ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD ตอนที่ 105 เต้าหู้บุปผาพันชั้น
ตอนที่ 105 เต้าหู้บุปผาพันชั้น
หลังจากวางตะกร้าที่เต็มไปด้วยหัวไชเท้าลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ปู้ฟางก็เหลือบมองพ่อครัวเจ้าด้วยสายตาไร้ความรู้สึก อีกฝ่ายดูอึ้งไป ปากอ้ากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง
มีวัตถุดิบให้เลือกมากมายบนโลกนี้ แต่คนพวกนี้กลับเลือกหั่นหัวไชเท้าแข่งกับเขา… แม้แต่ตัวปู้ฟางเองยังพูดอะไรไม่ออก วิธีการฝึกทักษะการใช้มีดฝนดาวตกคือการหั่นหัวไชเท้า ยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้องใช้มีดทำครัวสั่งทำโดยเฉพาะเพื่อให้หนักเป็นพิเศษอีกด้วย ด้วยวิธีการฝึกเช่นนี้ แน่นอนว่าทักษะการใช้มีดของเขาจะต้องยอดเยี่ยมเกินมนุษย์มนา
นอกจากนี้ปู้ฟางยังคุ้นเคยกับการหั่นหัวไชเท้ามากกว่าผักชนิดอื่น เนื่องจากต้องหั่นวันละพันหัวทุกวันตอนเช้า การหั่นหัวไชเท้าร้อยหัวให้เสร็จภายในห้าลมหายใจนั้นง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากสำหรับเขา ด้วยเหตุนี้ หากอยากโทษใคร ก็ควรโทษพ่อครัวเจ้าที่เลือกส่งอ้อยมาเข้าปากช้างเอง
“มาเริ่มรายการที่สองเลยก็แล้วกัน” ปู้ฟางพูดอย่างไร้ความรู้สึก เสียงสงบนิ่งของเขาทำให้ทุกคนพลันตื่นจากภวังก์
“เจ้า… เจ้าทำได้อย่างไรกัน! เป็นไปไม่ได้! ข้าใช้เวลามากกว่าสิบปีในการฝึกทักษะการใช้มีดอย่างเอาเป็นเอาตาย! แล้วข้าจะด้อยกว่าเด็กเมื่อวานซืนอย่างเจ้าไปได้อย่างไร!” พ่อครัวเจ้าพึมพำพร้อมส่ายหน้าอย่างใจลอย
ปู้ฟางวางมีดทำครัวธรรมดาที่เขาถืออยู่ลงบนเขียง จากนั้นก็บุ้ยใบ้ให้พ่อครัวเจ้ามาดูมีดทำครัวที่เขาใช้เมื่อครู่
เมื่อพ่อครัวเจ้าเห็นมีดดังกล่าว รูม่านตาก็หดแคบลงทันที ตัวมีดนั้นย่นยู่ไปเกือบหมด มีแม้กระทั่งรอยแตกบนผิวเสียด้วยซ้ำไป
“ใครมันจะไปทำได้หากไม่ได้ฝึกหนักอย่างเอาเป็นเอาตายกัน เจ้าฝึกหนักมาหลายปี ข้าเองก็ฝึกหนักเช่นกัน เพียงแต่วิธีการของเราแตกต่างกันก็เท่านั้น” ปู้ฟางเอ่ย
พ่อครัวเจ้าสะดุ้งเมื่อได้ยินสิ่งที่ปู้ฟางพูด จากนั้นเขาก็มองชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่กลับมาได้สติอีกครั้ง ดูเหมือนว่าแรงใจจะกลับมาจนได้
“ขอบคุณท่านมากที่ชี้แนะ เถ้าแก่ปู้ เช่นนั้นเรามาแข่งกันต่อเถิด ข้าจะตั้งใจสุดความสามารถ” พ่อครัวเจ้าเอ่ย นี่ยังถือเป็นการประลองที่เขาเอาศักดิ์ศรีของความเป็นพ่อครัวมาวางเป็นเดิมพัน เขาไม่มีทางยอมแพ้ไปทั้งอย่างนี้แน่นอน
“การ… การแข่งขันรอบที่สองเป็นการวัดความแม่นยำในการใช้มีด เราได้เตรียมเต้าหู้สองก้อนเอาไว้ให้เถ้าแก่ปู้และพ่อครัวเจ้า ผู้ที่หั่นเต้าหูได้บางที่สุดโดยไม่ทำให้เต้าหู้แตกคือผู้ชนะ” ตอนนี้เฉียนเป่าได้หมดความมั่นใจไปเรียบร้อยแล้ว ทักษะการใช้มีดฝนตามตกของปู้ฟางทำให้ความกระหยิ่มยิ้มย่องหายไปในพริบตาเหมือนไม่เคยมีมาก่อน
ปู้ฟางพยักหน้า การหั่นเต้าหู้นั้นถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ทดสอบความสามารถในการใช้มีดของพ่อครัวแม่ครัว เนื่องจากเต้าหู้อ่อนนิ่มมาก จึงต้องควบคุมทั้งแรงที่ใช้และความแม่นยำเป็นอย่างดี หากทำพลาดเพียงครั้งเดียวอาจทำให้เต้าหู้แตกเป็นเสี่ยงๆ ได้ในพริบตา
พ่อครัวเจ้าไม่พูดอะไร เขาเพียงแต่หยิบมีดทำครัวที่ใบมีดแคบกว่าเดิมเล็กน้อยออกมา แล้วเดินไปหาเต้าหู้บนเขียง สีหน้าจริงจัง
เต้าหู้เป็นวัตถุดิบที่เปราะบางและลื่นมาก มันบอบบางมากจนอาจเละได้หากสัมผัสแรงๆ เพียงหนึ่งครั้ง
เนื่องจากอุณหภูมิภายนอกเย็นมาก เต้าหู้จึงถูกนำออกมาวางเมื่อพร้อมแข่งเท่านั้น เต้าหู้ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองยังอุ่นอยู่เล็กน้อย
การหั่นเต้าหู้เป็นงานยาก ด้วยเหตุนี้พ่อครัวเจ้าจึงต้องทุ่มสมาธิทั้งหมดไปกับงานนี้ ขณะเริ่มหั่นเต้าหู้ จิตใจของเขาก็จดจ่ออยู่ที่มีดทำครัวในมือเท่านั้น
ตอนที่พ่อครัวเจ้าเริ่มหั่นเต้าหู้ ปู้ฟางก็หยิบมีดทำครัวธรรมดาออกมาอีกเล่มหนึ่ง มีดทำครัวเล่มนี้หน้าตาเหมือนเล่มก่อนหน้าไม่มีผิด จัดอยู่ในกลุ่มมีดทำครัวขนาดใหญ่
ดวงตาของเขามองไปที่เต้าหู้ตรงหน้า เมื่อเห็นพ่อครัวเจ้าค่อยๆ หั่นเต้าหู้ด้วยสมาธิสูงสุด มุมปากของชายหนุ่มก็คลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย
หลังจากที่ดูการแข่งขันรอบแรกไป ผู้ชมที่อยู่รายรอบก็ไม่กล้าเข้าข้างพ่อครัวเจ้าชนิดไม่ลืมหูลืมตาอีก หลายคนจับจ้องไปที่ความเคลื่อนไหวของปู้ฟาง ไม่นานนักความตื่นตาตื่นใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน
เมื่อต้องหั่นเต้าหู้ที่เปราะบาง ปู้ฟางไม่ได้เลือกจัดการกับเต้าหู้อย่างระมัดระวังเหมือนพ่อครัวเจ้า แต่เขาทำเช่นเดียวกับตอนที่หั่นหัวไชเท้า ชายหนุ่มใช้นิ้วหมุนมีดทำครัว จากนั้นก็ฟาดลงมาที่เต้าหู้เปราะบาง
ภาพเดิมกับตอนที่หั่นหัวไชเท้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง ในตอนที่ลำแสงกระจายไปทั่วท้องฟ้าสีหมึกเหมือนฝนดาวตก เต้าหู้แสนเปราะบางก็เริ่มสั่นไหว
ภายในสี่ลมหายใจ ปู้ฟางก็หั่นเต้าหู้เสร็จ เขาวางมีดทำครัวลงแล้วมองก้อนเต้าหู้ตรงหน้า เต้าหู้นั้นยังคงรูปร่างเป็นก้อนได้อยู่ราวกับไม่ได้ถูกหั่นเลยแม้แต่น้อย
“นี่มัน… เกิดอะไรขึ้น ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนไปเลย” ผู้ชมคนหนึ่งกระซิบออกมา แม้จะเห็นกับตาตัวเองว่าปู้ฟางหั่นเต้าหู้แล้วจริงๆ แต่เต้าหู้ตรงหน้ายังคงสภาพเดิมไม่มีผิดเพี้ยน
“ใจเย็นๆ” ปู้ฟางพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเพื่อทำให้ผู้ชมเงียบลง จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ยกเต้าหู้สีขาวใสไร้ที่ติและยังอุ่นอยู่ขึ้นมา ก่อนเอาไปใส่ในชามแก้วที่มีน้ำอยู่ ชามแก้วนั้นเฉียนเป่าเป็นผู้เตรียมให้ เพื่อเอาไว้แสดงเต้าหู้ที่หั่นแล้วจากทุกทิศทาง
ปู้ฟางค่อยๆ วางเต้าหู้ลงในน้ำ จากนั้นก็ถอนมือออกโดยไม่ทำให้น้ำกระเพื่อมแม้แต่น้อย
อึดใจถัดมา เต้าหู้ในชามแก้วใสก็เปลี่ยนหน้าตาไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ความเปลี่ยนแปลงนั้นค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากที่ลงไปอยู่ในน้ำเรียบร้อย ชั้นเต้าหู้ที่บางราวเส้นผมก็เริ่มคลี่ตัวออก มันดูราวกับเป็นดอกไม้ตูมที่ค่อยๆ บานรับแสงแดด และชั้นเต้าหู้เหล่านั้นเป็นกลีบดอกไม้บาง
นี่เป็นเพียงชั้นแรกเท่านั้น จากนั้นชั้นที่สองก็เบ่งบานตามมาติดๆ จากทุกทิศทาง เต้าหู้ทุกชั้นที่ลอยล่องอยู่ในน้ำบางเฉียบจนไม่น่าเชื่อ
เต้าหู้ที่อยู่ใต้น้ำค่อยๆ คลี่ออกทีละชั้นและเบ่งบานขึ้นด้านบนเรื่อยๆ ตามแรงผลักของน้ำ กลายมาเป็นดอกไม้ที่มีกลีบพันชั้น
“เต้าหู้บุปผาพันชั้น เชิญรับชม” ปู้ฟางพูดเสียงอ่อนโยนกับผู้ชม
ทุกคนสูดหายใจเอาลมเย็นเข้าปอด ต่างพากันทึ่งกับความจริงที่ว่าเต้าหู้ก้อนเดียวสามารถเปลี่ยนมาเป็นดอกไม้พันชั้นที่สวยงามถึงเพียงนี้ได้เพียงปลายมีดสัมผัส กลีบแต่ละกลีบดูเปราะบางเสียยิ่งกว่าเส้นผม หากสัมผัสโดน อาจแตกสลายได้แม้ด้วยแรงเพียงน้อยนิด…
เมื่อแสงแดดสาดส่องมายังชามแก้ว เต้าหู้ดอกไม้พันชั้นที่ลอยอยู่ในน้ำก็ทอประกายล้อแสงแดด ชั้นเต้าหู้ในน้ำดูเหมือนดอกไม้ที่โบกไสวตามแรงลมโชยอ่อน
เมื่อเฉียนเป่าเห็นภาพตรงหน้า เข่าของเขาก็พลันอ่อนลงทันที พวกเขาจะไปชนะดอกไม้เต้าหู้ดอกนี้ได้อย่างไร ปู้ฟางห่างชั้นกว่าพวกเขามากเกินไปจริงๆ เสียด้วย
“สรุปคือเถ้าแก่ปู้ไม่ได้ด้อยเรื่องทักษะการใช้มีด แต่คิดว่าเราไม่ดีพอจะให้เขาเสียเวลาแข่งด้วยต่างหาก” เฉียนเป่าคิดอย่างขมขื่น “แล้วข้าก็โง่พอที่จะรนหาเรื่องให้อับอายเอง”
ผู้ชมต่างพากันอุทานเสียงดังด้วยความตื่นตาตื่นใจ ขณะเข้ามาล้อมดูดอกไม้เต้าหู้แสนสวยงามน่าประทับใจ ทุกคนต่างทึ่งกับความงามที่อยู่ตรงหน้า
อีกฝั่งหนึ่ง พ่อครัวเจ้ายังคงค่อยๆ ละเมียดละไมหั่นเต้าหู้ด้วยมีดทำครัวของตน เขาไม่ยอมแพ้และไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกแม้แต่น้อย จิตใจยังจดจ่ออยู่ที่งานในมือ
ปู้ฟางพยักหน้ายอมรับ เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมพ่อครัวเจ้าผู้เคารพและมุ่งมั่นตั้งใจกับงานที่ตนเองทำอย่างแท้จริง
หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งเค่อ พ่อครัวเจ้าก็ทำผลงานสำเร็จและใส่มันลงไปในชามแก้วเพื่อจัดแสดง เต้าหู้ทุกชิ้นที่เบ่งบานอยู่ในชามใส่น้ำนั้นบางมาก แม้จะเทียบเต้าหู้บุปผาพันชั้นไม่ได้ แต่งานของเขาก็จัดว่าเป็นฝีมือของผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของทักษะการใช้มีดแล้ว
“เถ้าแก่ปู้ ข้ายอมรับจริงๆ ว่าความสามารถของข้านั้นสู้ท่านไม่ได้ การแข่งขันในครั้งนี้ข้าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ไม่จำเป็นต้องแข่งกันต่อในรายการที่สามแล้ว หากเทียบกับทักษะการใช้มีดของท่านแล้ว ข้ายังจัดว่าอ่อนด้อยนัก ยังต้องฝึกฝนให้มากขึ้นไปอีก” พ่อครัวเจ้าเอ่ยด้วยความรู้สึกอับจนหนทางและขมขื่น
ปู้ฟางหยักหน้า ระบบได้ประกาศชัยชนะในใจของเขาไปแล้วเมื่อครู่นี้
เฉียนเป่าทำผิดมหันต์จริงๆ ในครั้งนี้ เขารู้สึกหดหู่เป็นอันมากที่เดินเข้าไปเรียกปู้ฟางให้มาตบหน้าตนเองถึงที่ การที่ปู้ฟางมีฝีมือเก่งกาจราวปีศาจทั้งในด้านการทำอาหารและการใช้มีดนี้ เป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการของมนุษย์ปกติทั่วไปจริงๆ แต่ทวีปมังกรซ่อนเร้นก็เป็นทวีปที่กว้างใหญ่นัก การปรากฏตัวของปีศาจอัจฉริยะจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“เถ้าแก่ปู้เพียบพร้อมทั้งด้านทักษะการทำครัวและทักษะการใช้มีด การเปิดร้านเล็กๆ เช่นนี้ช่างไม่เหมาะกับความสามารถที่ยิ่งใหญ่ของท่านเลย ข้าอยากทราบว่าเถ้าแก่ปู้สนใจอยากร่วมงานกับร้านปักษาเพลิงนิรันดร์ของเราหรือไม่ หากเราทั้งสองคนร่วมมือกัน ด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยมของเถ้าแก่ปู้และชื่อเสียงอันโด่งดังของร้านปักษาเพลิงนิรันดร์ เราสองคนจะต้องกลายเป็นที่รู้จักในทวีปมังกรซ่อนเร้นอย่างแน่นอน!” ความต้องการดึงปู้ฟางมาเป็นพวกทวีความรุนแรงขึ้นในใจเฉียนเป่าทันที
โอวหยางเสี่ยวอี้เอนตัวลงบนโต๊ะเบื้องหน้าชามใส่น้ำ ดวงตากลมโตสุกใสของนางเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจ ขณะจับจ้องเต้าหู้บุปผาพันชั้นที่ดูเหมือนสร้างมาจากพลังเหนือธรรมชาติ หยางเฉินเองก็ประหลาดใจมากเช่นกัน เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้จะถือกำเนิดขึ้นมาด้วยมีดทำครัวเล่มเดียว โลกแห่งการทำอาหารนั้น… ช่างลึกลับเหนือจินตนาการเสียจริง!
ทันใดนั้นทั้งสองก็รู้สึกถึงแรงที่กดลงมาบนบ่า จากนั้นร่างก็สูญเสียการควบคุม เนื่องจากมีพลังกดดันรุนแรงพุ่งเข้ามาสะกดพลังปราณของพวกเขาทั้งสองไว้
โอวหยางเสี่ยวอี้และหยางเฉินหันมามองหน้ากัน จากนั้นก็ตะโกนกู่ร้องเงียบๆ อยู่ในใจโดยมิได้นัดหมาย ซวยแล้ว!
………………………..
Related