ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 245 ราวกับแต่งงานออกเรือนอย่างไรอย่างนั้น

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

แววตา​ของ​ไทเฮา​ไหว​วูบ​ กระทั่ง​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ก็​แทบจะ​ประคับประคอง​เอาไว้​ไม่อยู่​ ระหว่าง​ที่​นาง​ตกอยู่ในภวังค์​ หลิน​ชิงเวย​ได้​เดิน​ออก​ไป​ไกล​แล้ว​ ไทเฮา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​โกรธ​ขึ้น​มาเป็น​ริ้ว​ๆ นาง​เอาแต่​คิด​ที่จะ​แก้แค้น​หลิน​ชิงเวย​และ​เซียว​เยี่ยน​ แต่​การ​ส่งหลิน​ชิงเวย​ไป​ถวายตัว​ให้​กับ​เซียว​จิ่น​ไม่ใช่กลยุทธ์​ใน​ระยะยาว​ หาก​หลิน​ชิงเวย​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จริงๆ​ ชีวิต​ใน​ตำหนัก​ใน​ที่​เหลือ​ของ​นาง​คง​ไม่มีวัน​มีความ​สงบสุข​เป็นแน่แท้​!

คำพูด​เพียง​ประโยค​เดียว​ของ​หลิน​ชิงเวย​ทำให้​นาง​ตื่น​จาก​ความฝัน​ นาง​มองข้าม​เรื่องสำคัญ​เช่นนี้​ไป​ได้​อย่างไร​กัน​!

ยาม​กลางคืน​ของ​เหมันตฤดู​ย่อม​สั้น​กว่า​ฤดู​อื่นๆ​ เซียว​จิ่น​ได้​จัด​ให้​ราชรถ​ของ​ตน​ไป​รอ​อยู่​หน้า​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​นาน​แล้ว​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็นการ​ให้เกียรติ​ปานใด​

ภายใน​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​แขวน​โคมไฟ​สีแดง​สดใส​เป็น​ทิวแถว​ บรรยากาศ​เช่นนี้​ทำให้​ผู้คน​ไพล่​คิด​ไป​ว่า​วสันตฤดู​ใกล้​มาเยือน​ ดอก​ไห่​ถังใน​วังหลวง​ต่าง​พา​กัน​บานสะพรั่ง​

นาง​เดิน​ออกมา​ขึ้น​ราชรถ​หน้า​ประตู​ตำหนัก​ท่ามกลาง​การ​ประคอง​ของ​นางกำนัล​ ข้า​รับใช้​ของ​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ส่งเสียง​ขับร้อง​เป็น​ท่วงทำนอง​พร้อมเพรียงกัน​ จากนั้น​จึงทำการ​เคลื่อนย้าย​ราชรถ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​

ไทเฮา​มอง​ขบวน​เกียรติยศ​นั้น​แล้ว​พลัน​มีความรู้สึก​ราวกับ​ได้​สะสางปม​ใน​ใจของ​ตน​ และ​รู้สึก​เคียดแค้น​ชิงชังในขณะเดียวกัน​

คิดไม่ถึง​ว่า​เมื่อ​ไทเฮา​หันหลัง​เดิน​ออก​มาจาก​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​ กลับ​พบ​ว่า​มีคน​กำลัง​มอง​ขบวน​เกียรติยศ​อัน​ยิ่งใหญ่​ที่​เดิน​ห่าง​ออก​ไป​ไกล​ด้วย​น้ำตา​คลอ​เบ้า​นั่น​เช่นกัน​

นาง​ยืน​หลบ​อยู่​ใน​มุมลับหลัง​พุ่มไม้​ ข้าง​กาย​มีเพียง​นางกำนัล​นาง​หนึ่ง​เป็น​ผู้ติดตาม​ ชัดเจน​อย่างยิ่ง​ว่า​ไม่ปรารถนา​ให้​ผู้อื่น​พบเห็น​

โชคไม่ดี​นัก​ที่​นาง​ถูก​ไทเฮา​พบเห็น​เข้า​

ไทเฮา​ถามห​มัว​มัว​ข้าง​กาย​ “ผู้ใด​อยู่​ทาง​ด้าน​นั้น​?”

“บ่าว​ไป​เชิญนาง​มาถามไถ่ให้​แจ่มแจ้งเดี๋ยวนี้​เพคะ​” พูด​แล้ว​ห​มัว​มัว​อาวุโส​ท่าน​นี้​ก็​รีบ​เดิน​เข้าไป​

เดิมที​สตรี​นาง​นั้น​กำลัง​คิด​จะพา​นางกำนัล​ออกจาก​ที่นั่น​ ใคร​เล่า​จะรู้​ว่า​ห​มัว​มัว​จะมาเชิญตัวนาง​ นาง​ไม่กล้า​ขัดต่อ​พระ​เสาวนีย์​ของ​ไทเฮา​ ได้​แต่​เดิน​ออก​มาจาก​พุ่มไม้​แล้ว​เดิน​ไปหา​ไทเฮา​ด้วย​ท่วงท่า​ราวกับ​กิ่ง​หลิว​ต้อง​ลม​พร้อมกับ​กล่าว​ถวายพระพร​ “หม่อมฉัน​ถวายพระพร​ไทเฮา​เหนียง​เหนียง​เพคะ​”

ไทเฮา​คุ้นหน้า​คุ้นตา​สตรี​รูปโฉม​งดงาม​เบื้องหน้า​ ทว่า​กลับ​นึกไม่ออก​

มีสาวงาม​รุ่นใหม่​เพิ่ง​เข้า​วัง​มา ไทเฮา​ล้วน​ไม่เคย​ได้​พบปะ​พูดคุย​กับ​พวก​นาง​ นาง​เพียง​เคย​พบ​กับ​บุตรสาว​ของ​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​ราชสำนัก​เป็นครั้งคราว​ ดังนั้น​จึงรู้สึก​คุ้นตา​อยู่​บ้าง​

ท่ามกลาง​ความ​คุ้นหน้า​คุ้นตา​ของ​ไทเฮา​ และ​เห็น​อีก​ฝ่าย​มีน้ำตา​คลอ​เบ้า​ ราวกับ​เพิ่งจะ​ร่ำไห้​มา จึงไตร่ตรอง​แล้ว​ถามว่า​ “เจ้าเป็น​บุตรสาว​ของ​ใต้เท้า​จาง เพิ่ง​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​เป็น​ซีเฟย​ใช่หรือไม่​?”

“หม่อมฉัน​คือ​ซีอัน​เพคะ​ เป็น​พระมหากรุณาธิคุณ​ที่​ไทเฮา​เหนียง​เหนียง​ยัง​ทรง​จำได้​เพคะ​”

ไทเฮา​มีสีหน้า​สีตา​เห็นอกเห็นใจ​สตรี​นาง​นี้​ขึ้น​มาสอง​ส่วน​ จึงเอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ไม่เกรงใจ​ว่า​ “หลาย​วันก่อน​เปิ่น​กง​สวดมนต์​อยู่​ใน​ตำหนัก​คุ​น​เห​อ​ กลับ​ได้ยิน​ว่า​ฝ่าบาท​เรียกตัว​เจ้าเข้า​ถวายงาน​ ปรากฏ​ว่า​ไม่สำเร็จ​แล้ว​ถูก​ส่งตัว​กลับ​ไป​?”

ซีเฟย​ได้ยิน​แล้ว​ใบหน้า​พลัน​ซีด​ขาว​ การ​ลบหลู่ดูหมิ่น​เยี่ยง​นี้​หาก​แพร่งพราย​ใน​ตำหนัก​ใน​ย่อม​ยาก​ที่จะ​เงยหน้า​ขึ้น​ได้​ อีก​ทั้ง​ฮ่องเต้​ยัง​ทรง​รังเกียจ​นาง​ถึงเพียงนั้น​ เกรง​ว่า​ต่อไป​คง​หมดโอกาส​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​

ไทเฮา​ทอด​มอง​นาง​จาก​มุมสูง แล้ว​หัวเราะ​ออกมา​ครั้งหนึ่ง​ก่อน​กล่าวว่า​ “เพียงแต่​เรื่อง​นี้​ไม่ใช่ความผิด​ของ​เจ้า เปิ่น​กง​เห็น​รูปโฉม​ของ​เจ้างดงาม​พริ้มเพรา​ ไม่เหมือน​คน​ที่จะ​ไม่ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​ฮ่องเต้​ หาก​จะโทษ​ก็​ต้องโทษ​หลิน​เจาอี๋​ที่​มีความสัมพันธ์​แนบแน่น​กับ​ฮ่องเต้​ วันนี้​เรียกตัว​หลิน​เจาอี๋​เข้า​ถวายงาน​โดย​ไม่ได้​ปฏิบัติตาม​กฎเกณฑ์​ของ​วังหลวง​ กลับ​ประทาน​เสื้อคลุม​หงส์​ราวกับ​ออกเรือน​ก็​ไม่ปาน​”

ซีเฟย​ก้มหน้า​ต่ำ​รับฟัง​อย่าง​เคารพ​นอบน้อม​ตลอดเวลา​

ไทเฮา​ตวัดสายตา​มอง​นาง​อีกครั้ง​ “ต่อไป​ หาก​เจ้าเฉลียวฉลาด​ขึ้น​ก็​ไม่ใช่ว่า​จะไม่มีโอกาส​”

ซีเฟย​ยอบ​กาย​ลง​ถวาย​คำนับ​ “หม่อมฉัน​จดจำ​คำสอน​ของ​ไทเฮา​เหนียง​เหนียง​แล้ว​เพคะ​”

ต่อมา​ไทเฮา​เดินผ่าน​ร่าง​ของ​นาง​ด้วย​ท่าที​หยิ่งผยอง​ ซีเฟย​รอ​กระทั่ง​ไทเฮา​เดิน​จากไป​ไกล​แล้วจึง​ยืด​กาย​ขึ้น​เดิน​นำ​นางกำนัล​กลับ​ไป​ มาตรว่า​นางกำนัล​ผู้​นั้น​เป็น​สาวใช้​ที่​นาง​พา​เข้า​วัง​จาก​ครอบครัว​เดิม​ พูดจา​ปากคอเราะราย​ตลอดทาง​ ล้วน​เป็น​คำพูด​อาฆาตมาดร้าย​ต่อ​หลิน​เจาอี๋​ เพียง​ซีเฟย​ไม่ได้​แสดงท่าที​อัน​ใด​ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​

ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ราวกับ​สว่างไสว​ขึ้น​พร้อมกับ​การ​มาถึงของ​หลิน​ชิงเวย​ เหล่า​ขันที​และ​นางกำนัล​ใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ต่าง​รับรู้​ได้​ถึงบรรยากาศ​ชื่นมื่น​

เสียงร้อง​บรรเลง​ขับขาน​ต้อนรับ​จาก​ประตู​วัง​ชั้น​แล้ว​ชั้น​เล่า​ หลิน​ชิงเวยลง​จาก​ราชรถ​ด้านนอก​ประตู​ชั้น​ที่สอง​ เท้า​เล็ก​ๆ ของ​นาง​เยื้องย่าง​แผ่วเบา​ กระโปรง​สีแดง​บน​ร่าง​ของ​นาง​สะบัด​พลิ้ว​คลุม​ลง​บน​พื้น​ยาวเหยียด​ นาง​เดิน​เข้ามา​อย่าง​แช่มช้าอย่างนั้น​เอง​

บน​พื้นที่​นาง​เดินผ่าน​ล้วน​ปู​ด้วย​พรม​สีแดง​ชั้นหนึ่ง​ไร้​ซึ่งฝุ่นธุลี​ ชายกระโปรง​สีแดง​ยาว​ลาก​พื้น​ของ​นาง​ไม่ทิ้งร่องรอย​ใดๆ​ เอาไว้​

หัวใจ​ของ​หลิน​ชิงเวย​ดุจ​สายน้ำ​ที่​หยุด​ไหล​ เมื่อ​นาง​เดิน​เข้าไป​ใน​ตำหนัก​ของ​เซียว​จิ่น​ ขันที​สี่คน​ด้านหลัง​ปิดประตู​ตำหนัก​แล้ว​ถอย​ออก​ไป​อย่าง​เงียบเชียบ​ นาง​เงยหน้า​ขึ้น​เห็น​ตำหนัก​บรรทม​อยู่​เบื้องหน้า​สายตา​

เพียงแต่​ขณะที่​นาง​ยก​เท้า​ขึ้น​ยัง​ไม่ทัน​รอ​ให้​นาง​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ พลัน​มีสายลม​วูบ​หนึ่ง​พุ่ง​เข้ามา​ปรากฏ​ให้​เห็น​เงาร่าง​สีดำ​ของ​คน​โรยตัว​ลง​มาจาก​เบื้องบน​ หลิน​ชิงเวย​ยัง​ไม่ทัน​มอง​ให้​ถี่ถ้วน​ เสี่ยว​ฉีก็​ยืน​อยู่​เบื้องหน้า​นาง​เช่นนั้น​เอง​ นาง​ได้​แต่​ถอยกลับ​ไป​ก้าว​หนึ่ง​

เสี่ยว​ฉีไม่พูดจา​ชั่ว​อึดใจหนึ่ง​

หลิน​ชิงเวย​เลิกคิ้ว​ “อย่างไรเล่า​ เพิ่งจะ​คิด​มาขัดขวาง​ข้า​ใน​ยาม​นี้​?”

เสี่ยว​ฉีอ้า​ปาก​ไม่รู้​จะพูด​อย่างไร​ ก่อน​ออกเดินทาง​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​เพียงแต่​กำชับ​สั่งการ​ให้​เขา​ปกป้อง​คุ้มครอง​หลิน​ชิงเวย​ แต่​มิได้​สั่งการ​อย่าง​อื่น​ แต่​ยาม​นี้​หลิน​ชิงเวย​ต้อง​เข้า​ถวายตัว​ตาม​ราชโองการ​ ไม่ใช่เรื่อง​ที่​เขา​จะเข้า​ติดตาม​ไป​ด้วย​ได้​ เพียงแต่​…เขา​แจ่มแจ้งดี​ใน​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​เจ้านาย​ของ​ตน​และ​หลิน​ชิงเวย​ เขา​เกรง​ว่า​ทันทีที่​หลิน​ชิงเวย​ก้าว​เข้าไป​แล้​วจะ​ไม่อาจ​หัน​กลับมา​อีก​

หาก​ท่าน​อ๋อง​รู้​เข้า​จะเป็น​อย่างไร​นะ​?

เสี่ยว​ฉีเม้มปาก​แล้ว​ถามขึ้น​ว่า​ “เจาอี๋​เหนียง​เหนียง​จะเข้าไป​จริงๆ​ หรือ​?”

หลิน​ชิงเวย​เอ่ย​ว่า​ “มีพระ​ราชโองการ​ลงมา​แล้ว​ ข้า​มีโอกาส​ปฏิเสธ​หรือ​ไร​”

ดูเหมือน​เขา​จะโกรธ​ขึ้น​มาบ้าง​ และ​รู้​ทั้ง​รู้​ว่า​ตน​ไม่มีคุณสมบัติ​จะโกรธ​เช่นกัน​ อย่าง​มาก​ก็​เป็นการ​เป็น​เดือด​เป็น​แค้น​แทน​เจ้านาย​ของ​ตน​ เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ออกเดินทาง​ไป​ไม่นาน​ นาง​จำต้อง​…เสี่ยว​ฉีพูดเสียงต่ำ​ “บังอาจ​ถามเจาอี๋​เหนียง​เหนียง​ เช่นนี้​แล้ว​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​อยู่​ที่ใด​?”

หลิน​ชิงเวย​ได้ยิน​แล้ว​หัวเราะ​เบา​ๆ “คำพูด​นี้​ควร​เป็น​ข้า​ถามพวก​เจ้ามากกว่า​ เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ก็ดี​ ฮ่องเต้​ก็ช่าง​ หรือ​จะเป็น​เจ้า เซียว​ฉี พวก​เจ้าจะให้​ข้า​ทำ​เช่นใด​เล่า​?

เสี่ยว​ฉีตอบ​ไม่ได้​ หลิน​ชิงเวย​เยื้องย่าง​เดิน​ไป​ข้างหน้า​ เสี่ยว​ฉีไม่หลีกทาง​ให้​นาง​ ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​จึงเอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “หาก​เจาอี๋​เหนียง​เหนียง​ไม่ยินยอม​ ข้าน้อย​พา​ท่าน​จากไป​ได้​”

หลิน​ชิงเวย​ฟังแล้ว​หัวเราะ​ออกมา​พรืด​หนึ่ง​ นาง​ช้อนตา​ขึ้น​มอง​เสี่ยว​ฉี นาง​อยู่​ใน​อาภรณ์​สีแดง​งามวิลาส​ปาน​ล่ม​เมือง​ ทว่า​รอยยิ้ม​นั้น​ไป​ไม่ถึงดวงตา​ น้ำเสียง​นั้น​ไพเราะ​งดงาม​และ​เยือกเย็น​สุด​จะเปรียบ​ “เจ้าจะมีความสามารถ​อัน​ใด​พา​ข้า​จากไป​ หาก​ยัง​ไม่ไป​อีก​ เกรง​ว่า​กระทั่ง​ตัว​เจ้าเอง​ก็​ออก​ไป​ไม่ได้​”

นาง​ยืน​อยู่​ด้านนอก​ประตู​ตำหนัก​บรรทม​ของ​เซียว​จิ่น​ เขา​ย่อม​แจ่มแจ้งและ​กำลัง​รอคอย​ให้​นาง​เข้าไป​

พูด​แล้ว​หลิน​ชิงเวย​ไม่ใส่ใจเสี่ยว​ฉีอีก​ นาง​เดินผ่าน​เขา​แล้ว​ยก​มือขึ้น​เคาะ​ประตู​

“เข้ามา​เถิด​” เสียง​ที่​ดัง​มาจาก​ข้างใน​อบอุ่น​อ่อนโยน​ประดุจ​หยก​

หลิน​ชิงเวย​ก้าว​เข้าไป​โดย​ไม่หัน​กลับมา​มอง​เสี่ยว​ฉีแม้แต่​แวบเดียว​

ภายใน​ตำหนัก​บรรทม​ได้รับ​การ​ตกแต่ง​ใหม่​ เทียนไข​มังกร​และ​หงส์​เล่ม​ใหญ่​ ม่าน​มุ้งดอก​พุดตาน​และ​เตียง​ผ้าแพร​ ไหน​เลย​จะยัง​เป็น​ตำหนัก​บรรทม​ของ​เซียว​จิ่น​ นี่​เป็น​ห้อง​ที่​ได้รับ​การ​จัด​ตกแต่ง​ใหม่​ชัด​ๆ

เมื่อ​หลิน​ชิงเวย​ก้าว​เข้าไป​ เซียว​จิ่น​เพิ่งจะ​ยืด​กาย​ขึ้น​จาก​กรอบ​หน้าต่าง​ เขา​มอง​ไป​ยัง​ความ​มืดมิด​ด้านนอก​หน้าต่าง​ บน​ร่าง​ของ​เขา​ไม่ได้​สวม​ชุด​คลุม​มังกร​สีเหลือง​สว่าง​เช่น​ใน​ยาม​ปกติ​ แต่​สวม​เสื้อ​ผ้าไหม​แขน​กว้าง​สีแดง​ทั้ง​ชุด​ ชาย​อาภรณ์​ล้วน​ปัก​ลวดลาย​มังกร​อัน​วิจิตร​ไม่สามัญ ลวดลาย​สีน้ำตาล​นั้น​ขับ​ให้​ร่าง​ของ​เขา​สูงยิ่งขึ้น​ ส่งผล​ให้​เขา​ดู​อบอุ่น​และ​สุภาพ​

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท