ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 241 ในใจคิดถึงแต่เจ้า

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

นางกำนัล​และ​ขันที​ที่​รอ​อยู่​ใน​โถงหน้า​ของ​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ต่าง​เดินไปเดินมา​อย่าง​ร้อนรน​ราวกับ​มด​ที่​เหยียบ​บน​ฝาหม้อ​ร้อน​ๆ เมื่อ​เห็น​หลิน​ชิงเวย​ปรากฏตัว​ขึ้น​ จึงมีท่าที​ราวกับ​เห็น​พระ​มาโปรด​มาก็​ไม่ปาน​ รีบ​ก้าว​เข้ามา​รายงาน​เสียง​เบา​ “เจาอี๋​เหนียง​เหนียง​ในที่สุด​ท่าน​ก็​มาแล้ว​ ท่าน​รีบ​เข้าไป​กับ​บ่าว​เถิด​ ฝ่าบาท​ ฝ่าบาท​พระองค์​…”

หลิน​ชิงเวย​ถาม “ฝ่าบาท​เป็น​อย่างไร​?”

ขันที​ผู้​นั้น​ถอนหายใจ​ “บ่าว​ก็​ไม่รู้​ว่า​เป็น​อย่างไร​พ่ะย่ะค่ะ​ ทั้งๆ ที่​ทุกอย่าง​ล้วน​ดำเนิน​ไป​ด้วยดี​พระองค์​กลับ​ทรง​พิโรธ​ขึ้น​มา ไม่ว่า​ผู้ใด​ล้วน​เกลี้ยกล่อม​ไม่ได้​ บ่าว​รับใช้​อยู่​ใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​มาเนิ่นนาน​เช่นนี้​ยัง​ไม่เคย​เห็น​ฝ่าบาท​ทรง​กริ้ว​ถึงเพียงนี้​มาก่อน​!”

หลิน​ชิงเวย​นวด​คลึง​หว่าง​คิ้ว​ของ​ตนเอง​ “ไป​เถิด​ ไปดู​สักหน่อย​” นาง​เดิน​อยู่​ข้างหน้า​ ซิน​หรู​ติด​ตามมา​ข้างหลัง​อย่าง​ระมัดระวัง​ หลิน​ชิงเวย​หันไป​มอง​นาง​แล้ว​เลิกคิ้ว​ไม่ตอบรับ​หรือ​ปฏิเสธ​

ซิน​หรู​เอ่ย​ขึ้น​ “ข้า​ไป​พร้อมกับ​พี่​สาวนะ​เจ้าคะ​”

หลิน​ชิงเวย​ “ข้างนอก​อากาศ​หนาวเย็น​เช่นนี้​ เจ้าจะไป​ทำ​อัน​ใด​กัน​? ไป​เดินเล่น​หรือ​ กลับ​ไป​นอน​ที่​ห้อง​”

ซิน​หรู​ “…เช่นนั้น​ข้า​จะทิ้ง​โคมไฟ​ไว้​ พี่สาว​รีบ​กลับ​มานะ​เจ้าคะ​”

“รู้​แล้ว​” หลิน​ชิงเวย​รับคำ​โดย​ไม่หัน​กลับมา​และ​เดิน​ไป​ข้างหน้า​พร้อม​กระชับ​เสื้อคลุม​กัน​ลม​ใน​มือ​

คน​ของ​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ได้​เตรียม​เสลี่ยง​มาด้วย​ ดังนั้น​หลิน​ชิงเวย​จึงก้าว​ขึ้นไป​นั่ง​บน​เสลี่ยง​ ผู้​ทำหน้าที่​แบก​เสลี่ยง​นั้น​เป็น​คน​ร่างกาย​กำยำ​แข็งแรง​ เมื่อ​ออก​เดิน​ด้วย​ความ​รวดเร็ว​ เพียง​ไม่นาน​ก็​มาถึง

บรรยากาศ​ภายใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​แตกต่าง​จาก​ที่ผ่านมา​ แม้โคมไฟ​ภายใน​ตำหนัก​จะสว่างไสว​ แต่​ปราศจาก​กลิ่นอาย​มงคล​ก่อนหน้านี้​ กลับ​ดู​แล้ว​ให้​ความรู้สึก​อ้างว้าง​เย็นเยียบ​

หลิน​ชิงเวย​เดิน​ไป​ถึงหน้า​ประตู​ตำหนัก​บรรทม​พลัน​มีเสียงคำราม​ของ​เซียว​จิ่น​ดัง​ออก​มาจาก​ข้างใน​ว่า​ “ไสหัวไป​–”

ต่อมา​เป็น​เสียง​ร่ำไห้​ที่​เต็มไปด้วย​ความทุกข์​ตรม​ของ​สตรี​ ขันที​ใน​ตำหนัก​ต่าง​พา​กัน​หดหัว​ ไม่ว่า​ผู้ใด​ล้วน​ไม่กล้า​ก้าว​เข้าไป​ไต่ถาม​

หาก​เข้าไป​แล้ว​เห็น​สิ่งที่​ไม่ควร​เห็น​เข้า​ ฝ่าบาท​ทรง​พิโรธ​ขึ้น​มา พวกเขา​อาจจะ​รักษา​ศีรษะ​เอาไว้​ไม่ได้​

หลิน​ชิงเวย​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​ นาง​เอ่ยปาก​พูดจา​ก่อนที่จะ​ก้าว​เข้าไป​ “หลิน​ชิงเวย​ถวายพระพร​ฝ่าบาท​เพคะ​”

“ชิงเวย…​ชิงเวย!”​ ข้างใน​เกิด​เสียง​โกลาหล​ขึ้น​อีกครั้ง​ เพียง​อึด​ใจเดียว​เซียว​จิ่น​ละทิ้ง​ความ​ว้าวุ่น​ใจ วิ่ง​มาถึงหน้า​ประตู​แล้ว​เปิด​ประตูออก​

หลิน​ชิงเวย​สวม​เสื้อคลุม​กัน​ลม​ยืน​สงบนิ่ง​อยู่​หน้า​ประตู​ ลมหนาว​และ​หิมะ​พัด​หวีดหวิว​อยู่​เบื้องหลัง​นาง​ ราวกับ​ความ​เหน็บ​หนาว​เบื้อง​นอก​ขับ​ให้​สตรี​เบื้องหน้า​งดงาม​ราวกับ​หยก​สลัก​จาก​น้ำแข็ง​ก็​ไม่ปาน​ ส่งผล​ให้​เซียว​จิ่น​ไม่อาจ​ละสายตา​ไป​จาก​นาง​ได้​

แก้ม​ของ​เขา​แดง​เรื่อ​ ใน​แววตา​นั้น​เต็มไปด้วย​ความขุ่นเคือง​ที่​ถูก​ทำให้​มอด​ดับ​ไป​อย่างนั้น​เอง​

หลิน​ชิงเวย​ก้าว​ข้าม​ธรณีประตู​จึงเห็น​สตรี​ที่อยู่​ใน​ตำหนัก​บรรทม​ เป็น​จางซีอัน​ นาง​กำลัง​ขด​กาย​อยู่​บน​พื้น​ร่ำไห้​กระซิก​เสียง​เบา​ เรือน​กาย​ขาว​ประดุจ​หิมะ​ของ​นาง​เปลือยเปล่า​อยู่​ที่นั่น​ จับตา​จับใจ​ผู้คน​ยิ่งนัก​

ราวกับ​รับรู้​ได้​ถึงสายตา​จับจ้อง​จาก​ด้านนอก​ประตู​ ทำให้​จางซีอัน​รู้สึก​อับอาย​อย่าง​ที่สุด​ ร่าง​ของ​นาง​จึงสั่นสะท้าน​ขึ้น​อีก​สอง​ส่วน​

หลิน​ชิงเวย​ลอบ​ขมวดคิ้ว​ถามว่า​ “เกิด​อะไร​ขึ้น​เพคะ​?”

เซียว​จิ่น​ตวัดสายตา​หันไป​มอง​จางซีอัน​ด้วย​แววตา​รังเกียจ​แวบ​หนึ่ง​แล้ว​พูด​เสียง​เย็น​ “คืนนี้​เจิ้น​ไม่ต้องการ​ให้​ผู้ใด​มาปรนนิบัติ​ เจ้ากลับ​ไป​เถิด​”

ทว่า​จางซีอัน​ถูก​ห่อตัว​ด้วย​ผ้าห่ม​แล้ว​แบก​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ นาง​ที่อยู่​ใน​ผ้าห่ม​ผืน​นั้น​ไม่ได้​สวม​อาภรณ์​สัก​ชิ้น​ ยาม​นี้​ต่อให้​นาง​ต้องการ​จะออก​ไป​จาก​ที่นี่​แล้ว​นาง​จะไป​ที่ใด​ได้​?

หลิน​ชิงเวย​หันไป​สั่งนางกำนัล​ “ยัง​ไม่รีบ​ไป​หยิบ​อาภรณ์​มาชุด​หนึ่ง​อีก​”

นางกำนัล​ได้ยิน​เช่นนั้น​จึงกระวีกระวาด​ไป​หยิบ​อาภรณ์​มาชุด​หนึ่ง​ หลิน​ชิงเวย​เข้าไป​ด้วย​ตนเอง​และ​ประคอง​จางซีอัน​ขึ้น​มา พา​นาง​ไป​แต่งตัว​ให้​เรียบร้อย​ข้าง​หลังฉาก​กัน​ลม​ เห็น​นาง​ร่ำไห้​อย่าง​น่าเวทนา​ หลิน​ชิงเวย​ปลด​เสื้อคลุม​กัน​ลมบน​ร่าง​ของ​ตน​ที่​มีไออุ่น​ของ​ตน​อยู่​คลุม​ลง​บน​ร่าง​ของ​จางซีอัน​

ร่าง​ของ​จางซีอัน​สั่นสะท้าน​ นาง​ยอบ​กาย​พูด​กับ​หลิน​ชิงเวย​ “ซีอัน​ขอบ​พระทัย​หลิน​เจาอี๋​ที่​เมตตา​เสื้อคลุม​เพคะ​” ก่อน​หน้าที่​จางซีอัน​จะเข้ามา​ถวายตัว​ปรนนิบัติ​ นาง​ได้รับแต่งตั้ง​เป็น​พระสนม​ขั้น​เฟย​แล้ว​ หากว่า​กัน​ตาม​ศักดิ์​ฐานะ​แล้ว​ตำแหน่ง​ของ​นาง​สูงกว่า​หลิน​ชิงเวย​ขั้น​หนึ่ง​ เพียงแต่​ยาม​นี้​ไหน​เลย​จะมีกะ​จิต​กะ​ใจมาคิด​เรื่อง​เหล่านี้​

หลิน​ชิงเวย​พูด​เรียบๆ​ “คืนนี้​เจ้ากลับ​ไป​ก่อน​เถิด​”

จางซีอัน​พยักหน้า​ เดิน​ออก​มาจาก​ฉาก​กัน​ลม​ทั้ง​น้ำตา​คลอ​เบ้า​ นาง​เดินเหิน​บอบบาง​ราวกับ​กิ่ง​หลิว​ต้อง​ลม​ อรชร​แช่มช้อย​ ท่ามกลาง​สายลม​อัน​หนาวเหน็บ​ หลิน​ชิงเวย​มอง​แล้ว​กลับ​ไม่กระจ่างแจ้ง​ว่า​เหตุใด​เซียว​จิ่น​จึงได้​โมโห​โกรธา​เยี่ยง​นี้​

นาง​หัน​กลับมา​มอง​เซียว​จิ่น​อีกครั้ง​ เห็น​เซียว​จิ่น​สวม​เสื้อ​สีขาว​ทั้ง​ชุด​ ปก​คอเสื้อ​ดู​ยับ​ย่น​ เขา​มอง​จางซีอัน​เดิน​ออก​ไป​ด้วย​แววตา​เย็นเยียบ​ นางกำนัล​และ​ขันที​ด้านนอก​รีบ​ปิดประตู​ตำหนัก​บรรทม​

หลิน​ชิงเวย​ “ฝ่าบาท​ทรง​เป็น​อะไร​เพคะ​? นาง​ทำให้​พระองค์​ทรง​กริ้ว​หรือ​”

เซียว​จิ่น​จะแสดง​ความในใจ​ออกมา​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​หลิน​ชิงเวย​เท่านั้น​ ยาม​นี้​ท่าทาง​ของ​เขา​ดู​แล้ว​เต็มไปด้วย​ความหงุดหงิด​ หน้าอก​กระเพื่อม​ไหว​ขึ้น​ลง​ “เจิ้น​ก็​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ เจิ้น​ทำ​ตามที่​เจ้าสอน​เจิ้น​ใน​คืน​นั้น​ทุกอย่าง​…”

“นาง​ทำให้​ฝ่าบาท​ไม่พอ​พระทัย​หรือ​เพคะ​?”

เซียว​จิ่น​ก้มหน้า​ลง​มอง​มือ​ของ​ตนเอง​ เมื่อ​สักครู่​มือ​คู่​นี้​ประคอง​โอบกอด​หยก​หอม​เนื้อ​อุ่น​ เขา​พูดงึมงำ​ “ถูกต้อง​ กับ​ผู้ใด​เจิ้น​ล้วน​ไม่พึงพอใจ​ทั้งสิ้น​ เมื่อ​สักครู่​…เมื่อ​สักครู่​เจิ้น​คิด​ว่า​เจิ้น​กำลัง​กอด​ชิงเวย…​กอด​เจ้าอยู่​”

หลิน​ชิงเวย​ลอบ​ขมวดคิ้ว​

เซียว​จิ่น​หน้า​แดงก่ำ​ นัยน์ตา​ดำขลับ​คู่​นั้น​ราวกับ​มีน้ำ​บาง​ๆฉาบ​อยู่​ชั้นหนึ่ง​ กระจ่าง​ใสอย่าง​ที่สุด​ เขา​ไม่รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​จริงๆ​ “เจิ้น​ ด้วยเหตุนี้​…เจิ้น​จึงมีความรู้สึก​ แต่​นาง​ไม่ใช่เจ้านี่​นา​ชิงเวย​ เมื่อ​เจิ้น​กอด​นาง​และ​มอง​นาง​อย่าง​ละเอียดถี่ถ้วน​ กลับ​พบ​ว่า​คนใน​อ้อมกอด​เปลี่ยนเป็น​อีก​ใบ​หน้าหนึ่ง​ เปลี่ยนเป็น​สตรี​แปลกหน้า​ซึ่งเจิ้น​ไม่รู้จัก​มาก่อน​เลย​…ขอโทษ​ด้วย​ชิงเวย​ ขอโทษ​…เจิ้น​รับ​ไม่ได้​ที่จะ​ทำ​เรื่อง​พรรค์​กับ​สตรี​แปลกหน้า​คน​หนึ่ง​…”

แต่​เขา​ยังคง​มีความรู้สึก​ไม่ใช่หรือ​?

ผู้​เป็น​ฮ่องเต้​ ไหน​เลย​จะกระทำ​ตามใจ​ตน​ได้​ทุกอย่าง​กัน​ ซ้ำยัง​เป็น​สตรี​ของ​ตำหนัก​ใน​ ไม่ว่า​จะเป็น​คน​ที่​ตน​ชมชอบ​จริงๆ​ หรือไม่​ ขอ​เพียง​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​ใน​แล้ว​ย่อม​ต้อง​เป็น​สนม​ของ​เขา​ ใน​บรรดา​สนม​เหล่านั้น​โดยส่วนใหญ่​ เป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​ก่อนหน้า​ที่จะ​ร่วม​หอ​เขา​ล้วน​ไม่เคย​พบ​หน้า​มาก่อน​

แต่​จิตใจ​ของ​เขา​ ความคิดคำนึง​ของ​ล้วน​เป็น​หลิน​ชิงเวย​ ใน​นาที​นั้น​กลับ​พบ​ว่า​คน​ข้าง​กาย​ของ​เขา​มิใช่หลิน​ชิงเวย​ ความแตกต่าง​ที่​เกิดขึ้น​นั้น​เป็น​อย่างไร​แค่​คิด​ก็​รู้​ได้​

หลิน​ชิงเวย​แจ่มแจ้งดี​ว่า​นา​ทีนี้​เซียว​จิ่น​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​ นาง​เพียงแต่​ยืน​เงียบๆ​ อยู่​ด้าน​ข้าง​ ฟังคำพูด​ที่​เซียว​จิ่น​ระบาย​ออกมา​ มอง​ดูท่าทาง​เป็นทุกข์​น่าสงสาร​ของ​เขา​ แต่​มิได้​ก้าว​เข้าไป​ปลอบโยน​ด้วย​เกรง​ว่า​หาก​นาง​เข้าไป​ปลอบโยน​เขา​อาจ​ทำให้​ผลลัพธ์​ยิ่ง​ย่ำแย่​

หลิน​ชิงเวย​พูด​กับ​เขา​ว่า​ “พระองค์​ทรง​เป็น​ฮ่องเต้​ ต่อไป​จะมีสาวงาม​สามพัน​กว่า​นางใน​สามพระตำหนัก​หก​หมู่​เรือน​นับไม่ถ้วน​ ไฉน​จึงต้อง​มาหมกมุ่น​อยู่​กับ​หลิน​ชิงเวย​เพียง​คนเดียว​? มีเรื่องราว​มากมาย​มิใช่ฝ่าบาท​คิด​จะทำ​อย่างไร​ก็​ทำ​อย่างนั้น​ได้​ คืนนี้​พระองค์​ปฏิบัติ​ต่อ​จางซีอัน​ไม่ดี​ พรุ่งนี้​ฝ่าบาท​อาจ​ต้อง​สูญเสีย​เสนาบดี​จางไป​อย่าง​ไม่รู้​เนื้อ​รู้​เนื้อ​ก็​เป็นได้​ หรือ​นั่น​คือ​สิ่งที่​พระองค์​ทรง​ปรารถนา​เพคะ​”

เซียว​จิ่น​เงียบขรึม​เนิ่นนาน​ “เจิ้น​รู้​ เรื่อง​เหล่านี้​เจิ้น​รู้​ทั้งสิ้น​…แต่​เจิ้น​จนใจ​จริงๆ​”

“ฝ่าบาท​มิได้​จนใจ​เพคะ​ เพียงแต่​ยัง​ไม่ได้​เตรียมตัว​ให้​ดี​ เชื่อ​ว่า​รอ​ให้​ฝ่าบาท​เตรียมตัว​ดีแล้ว​ย่อม​ไม่เกิด​เหตุการณ์​เช่น​คืนนี้​อีก​ ไม่เป็นไร​เพคะ​ เรื่อง​เหล่านี้​ต้อง​ค่อยๆ​ เป็น​ค่อยๆ​ ไป​” หลิน​ชิงเวย​พูด​อีก​ “วันนี้​ฝ่าบาท​พักผ่อน​เถิด​เพคะ​”

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท