ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 228 นางเหมาะสมที่สุดแล้ว

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

“นั่น​ก็​ยัง​ไม่สมควร​เป็น​หม่อมฉัน​เพคะ​” หลิน​ชิงเวย​ยืนกราน​

เซียว​จิ่น​ “ชิงเวย​ เจิ้น​เพียง​คิด​ว่า​ทั้งหมด​นี้​ล้วน​เป็นการชั่วคราว​ ไม่มีผู้ใด​เหมาะสม​กว่า​เจ้าเป็นการชั่วคราว​ รอ​ให้​เจิ้น​คุ้นเคย​กับ​ตำหนัก​ใน​แล้ว​ยัง​ต้อง​รบกวน​ให้​ชิงเวย​คัดเลือก​ผู้ดู​เข้าที​ออกมา​หลาย​คน​ ถึงยาม​นั้น​เจิ้น​ค่อย​มอบ​อำนาจหน้าที่​ดูแล​ควบคุม​ตำหนัก​ใน​ให้​กับ​พวก​นาง​ดี​หรือไม่​?”

หลิน​ชิงเวย​ถาม “ฝ่าบาท​คิด​จะให้​หม่อมฉัน​คัดเลือก​สนม​ให้​ฝ่าบาท​?”

เซียว​จิ่น​ชะงัก​ไป​ “ชิงเวย​คิด​ว่า​หมายความ​อย่างนี้​ก็ตาม​นี้​เถิด​” อย่างไร​เขา​ย่อม​ต้อง​คัดเลือก​สนม​เข้ามา​อยู่แล้ว​

ไย​หลิน​ชิงเวย​จะไม่กระจ่างแจ้ง​ แต่​เมื่อ​ก้าว​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​ใน​ได้​ชื่อว่า​เป็น​สนม​แล้ว​ เมื่อ​แรก​ล้วน​แต่ง​เข้ามา​เพื่อ​เป็นการ​เสริม​ความ​เป็น​สิริมงคล​ให้​กับ​เซียว​จิ่น​ ไม่รู้​ผ่อน​หนัก​เบา​ แม้โดยส่วนใหญ่​ล้วน​เป็น​บุตรสาว​ของ​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​ราชสำนัก​ ทว่า​กลับเป็น​บุตรสาว​สาย​รอง​หรือไม่​ก็​เป็น​บุตรสาว​สาย​ตรง​ที่​มิอาจ​ออกหน้าออกตา​ได้​สัก​เท่าใด​นัก​ ครั้งนั้น​เซียว​จิ่น​ล้ม​ป่วย​นอน​เป็น​ผัก​ทุก​สามวัน​ห้า​วัน​ บรรดา​ขุนนาง​ใหญ่​เหล่านั้น​ไหน​เลย​จะคิด​ว่า​เซียว​จิ่น​จะหาย​ดีแล้ว​กลับมา​ยืน​ได้​อีกครั้ง​

ใน​ตำหนัก​ใน​ย่อม​ไม่มีใคร​สัก​คน​ที่​เข้าตา​ ใน​ตำหนัก​ใน​แห่ง​นี้​ไม่ว่า​จะเป็น​ฐานะ​บุตรสาว​สาย​ตรง​ของ​จวน​มหา​เสนาบดี​หลิน​ หรือ​ความสามารถ​ของ​หลิน​ชิงเวย​ นาง​ล้วน​เป็น​ตัวเลือก​ที่​ดี​ของ​เซียว​จิ่น​ชนิด​หา​คน​ที่สอง​ออกมา​ไม่ได้​จริงๆ​

คิดดู​แล้ว​อีกไม่นาน​บรรดา​ขุน​นางใน​ราชสำนัก​ย่อม​ต้อง​ดีดลูกคิดรางแก้ว​ให้​บุตรสาว​ของ​ตน​แต่ง​เข้ามา​ใน​วัง​ เพื่อ​ดึง​พวกเขา​มาเปลี่ยน​ข้าง​มาสนับสนุน​ตน​ เซียว​จิ่น​ย่อม​ต้อง​แต่ง​สนม​เข้ามา​อีก​จำนวน​ไม่น้อย​ ยาม​นี้​แม้เซียว​จิ่น​จะพูด​เช่นนี้​ แต่​เมื่อ​ถึงเวลา​คัดเลือก​ประมุข​ของ​ฝ่ายใน​อีกครั้ง​ ไม่เพียงแต่​ต้อง​คุ้นเคย​กับ​เรื่องราว​ใน​ตำหนัก​ใน​ อีก​ทั้ง​ยัง​ต้อง​ควบคุม​ดูแล​สนม​ชายา​อื่นๆ​ เอาไว้​ได้​ด้วย​ ไหน​เลย​จะกระทำการ​เลอะเลือน​ได้​

ที่จริง​แล้ว​หากว่า​กัน​ตาม​ข้อตกลง​แต่แรก​ ขอ​เพียง​นาง​รักษา​ขา​ของ​เซียว​จิ่น​ให้​หาย​ดี​ หาก​หลิน​ชิงเวย​มีความประสงค์​จะจากไป​ พรุ่งนี้​นาง​ก็​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​ได้​

หลิน​ชิงเวย​เงียบขรึม​

เซียว​จิ่น​หันไป​มอง​เซียว​เยี่ยน​ “เสด็จ​อา​ ไทเฮา​ถูก​กักบริเวณ​อยู่​ใน​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​ ตำหนัก​ใน​ไร้​ประมุข​ เจิ้น​ให้​ชิงเวย​ทำหน้าที่​ดูแล​ตำหนัก​ใน​ ท่าน​คิด​ว่า​ภายใน​ตำหนัก​ใน​จะหา​บุคคล​ที่สอง​ที่​เหมาะสม​กว่า​นาง​ได้​หรือไม่​?”

หลิน​ชิงเวย​หายใจเข้า​ลึก​ หาก​นาง​ต้อง​เป็น​บุคคล​ผู้​มีความเหมาะสม​ที่สุด​ ต่อไป​นาง​ย่อม​ได้​ชื่อว่า​เป็น​สตรี​ของ​ฮ่องเต้​อย่าง​เป็นทางการ​

เซียว​จิ่นรอ​คำตอบ​ของ​เขา​ หลิน​ชิงเวย​เอง​ก็​รอ​คำตอบ​ของ​เขา​เช่นกัน​

คำตอบ​ของ​เขา​สำหรับ​หลิน​ชิงเวย​แล้ว​สำคัญ​ยิ่งกว่า​ ไม่ว่า​ใน​ใจจะรู้​คำตอบ​ตั้งแต่แรก​แล้ว​ แต่​นาง​ยังคง​วาดหวัง​ว่า​จะได้ยิน​คำตอบ​ที่​แตกต่าง​ออก​ไป​จาก​ปาก​ของ​เซียว​เยี่ยน​

เซียว​เยี่ยน​หลุบ​ตา​ลง​ต่ำ​ทำให้​มองไม่เห็น​แววตา​ที่​เปลี่ยนไป​ของ​เขา​ เขา​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​เรียบ​เฉย​ “ถูกต้อง​ ไม่มีผู้ใด​เหมาะสม​กว่า​นาง​อีกแล้ว​”

เซียว​จิ่น​หันไป​มอง​หลิน​ชิงเวย​อย่าง​คาดหวัง​ “ชิงเวย​ เจ้าช่วย​เจิ้น​ได้​หรือไม่​?”

หลิน​ชิงเวย​หลุบ​ตา​ลง​ต่ำ​ พูด​เสียง​เบา​ว่า​ “ใน​เมื่อ​กระทั่ง​เสด็จ​อา​ยัง​ตรัส​เช่นนี้​ หม่อมฉัน​ยัง​จะมีอะไร​ให้​พูด​ได้​เพคะ​? เช่นนั้น​ตั้งแต่​วันนี้​เป็นต้นไป​ หม่อมฉัน​จะช่วย​ฝ่าบาท​คัดเลือก​สาวงาม​ โดย​คัดเลือก​เหล่า​สาวงาม​ใน​เมืองหลวง​เข้า​วัง​มาก่อน​เพคะ​”

แสงตา​ของ​เซียว​จิ่น​หม่น​ลง​ ทว่า​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ยัง​คงอยู่​ “เจิ้น​เพิ่งจะ​รับ​ช่วงต่อ​งาน​จาก​เสด็จ​อา​มาไม่น้อย​ เกรง​ว่า​จะปลีกตัว​ไม่ได้​”

หลิน​ชิงเวย​ “ฝ่าบาท​อายุ​ไม่น้อย​แล้ว​ ฝ่าบาท​ไม่มีเวลา​ไม่เป็นไร​เพคะ​ รอ​ให้​คัดเลือก​เข้า​วัง​มาแล้ว​ หม่อมฉัน​รับผิดชอบ​การคัดเลือก​สาวงาม​ รับรอง​จะไม่ให้​ฝ่าบาท​ผิดหวัง​เพคะ​”

เซียว​จิ่น​ใคร่ครวญ​ อย่างไร​เรื่อง​เหล่านี้​ล้วน​เป็นเรื่อง​ช้าหรือ​เร็ว​เท่านั้น​ “เช่นนั้น​มอบให้​ชิงเวย​ไป​จัดการ​เถิด​”

หลิน​ชิงเวย​กลับ​ไป​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​ ภายใน​วังหลวง​เต็มไปด้วย​บรรยากาศ​ของ​ความ​เป็น​สิริมงคล​

หลิน​ชิงเวย​กลับ​ไป​ถึงเรือน​ของ​ตนเอง​ ปิดประตู​ห้อง​แล้ว​มิได้​ออกมา​อีก​ แม้ซิน​หรู​จะเป็น​คน​ขี้ลืม​ แต่​บางครั้ง​ยังคง​เป็น​คน​จิตใจ​ละเอียดอ่อน​อย่าง​ที่สุด​ นาง​ดูออก​ว่า​หลิน​ชิงเวย​ไม่เบิกบานใจ​แม้แต่น้อย​

ซิน​หรู​ไป​เคาะ​ประตู​ห้อง​และ​พูด​อยู่​ข้างนอก​ “พี่สาว​จะออกมา​กิน​มื้อ​เที่ยง​หรือไม่​เจ้าคะ​? ท่า​น.​..ไม่เบิกบานใจ​ใช่หรือไม่​?”

ครู่หนึ่ง​ เสียง​ของ​หลิน​ชิงเวย​ดัง​ออก​มาจาก​ข้างใน​ “อ่าน​ตำรา​หมด​แล้ว​หรือ​ อ่าน​ยัง​ไม่หมด​ก็​อย่า​มาก่อกวน​”

ซิน​หรู​ได้​แต่​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​เงียบๆ​ เมื่อ​นาง​หัน​กาย​จาก​มาเสียง​ของ​หลิน​ชิงเวย​ดัง​ขึ้น​อีก​ “อาหาร​เที่ยง​เจ้ากิน​เอง​เถิด​ ไม่ต้อง​เรียก​ข้า​” น้ำเสียง​ดีขึ้น​ไม่น้อย​

“อ้อ​” ซิน​หรู​รับคำ​แล้ว​ไม่ไป​รบกวน​นาง​อีก​

หลิน​ชิงเวย​นอน​อยู่​ใน​ห้อง​ทั้งวัน​กระทั่ง​มืดค่ำ​ เมื่อ​เซียว​จิ่น​ว่าง​ลง​จึงมาเยือน​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​อีกครั้ง​

เมื่อ​เซียว​จิ่นรอ​อยู่​ใน​โถงหน้า​ ข้า​รับใช้​ใน​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​กำลัง​จัดเตรียม​พระ​กระยาหาร​มื้อ​ค่ำ​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เซียว​จิ่น​จะประทับ​อยู่​ที่นี่​เพื่อ​เสวย​มื้อ​เย็น​กับ​หลิน​ชิงเวย​

ซิน​หรู​เดิน​เป็น​วงกลม​อย่าง​ร้อนใจ​อยู่​นอก​ห้อง​ของ​หลิน​ชิงเวย​ จะให้​ฝ่าบา​ทรอ​นาน​ไม่ได้​ แต่​หลิน​ชิงเวย​ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย​ รอ​ให้​นาง​นอน​อิ่ม​แล้ว​ค่อย​เปิด​ประตูออก​อย่าง​เชื่องช้า​ ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความ​สะลึมสะลือ​ หัว​คิ้ว​นั้น​กลับ​ขมวด​มุ่น​

นาง​ไป​ยัง​ห้อง​รับประทาน​อาหาร​ ล้างมือ​แล้ว​นั่งลง​

เซียว​จิ่น​เห็น​ซิน​หรู​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​จึงพูดว่า​ “ซิน​หรู​ เจ้าเข้ามา​นั่ง​กิน​ด้วยกัน​เถิด​”

เมื่อ​อยู่​ใน​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​ ซิน​หรู​กิน​อาหาร​ร่วมกับ​หลิน​ชิงเวย​ตลอด​ นาง​ก้าว​เข้ามา​นั่ง​อย่าง​ไม่เห็น​เป็นอื่น​เช่นกัน​

หลิน​ชิงเวย​พูด​อย่าง​เกียจคร้าน​ “ฝ่าบาท​ไฉน​จึงมีเวลาว่าง​มาตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​ของ​หม่อมฉัน​ได้​?”

บัดนี้​เปลี่ยนเป็น​เซียว​จิ่น​คีบ​กับข้าว​ให้​หลิน​ชิงเวย​เสียแล้ว​ เขา​คีบ​เนื้อ​ปลา​สด​ให้​นาง​ชิ้น​หนึ่ง​และ​ทำ​เหมือน​หลิน​ชิงเวย​เมื่อ​แรก​ เลาะ​ก้างปลา​ออก​ให้​นาง​แล้ว​วาง​ลง​บน​ถ้วย​ของ​หลิน​ชิงเวย​ เขา​มอง​สีหน้า​ของ​หลิน​ชิงเวย​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เบา​ๆ ว่า​ “ชิงเวย​ เจ้าคง​ไม่ได้​โมโห​เจิ้น​อยู่​หรอก​นะ​”

นอนหลับ​ไป​ตื่น​หนึ่ง​ หลิน​ชิงเวย​แจ่มใสขึ้น​มาก​และ​จิตใจ​สงบ​ลง​มาก​เช่นกัน​ เมื่อ​กลางวัน​นาง​โมโห​อยู่​สอง​ส่วน​จริงๆ​ ยาม​นี้​เมื่อ​คิดดู​แล้ว​ไม่มีอะไร​ให้​ต้อง​โมโห​ หาก​นาง​เป็น​เซียว​จิ่น​ ย่อม​ต้อง​ทำ​เช่น​ที่​เซียว​จิ่น​ทำ​เช่นกัน​ อีก​ทั้ง​ปรารถนา​ว่า​จะได้รับ​การ​สนับสนุน​จาก​ตน​

เซียว​จิ่น​เห็น​นาง​ไม่พูดจา​จึงพูด​อี​กว่า​ “เรื่อง​นี้​เจิ้น​ไม่ได้​ปรึกษาหารือ​กับ​เจ้าก่อน​ เจิ้น​ขอโทษ​เจ้าได้​หรือไม่​?”

หลิน​ชิงเวย​ช้อนตา​ขึ้น​มาเซียว​จิ่น​ด้วย​สายตา​สงบนิ่ง​ “เรื่อง​นี้​ฝ่าบาท​ลำบากใจ​มาก​จริงๆ​ แต่​ที่​ข้า​อยากรู้​ก็​คือ​ ฝ่าบาท​คง​ไม่ได้​ใช้เรื่อง​นี้​เป็น​ข้ออ้าง​เพื่อ​รั้ง​ให้​ข้า​อยู่​ที่นี่​กระมัง​ หาก​เป็น​เช่นนั้น​ ฝ่าบาท​ไม่ต้อง​เสียเวลา​อีกแล้ว​”

เซียว​จิ่น​ตื่น​ตะลึง​แล้ว​หัวเราะ​เสียง​ขื่น​ “ชิงเวย​เจ้าว่องไว​ปราดเปรียว​ ไม่ว่า​อะไร​ก็​ปิดบัง​เจ้าไม่ได้​ เจิ้น​เคย​คิด​เช่นนี้​จริงๆ​ หาก​รั้ง​เจ้าให้​อยู่​ที่นี่​ได้​ เจิ้น​ย่อม​ยินดี​ แต่​เมื่อ​คิด​ว่า​หาก​ทำ​เช่นนี้​ เจ้าคง​ไม่มีความสุข​ เช่นนั้น​แล้ว​ต่อให้​เจิ้น​ยินดี​เพียงใด​แล้ว​จะมีประโยชน์​อัน​ใด​เล่า​”

หลิน​ชิงเวย​พูด​อย่าง​ไม่สบายใจ​ “ใต้​หล้า​นี้​ไม่มีงานเลี้ยง​ที่​ไม่เลิกรา​ ฝ่าบาท​ไฉน​ยัง​ทำ​เช่นนี้​”

เซียว​จิ่น​วาง​ตะเกียบ​ลง​ “ดังนั้น​เมื่อ​เจิ้น​ตัดสินใจ​เช่นนี้​ย่อม​ไตร่ตรอง​อย่าง​กระจ่างแจ้ง​แล้ว​ คำสัญญา​ที่​เจิ้น​ให้​กับ​เจ้าไม่มีทาง​กลับคำ​ เพียงแต่​สถานการณ์​ในเวลานี้​นอกจาก​เจ้าแล้ว​เจิ้น​ไม่มีใคร​ที่จะ​ไว้ใจได้​ เจิ้น​เชื่อใจ​เพียง​เจ้า เจิ้น​รู้​เช่นกัน​ว่า​เจ้าไม่มีทาง​รับปาก​อย่าง​ยินดี​ ไม่สู้ให้​คิด​เสีย​ว่า​นี่​เป็นการ​ทำการค้า​ระหว่าง​เจิ้น​กับ​เจ้าก็แล้วกัน​”

หลิน​ชิงเวย​หันไป​มอง​เขา​

เขา​ยิ้ม​อ่อนโยน​แล้ว​พูด​อี​กว่า​ “เจิ้น​ให้​เจ้ารั้ง​อยู่​เพื่อ​สะสางเรื่องราว​ภายใน​ตำหนัก​ใน​ ย่อม​ต้อง​แสดงน้ำใจ​บ้าง​มิใช่หรือ​?” พูด​แล้ว​เขา​ก็​หยิบ​ของ​สิ่งหนึ่ง​วาง​ลง​เบื้องหน้า​หลิน​ชิงเวย​ “ชิงเวย​ เจ้าเปิด​ดู​สิ”

หลิน​ชิงเวย​เปิด​ออก​ดู​ เห็น​เพียง​โฉนดที่ดิน​สอง​แผ่น​ “คฤหาสน์​หลัง​หนึ่ง​ใน​ตง​เฉิง ยังมี​ร้าน​สมุนไพร​ติด​ถนน​ใน​ทำเลทอง​อีก​แห่ง​หนึ่ง​?”

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท