ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 233 สมองชักกระตุกต้องออกจากวัง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ซิน​หรู​พยักหน้า​แล้ว​วิ่ง​ออก​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ เพียง​ครู่เดียว​ก็​ให้​นางกำนัล​ส่งน้ำร้อน​สำหรับ​อาบ​เข้ามา​ หลังจาก​นางกำนัล​ออก​ไป​แล้ว​ หลิน​ชิงเวย​แช่กาย​อยู่​ใน​น้ำร้อน​ถามซิน​หรู​ว่า​ “วันนี้​ หลิ่ว​ผิน​และ​ซูผิน​ที่มา​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​กลับ​ไป​แล้ว​หรือ​?”

ซิน​หรู​พยักหน้า​อีกครั้ง​ “พวก​นาง​เห็น​พี่สาว​ไป​เนิ่นนาน​ไม่กลับมา​จึงพา​กัน​กลับ​ไป​เจ้าค่ะ​” เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ซิน​หรู​พูด​อี​กว่า​ “พี่สาว​ ท่าน​กิน​มื้อ​เย็น​แล้ว​หรือไม่​เจ้าคะ​?”

“ยัง​ไม่กิน​”

“เช่นนั้น​ข้า​ไป​เตรียม​มื้อ​เย็น​ให้​พี่สาว​เจ้าค่ะ​”

หลิน​ชิงเวย​เรียก​นาง​เอาไว้​ “ไม่รีบ​” นาง​ขัดถู​เนื้อตัว​ไป​ทาง​หนึ่ง​พร้อมกับ​พูด​เบา​ๆ “ซิน​หรู​ ความรัก​ระหว่าง​ชาย​หญิง​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ของ​มนุษย์​ แม้เจ้าจะไม่เข้าใจ​ แต่​พี่สาว​ไม่มีความจำเป็น​ต้อง​ปิดบัง​เจ้า พี่สาว​ชมชอบ​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​”

ซิน​หรู​รู้สึก​มืดแปดด้าน​จริงๆ​ ทว่า​ขณะเดียวกัน​ดูเหมือน​กระจ่างแจ้ง​ถึงบางสิ่งบางอย่าง​ “ซิน​หรู​รู้​เจ้าค่ะ​ พี่สาว​ชมชอบ​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​เป็นอย่างมาก​มาตลอด​ ชมชอบ​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​และ​ชมชอบ​ฝ่าบาท​ด้วย​ แต่​แตก​ต่างกัน​อยู่​บ้าง​ พี่สาว​ชมชอบ​ฝ่าบาท​เหมือน​ชมชอบ​ซิน​หรู​ใช่หรือไม่​เจ้าคะ​?”

หลิน​ชิงเวย​หัวเราะ​เบา​ๆ “ซิน​หรู​เฉลียวฉลาด​จริงๆ​”

“เช่นนั้น​วันหน้า​พี่สาว​จะอยู่​กับ​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​หรือไม่​เจ้าคะ​?”

“รอ​วันหน้า​เมื่อ​พี่สาว​ไม่เป็น​หลิน​เจาอี๋​และ​เขา​ไม่เป็น​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ มีความเป็นไปได้​ว่า​ข้า​จะอยู่​ร่วมกับ​เขา​”

“เช่นนั้น​พี่สาว​จะแต่ง​ให้​เขา​ เป็น​เจ้าสาว​ของ​เขา​หรือไม่​เจ้าคะ​?”

หลิน​ชิงเวย​เลิกคิ้ว​ “ต้อง​ดู​วาสนา​และ​โชคชะตา​”

ไม่รู้​ด้วย​เหตุใด​เมื่อ​แรกเริ่ม​ที่​ซิน​หรู​เห็น​พี่สาว​ใกล้ชิด​กับ​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ นาง​ไม่แจ่มแจ้งอยู่​บ้าง​ และ​ไม่ชอบใจ​ แต่​พี่สาว​ไม่ได้​ปิดบัง​อะไร​ต่อ​นาง​ อีก​ทั้ง​ยัง​พูด​เรื่อง​เหล่านี้​กับ​นาง​ นาง​รู้สึก​ว่า​เมื่อ​ได้​เปิดอก​พูดคุย​กัน​เช่นนี้​แล้ว​ ไม่มีความรู้สึก​ไม่ยินดี​อะไร​หลง​เหลืออยู่​อีก​

พี่สาว​เป็น​คนดี​เหลือเกิน​ หาก​นาง​คิด​ว่า​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​เป็น​คนดี​เช่นกัน​ เช่นนั้น​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ต้อง​เป็น​คน​ดีมาก​แน่นอน​ หัวใจ​ดวง​น้อย​ๆ ของ​ซิน​หรู​ราวกับ​รับรู้​ได้​ว่า​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ผู้​เย็นชา​ใน​ยาม​ปกติ​ดูเหมือน​จะปฏิบัติ​ต่อ​พี่สาว​แตกต่าง​ออก​ไป​

สามารถ​มีใจปฏิพัทธ์​ต่อกัน​ทั้งสองฝ่าย​ย่อม​เป็นเรื่อง​ไม่เลว​

ซิน​หรู​ “ขอบคุณ​พี่สาว​ที่​บอก​เรื่อง​เหล่านี้​กับ​ข้า​ เข้า​อก​เข้าใจ​ใน​ความ​ไม่แจ่มแจ้งของ​ข้า​ เช่นนั้น​ทาง​ฝ่าบาท​จะทำ​อย่างไร​เจ้าคะ​?”

หลิน​ชิงเวย​พูด​อย่าง​สงบ​ “ต่อไป​ฝ่าบาท​จะมีสตรี​มากมาย​นับไม่ถ้วน​ใน​สามพระตำหนัก​หก​หมู่​เรือน​เจ็ด​สิบสอง​นางสนม​ นั่น​ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​ชมชอบ​หรือไม่​ชมชอบแล้ว​”

“อ้อ​” แม้ซิน​หรู​จะลอบ​ทอดถอนใจ​แทน​เซียว​จิ่น​อยู่​บ้าง​ แต่​นาง​สลัด​เรื่อง​นี้​ทิ้ง​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ “เช่นนั้น​พี่สาว​อาบน้ำ​ก่อน​นะ​เจ้าคะ​ ข้า​ไป​เตรียม​กับข้าว​ให้​พี่สาว​”

วันรุ่งขึ้น​หลิน​ชิงเวย​นอนหลับ​ไป​จน​ฟ้าสาง ระหว่าง​นั้น​ไม่มีใคร​มารบกวน​นาง​ให้​ตื่นขึ้น​ สำหรับ​ระยะเวลา​ที่ผ่านมา​นี้​ถือ​เป็นเรื่อง​มหัศจรรย์​อย่างยิ่ง​

เมื่อวาน​เป็น​วัน​ต้อนรับ​เทพเจ้า​ หลังจาก​ทุก​ตำหนัก​ทำความสะอาด​เรียบร้อย​สิ่งที่​ต้อนรับ​การ​มาถึงของ​ฤดูหนาว​ก็​คือ​หิมะ​ตก​ครั้งแรก​ หิมะ​ตก​ไม่หนัก​มาก​นัก​ เกล็ด​หิมะ​ร่วง​ตก​ลงมา​ตาม​สายลม​ ยัง​ไม่ทัน​ได้​ครอบคลุม​ให้​พื้น​กลายเป็น​ชั้น​สีขาว​ก็​หยุด​ตก​เสียแล้ว​

วันนี้​อากาศ​แจ่มใส ในที่สุด​แสงตะวัน​ก็​สามารถ​ส่อง​ผ่าน​ชั้น​ของ​เมฆออกมา​ได้​ แสงสีทอง​เป็น​สาย​ส่อง​ผ่าน​ชั้น​ของ​เมฆลงมา​ ส่งผล​ให้​ความชุ่มชื้น​ที่​เหลือ​จาก​เมื่อวาน​ค่อยๆ​ สลาย​ไป​

ซิน​หรู​ตื่น​แต่เช้า​กำลัง​อ่าน​ตำรา​อยู่​ใน​ลาน​เรือน​ อากาศ​เริ่ม​หนาว​แล้ว​ทำให้​ผู้คน​เบิกบาน​เล็กน้อย​ เมื่อ​เห็น​หลิน​ชิงเวย​เปิด​ประตู​ ซิน​หรู​หันมา​ยิ้ม​ตาหยี​ “พี่สาว​ตื่น​แล้ว​หรือ​เจ้าคะ​”

หลิน​ชิงเวย​รู้สึก​แปลกใจ​ยิ่ง​ นาง​บริหาร​แขนขา​ทั้ง​สี่ นวด​คลึง​คอ​ของ​ตนเอง​ แล้ว​หรี่ตา​มอง​ท้องฟ้า​ภายนอก​ “เช้านี้​เหล่า​นางสนม​ไม่ได้มา​ถวายพระพร​หรือ​?”

ซิน​หรู​พูด​อย่าง​ยินดี​ “ฝ่าบาท​มีพระราชกระแสรับสั่ง​ต่อไป​ให้​งดเว้น​การ​มาถวายพระพร​พี่สาว​เจ้าค่ะ​ นอกจาก​มีเรื่องสำคัญ​เร่งด่วน​ หาไม่​แล้ว​ห้าม​รบกวน​พี่สาว​ หลิ่ว​ผิน​และ​ซูผิน​ที่มา​เมื่อวาน​นี้​ล้วน​หา​ข้อยุติ​ด้วย​ตนเอง​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

หลิน​ชิงเว​ยอด​ที่จะ​ตะลึงงัน​ไม่ได้​ เมื่อวาน​นาง​จำได้​ว่า​บ่น​เรื่อง​นี้​ต่อ​หน้าเซียว​จิ่น​เพียง​ไม่กี่​ประโยค​ คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​จะจด​จำได้​แล้ว​ถึงกับ​งดเว้น​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​อันเป็น​กิจวัตรประจำวัน​โดยส่วนใหญ่​ไป​

ดังนั้น​หลิน​ชิงเวย​จึงทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​และ​เวลา​กับ​เรื่อง​คัดเลือก​นางสนม​ให้​กับ​เซียว​จิ่น​อย่าง​เต็มที่​ นาง​ต้อง​ปฏิบัติตาม​ขั้นตอน​การคัดเลือก​บุตรสาว​จาก​ครอบครัว​ขุนนาง​ใหญ่​ที่​ปฏิบัติตาม​ขนบธรรมเนียม​แต่​โบราณ​มา สุดท้าย​ต้อง​เลือก​สาวงาม​ที่​มีลักษณะ​โดดเด่น​และ​หน่วยก้าน​ดี​ออกมา​สามคน​จาก​สาวงาม​ที่​มีคุณสมบัติ​เพียบพร้อม​ เพื่อ​มอบให้​กับ​เซียว​จิ่น​ ทว่า​เซียว​จิ่น​ดูเหมือน​ไม่มีท่าที​กระตือรือร้น​แต่อย่างใด​ เพียงแต่​แต่งตั้ง​ตำแหน่ง​ตาม​ความเหมาะสม​แล้ว​ส่งตัว​กลับ​ไป​ยัง​ตำหนัก​ของ​ตน​

กระทั่ง​ใกล้​วัน​ปีใหม่​ภายใน​ตำหนัก​ใน​มีคน​ใหม่​เพิ่ม​เข้ามา​อี​กรุ่น​หนึ่ง​ หลิน​ชิงเวย​มักจะ​เห็น​บรรดา​นางสนม​แต่งกาย​ด้วย​อาภรณ์​หลากหลาย​สีสัน​เดิน​ไปมา​ภายใน​ตำหนัก​ใน​ และ​ได้​เพิ่มจำนวน​นางกำนัล​และ​ขันที​อีก​จำนวน​หนึ่ง​ ทำให้​ตำหนัก​ใน​ครึกครื้น​ขึ้น​อีก​สอง​ส่วน​

เซียว​จิ่น​ไม่เคย​เรียกตัว​สนม​มาปรนนิบัติ​ นางสนม​แต่ละ​ตำหนัก​เริ่ม​ต่อสู้​กัน​อย่าง​ลับ​ๆ ถึงขั้น​ที่​หลิน​ชิงเวย​เห็น​สตรี​สวม​อาภรณ์​ผ้า​โปร่ง​เนื้อ​บาง​สำหรับ​ฤดู​ร้อนใน​ฤดูหนาว​เช่นนี้​ ส่งผล​ให้​ฤดูหนาว​อัน​หนาวเหน็บ​ดู​แล้ว​มีสีสัน​เพิ่มขึ้น​มาไม่น้อย​ หลิน​ชิงเวย​เห็น​แล้ว​อดที่จะ​ลูบ​แขน​ของ​ตนเอง​ไม่ได้​ พวก​นาง​ไม่รู้สึก​หนาว​เลย​หรือ​ไร​?

ตำหนัก​ใน​รัช​สมัยนี้​ดู​จาก​ภายนอก​แล้ว​ดูเหมือน​ปรองดอง​และ​สงบสุข​อย่างยิ่ง​ ราวกับ​ทั้ง​นอก​วัง​และ​ใน​วัง​ล้วน​กำลัง​เตรียมงาน​ต้อนรับ​ปีใหม่​ แม้อากาศ​จะหนาวเหน็บ​ทั้งวัน​ ทว่า​ตลาดนัด​ใน​ยาม​กลางวัน​ยังคง​คึกคัก​เป็นปกติ​ ด้วย​ผู้คน​ล้วน​ต้อง​ออกมา​ตลาด​เพื่อ​จับจ่าย​ซื้อ​ของใช้​สำหรับ​เทศกาล​วัน​ปีใหม่​

บางครั้ง​เซียว​จิ่น​เห็น​สิ่งของ​แปลกหูแปลกตา​มาใหม่​ที่​ถูก​ส่งเข้ามา​ใน​วัง​ ทำให้เกิด​ความคิด​บางอย่าง​

วันนี้​เซียว​จิ่น​เรียกตัว​หลิน​ชิงเวย​เข้าเฝ้า​ที่​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​

หลิน​ชิงเวย​มาถึงตำหนัก​ซวี่​หยาง​ เหล่า​นางกำนัล​ผู้​ปรนนิบัติ​อยู่​ใน​ตำหนัก​บรรทม​พา​กัน​ออก​ไป​ด้านนอก​ นาง​เดิน​ขึ้น​บันได​เข้า​ประตู​ไป​ก็​เห็น​เซียว​จิ่น​ยืน​อยู่​ข้าง​หน้าต่าง​ใน​ตำหนัก​บรรทม​ เขา​ยืน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​มองออก​ไปนอก​หน้าต่าง​

เขา​หัน​กลับมา​คลี่​ยิ้ม​บาง​ๆ ให้​กับ​หลิน​ชิงเวย​ด้วย​ใบหน้า​คมสัน​ สง่างามไม่สามัญ

เพียงแต่​วันนี้​เซียว​จิ่น​มิได้​สวม​อาภรณ์​ชุด​คลุม​มังกร​เฉกเช่น​ยาม​ปกติ​ วันนี้​เขา​สวม​อาภรณ์​ชุด​คลุม​สีเงินยวง​ชุด​หนึ่ง​ ตาม​ชาย​แขน​เสื้อ​ปัก​ลวดลาย​วิจิตรบรรจง​ มีหยก​สีเขียว​ชิ้น​หนึ่ง​ประดับ​อยู่​ข้าง​เอว​ เส้น​ผม​ดำขลับ​ถูก​รัด​ตรึง​ไว้​ด้วย​เกี้ยว​หยก​สีขาว​ ดู​แล้ว​เป็น​หนุ่มน้อย​รูปงาม​ดึงดูดสายตา​ยิ่งนัก​

ทว่า​หลิน​ชิงเวย​มักจะ​รู้สึก​เสมอ​ว่า​เรื่อง​นี้​ไม่ง่ายดาย​เช่นนี้​ เกิด​อะไร​ขึ้น​เซียว​จิ่น​จึงแต่งกาย​เช่นนี้​? ใน​วังหลวง​แห่ง​นี้​ยังมี​ผู้ใด​กล้า​เทียบ​รัศมี​กับ​เขา​หรือ​? อากาศ​หนาวเย็น​เช่นนี้​ใน​มือ​เขา​กลับ​ถือ​พัด​เล่ม​หนึ่ง​

เซียว​จิ่น​เอ่ยปาก​ขึ้น​ก่อน​ “ชิงเวย​ เจิ้น​แต่งกาย​เช่นนี้​ พอใช้ได้​หรือไม่​?”

หลิน​ชิงเวย​พยักหน้า​ “ดี​ยิ่ง​เพคะ​ ฝ่าบาท​สวม​ฉลองพระองค์​มังกร​จน​เบื่อ​แล้ว​หรือ​เพคะ​?”

แววตา​ของ​เซียว​จิ่น​เบิกบาน​ปาน​บุปผา​ใน​วสันตฤดู​ “วันนี้​เจิ้น​จะออก​นอก​วัง​ ชิงเวย​ เจ้าไป​เดิน​เป็นเพื่อน​เจิ้น​นอก​วัง​สักหน่อย​เถิด​”

“…อะไร​นะ​?” หลิน​ชิงเวย​คิด​ว่า​นาง​ต้อง​ฟังผิด​แน่ๆ​

เซียว​จิ่น​กล่าว​กลั้ว​หัวเราะ​ “เจิ้น​ได้ยิน​มาว่า​วันนี้​ คณะ​ละคร​เทียน​สุ่ย​หยวน​ลี่​หยวน​จะเปิด​แสดงละคร​เรื่อง​ใหม่​ใน​เมือง​ เป็น​โอกาส​ที่​หา​ได้​ยาก​ยิ่งนัก​ เจิ้น​ดูเหมือน​ยัง​ไม่ได้​ออก​ไป​เดิน​ๆ นอก​วัง​ อย่างไร​วันนี้​เจิ้น​มีเวลาว่าง​จึงอยาก​ให้​เจ้าไป​เดิน​เป็นเพื่อน​เจิ้น”​

ดู​แล้ว​นาง​ไม่ได้​ฟังผิด​ แต่​เป็น​เพราะ​สมอง​ของ​เซียว​จิ่น​ชักกระตุก​มากกว่า​

หลิน​ชิงเวย​ “วันนี้​เสด็จ​อา​ไม่อยู่​เป็นแน่​เพคะ​”

เซียว​จิ่น​ไม่ประหลาดใจ​แม้แต่น้อย​ “เจ้ารู้​ได้​อย่างไร​?”

หลิน​ชิงเวย​ใช้หาง​ตา​มอง​เขา​ “หาก​เสด็จ​อา​อยู่​จะยอมให้​ฝ่าบาท​ทำตัว​เหลวไหล​ได้​อย่างไร​เพคะ​?” ไม่ใช่นาง​ขี้ขลาด​ตาขาว​ ต่อให้​นาง​กล้าหาญ​กว่า​นี้​ก็​ไม่อาจ​พา​เซียว​จิ่น​ออกจาก​วังหลวง​ได้​ ไม่ต้อง​พูด​ถึงว่า​ตนเอง​ไม่คุ้นเคย​กับ​สิ่งแวดล้อม​นอก​วังหลวง​ ครั้งก่อน​เดินเที่ยว​ตลาด​กับ​เซียว​เยี่ยน​จึงถูก​ลอบสังหาร​ ครั้งนี้​หาก​พบ​กับ​มือสังหาร​อีก​นาง​และ​เซียว​จิ่น​ล้วน​ไม่มีวรยุทธ์​ ถึงเวลา​นั้น​คง​ได้​แต่​ขึ้น​สวรรค์​ไป​สวดมนต์​ภาวนา​ให้​กับ​พระ​ยูไล​แล้ว​!

นาง​ไม่ทำ​หรอก​!

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท