ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 230 เจ้าอาศัยที่ข้าชมชอบเจ้า

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

หลิน​ชิงเวย​เลิกคิ้ว​ไม่พูด​อัน​ใด​อีก​ ประการ​แรก​นาง​มิใช่มารดา​ของ​เซียว​จิ่น​ ประการ​ที่สอง​นาง​มิใช่ภรรยา​ของ​เซียว​จิ่น​ เรื่อง​เช่นนี้​ตัว​เซียว​จิ่น​เอง​ไม่รีบร้อน​ นาง​จะร้อนใจ​ไป​เพื่อ​อัน​ใด​กัน​ ประจวบ​เหมาะกับ​วันนี้​หลิน​ชิงเวย​ได้​นำ​หนังสือ​ที่​ยืม​ไป​จาก​ห้องสมุด​เพื่อให้​ซิน​หรู​ได้​อ่าน​กลับมา​คืน​แล้ว​ ในที่สุด​ซิน​หรู​ก็​ทยอย​อ่านหนังสือ​เหล่านี้​หมด​เสียที​ ซิน​หรู​ความจำ​ไม่ใคร่​ดี​นัก​ หลิน​ชิงเวย​ทดสอบ​ซิน​หรู​จน​คร้าน​จะทดสอบ​แล้วจึง​ตัดสินใจ​ที่จะ​นำ​หนังสือ​มาคืน​ห้องสมุด​แล้ว​ค่อย​หา​หนังสือ​อื่น​มาให้​ซิน​หรู​อ่าน​

เมื่อ​หลิน​ชิงเวย​เดินไปเดินมา​ เซียว​จิ่น​มอง​นาง​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “ชิงเวย​ เจ้าผอม​แล้ว​”

หลิน​ชิงเว​ยอด​ที่จะ​กลอก​ตาขาว​ไม่ได้​ “ฝ่าบาท​ลอง​ตื่น​เช้ากว่า​ไก่​แล้ว​เข้านอน​ดึก​กว่า​สุนัข​สิเพคะ​ ไม่ผอม​จึงจะเป็นเรื่อง​แปลก​เพคะ​”

เซียว​จิ่น​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​เต็ม​หน้า​ทั้ง​ยัง​ปวดใจ​เล็กน้อย​ “เจิ้น​ก็​ตื่น​เช่นนี้​ทุกวัน​”

หลิน​ชิงเวย​ยักไหล่​ เซียว​จิ่น​พูด​อีก​ “ดูเหมือน​เจิ้น​ให้​เจ้าทำงาน​มากมาย​เช่นนี้​ เป็นการ​สร้าง​ความลำบาก​ให้​เจ้าไม่น้อย​”

หลิน​ชิงเวย​เลิกคิ้ว​ พูด​คล้าย​ยิ้ม​คล้าย​ไม่ยิ้ม​ “ใคร​ใช้หม่อมฉัน​รับ​เรื่อง​ไหว้วาน​จาก​ผู้อื่น​เล่า​เพคะ​”

“อีก​ประเดี๋ยว​เจ้าไป​ห้องสมุด​แล้ว​กลับมา​กิน​อาหาร​เป็นเพื่อน​เจิ้น​เถอะ​”

หลิน​ชิงเวย​ “ไม่แล้ว​เพคะ​ หม่อมฉัน​ยัง​ต้อง​กลับ​ไป​สะสางงาน​มากมาย​ใน​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​อีก​ วันนี้​มีสนม​สอง​คน​ทะเลาะ​กัน​ถึงตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​ คน​หนึ่ง​บอ​กว่า​อีก​คน​หนึ่ง​ขโมย​เครื่องประดับ​ของ​นาง​ ต้องการ​ให้​หม่อมฉัน​คืน​ความเป็นธรรม​ให้​แก่​พวก​นาง​เพคะ​”

“อ้อ​? เรื่อง​เช่นนี้​ก็​ต้อง​ให้​เจ้าจัดการ​ด้วย​?”

“มีเรื่องราว​เช่นนี้​เกิดขึ้น​ทุกเมื่อเชื่อวัน​เพคะ​” หลิน​ชิงเวย​ตอบ​หน้าตาย​ว่า​ “ไป​หยิบ​หนังสือ​ที่​ห้องสมุด​ กลับ​ไป​ยัง​ต้อง​จับ​ขโมย​ที่​ขโมย​เครื่องประดับ​ ดังนั้น​จึงไม่อาจ​อยู่​ทานอาหาร​เป็นเพื่อน​ฝ่าบาท​ได้​แล้ว​เพคะ​”

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​เซียว​จิ่น​เลือนหาย​ไป​ เขา​พยักหน้า​แล้ว​กล่าวว่า​ “เช่นนั้น​เจ้าไป​ทำงาน​ของ​เจ้าเถิด​”

หลิน​ชิงเวย​เดินไปเดินมา​ใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ ทางเดิน​ระเบียง​ไป​ยัง​ภูเขา​จำลอง​ หอคอย​สวน​ไผ่​ ล้วน​มีนางกำนัล​และ​ขันที​กำลัง​ทำความสะอาด​อย่าง​ขะมักเขม้น​ พวกเขา​เห็น​หลิน​ชิงเวย​แล้ว​ล้วน​รีบ​หยุดงาน​ใน​มือ​เพื่อ​มาถวาย​คำนับ​ รอ​หลิน​ชิงเวย​เดินผ่าน​ไป​แล้ว​ค่อย​ทำงาน​ใน​มือ​ต่อไป​

เมื่อ​ไป​ถึงห้องสมุด​ หลิน​ชิงเวย​หอบ​หนังสือ​หลาย​เล่ม​ไว้​ใน​มือ​ นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ป้าย​ห้องสมุด​ เห็น​ด้านบน​ป้าย​ห้องสมุด​ถูก​ขัด​จน​แวววับ​จับตา​ ด้าน​ข้าง​มีเหล่า​นางกำนัล​เดินผ่าน​เป็นพักๆ​ ชัดเจน​ยิ่งนัก​ว่า​ห้องสมุด​แห่ง​นี้​ถูก​ทำความสะอาด​เรียบร้อย​แล้ว​ ยาม​นี้​เมื่อ​หลิน​ชิงเวย​เข้าไป​ใน​ห้องสมุด​ย่อม​ไม่มีใคร​รบกวน​

นาง​ผลัก​ประตู​เบา​ๆ แล้ว​เดิน​เข้าไป​

เห็น​เพียง​ภายใน​ห้องสมุด​สะอาด​เอี่ยมอ่อง​ กลิ่นหอม​จาก​ตำรา​โชย​เข้า​จมูก​ ทว่า​กลับ​ไม่มีฝุ่นละออง​ปนเป​มาแม้แต่น้อย​ ตำรา​ถูก​จัดเรียง​เป็นแถว​อยู่​บน​ชั้น​ หนังสือ​ทุก​เล่ม​ถูก​เช็ด​จน​สะอาดสะอ้าน​ปราศจาก​ฝุ่นธุลี​ เปรียบเทียบ​กับ​ครั้ง​ก่อนที่​นาง​เข้ามา​ที่นี่​ช่างแตก​ต่างกัน​ยิ่งนัก​

สถานที่​เช่น​ห้องสมุด​ไม่สะดวก​ที่จะ​ทำความสะอาด​บ่อย​นัก​ หาไม่​แล้ว​ตำรา​โบราณ​ที่​รักษา​เอาไว้​ย่อม​ไม่อาจ​มีสภาพ​สมบูรณ์​เช่นนี้​ได้​ คาด​ว่า​คงจะ​ทำความสะอาด​ปี​ละ​ครั้ง​กระมัง​

หลิน​ชิงเวย​มองดู​ด้วย​สายตา​ชื่นชม​ ระหว่าง​ที่​นาง​ช้อนตา​ขึ้น​มอง​หนังสือ​ทั้งหมด​บน​ชั้น​

นาง​วาง​หนังสือ​กลับคืน​เข้าที่​เดิม​ของ​มัน​ตามที่​นาง​จด​จำไว้​ แล้ว​เดิน​ไป​รอบ​ๆ ห้องสมุด​รอบ​หนึ่ง​ เลือก​หนังสือ​ที่​ตน​สนใจ​กลับ​ไป​อ่าน​

นาง​ชมชอบ​ตำรา​โบราณ​ ใน​ส่วน​ของ​ตำรา​ที่​เก่าแก่​ที่สุด​ของ​ที่นี่​ ย่อม​ต้อง​วาง​ไว้​ส่วน​ที่​ลึก​ที่สุด​ของ​ห้องสมุด​แห่ง​นี้​

ห้องสมุด​แห่ง​นี้​มิได้​จุด​โคมไฟ​เอาไว้​ มีเพียง​หน้าต่าง​กระเบื้อง​หลาก​สีด้านล่าง​ แสงที่​ส่อง​ผ่าน​เข้ามา​จึงมลังเมลือง​อยู่​บ้าง​ มัน​สาดส่อง​ให้​เงาร่าง​ของ​หลิน​ชิงเวย​ทอด​ยาว​ไป​กับ​พื้น​

ชั้นวางหนังสือ​ตัว​ถัดไป​มีสิ่งของ​บดบัง​แสงสว่าง​จาก​ฝั่งตรงข้าม​ ทำให้​คลอง​จักษุ​ของ​หลิน​ชิงเวย​กลาย​เป็นความ​มืดสนิท​ นาง​ตื่น​ตะลึง​ ดูเหมือน​เห็น​ชาย​อาภรณ์​สีม่วง​เข้ม​ผ่าน​ตา​จึงอด​ไม่ได้​ที่จะ​เดิน​ข้าม​ชั้นวางหนังสือ​ตัว​นี้​ เมื่อ​ยืน​นิ่ง​จับจ้อง​สายตา​มอง​ไป​โดย​ไม่ขยับ​

บุรุษ​ที่​ยืน​อยู่​พิง​ชั้นวางหนังสือ​มิใช่เซียว​เยี่ยน​หรือ​ไร​

คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​มาห้องสมุด​ด้วย​เหมือนกัน​ ยาม​นี้​เขา​ถือ​ตำรา​ไว้​ใน​มือ​เล่ม​หนึ่ง​ดูเหมือน​กำลัง​จดจ่อ​สมาธิอ่าน​ตำรา​เล่ม​นั้น​ แต่​หลิน​ชิงเวย​ไม่เชื่อ​หรอ​กว่า​ผู้​ที่​มีสัญชาตญาณ​ป้องกันตัว​ว่องไว​เช่น​เขา​จะไม่รับรู้​ถึงการ​มาของ​ตน​ ยิ่ง​ไม่มีทาง​เชื่อ​ว่า​เขา​จะมัวแต่​อ่านหนังสือ​จน​ไม่รู้สึก​ว่า​ด้าน​ข้าง​มีคน​เป็น​ๆ ยืน​อยู่​คน​หนึ่ง​

เพียงแต่​ดูเหมือน​ทั้งสอง​คน​ล้วน​ไม่มีอะไร​จะพูด​ต่อกัน​ หรือ​หลิน​ชิงเวย​ใน​ยาม​นี้​พบ​ว่า​ตนเอง​มีคำพูด​มากมาย​ทว่า​ยาก​ที่จะ​เอ่ยปาก​ได้​

เซียว​เยี่ยน​ยืน​อยู่​ที่นั่น​เหมือน​คนแปลกหน้า​คน​หนึ่ง​

ทั้งๆ ที่​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​คน​ทั้งสอง​สนิท​ชิด​เชื้อ​ยิ่งขึ้น​ แต่กลับ​ดูเหมือน​ยิ่ง​ห่างไกล​ออก​ไป​

ดูเหมือน​เรื่อง​ที่​เซียว​จิ่น​ต้องการ​ให้​นาง​ควบคุม​ดูแล​ตำหนัก​ใน​ เขา​ไม่พูดจา​แทน​หลิน​ชิงเวย​แม้สัก​ประโยค​ ไม่รู้​ว่า​จน​ด้วย​เหตุผล​หรือไม่​ใส่ใจจริงๆ​

ทั้งสอง​ยืน​อยู่​เงียบๆ​ เนิ่นนาน​ กระทั่ง​บรรยากาศ​ภายใน​ห้องสมุด​ก็​ดู​อึดอัด​ หลิน​ชิงเวย​หาย​ใจเร็ว​ขึ้น​ ราวกับ​มีมือ​ข้าง​หนึ่ง​กำลัง​บีบรัด​หัวใจ​ของ​นาง​ เพียงแค่​ไม่ระวังตัว​ก็​ทำให้​นาง​รู้สึก​เจ็บปวด​เป็น​ระลอก​

ราวกับ​เซียว​เยี่ยน​ไม่อาจ​ทำ​เหมือน​มองไม่เห็น​ว่า​มีคน​ผู้​หนึ่ง​ยืน​มอง​เขา​อยู่​ด้าน​ข้าง​ คน​ทั้งสอง​อยู่​ร่วมกัน​ใน​ห้องหับ​เช่นนี้​ดูเหมือน​ไม่เหมาะสม​อยู่​บ้าง​ เขา​ปิด​ตำรา​ใน​มือ​ในที่สุด​แล้ว​วาง​หนังสือ​กลับ​ไป​บน​ชั้นวางหนังสือ​แล้ว​พูด​เรียบๆ​ ว่า​ “ที่นี่​มีตำรา​ดี​ๆ ไม่น้อย​ เจ้าเลือก​ที่จะ​อ่าน​ไป​เถิด​” พูด​แล้วก็​หัน​กาย​ไป​อีก​ด้าน​หนึ่ง​เตรียม​จะจากไป​

หลิน​ชิงเวย​ยก​มือขึ้น​ลูบ​ไป​บน​หนังสือ​ที่อยู่​บน​ชั้นวางหนังสือ​ ขณะที่​เซียว​เยี่ยน​กำลัง​ยก​เท้า​ขึ้น​เสียงหัวเราะ​เบา​ๆ ก็​ดัง​ขึ้น​ “คิดไม่ถึง​ว่า​เป็น​ถึงเซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ของ​ราชวงศ์​ กลับ​มีพฤติกรรม​เหมือน​เต่า​หดหัว​อยู่​ใน​กระดอง​ ครั้ง​ที่หนึ่ง​เป็น​เช่นนี้​ ครั้ง​ที่สอง​ยังคง​เป็น​เช่นนี้​ กล้า​ทำ​ไม่กล้า​รับ​”

ฝีเท้า​ของ​เซียว​เยี่ยน​หยุดกึก​แล้ว​ยก​เท้า​ขึ้น​จะเดิน​ต่อไป​ หลิน​ชิงเวย​ถามขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ “เซียว​เยี่ยน​ ข้า​ทำผิด​อัน​ใด​หรือ​? ครั้งแรก​นั้น​ข้า​ไม่รู้​ว่า​เป็น​ท่าน​ แต่​ท่าน​กลับ​รู้​ว่า​เป็น​ข้า​ ครั้ง​ที่สอง​ท่าน​ยังคง​รู้​ว่า​เป็น​ข้า​ แต่​ท่าน​ยังคง​กระทำ​แบบ​เดียวกัน​ เป็น​เพราะ​ท่าน​อาศัยว่า​ข้า​ชมชอบ​ท่าน​ใช่หรือไม่​ ดังนั้น​ท่าน​จึงคิด​ว่าการ​ทำตัว​ห่างเหิน​ก็​ไม่เป็นไร​? แต่​หัวใจ​ของ​คน​ทำ​ด้วย​ก้อน​เนื้อ​ไม่ใช่หรือ​”

เซียว​เยี่ยน​ยืน​หันหลัง​ให้​หลิน​ชิงเวย​เนิ่นนาน​ เขา​พูดเสียงต่ำ​ “หลิน​ชิงเวย​ เปิ่น​หวา​งและ​เจ้า…เป็นไปไม่ได้​”

หัวใจ​ของ​หลิน​ชิงเวย​เจ็บปวดรวดร้าว​ราวกับ​ถูก​เข็ม​ทิ่ม​ นาง​เลิกคิ้ว​แล้ว​หัวเราะ​ออกมา​ “ไม่มีทาง​เป็นไปได้​? เมื่อ​ข้า​ได้รับ​อิสระ​ออกจาก​วังหลวง​ บุรุษ​ยัง​ไม่แต่งงาน​ สตรี​ยัง​ไม่ออกเรือน​ เหตุใด​จึงเป็นไปไม่ได้​?” หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​นาง​ถามขึ้น​ทั้ง​หัวเราะ​ “หรือ​เป็น​เพราะ​เวลานี้​ข้า​เป็น​สตรี​ของ​ฝ่าบาท​ และ​ข้า​ควรจะ​เรียก​ท่าน​ว่า​ ‘เสด็จ​อา​’ คำ​หนึ่ง​?”

“ใน​เมื่อ​เจ้ารู้​อยู่แล้ว​ ไย​ต้อง​ถามเปิ่น​หวา​ง” เซียว​เยี่ยน​กล่าว​อย่าง​ทอดถอนใจ​ “เจ้ารู้​หรือไม่​ เหตุใด​ฝ่าบาท​จึงรั้ง​ให้​เจ้าอยู่​ใน​วังหลวง​?”

