การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~ – ตอนที่ 213 เข้าใจผิด

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

ตอนที่ 213 เข้าใจผิด

 

 

พอคุยกันไปคุยกันมาก็สรุปได้ว่ากษัตริย์อาซึมะเข้าใจผิด

 

เขาคิดว่าตัวผมนั้นเป็นคนใหญ่คนโตของตระกูลมิตสึรุกิที่มีหัวก้าวหน้าและต่อต้านผู้นำตระกูลมิตสึรุกิ เอาง่ายๆ ก็คือผมเป็นหัวหอกต่อต้านตระกูลนั่นแหละ

 

 

 

ส่วนถ้าถามว่าทำไมพวกเขาถึงคิดกันแบบนั้น เหตุผลมันก็เพราะสร้อยข้อมือที่ซูซูเมะมอบให้กับผมก่อนหน้านี้

 

 

สร้อยข้อมือของพวกคิจินที่มอบให้กับพวกพ้องโดยหวังให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ นอกจากจะดึงความสนใจจากคาการิและโดกะได้แล้ว อาซึมะก็เหมือนจะให้คุณค่ากับมันไม่น้อย พวกเขามองว่าผมสามารถสร้างมิตรภาพอันดีกับพวกคิจินที่อยู่ข้างนอกประตูได้ ซึ่งนั่นมันไม่ควรจะเกิดขึ้นโดยฝีมือของคนตระกูลมิตสึรุกิได้เลย

 

 

คือมันก็จริงอยู่ที่ผมมีความสัมพันธ์อันดีกับซูซูเมะที่เป็นคิจิน ทว่าความสัมพันธ์ของผมมันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อตระกูลมิตสึรุกิที่จงเกลียดจงชังพวกคิจินเลยสักนิด

 

 

 

ดังนั้นเป้าหมายของอาซึมะที่หมายจะสานสัมพันธ์กับคนที่เขามองว่าเป็นหัวหอกต่อต้านตระกูลมิตสึรุกิ คงต้องบอกว่าผิดแผน

 

 

ก็นั่นสินะ พวกเขาคงไม่รู้หรอกว่าผมคือคนที่ถูกตระกูลขับไล่ออกจากเกาะ แถมพอเห็นไคลอากับเออซูร่าตามผมมาราวกับเป็นลูกน้องซึ่งพวกเธอเป็นนักรบธงแห่งผืนป่า คงประดับบารมีให้กับผมจนมองว่าผมเป็นคนใหญ่คนโตแน่ๆ

 

อย่างไรก็ตามพอผมทราบเรื่องที่พวกเขาเข้าใจผิด ผมก็รีบชี้แจงให้พวกเขาเข้าใจใหม่ทันที ทั้งเรื่องที่ผมไม่ใช่คนของตระกูลเอย เรื่องที่จะมาสานสัมพันธ์กับผมไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเอย

 

 

พอได้ยินแบบนี้อาซึมะก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ทางโดกะก็ไม่แพ้กัน สรุปคือไม่ใช่แค่อาซึมะ แต่โดกะเองก็คิดว่าผมเป็นคนใหญ่คนโตของตระกูลสิน้า

 

 

โดกะฉันได้ยินที่แกพึมพำนะเห้ย ก็นะพวกเขาคงแปลกใจจริงๆ ที่พวกคนเฝ้าประตูปล่อยคนระดับผมออกมาเฉยๆ

 

ผมคิดว่าบทสนทนาต่อจากนี้ไปคงเปลี่ยนไปแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้ผมถูกปฏิบัติอย่างเคารพราวกับเป็นคนใหญ่คนโตของฝั่งศัตรู ทว่าตอนนี้ผมเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไร แต่ว่าตามตรงอะไรๆ คงง่ายกว่านี้เยอะหากผมปกปิดความจริงนี้ไว้แล้วพยายามใช้ประโยชน์จากความเข้าใจผิดของพวกเขาในการค้นหาคลิม

 

 

 

 

ทว่าในตอนที่ผมถามเรื่องของคลิมอีกฝ่ายก็ตอบมาอย่างจริงใจ ในความรู้สึกของผมอ่านะ แถมจะให้โกหกพวกเขาต่อไปแบบนี้ ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบไหร่ด้วย

 

ส่วนผลที่ได้ก็คือพวกผมสามารถพักอยู่ที่นากายามะได้ต่อไป โดยพวกเขาจัดห้องรับรองให้ผม 2 ห้อง ห้องหนึ่งสำหรับผม อีกห้องสำหรับ 2 สาว สรุปคือพวกผมยังถูกปฏิบัติราวกับแขกเหมือนเดิม พอจะออกไปข้างนอกก็จะมีคนช่วยนำทางและดูแลให้

 

 

เอาเป็นว่าตอนนี้พวกผมก็ได้ฐานที่มั่นในการค้นหาคลิมต่อแล้ว ถึงพวกคนที่ส่งมาดูแลผมน่าจะเป็นสายในการจับตามองแต่ก็ช่วยไม่ได้แหละนะ สำหรับตอนนี้มุ่งเน้นไปในการตามหาข้อมูลก่อนละกัน

 

 

 

 

***

 

 

 

「เอาเป็นว่าตอนนี้ พวกเรามาพักหายใจก่อนละกัน」

 

เออซูร่ากับไคลอาที่พักอยู่ในห้องรับรองถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ตัวเออซูร่ารู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก ถึงจะไม่เท่าโซระที่สู้กับโดกะมาเกือบ 4 วันก็เถอะ

 

 

แต่นี่มันก็ผ่านมาแล้วเกือบ 6 วันนับตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในประตูปีศาจ และยังเป็น 6 วันที่เธอได้พบกับโซระอีกครั้งในรอบหลายปี หากเป็นตัวเธอเมื่อ 6 วันก่อนคงคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตัวเองจะมาอยู่ที่เมืองหลวงของพวกคิจินได้

 

 

ช่างเป็น 6 วันที่โลดโผนเสียเหลือเกิน――ทว่ามันก็ช่วยให้พวกเธอเข้าใกล้คลิมมากขึ้น นับว่าเป็นเรื่องดีจริงๆ ทว่าทั้งหมดเกิดขึ้นได้ก็เพราะพวกเธอมีโซระอยู่ด้วย

 

 

 

ขณะที่คิดเรื่องพวกนี้อยู่ เธอก็หันไปมองเพื่อนสาวผมสีขาวซึ่งกำลังนอนอยู่ข้างๆ เธอ

 

 

 

โซระกับเออซูร่าต่างก็เหนื่อยล้ากันทั้งคู่ แล้วมีเหรอที่ไคลอาจะไม่เหนื่อย ยิ่งมีเรื่องของคลิมให้เครียดตลอดเวลาอีก บางทีอาการของเธอน่าจะหนักกว่าเออซูร่าด้วยซ้ำ ทันทีที่หัวเธอลงหมอนร่างกายของเธอก็เข้าสู่โหมดหลับไหลทันที

 

 

เออซูร่าเฝ้ามองไคลอาที่กำลังหลับอยู่ การกระทำอย่างการหลับไปเฉยๆ ในดินแดนของพวกคิจินโดยไม่มีคนเฝ้ายามให้นั้นถือเป็นเรื่องที่ผิด ดังนั้นเออซูร่าจึงรับหน้าที่คนเฝ้ายามคอยดูแลเพื่อนของเธอ

 

ก็จริงว่าเธอไม่คิดว่าอาซึมะหรือโดกะจะลอบโจมตีพวกเธอ เพราะหากพวกนั้นคิดจะทำจริงๆ โอกาสของพวกเขาก็มีตั้งมากมายก่อนที่เธอจะมาถึงยังห้องนี้ ดังนั้นเออซูร่าจึงเชื่อว่าพวกเขาไม่ได้โกหกอะไรเรื่องนี้

 

 

 

แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่เหตุผลให้เธอต้องเปิดช่องให้พวกมันเห็น บางทีลูกน้องของอาซึมะอาจจะขัดคำสั่งแล้วทำอะไรแปลกๆ ก็ได้ นอกจากนี้ความเป็นไปได้ที่พวกอาซึมะจะเปลี่ยนใจเอาทีหลังก็ไม่ใช่ศูนย์

 

 

ตัวเธอไม่คิดจะเชื่อใจพวกคิจินตั้งแต่แรกแล้ว

 

 

แต่เธอก็รู้ตัวดีว่าเพราะอะไร ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเกิดจากการที่พ่อของเธอถูกพวกมันฆ่าตาย ทว่าเธอก็ไม่คิดจะเอาเรื่องพวกนี้มาบ่นกับโซระและไคลอาที่กำลังพยายามอย่างหนักในการตามหาคลิม เธอตัดสินใจเก็บเรื่องส่วนตัวของเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้อะไรยุ่งยากไปกว่านี้

 

 

 

「สุดท้ายถึงจะพยายามทนแต่คนเราก็หนีจากอดีตไม่ได้จริงๆ 」

 

 

 

ออซูร่ายิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วพยายามสูดหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อปรับอารมณ์และตบแก้มของตัวเองเพื่อดึงสติ

 

 

บางทีมันคงได้ผลเพราะภาพของคิจิน 4 ตาได้หายไป และภาพของโซระกับอาซึมะปรากฏขึ้นมาแทน

 

 

เรื่องที่ทั้งสองได้พูดคุยกันสร้างความสนใจให้กับเธอพอสมควร

 

 

 

 

「ถึงโซระจะบอกว่ากษัตริย์แห่งนากายามะเข้าใจผิด…แต่นายรู้ไหมว่านายก็เข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวเองเหมือนกัน」

 

เออซูร่าพูดความคิดของเธอออกมาในระดับเสียงที่เบามากเพื่อไม่ให้ไคลอาตื่น

 

 

 

ก็จริงว่าโซระไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ เลยในตระกูลมิตสึรุกิ จุดยืนของเขาในตอนนี้ก็มีเพียงอดีตผู้สืบทอดตระกูลที่ถูกขับไล่ออกไป

 

 

ตรงจุดนี้อาซึมะเข้าใจผิดเต็มๆ แน่นอน แต่ถ้าถามว่าโซระไม่มีอิทธิพลอะไรกับตระกูลเลยงั้นหรือ คำตอบก็คือไม่มีทางที่เขาจะไม่มี

 

นับตั้งแต่ที่เขาจัดการกับเทพปีศาจในคราวก่อน อิทธิพลของโซระที่มีภายในเกาะก็สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอได้ยินว่าพวกนักบวช กิลมอร์แล้วก็คนอื่นๆ เหมือนกำลังพยายามรวมหัวกัน ด้วยความหวาดกลัวว่าโซระอาจจะกลับมาเป็นผู้สืบทอดตระกูลมิตสึรุกิดังเดิม กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือแม้แต่กิลมอร์ที่เป็น 1 ใน 4 เสาหลักของตระกูลก็ไม่อาจจะมองข้ามตัวตนของโซระไปได้อีกแล้ว

 

 

 

นั่นคือสิ่งที่โซระเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวเอง ถึงเขาจะไม่มีตำแหน่งแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอำนาจ

 

หากมองในมุมนั้น เออซูร่าคิดว่าการที่อาซึมะจะสานสัมพันธ์กับโซระและพยายามทำข้อตกลงกัน ก็นับว่าไม่ใช่เรื่องทีเลวร้ายอะไรเลย

 

นอกจากนี้อิทธิพลของโซระภายในตระกูลคงจะมากขึ้นหลังจากนี้อีกแน่ๆ

 

จากนั้นเออซูร่าก็หันไปมองเพื่อนของเธอที่กำลังหลับอยู่

 

 

คงจะเป็นเรื่องยากที่ไคลอาผู้หลบหนีออกจากเกาะจะกลับเข้ามารับใช้ตระกูลมิตสึรุกิอีก แต่ตัวของไคลอาก็คงไม่คิดจะกลับไปหาพวกคนที่ทอดทิ้งน้องชายของเธอและใช้เธอเหมือนตัวเบี้ยอยู่แล้ว

 

 

 

นับจากนี้ไปไคลอาคงจะต้องกลายเป็นผู้ติดตามของโซระแทน พอมองย้อนกลับไปทั้งคำพูดและการกระทำของพวกเขา ก็ชัดแล้วว่าโซระกลับไคลอาตั้งใจจะทำแบบนั้นแต่แรก

 

 

ไคลอาซึ่งเป็นหนึ่งในรุ่นทองคำหลบหนีออกจากเกาะ ทอดทิ้งตระกูลมิตสึรุกิและเบิร์ชเพื่อไปรับใช้โซระ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนกิลมอร์ก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่ๆ ทว่าหากกิลมอร์คิดจะเคลื่อนไหว ตระกูลสกายชิพกับชิมะก็คงไม่อยู่เฉยๆ เหมือนกัน

 

เออซูร่าไม่ใช่เพียงคนเดียวที่รู้สึกไม่ไว้วางใจกับการกระทำของตระกูลเบิร์ช ยิ่งกับเรื่องที่ปล่อยให้ไคลอาออกจากเกาะไป หลายตระกูลก็มองแล้วว่าตระกูลเบิร์ชกำลังทำอะไรแปลกๆ โอกาสที่ฝ่ายต่อต้านตระกูลเบิร์ชจะเคลื่อนไหวก็มีสูงด้วย

 

 

ตระกูลเบิร์ชพยายามจะเลี้ยงดูช่วยเหลือรากุนะให้กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลมิตสึรุกิคนถัดไป ดังนั้นฝ่ายต่อต้านก็น่าจะพยายามสนับสนุนโซระให้กลับมาเป็นผู้สืบทอด ดังนั้นหากโซระต้องการจริงๆ เขาก็สามารถใช้อำนาจที่อาซึมะเข้าใจผิดนั้นให้เกิดขึ้นจริงได้ โดยแรงสนับสนุนจากเหล่าระดับสูงที่ต่อต้านตระกูลเบิร์ช

 

 

เรื่องนี้หากมีฝ่ายไหนก้าวพลาดขึ้นมาได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นภายในตระกูลแน่

 

 

ตระกูลเบิร์ชพยายามจะเลี้ยงดูช่วยเหลือรากุนะให้กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลมิตสึรุกิคนถัดไป ดังนั้นฝ่ายต่อต้านก็น่าจะพยายามสนับสนุนโซระให้กลับมาเป็นผู้สืบทอด ดังนั้นหากโซระต้องการจริงๆ เขาก็สามารถใช้อำนาจที่อาซึมะเข้าใจผิดนั้นให้เกิดขึ้นจริงได้ โดยแรงสนับสนุนจากเหล่าระดับสูงที่ต่อต้านตระกูลเบิร์ช

 

 

เรื่องนี้หากมีฝ่ายไหนก้าวพลาดขึ้นมาได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นภายในตระกูลแน่

 

 

พอคิดมาถึงตรงนี้แล้ว ออซูร่าก็กอดอกแล้วเอียงหัวคิด

 

 

 

「ขนาดผมยังคิดได้ถึงตรงนี้ ดังนั้นหัวหน้าหน่วยกับท่านผู้นำก็น่าจะรู้อะไรลึกกว่านี้แน่」

 

ทำไมชิกิบุถึงอนุญาตให้โซระผ่านเข้าไปในประตูปีศาจกัน ทั้งที่เขาน่าจะเข้าใจดีแล้วแท้ๆ ว่ามันอาจจะนำพามาซึ่งความวุ่ยวายภายในตระกูล ถึงทางโซระจะได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิก็เถอะ แต่เธอมองว่ามันยังมีอะไรมากกว่านั้น

 

นอกจากนี้เธอยังสงสัยอีกว่าทำไมไดรอาทถึงเลือกเธอมาร่วมทางกับโซระ ทั้งที่เขาก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องสงสัยในการกระทำของตระกลูเบิร์ชแน่ๆ แถมเธอยังเป็นคนที่ใกล้ชิดกับไคลอาผู้ถูกกระทำในเหตุการณ์คราวนี้ หากเป็นเธอ เธอจะเลือกนักรบแห่งผืนป่าคนอื่นเสียยังดีกว่าอีก เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมถึงเป็นเธอไปได้

 

เรื่องอย่างการที่เขาเป็นห่วงไคลอาน้องสาวของตัวเองเลยเลือกเธอที่เป็นเพื่อนของไคลอามาร่วมทางด้วยนี่ตัดทิ้งไปได้เลย

 

พอคิดมาถึงตรงนี้ เออซูร่าก็ไม่สามารถหาคำตอบที่ชัดเจนได้สักที

 

——-

Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

การแก้แค้นของผู้กลืนวิญญาณ ~เด็กหนุ่มอ่อนแอที่ถูกนักบุญดาบ (พ่อ) เนรเทศเพราะหาว่าไร้ค่า~

Status: Ongoing
ตระกูลมิตสึรุกิได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องประตูปีศาจจากองค์จักรพรรดิ โซระ มิตสึรุกิ ผู้เกิดมาเป็นลูกชายคนโตของตระกูล กำลังตั้งตารอพิธีตัดสินในปีที่เขาอายุครบ13ปี การทดสอบที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเรียนรู้วิชาดาบเดียวมายาซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลมิตสึรุกิ พี่น้องของเขาทั้งหมดนั้นต่างก็ผ่านบททดสอบดังกล่าว จะเหลือก็เพียงโซระ บัดนี้พ่อ น้องชาย คู่หมั้น และญาติของเขาก็ต่างจับจ้องไปยังโซระที่จะเริ่มทดสอบกันอย่างเคร่งขรึม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท