ตอนที่ 157 – มีดใบไม้สารท
“ตนเองตอนนี้กลายเป็นกวางเอลก์ที่ถูกล่าแล้วเหรอ” เฉาเวยยิ้มขื่นในใจ
สิ่งที่ทำให้เขายิ่งเพิ่มความประหลาดใจคือ ด้วยพลังการได้ยินที่แข็งแกร่งขนาดนี้ของเขาถึงกับยังไม่อาจจับเสียงฝีเท้าของชิ่งเฉิน
นี่ทำให้เขาไม่อาจหาตำแหน่งของอีกฝ่ายพบตั้งแต่ต้นจนจบ พยายามแทบตายก็ยังหาเป้าหมายไม่เจอ
ระหว่างที่หอบหายใจ จู่ ๆ เฉาเวยไม่อยากหนีแล้ว
เขาตะโกนเข้าไปในป่าไม้ว่า “ในเมื่อคุณไม่กล้าออกมา งั้นผมก็ไม่หนีแล้ว เราสองคนก็ทนอยู่ที่นี่กันเถอะ”
ว่าแล้ว เขาถึงกับนั่งลงอย่างโจ่งแจ้ง ปรับลมหายใจของตนเองอยู่กับที่
เฉาเวยกำลังเดิมพัน เดิมพันว่าอีกฝ่ายไม่กล้าให้เขาที่เป็นยอดฝีมือแรงก์ C ฟื้นฟูกำลังกายและอาการบาดเจ็บอย่างสงบ!
เขาลดแขนสองข้างไว้ข้างลำตัวอย่างไร้สุ้มไร้เสียง จิกเข้าไปในดินเบา ๆ ถ้าหากเวลานี้เด็กหนุ่มนั่นออกมาฆ่าตนเอง เขาก็จะเสี่ยงอันตรายตีโต้
แต่เฉาเวยเพิ่งจะนั่งลง ในป่าไม้จู่ ๆ มีเสียงอาวุธแหลมคมกรีดร้องขึ้น
เขาหงายหลังไปทันควัน อาวุธแหลมคมนั้นหมุนคว้างอยู่กลางอากาศ เสียงแหลมคม ข้ามปลายจมูกของเขาไปฝังลงในพื้นดินข้างหลังเขา
เฉาเวยมองไปข้างหลัง ที่นั่นกำลังมีใบไม้ที่คมเหมือนมีดหนึ่งใบ ปักลงในดินสามเฟิน*
เขาสะดุ้งอยู่ในใจ มีดใบไม้สารท!
มีดใบไม้สารทของอัศวิน!
แต่ปัญหาคือ มีแค่อัศวินที่ไปถึงแรงก์ B จึงมีความแข็งแกร่งตั้งต้นให้ใช้มีดใบไม้สารทนะ เด็กหนุ่มที่เพิ่งจะกลายเป็นอัศวินคนนี้สามารถใช้ได้ได้อย่างไร?!
อย่าบอกนะว่าอัศวินที่กำลังไล่ฆ่าตนเองตอนนี้ไม่ใช่เด็กหนุ่มคนเมื่อครู่นี้อีกแล้ว ทว่าเป็นอัศวินที่มีชื่อเสียงมายาวนานสักคน?
เฉินเจียจาง, หวังเสียวจิ่ว, หลี่ซูถง!?
ไม่ถูก ถ้าเป็นสามคนนี้จริง ๆ อีกฝ่ายไหนเลยจะยังมาเสียเวลาอยู่กับตนเอง!
เฉาเวยจู่ ๆ ตระหนักว่า นี่เป็นปีศาจที่เพิ่งจะกลายเป็นอัศวินก็สามารถเปิดใช้มีดใบไม้สารทได้คนหนึ่ง
ยังไม่ทันที่เขาจะคิดได้อย่างปรุโปร่ง มีดใบไม้สารทอีกใบก็ลอยมาในอากาศ เขารีบกลิ้งตัวไปด้านข้าง
ถ้าไม่ใช่ว่าเขาหลบทันเวลา ขณะนี้เกรงว่าไส้ทะลุไปแล้ว
เฉาเวยกัดฟันตะเกียกตะกายลุกขึ้นวิ่งไปทางป่าไม้ต่อไป อีกฝ่ายมีสกิลที่ช่วงชิงชีวิตของเขาได้จากระยะไกล ตนเองไม่อาจพักฟื้นอยู่ที่จุดเดิมต่อไป
อีกฝ่ายตึงมือกว่าที่จินตนาการเอาไว้อีก!
นับถอยหลัง 33:00:00
การไล่ล่าในป่าไม้ดำเนินต่อไปอย่างไร้เสียง ดูเหมือนไม่มีใครรู้ว่าที่นี่กำลังเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ไม่มีใครสนใจ
ในความเงียบ ความรู้สึกกดดันยิ่งมายิ่งรุนแรง ภัยคุกคามที่เหมือนจะจับต้องได้เกาะอยู่ด้านหลังของเฉาเวยตั้งแต่ต้นจนจบ
แต่ว่านักล่าคนนี้อดทนยิ่งกว่าที่เฉาเวยคาดเอาไว้
ไม่ว่าเขาจะกระอักเลือดอย่างไร ไม่ว่าเขาจะแสดงความอ่อนแออย่างไร อีกฝ่ายล้วนคล้ายจะไม่มีความตั้งใจออกมาต่อสู้ตัดสินกับเขา
เด็กหนุ่มนั่นแค่ซ่อนร่างอยู่ในเงามืดของสถานที่ต้องห้ามเงียบ ๆ ดุจเดียวกับหมาป่าเดี่ยวดายที่ช่ำชองที่สุด รอให้เหยื่อหมดแรงไปเอง
นับถอยหลัง 30:00:00
เฉาเวยวิ่งมาตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
แต่เขาวิ่งอย่างไรล้วนหนีไม่พ้นสถานที่ต้องห้าม
อาการบาดเจ็บภายในแย่ลงไม่หยุด ถึงจะเป็นยอดฝีมือแรงก์ C ก็ทนไม่ไหวแล้ว
เดิมทีเฉาเวยรู้สึกว่า พร้อมกับที่เวลาผันผ่านไป ตนเองจะเหนื่อย อีกฝ่ายก็จะต้องเหนื่อย
หลังจากที่หัวใจกับปอดรับภาระหนักเกินไปเป็นเวลานาน ประสิทธิภาพการให้ออกซิเจนในเลือดจะเริ่มลดลง ความสามารถในการครุ่นคิดของสมองลดต่ำ มือเท้าเริ่มมีเหงื่อซึม พลังในการตัดสินใจไม่แม่นยำขนาดนั้นอีกต่อไป
อารมณ์ก็จะค่อย ๆ กลายเป็นฉุนเฉียว ไม่มีความอดทนอีกต่อไป
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พร้อมกับที่เวลาผันผ่าน ความรู้สึกกดดันนั้นยิ่งมายิ่งแกร่งขึ้น!
ในการรับรู้ของเฉาเวย ตลอดระยะเวลาเกือบสิบชั่วโมงที่อีกฝ่ายไล่ตาม ฝีเท้าไม่แม้แต่จะสับสน ไม่มีโอกาสใด ๆ ให้ตนเองคว้าจับไว้ได้เลย
อีกฝ่ายราวกับเป็นเครื่องจักรที่เยือกเย็น, กล้าแข็ง, ไม่มีอารมณ์
เฉาเวยถามย้ำไปย้ำมาอยู่ในใจว่านี่ก็คือคนที่มีคุณสมบัติเป็นอัศวินเหรอ
ไม่ต้องกังขาสักนิดว่าความแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มสู้เขาไม่ได้เลย แต่อีกฝ่ายเป็นคู่มือที่มีความอดทนที่สุดที่เฉาเวยเคยได้พบมาในชีวิตนี้อย่างแน่นอน
ศัตรูที่หาไม่เจอ ทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้คนรู้สึกถึงความสิ้นหวังและอัดอั้นตันใจ
เมื่อใดที่เฉาเวยอยากจะพักผ่อน มีดใบไม้สารทอันดุร้ายก็จะมาตามนัด กระตุ้นให้เขาหนีต่อไป
นับถอยหลัง 25:00:00
เฉาเวยจู่ ๆ สะดุดกิ่งไม้ล้มลง
แต่ครั้งนี้เขาไม่มีความตั้งใจจะลุกขึ้นอีก เพียงนอนแผ่หราหอบหายใจบนพื้น จากนั้นกล่าวกับป่าไม้ที่มืดมิดว่า “คุณไม่เหนื่อยเหรอ ผมรู้ว่าเป้าหมายของคุณที่จริงแล้วคือชิ่งไฮว งั้นทำไมคุณไม่ไปหาเขาก่อนแต่กลับมาหาผมล่ะ”
ไม่มีคนตอบ
แต่เฉาเวยไม่สนใจเลย เขาเพียงกล่าวต่อว่า “ตอนเด็ก ๆ ผมก็อยากเป็นอัศวินมากเลย แต่ชีวิตของผมไม่ได้ดีอย่างคุณ ภายหลังผมเข้าร่วมกองทัพ ใช้ความสำเร็จทางทหารมาแลกกับยาแปลงพันธุกรรม นึกว่าตัวเองถึงจะไม่ได้เดินบนเส้นทางของอัศวินก็ไม่เป็นไร อย่างนี้ก็สามารถกลายเป็นผู้เหนือมนุษย์ แต่วันนี้ผมถึงได้ค้นพบว่า ตนเองยังห่างไกลนัก”
ระหว่างที่พูด มีดใบไม้สารทในป่าไม้ลอยมาอีกครั้ง
“หาคุณเจอแล้ว!” เฉาเวยดีดตัวขึ้นจากพื้นอย่างกะทันหัน
เขาคำรามแล้วระเบิดพลังทั้งหมดเฮือกสุดท้ายของตนเอง!
ราวพยัคฆ์ร้ายที่ใกล้ตาย พุ่งเข้าใส่ที่แห่งหนึ่งของป่าไม้อันมืดมิด!
เมื่อครู่ที่เฉาเวยนอนบนพื้นไม่ใช่การยอมแพ้เด็ดขาด ทว่าให้ใบหูของตนเองแนบกับพื้นดิน อย่างนี้จึงสามารถประเมินตำแหน่งของชิ่งเฉินได้ดีกว่า!
เขารู้ว่าหลังจากอีกฝ่ายใช้มีดใบไม้สารทอีกครั้งจะต้องเปลี่ยนตำแหน่งทันที เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกตนเองตามเส้นทางของมีดใบไม้สารทหาเจอที่ซ่อนตัว
ดังนั้น เวลานั้นก็จะมีเสียงฝีเท้า!
เข้ากองทัพมาสิบกว่าปี เฉาเวยสามารถเลื่อนขั้นอย่างพุ่งทะยาน สิ่งที่อาศัยไม่ใช่แค่โชคและพลังยุทธ์เด็ดขาด ยังมีมันสมองและความกล้าหาญ, ความมานะ
เขาดิ้นรนฝึกฝนอยู่ในค่ายทหารสหพันธรัฐ ถูกคนลดขั้นไปเป็นสุนัขรับใช้ให้ลูกหลานกลุ่มการเงินก็ต้องกัดฟันคืบคลานขึ้นไป คนประเภทนี้จะไม่นั่งรอความตายเป็นอันขาด!
ในพริบตานั้น เฉาเวยโถมไปในป่าไม้อันมืดมิดแล้ว เวลาผ่านไปสิบกว่าชั่วโมง ในที่สุดเขาก็สามารถเห็นเด็กหนุ่มอีกครั้ง ยังมีลวดลายเปลวเพลิงบนแก้มของอีกฝ่าย
ห่างกันเพียงเอื้อมมือ ในแววตาเด็กหนุ่มกลับไม่มีความผันผวนสักเศษเสี้ยว
ราวกับว่าไม่ใช่ตนเองหาอีกฝ่ายเจอ ทว่าเป็นอีกฝ่ายยืนอยู่ในสถานที่ต้องห้ามนี้รอตนเอง
เฉาเวยเพียงรู้สึกประหลาดอยู่บ้าง สายตาที่เด็กหนุ่มนี่มองตนเองประหลาดอยู่บ้าง คล้ายกับคนขายเนื้อจ้องมองวัวที่รอเชือดตัวหนึ่ง
ในราตรีมืดมิด ทหารสหพันธรัฐฟันมีดในมือขวาไปข้างหน้าอย่างเกรี้ยวกราด แขนข้างนั้นกับมีดทะลุผ่านใบไม้รกชัฏ ฟันใส่บริเวณทรวงอกของชิ่งเฉินอย่างดุร้าย
แต่เฉาเวยค้นพบว่า กล้ามเนื้อของเขาเพิ่งจะเกร็งขึ้นมา เด็กหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าก็คล้ายกับจะคาดการณ์ได้แล้ว รู้ว่าตนเองอยากจะใช้กระบวนท่าอะไร
หลังการไล่ล่าสิบกว่าชั่วโมง ความแข็งแกร่งของยอดฝีมือก็ถูกอาการบาดเจ็บฉุดไปถึงจุดต่ำสุด เขาเพียงรู้สึกว่ามือเบาหวิว การโจมตีที่ดูเหมือนแลกชีวิตของตนเองพลาดไป
สิ่งที่ตามมาคือการตอบโต้ของเด็กหนุ่ม มีดในมืออีกฝ่ายปัดผ่านมีดของตนเอง ทิ้งรอยเลือดลึกเอาไว้บนแขนของเขา
ขาทั้งคู่ของเฉาเวยโก่งดุจคันธนูส่งพลังโถมไปข้างหน้าอีกครั้ง แขนกวัดแกว่ง แต่ทำอย่างไรมีดก็สัมผัสไม่โดนร่างกายเด็กหนุ่ม
อีกฝ่ายคล้ายจะสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ตลอดถึงการโจมตีครั้งถัดไปของตนเองตามวิธีการออกแรงของเขา
จากนั้นทำการโต้ตอบ
สั้น ๆ แค่สิบกว่าวินาที บนร่างของเฉาเวยมีบาดแผลเพิ่มขึ้นเป็นสิบแห่ง แต่เขาแม้แต่ชายเสื้อของชิ่งเฉินยังไม่ได้แตะเลย!
เฉาเวยรู้ว่าตนเองช้าลงแล้ว แล้วก็อ่อนแอลงแล้ว อ่อนแอจนหายใจยังไม่สม่ำเสมอ แต่นี่ไม่ใช่สาเหตุที่ตนเองถูกสะกดข่ม
ที่ตนเองถูกสะกดข่มเป็นเพราะความสามารถในการประเมินของเด็กหนุ่มคนนี้
เฉาเวยรู้สึกได้ว่าความเร็วของปฏิกิริยาอีกฝ่ายไม่ได้เร็วกว่าตนเองเลย เพียงแต่อีกฝ่ายสามารถตัดสินได้ว่าตนเองจะใช้กระบวนท่าอะไรผ่านการเปลี่ยนแปลงของรอยพับของเสื้อผ้า, บริเวณที่กล้ามเนื้อโป่งขึ้น, การเปลี่ยนแปลงของแววตา และเอวและขาส่งแรงเปลี่ยนไป
เขาไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มทำได้อย่างไร เพียงรู้ว่าตนเองอยู่ใกล้ความตายมาก
ใกล้เป็นพิเศษ
………………..
* 1 เฟิน = 0.33 ซม. 3 เฟิน = 1 ซม.
ตอนที่ 158 – หุ่นเชิด