หลิน​ชิงเวย​พูด​อย่าง​ไม่ยี่หระ​ “ข้า​รู้​ นั่น​เป็น​เพราะ​เขา​มีใจต่อ​ข้า​ ดังนั้น​เสด็จ​อา​จึงคิด​จะเป็น​แม่สื่อ​ส่งเสริม​ข้า​และ​ฝ่าบาท​ ใช่หรือไม่​?”

เซียว​เยี่ยน​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​

หลิน​ชิงเวย​หัวเราะ​ออกมา​อีก​พรืด​หนึ่ง​ “ข้า​ยัง​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ ฝ่าบาท​ชมชอบ​ข้า​ ข้า​ก็​จะต้อง​ชมชอบ​ฝ่าบาท​ อีก​ทั้ง​ข้า​มิใช่คืนดี​กับ​เสด็จ​อา​ตั้งแต่แรก​แล้ว​หรือ​ ยาม​นี้​ท่าน​กลับ​ผลัก​ข้า​ไป​ให้​ฝ่าบาท​ เป็นเรื่อง​สาย​เกินไป​หน่อย​หรือไม่​”

เมื่อ​คำพูด​นั้น​เอ่ย​ออก​มาจาก​ปาก​ของ​หลิน​ชิงเวย​ เหตุใด​เซียว​เยี่ยน​จึงรู้สึก​บาดหู​ยิ่งนัก​

“ช่างเถิด​ ก่อนหน้านี้​ข้า​ยัง​ไม่ได้​ตรอง​ให้​ดี​ว่า​จะพูดคุย​กับ​ท่าน​อย่างไร​ ยาม​นี้​ท่าน​กลับ​พูด​กับ​ข้า​อย่าง​กระจ่างแจ้ง​ ไม่ต้อง​ละเมอ​เพ้อ​พก​อีกต่อไป​ใช่หรือไม่​ นี่​ก็​คือ​คำตอบ​ของ​ท่าน​” ร่าง​ของ​หลิน​ชิงเวย​ยังคง​พิง​ไป​กับ​ชั้นวางหนังสือ​ นาง​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​เบา​ๆ ครั้งหนึ่ง​แล้ว​ก้มหน้าก้มตา​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​ “ที่จริง​คิด​ว่า​อย่าง​น้อย​ท่าน​ต้อง​ชมชอบ​ข้า​บ้าง​ไม่มาก​ก็​น้อย​ ดู​แล้ว​เป็น​ข้า​เอง​ที่​คิด​เข้าข้าง​ตัวเอง​” นาง​พูด​แล้วก็​สะบัด​แขน​เสื้อ​หัน​กาย​จากไป​พร้อมกับ​พูดว่า​ “ต่อให้​พวกเรา​ไม่มีทาง​เป็นไปได้​ ข้า​และ​เซียว​จิ่น​ก็​ไม่มีผลลัพธ์​อัน​ใด​เช่นกัน​ หาก​ข้า​ต้องการ​ออกจาก​วัง​จะมีใคร​ขวาง​ข้า​ได้​ ครั้งแรก​ข้า​ถูก​วางยา​ปลุก​กำหนัด​ ท่าน​มาช่วย​ข้า​ถอนพิษ​ทันท่วงที​ ครั้งนี้​ท่าน​ถูก​วางยา​และ​ข้า​ช่วย​ท่าน​ถอนพิษ​ ที่จริง​ข้า​ไม่ได้​เสียเปรียบ​อัน​ใด​นัก​ ก็​แค่​ร่วม​หลับนอน​กับ​บุรุษ​รูปร่าง​เยี่ยมยอด​ที่​มีรูปโฉม​เหมือนกัน​ นับ​จาก​วันนี้​ไป​ท่าน​ข้า​ไม่เกี่ยวข้อง​กัน​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ไม่ติดค้าง​ใคร​ บุรุษ​รูปร่าง​เยี่ยมยอด​รูปงาม​ในวันหน้า​มีมากมายก่ายกอง​ แค่​การเสาะหา​การปลอม​ประโลม​ทาง​ร่างกาย​ มิใช่ว่า​จะต้อง​เป็น​ท่าน​เท่านั้น​”

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท