ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง – บทที่ 247 เพียงแต่คิดจะเพียรพยายามสักครั้ง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ไม่ว่า​ใน​ท้ายที่สุด​นาง​จะอยู่​ร่วมกับ​เซียว​เยี่ยน​หรือไม่​ นาง​คิด​ว่า​นาง​ไม่มีทาง​กลับใจ​เลือก​ใหม่​อีกครั้ง​ สำหรับ​เซียว​จิ่น​แล้ว​หลิน​ชิงเวย​ไม่มีความรู้สึก​เฉกเช่น​ชาย​หญิง​แม้สัก​กระผีก​ เซียว​จิ่น​สำหรับ​นาง​แล้ว​เป็น​เช่น​ซิน​หรู​ ไฉน​จะบังเกิด​ความรัก​ระหว่าง​ชาย​หญิง​กับ​เซียว​จิ่น​ได้​เล่า​?

ทว่า​ต่อให้​เป็น​คน​ใจคอ​เหี้ยมโหด​ปานใด​เมื่อ​เห็น​ท่าทาง​ของ​เซียว​จิ่น​ใน​ยาม​นี้​แล้ว​ล้วน​ยาก​ที่จะ​เอ่ย​วาจา​อัน​โหดร้าย​ออก​ไป​ หลิน​ชิงเวย​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​สงบนิ่ง​ว่า​ “หวัง​ว่า​ท่าน​จะเติบโต​ขึ้น​ หญิง​งามใน​ตำหนัก​ใน​มีมากมาย​ย่อม​ต้อง​มีสัก​คน​ที่​ก้าว​เข้ามา​ใน​ใจของ​ท่าน​ได้​” หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​นาง​เอ่ย​อี​กว่า​ “ขอโทษ​ที่​ก่อนหน้านี้​ไม่ได้​คำนึงถึง​ความรู้สึก​ของ​ท่าน​ คำพูด​เหล่านั้น​ที่​ท่าน​พูดว่า​เจตนา​เปิดโอกาส​ให้​ข้า​และ​เสด็จ​อา​ หาก​ท่าน​กลับ​คำพูด​ข้า​จะถือว่า​มัน​ไม่เคย​เกิดขึ้น​” เส้น​ทางใน​วันข้างหน้า​ต้อง​เลือก​เดิน​อย่างไร​ มิใช่กำหนด​โดย​คำพูด​เพียง​ประโยค​เดียว​ของ​ผู้อื่น​ แต่​มาถึงบัดนี้​หลิน​ชิงเวย​กระจ่างแจ้ง​ขึ้น​เล็กน้อย​ว่า​เซียว​จิ่น​พูดจา​ไม่ตรง​กับ​ใจมาโดยตลอด​ เพื่อให้​นาง​มีความสุข​ แต่​ตัว​เขา​เอง​เล่า​ ไม่มีความสุข​แม้แต่น้อย​

นาง​ไม่ชอบ​ฝืนใจ​เขา​

เซียว​จิ่น​ “เจิ้น​รู้​แต่แรก​แล้ว​ว่า​เจ้าชมชอบ​เสด็จ​อา​ และ​เคย​ได้​พูด​ไป​แล้ว​ว่า​จะไม่ขัดขวาง​เจ้า หาก​มากลับ​คำพูด​ในเวลานี้​จะกลายเป็น​คน​พูดจา​เชื่อถือ​ไม่ได้​หรือไม่​?”

เขา​มอง​หลิน​ชิงเวย​แล้ว​ยิ้ม​ให้​นาง​ทั้งที่​กระบอกตา​แดงก่ำ​ นั่น​ทำให้​หัวใจ​ของ​หลิน​ชิงเวย​บีบรัด​ทันที​ นาง​พูด​อย่าง​จริงใจ​ว่า​ “ไม่เป็นไร​ ใน​เรื่อง​ของ​ความรู้สึก​แล้ว​คำสัญญา​ไม่นับ​เป็นอัน​ใด​ได้​”

เซียว​จิ่น​ส่ายหน้า​ “ไม่ว่า​อย่างไร​เจิ้น​ไม่อยาก​เป็น​คน​พูดจา​เชื่อถือ​ไม่ได้​ใน​สายตา​ของ​เจ้า ดังนั้น​คำพูด​เหล่านั้น​ยังคง​ถือ​ตามนั้น​ ต่อให้​ยาม​นี้​เจ้าจะดื้อรั้น​ออก​ไป​ตามหา​เสด็จ​อา​ เจิ้น​ก็​จะไม่ขัดขวาง​เจ้าอีก​”

ดวงตา​ของ​หลิน​ชิงเวย​เปล่งประกาย​วาบ​ “จริง​หรือ​? ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​เหตุใด​ฝ่าบาท​ยัง​เรียกตัว​ให้​ข้า​มาถวายงาน​อีก​เล่า​ เหตุใด​ยัง​ต้อง​มาพูด​เรื่อง​เหล่านี้​กับ​ข้า​?”

เซียว​จิ่น​ “เพราะ​เจิ้น​ชมชอบ​เจ้าเช่นกัน​ เจิ้น​รู้​ว่า​ไทเฮา​มีเจตนาร้าย​ เจิ้น​แจ่มแจ้งดี​ว่า​เรื่อง​อดีต​ฮ่องเต้​เข้าฝัน​เป็นเรื่อง​ที่​นาง​กุ​ขึ้น​มา! แต่​เจิ้น…​ยังคง​คิด​ว่า​ แม้เป็น​เพียง​ความหวัง​อัน​ริบหรี่​ก็​ควร​พยายาม​สักครั้ง​จะได้​ไม่เสียใจ​ภายหลัง​ แม้ว่า​สุดท้าย​เจิ้น​จะยังคง​เป็น​ฝ่าย​พ่ายแพ้​ก็ตาม​” เขา​หันหลัง​ให้​ เงาร่าง​ด้านหลัง​ยังคง​สง่าผ่าเผย​ เพียงแต่​ปรากฏ​ให้​เห็น​ความโดดเดี่ยว​อ้างว้าง​อย่าง​ชัดเจน​หลาย​ส่วน​ เขา​พูด​เสียง​เบา​ “เจ้าไป​เถิด​”

หลิน​ชิงเวย​ “ขอบ​พระทัย​ฝ่าบาท​เพคะ​”

ขณะที่​นาง​หัน​กาย​กลับ​ไป​ เสียง​ของ​เซียว​จิ่น​พลัน​ดัง​ขึ้น​ด้านหลัง​ “เจ้ารับปาก​เจิ้น​ได้​หรือไม่​ วันที่​เจ้าจะไป​จาก​วังหลวง​จริงๆ​ อย่า​ได้​จากไป​โดย​ไม่บอก​ไม่กล่าว​ กลับมา​บอกลา​เจิ้น​สักหน่อย​?”

หลิน​ชิงเวย​ “ได้​เพคะ​”

พูด​แล้ว​หลิน​ชิงเวย​ก็​เปิด​ประตู​ห้อง​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ เซียว​จิ่น​มอง​ความ​มืดมิด​นอก​หน้าต่าง​ด้วย​สีหน้า​เจ็บปวด​ เขา​ค่อยๆ​ หลับตา​ลง​ กด​ข่ม​ตนเอง​ไม่ให้​หันไป​มอง​เงาร่าง​ด้านหลัง​ของ​นาง​ที่​จากไป​ ไม่ฟังเสียง​ฝีเท้า​ของ​นาง​ที่​ห่างไกล​ออก​ไป​ แต่​ต่อให้​เป็น​เช่นนี้​เขา​ก็​รู้ดี​ว่า​หลิน​ชิงเวย​ค่อยๆ​ ห่าง​จาก​เขา​ทีละน้อยๆ​

หลิน​ชิงเวย​เดิน​ออก​ไปนอก​ตำหนัก​ นาง​ยัง​คงอยู่​ใน​กระโปรง​สีแดงสด​ เพียงแต่​บน​ศีรษะ​ของ​นาง​ไม่มีมงกุฎ​หงส์​ เส้มผม​ยาว​ดำขลับ​แผ่​สยาย​ลง​บน​ไหล่​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ยาม​มาที่นี่​ดู​แล้ว​ผ่อนคลาย​ลง​เล็กน้อย​ ท่ามกลาง​ความ​หนาวเย็น​ใน​ยาม​ราตรี​ใบหน้า​ของ​นาง​ไร้​ซึ่งอารมณ์​ความรู้สึก​ใดๆ​

ข้า​รับใช้​ใน​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​เห็น​นาง​ออกมา​กลับ​พา​กัน​ตกตะลึง​ ชัดเจน​ยิ่งนัก​ว่า​คาดไม่ถึง​ ใน​ยาม​ปกติ​ฝ่าบาท​ทรง​โปรดปราน​หลิน​เจาอี๋​อย่างยิ่ง​ แต่​นี่​กลับ​ออกมา​แล้ว​

หลิน​ชิงเวย​พูด​เสียง​เรียบ​ “ใน​ยาม​ปกติ​ที่​ฝ่าบาท​ใกล้ชิด​กัน​มิได้​มีความรู้สึก​อัน​ใด​ ไม่อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​น่าสนใจ​อัน​ใด​ ดังนั้น​ข้า​จึงถูก​ไล่​ออกมา​เช่นกัน​”

ข้า​รับใช้​ทั้งหมด​ “…”

นาง​เดิน​ไป​ข้างหน้า​ราวกับ​ไม่มีอะไร​เกิดขึ้น​ แล้ว​ยัง​กำชับ​ว่า​ “แต่​ราตรี​นั้น​ยาว​นัก​ อย่างไร​ก็​ต้อง​มีคน​มาอุ่น​เตียง​ให้​ฝ่าบาท​ พวก​เจ้าไป​เชิญเหนียง​เหนียง​ท่าน​หนึ่ง​มาเถิด​”

ขันที​ผู้รับผิดชอบ​กรมวัง​ได้​แต่​เกา​ศีรษะ​ด้วย​ความ​ลำบากใจ​ “เจาอี๋​เหนียง​เหนียง​ ท่าน​เห็น​ว่า​ควร​เชิญผู้ใด​ดี​ขอรับ​?”

หลิน​ชิงเวย​ “ไป​เชิญซีเฟย​ที่มา​เยือน​ที่นี่​เมื่อ​หลาย​วัน​มาก่อน​เถอะ​”

“แต่​ทาง​ด้าน​ฝ่าบาท​…” ขันที​พูดไม่ออก​ กระทั่ง​หลิน​เจาอี๋​ยัง​ถูก​ฝ่าบาท​ไล่​ออกมา​ ยังมี​ใคร​ใน​วัง​ที่​เขา​จะชมชอบ​จริงๆ​ อีก​หรือ​ไร​? ใน​เมื่อ​ไม่มีที่​ชมชอบ​จริงๆ​ เช่นนั้น​เชิญใคร​มาก็​คง​ไม่เป็นไร​กระมัง​?

อย่างไร​ซีเฟย​ก็​เคย​มาเยือน​ที่นี่​แล้ว​ครั้งหนึ่ง​ แม้ครั้งนั้น​จะไม่ราบรื่น​ แต่​ทุกอย่าง​ได้​ตระ​เตรียมการ​ไว้​เป็น​อย่าง​ดีแล้ว​ นาง​ย่อม​แจ่มแจ้งดี​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไร​ หาก​ไป​เชิญเหนียง​เหนียง​ท่าน​อื่น​จาก​ตำหนัก​อื่น​อย่าง​กะทันหัน​เช่นนี้​ เกรง​ว่า​จะไม่มีเวลา​สอน​อบรม​เรื่อง​ที่​เหนียง​เหนียง​ควร​ทำ​

ดังนั้น​ขันที​จึงไม่พูด​อัน​ใด​ให้​มากความ​และ​รีบเร่ง​ออกจาก​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​เพื่อ​ไป​เชิญซีเฟย​

หลังจาก​หลิน​ชิงเวย​ออก​มาจาก​ตำหนัก​ซวี่​หยาง​ บรรยากาศ​ภายใน​ตำหนัก​บรรทม​ของ​เซียว​จิ่น​เต็มไปด้วย​ความสลด​หดหู่​ เซียว​จิ่น​หันหน้า​ไป​ทาง​หน้าต่าง​และ​พูด​เสียง​เย็น​ “เด็ก​ๆ”

คน​ชุด​ดำ​คน​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​นอก​หน้าต่าง​ใน​ชั่วพริบตา​

เซียว​จิ่น​สั่งการ​ “หาก​หลิน​เจาอี๋​ออกจาก​วัง​ ให้​จัด​ยอด​ฝีมือ​หลาย​คน​อารักขา​ความปลอดภัย​ของ​นาง​ หาก​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้นกับ​นาง​เพียง​ครึ่ง​ส่วน​ ให้​ถือ​ศีรษะ​มาพบ​เจิ้น!”​

“พ่ะย่ะค่ะ​!”

ต่อมา​คน​ชุด​ดำ​ลับ​หาย​ไป​ เซียว​จิ่น​หัน​กาย​กลับ​ไปมา​ดับ​เทียนไข​สีแดง​ กระชาก​มุ้งดอก​พุดตาน​ราวกับ​คลุ้มคลั่ง​ก็​ไม่ปาน​ หลิน​ชิงเวย​ไม่ได้​นำ​กา​สุรา​บน​โต๊ะ​ไป​ด้วย​ เขา​ช้อนตา​ขึ้น​มอง​แล้ว​โผ​เข้าไป​หยิบ​สุรา​กา​นั้น​กรอก​ใส่ปาก​ของ​ตน​

สุรา​ไหลผ่าน​ลำคอ​ของ​เขา​ ให้​ความรู้สึก​ร้อนรุ่ม​ดัง​ไฟ ใบหน้า​ของ​เขา​แดงก่ำ​ ปรากฏ​ให้​เห็น​น้ำตา​บริเวณ​หาง​ตา​

เขา​อยาก​เมา

ตลอดมา​เขา​ล้วน​มีสติ​เสมอ​ เขา​ปรารถนา​ที่จะ​เมามาย​สักครั้ง​เพื่อ​ลืม​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ หลิน​ชิงเวย​ไป​ตามหา​เซ่อ​เจิ้งอ๋อง​ ย่อม​ต้อง​เป็นเรื่อง​ดี​ เพียงแต่​หาก​เขา​ไม่ชมชอบ​หลิน​ชิงเวย​ก็ดี​น่ะ​สิ

ไม่ได้​ชมชอบ​ก็ดี​…

ความรู้สึก​ของ​ฮ่องเต้​ผู้​เป็นหนึ่ง​ใน​ใต้​หล้า​ไหน​เลย​จะมีเพียง​หนึ่งเดียว​ ต่อให้​ทำได้​ แต่​ทาง​ด้าน​ร่างกาย​แล้​วจะ​ทำได้​หรือ​? ภายใน​ตำหนัก​ใน​มีหญิงสาว​มากมาย​เช่นนั้น​ รอ​ให้​เขา​เป็น​หยาด​พิรุณ​หยด​พรม​โดย​ทั่วถึง​ เขา​ไหน​เลย​จะมีเวลา​มาพูดถึง​ความรัก​ แม้การ​แต่งงาน​เชื่อม​สัมพันธ์​จะไม่ใช่วิธีการ​เพียง​หนึ่งเดียว​ใน​การบริหาร​แผ่นดิน​ของ​ฮ่องเต้​องค์​หนึ่ง​ แต่​กลับเป็น​วิธีการ​ที่​ได้​ผลที่สุด​ สำหรับ​เซียว​จิ่น​ซึ่งยังอยู่​ใน​วัยเยาว์​เช่นนี้​ เป็นเรื่อง​จำเป็นที่​ขาดไม่ได้​

หลิน​ชิงเวย​คิดในใจ​ ตำหนัก​ใน​นั้น​ไม่เหมาะสม​กับ​ตน​ ต่อให้​นาง​ไม่ได้​ชมชอบ​เซียว​เยี่ยน​ ต่อให้​เซียว​จิ่น​โดดเด่น​มากกว่า​นี้​ นาง​ก็​ไม่มีทาง​ปล่อยตัวปล่อยใจ​ให้​ตนเอง​ชมชอบ​เซียว​จิ่น​

เส้นทาง​ของ​ตำหนัก​ใน​ เมื่อ​มอง​ไทเฮา​ก็​แทบจะ​มองเห็น​จุดจบ​ของ​นางใน​วันข้างหน้า​แล้ว​

หลิน​ชิงเวย​เลือก​เดิน​ใน​เส้นทาง​ที่​ตน​ตัดสินใจ​เลือก​อย่าง​เด็ดขาด​ ไม่หันกลับ​ไป​ และ​ไม่มีทาง​เสียใจ​ภายหลัง​เด็ดขาด​

นาง​แทบจะ​ทน​รอ​ไม่ไหว​ที่จะ​กลับ​ไป​ยัง​ตำหนัก​ฉางเหยี่ยน​ ทันทีที่​ก้าว​เข้าไป​ใน​เรือน​ก็​ร้องเรียก​ “เสี่ยว​ฉี!”

เสี่ยว​ฉีปรากฏ​กาย​ออกมา​ทันที​ เขา​ประหลาดใจ​อย่าง​ที่สุด​เช่นกัน​ คิดไม่ถึง​ว่า​หลิน​ชิงเวย​จะกลับมา​เช่นนี้​ และ​อาภรณ์​บน​ร่างกาย​เป็นระเบียบเรียบร้อย​ นาง​ไม่ได้​ถวายงาน​ หลิน​ชิงเวย​ปลด​กระดุม​บน​ปก​คอเสื้อ​พร้อมกับ​เดิน​เข้าไป​ใน​เรือน​และ​กำชับ​ว่า​ “เตรียม​ม้าเร็ว​ให้​ข้า​ตัว​หนึ่ง​ ข้า​จะออกจาก​วัง​ ยิ่ง​เร็ว​ยิ่ง​ดี​”

เสี่ยว​ฉีตะลึงงัน​ ยัง​ถามอี​กว่า​ “เหตุใด​เหนียง​เหนียง​จึงต้อง​ออกจาก​วัง​?”

หลิน​ชิงเวย​ตอบ​เสียง​เบา​โดย​ไม่ได้​หัน​กลับมา​ “เหตุใด​? ย่อม​ต้อง​ไปหา​เซียว​เยี่ยน​ ไม่ว่า​เขา​จะไป​ถึงที่ไหน​ ก็​ต้องตาม​ไป​สุดหล้าฟ้าเขียว​ ขอ​เพียง​ข้า​คิด​จะตามหา​ย่อม​ต้องหา​เขา​พบ​จนได้​”

เสี่ยว​ฉีได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​แจ่มแจ้งทันที​ว่า​เหตุใด​ตนเอง​จึงดีใจ​เช่นนี้​ ราวกับ​คำพูด​อัน​คลุมเครือ​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ที่เก็บ​อัด​ใน​ใจได้รับ​การปลดปล่อย​ เขา​กำมือ​เป็น​หมัด​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ขอรับ​! ข้าน้อย​จะไป​เตรียม​เดี๋ยวนี้​!”

หลิน​ชิงเวย​กลับ​เข้า​ห้อง​ผลัดเปลี่ยน​อาภรณ์​เป็น​เสื้อผ้า​ธรรมดา​ มวยผม​ขึ้น​สูง หยิบ​ถุงผ้า​ที่​เตรียม​ออกจาก​วัง​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

Status: Ongoing
เพราะไม่อยากแต่งไปเป็นนางสนมที่ถูกลืม “หลินเสวี่ยหรง” จึงได้วางยา “หลินชิงเวย” พี่สาวของตนให้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแทน ทั้งยังตามมาวางยากำหนัดนางอีกถึงในวัง เพื่อใส่ร้ายว่านางคบชู้ ทำให้ ‘หลินชิงเวย’ หญิงสาวยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้าร่างมาต้องตกกระไดพลอยโจรไปมีอะไรกับหนุ่มนิรนามที่มาช่วยนางไว้ จนถูกจับได้ว่าคบชู้สู่ชาย ทำให้นางโดนเนรเทศไปอยู่ตำหนักเย็น แม้นางจะทำใจ ยอมอยู่อย่างสงบในตำหนักเย็น ทว่าโลกใบนี้ ไม่ปล่อยให้นางมีความสุขง่ายๆ เช่นนั้น นางจึงต้องใช้ปัญญาและความสามารถทางแพทย์ปกป้องตัวเอง ผนวกกับการได้พบกับชายผู้ยิ่งใหญ่เย็นชาปากไม่ตรงกับใจอย่าง “เซ่อเจิ้งอ๋อง” การได้พบกับเขาทำให้นางค่อยๆ พบความหวัง ที่จะได้กลับมามีอิสรภาพอีกครั้ง! หลินชิงเวย: ท่านอ๋อง ท่านมองลำคออันขาวผ่องของข้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเช่นนั้น นี่ข้ากำลังปลุกอารมณ์ของท่านหรือ ? เซ่อเจิ้งอ๋อง: คงไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเจ้าจะเป็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท