ตอนที่ 159 : ฟันฉับเดียว
การ์ฟิลด์ร่อนลงมาจากฟ้า และพุ่งเข้าใส่ฮวงจินเทียนที่กำลังถอยไปในทันที
ต่อหน้าการ์ฟิลด์แล้ว แม้ว่าฮวงจินเทียนจะใช้ความเร็วจากตั๊กแตนแต่ก็ยังดูด้อยกว่ามาก
เพราะระดับของการ์ฟิลด์นั้นสูงกว่าตั๊กแตนมีดของฮวงจินเทียนอย่างมาก สถานะของมันไม่อาจจะเทียบกันได้
โดยปกติแล้ว ระดับสวรรค์ขั้นสูงสามารถรับมือกับระดับสวรรค์ขั้นกลาง 2 ตัวรึขั้นต้น 5 ตัวได้ ส่วนพวกระดับทองนั้นแทบไม่ต้องคิด
ดังนั้นต่อให้มีตั๊กแตนมีด 10 ตัว ก็ไม่อาจจะชนะการ์ฟิลด์ได้เลย ยิ่งถ้าเป็นเรื่องความเร็วแล้ว เป็นธรรมดาที่การ์ฟิลด์จะได้เปรียบกว่าเพราะการ์ฟิลด์เป็นแมว
เมื่อฮวงจินเทียนเห็นการ์ฟิลด์พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ เขาก็รีบยกเลิกการแชร์สกิลของตั๊กแตนและเปลี่ยนเป็นสกิลของอสูรหินแทน พริบตาเดียวร่างของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น ราวกับเปลี่ยนเป็นรูปปั้นหิน ผิวหนังของเขาหนาขึ้น และยากที่จะเกิดความเสียหายได้ แต่การใช้สกิลนี้ก็ทำให้เขาเคลื่อนไหวได้ช้า จนยากจะขยับตัวได้
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เพราะอสูรหินได้พุ่งกลับมาเพื่อปกป้องเขาแล้ว มันอยู่ระดับสวรรค์เหมือนกัน แม้ว่ากรงเล็บของการ์ฟิลด์จะคมกริบแต่ก็ยากที่จะทลายการป้องกันที่แข็งแกร่งของมันได้
ตราบใดที่เขารอดจากการโจมตีนี้ไปได้ เขาก็อาจจะโต้คืนได้
แต่นี่มันคือกับดัก เพราะหวังเย่าวางแผนการมาแล้ว
“การ์ฟิลด์ กลับไปรับมืออสูรหินเอาไว้”
หวังเย่าที่อยู่ไม่ห่างจากฮวงจินเทียนนักก็ยกมีดในมือขึ้นมาและพุ่งเข้าใส่ฮวงจินเทียนทันที
การ์ฟิลด์ไม่ได้สนใจฮวงจินเทียนอีกต่อไป มันหันหลังและพุ่งไปหาอสูรหิน ด้วยความเร็วของมันแล้ว มันจึงง่ายที่จะพุ่งเข้าไปรับมือกับอสูรหินได้
ฮวงจินเทียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแต่ตอนนั้นเองเขากลับรู้สึกได้ถึงสายลมที่พัดมาจากทางด้านหลังของเขา เมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าหวังเย่าอยู่ห่างจากเขาแค่เพียง 10 เมตรเท่านั้นพร้อมกับถือมีดในมือ
ระยะห่างเท่านี้บอกได้ว่ามันสั้นอย่างมาก ต่อให้เขาเรียกตั๊กแตนกลับมาช่วยก็สายเกินไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการใช้สกิลของการ์ฟิลด์ ก็ทำให้พลังโจมตีของหวังเย่าเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก ตั๊กแตนนั้นไม่อาจจะรับมือเขาได้
“ฮวงจินเทียน นายคงไม่มีโอกาสแล้ว”
หวังเย่าพุ่งเข้าใส่และใช้มีดฟันฮวงจินเทียน อีกฝ่ายไม่ได้ใส่เกราะอะไร หวังเย่าจึงมั่นใจว่าจะทลายการป้องกันของอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน
มีดของเขาทำขึ้นมาจากเหล็กทอง มันอยู่ระดับ A มันสามารถทำลายชั้นผิวของอสูรหินได้ อีกอย่างหวังเย่าก็ได้ใช้สกิลตบของการ์ฟิลด์ควบคู่ไปด้วย
เมื่อใช้สกิลนี้แล้ว พลังของมันก็จะเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ฮวงจินเทียนไม่อาจจะหยุดการโจมตีนี้ได้แน่
“ทำลายการป้องกันของฉันให้ได้ซะก่อนเถอะ”
แม้ว่าหวังเย่าจะพุ่งเข้ามาหา แต่ฮวงจินเทียนก็ไม่ได้หวาดกลัวมากนัก เขากลับคาดหวังกับการโจมตีของหวังเย่าแทน
“นายมั่นใจขนาดนั้นเลยหรือ ? ” เมื่อหวังเย่าพูดจบ มีดของเขาก็ได้ฟันลงไป ตอนนั้นเองมีดของเขากลับกระเด็นออกมาพร้อมกับเศษหินที่กระจายออกมาด้วย ที่ชั้นหินนั้นมีรอยแตกขึ้นมาเล็กน้อย
“ในเมื่อแกไม่อาจจะทลายการป้องกันของฉันได้ งั้นคงได้เวลาที่ฉันจะลงมือบ้างแล้ว”
ฮวงจินเทียนยักคิ้วและหัวเราะออกมา เขาเรียกตั๊กแตนเข้ามาช่วย ด้วยจำนวน 2 รุม 1 เช่นนี้จึงทำให้หวังเย่าดูเสียเปรียบอย่างมาก
“งั้นหรือ ? ” หวังเย่ายังคงยกมีดขึ้นมา เขาไม่ได้สนใจการโจมตีที่ล้มเหลวของเขา เขายังคงเผชิญหน้ากับตั๊กแตนที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัว
ปัง !
พลังของทักษะมีดลมหายใจมังกรได้ถูกใช้ออกมา พลังของมันน่าทึ่งเป็นอย่างมาก ตอนนั้นหวังเย่าฟันออกไปกว่า 6 ครั้งพร้อมกับขาของตั๊กแตนกว่า 6 อันที่ถูกตัดจนขาด
กี้ !
เสียงกรีดร้องของตั๊กแตนดังขึ้นมา จนทำให้ผู้ชมที่อยู่โดยรอบต่างก็พากันเวียนหัวจนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“นี่คือสกิลกรีดร้องของตั๊กแตนงั้นหรือ ? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันต่างไปจากเดิม” ฮวงจินเทียนไม่เคยพลาดการประชุมเลยสักครั้ง นี่จึงไม่ใช่ครั้งแรกที่ตั๊กแตนใช้สกิลนี้
ดังนั้นผู้ชมหลายคนเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องนี้จึงรู้สึกสงสัยขึ้นมา
“ไม่ นี่ไม่ใช่สกิลกรีดร้อง แต่มันกรีดร้องจริง ๆ ”
ตอนที่ทุกคนได้สติกลับมาและมองไปที่ตั๊กแตนมีด พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา
ตั๊กแตนถูกตัดขาออกถึง 6 ขา มันได้แต่กระโดดหลบออกมาจนเกือบจะล้มลงกับพื้น ที่ตัวมันมีเลือดสีเขียวไหลทะลักออกมาจากแผล
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ? มีดของนายเป็นมีดระดับ A แม้ว่าจะเป็นระดับ A แต่ก็ไม่น่าจะทำแบบนี้ได้” สีหน้าของฮวงจินเทียนเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของตั๊กแตนมีด หากไม่รีบถอยกลับมา ตั๊กแตนอาจจะเสียขาทั้งหมดไป
แน่นอนว่าฮวงจินเทียนจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเด็ดขาด แต่ว่าเขาก็ถูกหวังเย่าต้อนจนจนมุม เขาไม่อาจจะเรียกอสูรของตัวเองกลับไปที่กำไลได้ และได้แต่สั่งให้มันไปหลบที่ข้างลาน
หวังเย่าไม่ได้ใจร้ายอะไร ในเมื่อตั๊กแตนไม่อาจจะสู้ต่อได้ เขาก็ปล่อยมันไป ยังไงซะมันก็ไม่อาจจะสู้ต่อและแทบไม่ส่งผลต่อการต่อสู้แล้ว การฆ่ามันก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่
“นายอยากจะพูดอะไรไหม ? ” หวังเย่าเหมือนกำชัยชนะไว้ในมือแล้ว ดังนั้นเขาจึงแสดงท่าทีมั่นใจยิ่งกว่าเดิมออกมา
สีหน้าของฮวงจินเทียนบิดเบี้ยวไป เขาพึมพำออกมา “ไร้สาระ รอจนกว่าแกจะชนะฉันให้ได้ซะก่อนเถอะ”
ในคำพูดของฮวงจินเทียนนั้นแฝงไปด้วยความสงสัยในความแข็งแกร่งของหวังเย่า
เมื่อเห็นแบบนั้นหวังเย่าก็ไม่พูดอะไรต่อ ในเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ยอมแพ้ งั้นเขาก็ต้องลงมืออีกสักครั้งและสั่งสอนบทเรียนที่อีกฝ่ายไม่อาจจะลืมได้
ในพริบตา หวังเย่าก็ได้ดึงมีดระดับ A ออกมา ก่อนจะใช้สกิลตบของการ์ฟิลด์เพื่อปามีดใส่อีกฝ่าย
เมื่อเห็นมีดนั้นพุ่งเข้ามา ฮวงจินเทียนที่แม้ว่าจะรับการโจมตีครั้งก่อนหน้านี้ไว้ได้ แต่ตอนนี้เขากลับโดนมีดนั้นแทงเข้าที่ไหล่ซ้ายพร้อมกับเสียงของหินที่แตกดังขึ้นมา
พลังของมันนั้นน่าทึ่ง ตอนที่มันปักเข้าตัวของฮวงจินเทียนนั้น พลังของมันก็ทำให้ทุกคนตกใจ สีหน้าของฮวงจินเทียนเปลี่ยนไปทันที เขาเริ่มลนลาน ความเยือกเย็นที่เคยมีตอนนี้ได้หายไปจนหมด
แกร๊ก !
เสียงหินแตกดังขึ้น นี่ไม่ใช่หินจริง ๆ แต่เป็นพลังงานที่รวมตัวกันเป็นชั้นหินและตอนนี้มันกำลังถูดมีดของหวังเย่าแทงจนทะลุ สุดท้ายหวังเย่าก็ทำลายเกาะการป้องกันของเขาได้
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะการโจมตีนี้เพิ่มพลังขึ้นมาถึง 5 เท่า ตอนที่มีดแทงทะลุโล่พลังได้ครึ่งหนึ่งนั้น ตัวมีดก็ยังแทงเข้ามาที่เนื้อของเขาต่อ แต่มันไม่ได้ทะลุเข้ามาได้ง่ายนัก
“เกินคาดจริง ๆ แม้แต่ผิวหนังของนายก็ยังมีความพิเศษของอสูรหินด้วย” หวังเย่ายิ้มออกมา “แต่มันก็เท่านั้น”
มีดนี้ทรงพลังอย่างมาก มันพุ่งทะลุไหล่ของฮวงจินเทียนพร้อมกับเลือดที่ไหลกระเซ็นออกมา
ฮวงจินเทียนหน้าซีดไปพร้อมตกอยู่ในความสับสน
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง ? พลังของมีดมันมากแบบนี้ได้ยังไง ? ”
ความสงสัยต่าง ๆ ได้พรั่งพรูขึ้นมาในใจของฮวงจินเทียน ใบหน้าของเขาแสดงความเจ็บปวดออกมา เพราะโดนมีดแทงทะลุ เขาจึงไม่อาจแสดงท่าทีเยือกเย็นเหมือนเดิมได้อีก