกฎหมายก็ครอบครองสิ่งนั้นไปแล้วถึง 2 แห่งนะ ที่แรกคือในจักรวรรดิ ส่วนอีกที่หนึ่งก็คือทะเลฟุไคที่นครศักดิ์สิทธิ์」

 

ที่หนึ่งคือจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อีกที่คือทะเลฟุไคที่กำเนิดไฮดราในอดีต หากรวบรวมข้อมูลสถานที่ที่แตกต่างกันสองแห่งเข้าด้วยกัน รวมไปถึงเรื่องของดาร์คเอลฟ์ในทะเลทรายคาตาลาน

 

 

 

 

นั่นมัน――

 

 

 

 

 

「รังมังกร」

 

 

 

「ปิ้งป่อง」

 

 

 

 

ลาสคาริสปรบมือ

 

อย่างที่ผมเคยบอกก่อนหน้านี้ รังมังกรคือจุดที่พ่นมานาของโลกออกมาจำนวนมาก มันคือสัญลักษณ์แห่งพลังที่สามารถปัดเป่าความชั่วร้ายออกไปได้ ตั้งแต่โบราณเหล่าวีรบุรุษจำนวนมากก็สร้างอาณาจักรของตนไว้ใกล้กับรังมังกร

 

 

พูดกันตามตรง ตอนแรกผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งเพื่อสร้างอำนาจของประเทศและกษัตริย์ อย่างไรก็ตามพอได้เจอรังมังกรในป่าทีทิสขึ้นมาก็ถึงรู้ว่าของจริง

 

 

ดังนั้นผมก็ไม่แปลกใจหากที่จักรวรรดิจะมีของแบบนั้นอยู่

 

 

ทะเลฟุไคที่มีไฮดราเกิดขึ้นมาก็คงจะเป็นเรื่องจริง เพราะไฮดราที่เกิดมาในป่าทีทิสมันก็จำเป็นต้องใช้พลังจากรังมังกรมาหล่อเลี้ยงตัวเอง

 

 

 

ทางแอนดร้าจากที่วิสทีเรียกบอกเกี่ยวกับหุบเหว ยังไงก็ใช่แหละ

 

คำใบ้ของลาสคาริสจึงหาคำตอบได้ง่าย

 

แต่แน่นอนว่ามันยังเป็นเพียงการคาดเดา สถานที่ที่ผมเคยเห็นมีเพียงรังมังกรในป่าทีทิส คำตอบที่ผมได้ก็เป็นเพียงการบอกเล่าจากอีกฝ่าย

 

 

นอกจากนั้นคงจะไร้เดียงสาไปหน่อยหากจะเชื่อสิ่งที่ลาสคาริสพูดถึงวิหารเทพแห่งกฎหมายทั้งหมดโดยไม่สงสัยเลย

 

 

อย่างไรก็ตาม พอมาถึงเบลก้าแล้วได้เจออะไรหลายๆ อย่างก็พอจะเดาได้บ้างแล้วว่าทางนั้นซ่อนอะไรแปลกๆ เอาไว้ แต่การจะมาฟังจากฝ่ายที่เป็นศัตรูของวิหารจะดีจริงเหรอ

 

 

 

ระหว่างที่กำลังคิดเรื่องพวกนี้ ลาสคาริสก็พูดต่อ

 

 

「นายก็คงจะเห็นแล้วนี่ว่าทางจักรวรรดิใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายของไฮดราเข้ามาสร้างแรงกดดันให้กับอาณาจักร ที่พวกเขาทำแบบนั้นก็เพราะทางวิหารเทพแห่งกฎหมายไม่ได้เป็นศาสนาประจำชาติของอาณาจักร พวกเขาก็เลยต้องยืมมือจักรวรรดิมาช่วยแทน ผ่านการแต่งงานระหว่างราชวงศ์ 2 ประเทศ」

 

 

「ก็หมายความว่า สำหรับวิหารเทพแห่งกฎหมายที่ต้องการจัดการรังมังกรภายในป่าทีทิส แต่เพราะเป็นอาณาจักรคานาเรียอำนาจของพวกเขาจึงไม่สามารถส่งไปถึงได้และเหมือนทางนั้นอาจจะไม่ต้องการยืมมือของวิหารเทพแห่งกฎหมายด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้จักรวรรดิมาครองประเทศนี้ให้ได้ก่อนสินะ」

 

「ก็เป็นอย่างที่นายคิดนั่นแหละ นอกจากนี้ก็ใช่ว่าจะมีแค่ทางจักรวรรดิที่เคลื่อนไหว เพราะทางอาณาจักรคานาเรียก็เช่นเดียวกัน มีชนชั้นสูงของฝ่ายคานาเรียเองที่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ด้วยนี่ ถึงจะไม่ชอบจักรวรรดิแต่พอเจอความลำบากขนาดนี้ก็คงต้านไม่อยู่แหละน้อ」

 

 

「มันก็ฟังขึ้นอยู่หรอก แต่พิธีแต่งงานของทั้งสองฝ่ายมันเกิดขึ้นมาก่อนเรื่องไฮดราอีกนะ ดังนั้นจะบอกว่าวิหารเทพแห่งกฎหมายเข้ามาแทรกภายหลังเหรอ」

 

 

「ไม่เลยๆ คำตอบสำหรับเรื่องนี้ก็คือ――ทางนั้นเกี่ยวข้องตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก หรือจะให้พูดง่ายๆ ก็คือพวกเขาน่ะรู้ถึงตัวตนของรังมังกรในป่าทีทิสนานแล้วก่อนไฮดราจะปรากฏตัวเสียอีก แล้วมันก็นานมากแล้วด้วย อย่างเรื่องการกวาดล้างคิจินที่เป็นผู้พิทักษ์ของป่า ทางวิหารเทพแห่งกฎหมายนั่นแหละคือคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งหมด」

 

 

 

「…แล้วไอ้นานที่นายว่ามันขนาดไหนล่ะ? 」

 

 

「ก็สัก 40 ปีก่อนได้ละมั้ง ฟุฟุ ถึงจะดูนานสำหรับนายแต่วิหารเทพแห่งกฎหมายที่เกิดขึ้นมาเมื่อ 300 ปีก่อนก่อนโดยมีจักรวรรดิเป็นศูนย์กลาง ก็ถือว่ามาไกลพอสมควรนะ ดังนั้นหากพวกเขาจะใช้เวลาค่อยๆ ดำเนินแผนไปก็คงไม่แปลกใช่ไหมล่ะ? 」

 

 

หลังจากพูดจบลาสคาริสก็เริ่มลอยถอยออกไปจากจุดที่เคยอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาคงพูดเรื่องที่อยากพูดไปหมดแล้ว

 

 

ทางผมก็ไม่มีเหตุผลต้องไปหยุดอะไรเขาจึงยืนดูเฉยๆ

 

 

ทว่า ก็ยังมีบางสิ่งที่ผมกังวล จึงได้ตัดสินใจถามเขาออกไป

 

 

「สรุปแล้วเป้าหมายของวิหารเทพแห่งกฎหมายคืออะไร? พวกนั้นจะเอารังมังกรไปทำอะไรกัน? 」

 

 

 

ตอนนี้อำนาจของวิหารเทพแห่งกฎหมายได้แพร่กระจายไปเกือบทุกทวีป แล้วเป้าหมายของพวกเขาคืออะไรกัน ทั้งที่มีพลังดลบันดาลทุกสิ่งให้อยู่ภายในมือ พวกเขาจะเอารังมังกรไปทำอะไรอีก

 

 

 

จากนั้นลาสคาริสจึงตอบคำถามของผม

 

 

「กฎหมายคือสิ่งที่รักษาความสงบเรียบร้อย และความสงบเรียบร้อยคือแสงสว่างที่ขับไล่ความมืดมิดของโลกมนุษย์」

 

 

 

「……จากคัมภีร์ของเทพแห่งกฎหมายเหรอ」

 

 

 

「อ้า ฉันคงตอบนายได้แค่นี้แหละ ถ้าอยากจะรู้มากกว่านี้ก็ลองไปขุดเอากับทางนั้นเองละกัน」

 

 

ผมถึงกับขมวดคิ้วขึ้นเพราะมันช่างเป็นประโยชน์ที่คุ้นเคยกับที่ได้ฟังก่อนหน้านี้

 

 

ก็ไม่รู้หรอกนะว่าทางนั้นคิดอะไรอยู่ แต่สุดท้ายลาสคาริสก็จากไปโดยทิ้งท้ายไว้ว่า

 

「แต่ก็ระวังตัวให้ดีด้วยละ ไม่รู้เพราะอะไรพวกคนที่ฉันเล่าเรื่องนี้ให้ฟังถึงได้ด่วนจากไปกันเสียหมด」

 

——–

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท