ตอนที่ 238 ผู้สังหารเผ่าพันธุ์ในตำนาน
ทุกครั้งที่ดาบและเคียวเข้าปะทะกันก็จะเกิดเสียงกระทบที่ดังกึกก้อง
จำนวนครั้งของการปะทะกันน่าจะเกิด40 ไม่สิ 50 ครั้งไปแล้ว ส่วนความรุนแรงในแต่ละครั้งก็ไม่มีทีท่าจะลดลงเลยไม่ว่าจะฝ่ายรุกหรือรับ กลับกันมันรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิมในทุกๆ ครั้งเสียอีก
สันตะปาปาโซเฟียได้กลายเป็นมอนสเตอร์ที่มีปีกงอกออกมาพร้อมกับ ตา หู ปากจำนวนนับไม่ถ้วนงอกอยู่ทั่วร่าง แถมถึงไม่มีสิ่งพวกนี้อยู่เธอก็ยังเป็นถึงลิชที่มีอายุมาแล้วกว่า 300 ปี นอกจากนี้ก็ยังเป็นคนที่ได้รับพลังมาจากเผ่าพันธุ์ในตำนานผ่านเทพสถิตอีกด้วย จะไม่ให้ผมระวังตัวหนักได้ยังไง
แต่มันก็เกินคาดมากจริงๆ ที่การเคลื่อนไหวของเธอเกินคาดผมไปมากเพราะผมไม่คิดว่าตัวเองจะต้องเผชิญหน้ากับเธอในฐานะนักรบเลยสักนิด
เคียวสีดำแห่งยมทูตและการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วเสียยิ่งกว่าพวกธงแห่งผืนป่าระดับสูง
แน่นอนว่าผมไม่ใช่ฝ่ายที่ตั้งรับอย่างเดียว ทว่าทางสันตะปาปาก็สามารถต้านทานการโจมตีของโซลอีทเตอร์ได้อย่างง่ายดายเช่นกัน ชวนให้รู้สึกเหมือนกำลังเอาดาบธรรมดาฟันกำแพงปราสาทอยู่เลย
หากใช้กำลังเข้าสู้ไม่ไหว ก็ตั้งใจจะใช้ความเร็วเข้าจัดการอยู่หรอก แต่การเคลื่อนไหวของเธอกลับสามารถหลบการโจมตีของผมได้ทุกท่วงท่า แถมยังโดนสวนกลับมาอีก เรียนได้ว่าทั้งพละกำลัง ความเร็ว และความสง่างามในท่วงท่าของเธอมันดีไปเสียหมดจนนึกว่ากำลังเต้นรำอยู่
――เคี้ยวยากชะมัด
ผมบ่นอยู่ในใจ
การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งนั้นรุนแรงและรวดเร็ว ราวกับว่าทุกการกระทำนั้นมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ไปสู่การตัดสินใจครั้งถัดไปเสมอ จึงไม่มีความล่าช้าในการรับหรือรุกเลยสักนิด ท่วงทำนองการโจมตีของเธอผสานรวมเข้ากับธรรมชาติจนเป็นหนึ่งเดียว ความสง่างามในการเคลื่อนไหวคงจะดึงดูดสายตาผู้ชนรอบนอกได้ดีเป็นแน่
รูปแบบการต่อสู้ที่คล้ายกับการเต้นรำนี้มันชวนให้ผมนึกถึงธงแห่งผืนป่าคนหนึ่ง ก็ตามนั้นแหละเธอคืออดีตคู่หมั้นของผมเอง เพราะเธอคนนั้นก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นไมฮิเมะ (องค์หญิงร่ายรำ)
แล้วในจังหวะนั้นเอง
「คุ อึก?!」
เสียงร้องของผมหลุดออกมาเพราะเจอเรื่องที่คาดไม่ถึง
การโจมตีของเคียวหลุดการป้องกันของผมมาได้ แต่โชคดีที่หลบได้ทันอย่างหวุดหวิด จากนั้นผมจึงทำการถอยเพื่อเว้นระยะห่างจากเธอ ให้ตายสิแค่เผลอคิดฟุ้งซ่านเพียงเสี้ยววิ สันตะปาปาไม่ปล่อยให้หลุดไปได้เลยแฮะ
การโจมตีด้วยความรวดเร็วจนยากจะมองตามทันนี่มันคล้ายกับย่างก้าวของมายาดาบเดียวเลยวุ้ย
ผมรีบตั้งสติแล้วพยายามรับมือกับเคียวของเธอต่อ ทว่าคราวนี้ผมไม่สามารถต้านพลังเธอไว้ได้ เมื่อรู้ตัวว่ากันยังไงก็ไม่น่าทัน ผมก็เลยกัดฟันรับการโจมตีที่หนักหน่วงของเธอเสียเลย
「――อึก!!」
「……หือ!!」
เสียงร้องออกมาจากปากของพวกเราทั้งคู่ สายตาของเพื่อเราประสานกันในระยะประชิด
สันตะปาปาคงจะเห็นว่าการโจมตีคราวนี้จะสร้างชัยชนะให้กับเธอแล้วแน่ๆ จากแรงที่ใช้ในการโจมตีและพลังเวทที่ปลดปล่อยออกมาเสริมเอาไว้ จังหวะนั้นเองผมจึงใช้จังหวะผ่อนแรงต้านของตัวเองลงเพื่อหาโอกาสตอบโต้
เมื่อร่างของผมไร้แรงต้าน ย่างก้าวของสันตะปาปาที่ลงแรงมายังร่างของผมมากก็เสียสมดุลไปกะทันหัน
ผมไม่พลาดโอกาสนี้และพุ่งไปอยู่ด้านหลังของเธอแทน ตำแหน่งของผมกับเธอได้สลับกันแล้วและผมไม่รอช้าที่จะทำการฟันไปบนหลังของอีกฝ่าย
การโจมตีจากจุดบอดในระยะใกล้ขนาดนี้ หากเป็นคนทั่วไปก็ไม่ต่างอะไรกับตายไปแล้ว ทว่าด้วยดวงตานับไม่ถ้วนที่อยู่บนร่างของสันตะปาปากลับสามารถมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของผม มือของเธอทำการเหวี่ยงเคียวขึ้นมาป้องกันดาบของผมเอาไว้ได้โดยไม่หันหัวกลับมามองด้วยซ้ำ
ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังใช้เคียวที่ป้องกันเมื่อครู่ทำการโจมตีสวนกลับอย่างรุนแรงราวกับเป็นค่าตอบแทนที่ผมเล่นทีเผลอ
ผมพยายามย่อตัวส่วนบนเพื่อหลบการโจมตีนั้น แล้วคลื่นพลังก็ได้ผ่านหัวของผมไป ก่อนที่ผมจะทำการถอยเว้นระยะออกมาอีกครั้ง
――ให้ตายสิ
พอยิ่งมองก็ยิ่งทำให้รู้ว่าในขณะที่ผมยังแกร่งเท่าเดิม อีกฝ่ายกลับแกร่งขึ้นกว่าเดิมซะงั้น
ระหว่างที่ผมมองเธอด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ทางสันตะปาปากลับพูดขึ้นด้วยความสนุกสนาน
「ฟุฟุ พอมองไปที่ดวงตาของท่านแล้วท่านคงรู้สึกแปลกใจไม่น้อยสินะคะ ว่าทำไมฉันที่เป็นนักบวชถึงได้ต่อสู้เก่งขนาดนี้? 」
「……ก็นะ นั่นเป็นพลังของเผ่าพันธุ์ในตำนานหรือมังกรที่เธอนับถืออยู่เหรอ? 」
「ไม่ใช่หรอกค่ะ นี่เป็นเทคนิคที่ฉัน โซเฟีย อาเซอร์ไรท์ฝึกฝนในยามที่ยังเป็นมนุษย์เพื่อจะก้าวข้ามพวกคิจินแห่งเก็นโซ ถึงจะเป็นนักบวชแต่ในเวลานั้นไม่ว่าใครก็ต้องจับอาวุธขึ้นสู้ค่ะ」
โซเฟียพูด ก่อนจะยิ้มออกมาราวกับนึกอะไรออกได้
「ในช่วงเวลานั้น ผู้ที่สอนเทคนิคพวกนี้ให้กับฉันก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นต้นตระกูลมิตสึรุกิและเป็นผู้คิดค้นวิชามายาสังหารขึ้นค่ะ จะว่าไปแล้วจะบอกว่าท่านคือศิษย์น้องของฉันก็ไม่ผิดนักนะคะ」
「ถ้าจะทำตัวเป็นศิษย์พี่ของฉันจริงๆ ก็อยากจะให้แสดงวิชาลับของผู้ก่อตั้งให้เห็นกันหน่อยนะ」
ระหว่างที่ผมพูดแบบทีเล่นทีจริงไป ผทก็ค่อยๆ ดูท่าทางของอีกฝ่ายไปด้วย
ตอนแรกผมก็คิดว่าเธอจะพยายามฆ่าผมหรือใช้เคียวนั่นในการสะบั้นการเชื่อมต่อระหว่างผมกับโซลอีทเตอร์ซะอีก แต่กลับไม่ใช่
แม้ว่าการโจมตีของเธอจะดูรุนแรงและน่าทึ่งขนาดไหน แต่ก็อยากจะบอกได้จริงๆ ว่าในหัวของเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ตรงจุดนี้ทำไมมันเหมือนอดีตคู่หมั้นผมจังน้อ คิดแล้วก็ได้แค่เม้มปาก
――หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่คนของอาเซอร์ไรท์เป็นกันนะ
ในขณะที่ผมกำลังตั้งท่า สันตะปาปาก็เปิดปากพูดต่ออย่างสนุกสนาน
「ฉันก็ไม่ขัดหรอกค่ะหากจะแสดงเทคนิคลับให้ท่านได้เห็น แต่ก่อนหน้านี้ก็อยากจะเตือนอะไรสักหน่อย」
「เตือนเหรอ? 」
「ตอนที่ฉันได้ฝึกฝนนั้นมันยังเป็นเทคนิคที่ไม่สมบูรณ์นักเพราะว่ากันตามตรงมันคือต้นตำรับของมายาดาบเดียวค่ะมันเป็นเทคนิคที่มีไว้ใช้ในการสังหารเผ่าพันธุ์ในตำนานเท่านั้น ซึ่งมันก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเทคนิคของมันถึงได้รุนแรงและหยาบกว่ามายาดาบเดียวในปัจจุบันที่ถูกพัฒนาขึ้นมาภายหลังโดยมีวัตถุประสงค์ในการถ่ายทอดให้คนรุ่นถัดไปเป็นขั้นตอน」
ดังนั้นก็โปรดระวังด้วย
พอเธอกล่าวจบ สันตะปาปาที่ไม่ได้มีการตั้งท่าโจมตีใดๆ เลยมาจนถึงก่อนหน้านี้ก็เริ่มตั้งกระบวนท่า
มันเป็นการตั้งท่าโดยถอยขาหลังไปครึ่งก้าว และวางตำแหน่งของร่างให้เป็นแนวทแยงกับศัตรู ก่อนจะนำเคียวที่เป็นอาวุธของเธอสอดเข้าไปบริเวณสะโพกขวา
มันคือลักษณะการตั้งท่าอิไอของนักดาบ หากจะให้มองง่ายๆ มันก็เหมือนกับการตั้งท่าก่อนปลดปล่อยวายุ
――แล้วในวินาทีต่อมาก็ถึงเวลาที่ผมต้องหยุดการวิเคราะห์เสียที
「คึก?!」
อากาศโดยรอบเริ่มสั่นสะเทือน คลื่นพลังที่ปลดปล่อยออกมาจากสันตะปาปาทำให้ร่างของผมสั่นไปทั้งตัว
ผมย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนจะตั้งท่าป้องกันขึ้นมาอย่างสุดกำลัง สัญชาตญาณของผมบอกว่าหากไม่ทุ่มพลังทั้งหมดมาป้องกัน ผมไม่เหลือซากแน่
เสียงอันสงบนิ่งของสันตะปาปาดังเข้ามาในหูผม
「มายาสังหาร กระบวนท่าพายุ วายุคลั่ง」
――จงกู่ร้อง
เมื่อสิ้นเสียงนั้น
ร่างกายของผมก็ลอยขึ้นสูงไปบนท้องฟ้า การป้องกันของผมไม่มีความหมายใดๆ เลย ก่อนที่จะรู้สึกว่าร่างของผมก็หมุนไปมาบนอากาศ
ผมสามารถประคองร่างให้อยู่ในท่าปกติได้เลย สายลมคลั่งที่พัดไปมาราวกับพายุทอร์นาโด กระดูกทุกส่วนในร่างกายของผมส่งเสียงกรีดร้องออกมา แขนขาของผมเหมือนพร้อมจะหลุดออกจากกันได้ทุกเมื่อ อันที่จริงมันอาจจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ไปแล้วก็ได้หากผมมองดู สายลมมันทำการบดขยี้ร่างกายของผมจนทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เสียงคำรามของสายลมอันรุนแรงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง การมองเห็นของผมถูกตัดสลับไปมา จนไม่รู้แล้วว่าตอนนี้ผมอยู่หรือมองไปในทิศทางไหน แล้วท่ามกลางความวุ่นวายที่ยากจะประคองสติได้นั้น ผมก็ได้ยินเสียงหนึ่ง
「มายาสังหาร――」
ก่อนที่ผมจะรู้สึกตัว ร่างของสันตะปาปาที่กำลังกวัดแกว่งเคียวในมือของเธอก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าผม
มันเป็นเสี้ยววินาทีที่ยากจะยกอาภรณ์วิญญาณขึ้นมาป้องกันได้ทัน เธอทำการปลดปล่อยเทคนิคของเธอต่อทันที
「กระบวนท่าสายฟ้า เทพอัสนีคำราม」
สายฟ้าฟาดสีขาวได้ย้อมภาพตรงหน้าของผม
ก่อนที่ร่างของผมจะกระแทกลงมาบนพื้นอย่างรุนแรง
——–
Note 1 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ ผมแปะไว้ใต้เม้นของเพจนะครับ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code