ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD – บทที่ 48 สารอาหารที่มากเกินพอดีทำให้

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD ตอนที่ 48 สารอาหารที่มากเกินพอดีทำให้เลือดกำเดาไหล

ตอนที่ 48 สารอาหารที่มากเกินพอดีทำให้…

ไอน้ำร้อนหนาแน่นลอยออกจากหม้อดิน นอกจากนี้ยังโอบล้อมเนื้อไก่สีขาวใสเหมือนวุ้นที่อยู่ภายในหม้ออีกด้วย น้ำแกงไก่นั้นเป็นสีเหลืองอำพันใสแจ๋ว ไม่มีสิ่งเจือปนแม้แต่น้อย มันไก่สะท้อนแสงไฟเป็นประกายระยิบระยับ ทำให้อาหารทั้งจานดูราวกับบ่ออัญมณีส่องประกายสว่าง

ทั้งสี กลิ่น และรสชาติล้วนเป็นมาตรวัดที่ใช้ประเมินคุณภาพของอาหาร แม้น้ำแกงสมุนไพรไก่ปักษาเพลิงชามนี้จะถูกระบบวิจารณ์อย่างไม่มีชิ้นดี แต่ก็ยังจัดเป็นอาหารชั้นเลิศที่หายากยิ่ง หากตัดสินด้วยสามเกณฑ์ข้างต้น

เนื้อไก่ที่ดูราวกับวุ้นดูน่ากินเป็นพิเศษ จนปู้ฟางทนไม่ไหวที่จะได้เอาเข้าปาก

เขาหยิบชามกระเบื้องสีฟ้าขาวขนาดเล็กออกมา แล้วใช้ช้อนกระเบื้องตักน้ำแกงหอมเข้มข้นใส่ลงมาครึ่งชาม กลิ่นของน้ำแกงไก่สีเหลืองอำพันลอยล่องอยู่ที่ปลายจมูกปู้ฟาง ทำให้เขาเลียริมฝีปากตนเองด้วยความอยากกินโดยไม่รู้ตัว

น้ำแกงสมุนไพรไก่ปักษาเพลิงนั้นมีวิธีการกินเฉพาะตัว โดยต้องไม่เริ่มกินที่เนื้อไก่ แต่เริ่มจากการซดน้ำน้ำแกงหนึ่งช้อน เพื่อให้รสชาติกระจายทั่วทั้งปากและท้อง

เมื่อท้องอุ่นด้วยน้ำแกงแล้วจึงเริ่มกินเนื้อไก่ได้ วิธีนี้จะทำให้รับรู้รสชาติและความนุ่มนวลของเนื้อทุกคำได้ดียิ่งขึ้น

เมื่อชายหนุ่มซดน้ำแกงสีเหลืองอำพันเข้าไปเต็มช้อน กลิ่นน้ำแกงหอมของมันก็ระเบิดอยู่ภายในปาก เข้าห่อหุ้มต่อมรับรสของเขาไว้ กลิ่นของไก่โลหิตปักษาเพลิง สะระแหน่ และสมุนไพรชนิดอื่นๆ ระเบิดออกมาในเวลาเดียวกัน

ปู้ฟางรู้สึกราวกับตนเองกำลังเดินท่องอยู่ในทุ่งสมุนไพรมากสรรพคุณบนเทือกเขา สมุนไพรเหล่านั้นไหวลู่ลม กลิ่นหอมของสมุนไพรโชยเข้าหาเขา ไก่โลหิตปักษาเพลิงสีแดงสวยกระพือปีกอยู่บนทุ่งสมุนไพรนั้น กำลังวิ่งเล่นอย่างมีความสุข

“อร่อย!”

ปู้ฟางเอ่ยปากชมหลังจากซดน้ำแกงเข้าไปหนึ่งช้อน ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เนื้อไก่โลหิตปักษาเพลิงมาสักพักแล้ว

หนังไก่นุ่มหยุ่นด้วยวิธีการปรุงโดยใช้พลังปราณเที่ยงแท้ ชายหนุ่มฉีกน่องออกจากตัวไก่ ดึงเอาหนังจากส่วนอื่นติดมาด้วยเช่นกัน หนังไก่เปลี่ยนเป็นสีใสเล็กน้อยจากกระบวนการทำ

ถึงแม้เนื้อจะเป็นสีแดงเลือดแต่รสชาติไม่เหมือนเลือดแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับเนื้อไก่ธรรมดาแล้วมันมีรสชาตินุ่มกว่าจนกลืนได้ง่ายแทบไม่ต้องเคี้ยว

ปู้ฟางถือน่องไก่อยู่ในมืออย่างมีความสุข แล้วกัดกินด้วยความสุขใจ ไม่นานนักน่องทั้งน่องก็หมดลงอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากของชายหนุ่มเป็นมันย่อง

กระดูกของไก่โลหิตปักษาเพลิงเองก็เป็นสีเลือดเช่นกัน และมีกลิ่นที่แตกต่างจากเนื้อ

ปู้ฟางตักน้ำแกงอีกชาม ค่อยๆ ลิ้มรสอย่างช้าๆ ขณะนอนขดอยู่บนเก้าอี้ ความรู้สึกที่ได้กินจนอิ่มหนำนั้นยอดเยี่ยมเกินบรรยายจริงๆ

แม้เขาจะอยากกินไก่หมดทั้งตัวคนเดียวแต่ก็ทำไม่ได้ ไก่โลหิตปักษาเพลิงเป็นอสูรเวทที่มีพลังปราณอยู่ในตัวจำนวนมาก เมื่อเพิ่มสมุนไพรล้ำค่าและสะระแหน่สวรรค์เข้าไปอีก อาหารจานนี้จึงอัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

แม้ระบบจะช่วยลดผลกระทบที่จะตามมาแล้ว แต่ปู้ฟางก็กินได้เพียงเท่านี้ หากกินต่อไปอาจตัวระเบิดตายได้

กระนั้นหลังจากที่หยุดกิน ชายหนุ่มก็รู้สึกราวกับว่าร่างทั้งร่างกำลังถูกเผาไหม้ ดวงตาถึงขั้นมีเปลวเพลงพุ่งออกมา

เขาหายใจหนักหน่วงพร้อมลุกขึ้นยืน เลือดไหลทะลักออกจากโพรงจมูก

อาหารจานนี้มีสารอาหารมากเกินไป… จนถึงขั้นทำให้เขาเลือดกำเดาไหล

สีหน้าของชายหนุ่มยังคงเรียบเฉย ตั้งใจว่าจะเอาอาหารที่เหลือใส่ในท้องเจ้าขาวเพื่อกำจัด แต่หลังจากคิดอยู่สักพัก เขาก็หยิบไก่ที่เหลือไปให้เจ้าดำทั้งๆ ที่ยังบีบจมูกอยู่

“อะ เจ้าดำ ได้เวลาอาหารค่ำแล้ว” ปู้ฟางพูดเสียงอู้อี้ก่อนวางชามไก่ลงตรงหน้าสุนัข

เจ้าดำที่นอนหลับตานิ่งอยู่บนพื้นลืมตาขึ้นโดยพลัน ดวงตาเป็นประกายสว่างวาบเหมือนฝนดาวตก

“บรู๋ววว~” มันหอนอย่างมีความสุขพลางคิด “เจ้ามนุษย์ ในที่สุดก็ฉลาดพอจะแสดงเคารพผู้อาวุโสแล้วสินะ!”

จากนั้นเจ้าดำก็กินไก่หมดอย่างตะกละตะกลาม

ปู้ฟางเดินกลับเข้าครัวไป เช็ดเลือดกำเดาออกจนหมด เขารู้สึกว่าร่างทั้งร่างพรั่งพรูด้วยพลังงานที่ไม่มีวันหมด จนไม่ง่วงเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้เขาจึงหยิบมีดสั่งทำพิเศษหนักอึ้งขึ้นมา แล้วนำหัวไชเท้าหลายพันหัวออกมาเริ่มหั่น

ชายหนุ่มไม่สามารถหยุดมือตนเองได้…

วันต่อมา ปู้ฟางยังคงมีพลังล้นเหลือแม้จะยืนหั่นหัวไชเท้าอยู่ทั้งคืน เขาเปิดร้านตามปกติ

เจ้าอ้วนจินและผองเพื่อนมาตามเวลา

“เถ้าแก่ปู้ เหตุใดวันนี้ข้าจึงรู้สึกถึงรังสีสังหารจากท่านกัน” เจ้าอ้วนจินจ้องปู้ฟางด้วยความงุนงง

ชายหนุ่มเจ้าของร้านมองหน้าชายอ้วนอย่างไร้อารมณ์ แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากก่อนเอ่ยถาม “จริงรึ”

“สวรรค์ช่วย…” เจ้าอ้วนจินตัวสั่นไม่รู้ตัว ดวงตาจ้องไปที่ปู้ฟางอย่างตกใจพร้อมคิด “เมื่อกี้เถ้าแก่ปู้เลียปากมิใช่รึ เลียไปทำไมนะ”

หลังจากที่ปู้ฟางทำอาหารทุกจานที่เจ้าอ้วนจินสั่งเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เดินกลับเข้าครัวไป จะไม่ให้เขามีรังสีสังหารได้อย่างไรเล่า หลังจากที่ยืนหั่นหัวไชเท้ามาทั้งคืนเช่นนั้น…

เด็กหญิงโอวหยางเสี่ยวอี้เดินสลับกระโดดมาที่ร้านอย่างเริงร่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่นางต้องทำงานใช้หนี้ จากนี้ก็จะได้เป็นไทในที่สุด

“แต่… เหตุใดข้าจึงรู้สึกละล้าละลังกันนะ” นางคิดพลางเอียงคอ

“เสี่ยวอี้ เอาอาหารออกไปให้ลูกค้าหน่อย”

เสียงปู้ฟางตะโกนเรียกทำให้โอวหยางเสี่ยวอี้ตื่นจากห้วงความคิด

“มาแล้ว” เด็กหญิงวิ่งไปที่หน้าต่างห้องครัวอย่างคุ้นเคย เดินถือชามอาหารกลิ่นหอมฉุยออกมา

ลูกค้าขาประจำมากินอาหารแล้วจากไปคนแล้วคนเล่า จนเวลาปิดใกล้เข้ามาในที่สุด

วันนี้จีเฉิงเสวี่ยก็มากินเช่นกัน ชายหนุ่มยังคงอ่อนโยนและสง่างามเหมือนเดิม เหตุการณ์ลอบสังหารไม่ได้มีผลอะไรต่อเขาเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ไม่ได้มาสักพัก องค์ชายสามก็พบว่ามีอาหารรายการใหม่มากมาย จึงสั่งอาหารจานใหม่มาอย่างละจาน แล้วจากไปอย่างมีความสุขหลังกินเสร็จ

เลขาธิการใหญ่ซูเองก็มาเช่นกัน เขาชื่นชอบข้าวผัดไข่เป็นอันมากและสั่งอยู่รายการเดียวเท่านั้น

เซียวเยวี่ยเองก็แวะมาแล้วจากไปเช่นกัน เขาสั่งเพียงสุราหัวใจหยกเยือกแข็งเท่านั้น และจองเอาไว้สำหรับพรุ่งนี้อีกเหยือกเหมือนเช่นทุกวัน

“อ้อ ได้ ข้าจะรอแล้วกันนะ” ปู้ฟางที่นั่งพักเช่นกันตอบหน้าตาย

โอวหยางเสี่ยวอี้พูดเยอะเป็นพิเศษวันนี้ นางคุยจ้อกับชายหนุ่มไม่หยุด แต่ปู้ฟางกลับไร้อารมณ์เสียเหลือเกิน ชายหนุ่มทำเพียงพยักหน้าบางครั้งและตอบว่า “อ้อ” กลับไปบ้างเท่านั้น

“นายท่านตัวเหม็น พรุ่งนี้ท่านจะช่วยชีวิตพี่หญิงหยานยู่ได้จริงๆ ใช่ไหม ข้าเชื่อมั่นในตัวท่านนะ” โอวหยางเสี่ยวอี้หดหู่ขึ้นมาฉับพลัน

“ไม่ต้องกังวลไป เชื่อในตัวข้าก็พอ” ปู้ฟางชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็ลูบศีรษะของเด็กหญิง และฝืนยิ้มบางออกมา

“นายท่านตัวเหม็นยิ้มน่าเกลียดเป็นบ้า!” เด็กหญิงกลอกตาใส่ชายหนุ่มอย่างรังเกียจ

สีหน้าของปู้ฟางแข็งทื่อไปทันที จากนั้นก็กลับไปเป็นเรียบเฉยอีกครั้ง

“นายท่านตัวเหม็นทำหน้าจริงจังแล้วหล่อกว่านะ” เด็กหญิงหัวเราะร่าพร้อมเดินกระโดดเด้งไปที่ทางเข้าร้าน

“พรุ่งนี้ข้าจะมาอีก โปรดช่วยชีวิตพี่หญิงหยานยู่ด้วย ข้าเชื่อมั่นในตัวท่านนะ!”

ปู้ฟางมองร่างของเด็กน้อยกระโดดลับตาไป แววความอ่อนโยนฉายขึ้นบนใบหน้า เขาลูบผมตนเองที่มัดเอาไว้ด้วยเชือกขนสัตว์ หันหลังกลับแล้วเดินเข้าครัวไป

“ข้าจะทำพลาดได้อย่างไร ในเมื่อข้าหล่อถึงเพียงนี้” เขาพึมพำกับตนเองเสียงเรียบ

ในวันชี้ชะตาพรุ่งนี้ เขามั่นใจมากว่าตนเองจะไม่พลาด เนื่องจากมีประสบการณ์การทำน้ำแกงสมุนไพรไก่ปักษาเพลิงแล้ว

เขายังสงบจิตสงบใจอยู่ได้เพราะความมั่นใจนี้เอง

……………………………………

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

Status: Ongoing
ในโลกแฟนตาซีมีผู้ฝึกยุทธสามารถแยกภูเขาและลำธารด้วยคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือ และทำลายแม่น้ำได้จากลูกเตะ มีร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่ เป็นที่ๆมีพลังแห่งชีวิตนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายใน ที่นี่ท่านจะได้ลิ้มรสข้าวผัดที่ทำมาจากไข่ของนกฟินิกส์และข้าวเลือดมังกร ที่นี่ท่านสามารถดื่มเหล้าแรงที่ทำมาจากผลสีชาดและน้ำจากน้ำพุแห่งชีวิต ที่นั่นท่านสามารถลิ้มรสเนื้อย่างของวัวระดับเก้าที่โรยพริกไทยดำ อะไรนะ? อยากจะลักพาตัวพ่อครัว? นี่ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมีสัตว์แห่งเทพระดับสิบ เฮลฮาวน์เฝ้าอยู่ที่ทางเข้า พ่อครัวยังมีหุ่นยนต์ที่ฆ่านักฆ่าระดับเก้าด้วยมือข้าเดียว และยังมีกลุ่มผู้หญิงที่บ้าคลั่งหิวโหยที่จะต้องเอาชนะให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท