ตอนที่ 264 : เริ่มการต่อสู้
ตอนที่ทุกคนมองมาที่ชายแก่ เขาก็พูดขึ้น “ฉันเป็นกรรมการของการแข่งขันนี้ ทักษะต่อสู้ทั้งหมดนั้นฉันรู้จัก อย่าคิดเล่นตุกติก อย่าโกง ผู้เยาว์ทั้งหลาย ถ้าฉันจับได้ ผลลัพธ์ที่รออยู่พวกนายคงรู้อยู่แล้วสินะ ? ”
“ยาพิษและอาวุธลับต่าง ๆ คือสิ่งต้องห้าม ครั้งนี้คือการต่อสู้กันของทักษะต่อสู้เพียงอย่างเดียว หากถูกพบเห็นว่าโกง งั้นจะถูกตัดสิทธิ์ทันที ! ” แม้ว่าชายแก่จะพูดออกมาเบา ๆ แต่ทุกคนก็ได้ยินเสียงเขาอย่างชัดเจน ทุกคนพากันกลืนน้ำลายและเหงื่อเย็น ๆ ก็เริ่มผุดขึ้นมา
เมื่อชายแก่พูดจบ ชายหนุ่มทั้งสองบนเวทีก็พากันมองหน้ากัน เพื่อที่จะเข้ารอบต่อไป พวกเขาต้องเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้ ไม่มีใครอยากตกรอบ
ในการต่อสู้รอบแรกนี้มีแค่การเอาชนะอีกฝ่ายเพื่อจะเป็นผู้ชนะ คนแพ้จะตกรอบ พวกเขาได้แต่ใช้อีกฝ่ายเป็นขั้นบันไดในการไต่เต้าขึ้นไปยังจุดสูงสุดเท่านั้น
ดังนั้นทั้งสองคนจึงแสดงความต้องการอันเต็มเปี่ยมที่จะผ่านเข้ารอบไปให้ได้
“ดี” เมื่อเห็นท่าทีของทั้งสองบนเวที ชายแก่ก็แสดงท่าทีโล่งอกออกมาแต่ในพริบตามันก็หายไป ตอนนี้เขากลับไปแสดงสีหน้าเฉยเมยออกมา
“เริ่มการต่อสู้ได้” เมื่อพูดจบชายแก่ก็ถอยกลับไปเพื่อเปิดพื้นที่ให้กับทั้งสองคน
ผู้ชมพากันละสายตาจากชายแก่ แม้ว่าจะสงสัยในตัวเขาอยู่แต่พวกเขาก็เลิกสนชายแก่ชั่วคราวและหันไปดูการต่อสู้แทน
หวังเย่าเองก็สลัดความคิดต่าง ๆ ทิ้งและหันไปสนใจการต่อสู้บนเวทีต่อ
ภายใต้การจับตามองของทุกคน หลี่ฟางก็ได้พุ่งเข้าใส่หลิวหมิงอย่างรวดเร็ว
ต่อหน้าหลี่ฟางที่พุ่งเข้ามานั้น หลิวหมิงไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย เขาโคจรพลังดินรอบตัวให้แผ่กระจายออกไป
ตอนนั้นมือข้างหนึ่งของหลี่ฟางก็กำเป็นหมัดก่อนจะต่อยใส่อกของหลิวหมิงอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ทุกคนคิดว่าคงได้ผู้ชนะแล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ไม่ใช่เสียงคนตกลงมาที่พื้นแต่เป็นเสียงเหมือนกับค้อนที่ฟาดเข้าใส่กำแพงหิน
บนเวทีนั้นหลิวหมิงยังยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมพลังดินที่แผ่ออกมารอบตัว หมัดของหลี่ฟางเหมือนจะใช้ไม่ได้ผลกับเขา
ในทางกลับกัน หลี่ฟางรู้สึกได้ว่าหมัดของเขาได้รับแรงสะท้อนกลับมาจากการโจมตี มันทำให้เขาแปลกใจจนต้องเว้นระยะห่างออกมา
หลี่ฟางมองไปที่มือขวาของตัวเองก่อนจะมองไปที่หลิวหมิงด้วยท่าทีกังวล
เขารู้ว่าการโจมตีนี้รุนแรงแค่ไหน เขารู้ว่าคงไม่ง่ายที่จะเอาชนะการต่อสู้คนนี้ไปได้
หวังเย่ามองไปที่พลังของหลิวหมิงที่แผ่ออกมาแล้วพูดขึ้น “พลังธาตุดินงั้นหรือ ? ”
เขามีลูกแก้ววิญญาณดินอยู่กับตัว เป็นธรรมดาที่จะรับรู้ถึงพลังธาตุดินจากตัวหลิวหมิงได้
หลิวหมิงมองไปที่หลี่ฟางด้วยรอยยิ้ม “เป็นยังไง ? รอดูเลยว่าการโจมตีครั้งต่อไปจะต้องทำให้นายตกจากเวทีได้แน่”
เขาก้าวออกไปอย่างหนักหน่วงแต่เพราะพื้นเวทีนี้ทำมาจากวัสดุพิเศษจึงทำให้ทนแรงกระแทกได้ เวทีจึงไม่เป็นอะไรเลย
หลิวหมิงพุ่งออกไปอย่างกับลูกธนู เขาเร็วมากจนหลายคนมองตามไม่ทัน
“ฉันจะเอาคืนบ้าง” ขณะที่พูดนั้นหลิวหมิงก็ได้ทำการต่อยใส่หลี่ฟางทันที
หากรับการโจมตีนี้ไว้ หลี่ฟางมีโอกาส 50 เปอร์เซ็นต์ ที่จะบาดเจ็บหนักและทรุดลงกับพื้น อีก 50 เปอร์เซ็นต์ คือเขาจะกระเด็นตกเวทีไป ไม่ว่าจะเป็นทางไหน หลี่ฟางก็คงต้องแพ้
ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะรับการโจมตีนี้ไว้ได้ ในพริบตาเขาก็ได้ตัดสินใจ เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ และทำการพลิกตัวเพื่อหลบการโจมตีนี้
เขาพลิกตัวแล้วพุ่งไปด้านหลังหลิวหมิง พร้อมกับเท้าที่ถีบเข้าไปข้างหลังของหลิวหมิง
แต่ก็เกิดเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง เสียงของของแข็งปะทะกันดังขึ้น หลี่ฟางทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องเว้นระยะห่างจากหลิวหมิงอีกรอบ
เขารู้ว่าการต่อสู้ระยะใกล้กับหลิวหมิงนั้นไม่ได้ผล มันมีแต่จะทำให้เขาแพ้เท่านั้น
เขาต้องคิดหาทางอื่นเพื่อเอาชนะ การโจมตีของเขาไม่อาจจะทลายการป้องกันของหลิวหมิงได้ เขาต้องหาทางอื่น ….
หลิวหมิงหยุด ก่อนจะหันกลับมามองและยิ้มให้กับอีกฝ่าย “ ความสามารถและวิธีการสู้ของนายน่ะฉันรู้แล้ว ฉันแนะนำให้นายรีบยอมแพ้เถอะ ด้วยความแข็งแกร่งของนายแล้ว นายไม่อาจจะทลายการป้องกันของฉันได้ มันไม่ใช่การต่อสู้ที่น่าสนใจอีกแล้ว ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวหมิง หลี่ฟางกลับยักไหล่และพูดขึ้น “งั้นนายทำอะไรฉันได้ ? นายไล่ตามความเร็วของฉันทันรึไง นายโจมตีฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ บอกได้ว่าเราน่ะแทบเสมอกันก็ว่าได้”
หลิวหมิงเผยรอยยิ้มออกมาก่อนจะพุ่งเข้าใส่หลี่ฟางอีกครั้ง แต่หลี่ฟางก็ได้ใช้ทักษะของตัวเองออกมาเพื่อหลบไปยังอีกด้านของเวที
“การโจมตีที่บ้าคลั่งแบบนี้ใช้กับฉันได้ผลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น นายคิดว่าฉันจะหลงกลเป็นครั้งที่สองรึไง ? ” หลี่ฟางที่ยืนอยู่อีกด้านของเวทีได้พูดขึ้นมา
หลิวหมิงหันกลับไปมองก่อนจะพูดขึ้น “ฉันไม่เชื่อว่าจะจับนายไม่ได้”
เมื่อพูดจบเขาก็ได้ทำการพุ่งเข้าหาหลี่ฟางอีกครั้ง
กว่า 10 นาทีภายใต้การจับตามองของทุกคนในสนามและในเมืองอื่น ๆ ผ่านการถ่ายทอดสด นี่มันไม่ต่างจากแมวไล่จับหนูเลย