ตอนที่ 272 : หลงจั่วเทียน Vs เซี่ยงหยาง
ในการต่อสู้คู่ที่ 33 นั้นคือพระจากวัดเส้าหลิน ชื่อหยวนจิ่วกับนักดาบหนุ่ม เพิ่งเริ่มการต่อสู้ได้ไม่นาน นักดาบหนุ่มก็ได้ใช้ทักษะดาบออกมาโจมตีอย่างต่อเนื่องเพื่อกดดันให้หยวนจิ่วไม่พอใจ
ความคิดของชายหนุ่มนี้ถือว่าดีแต่เขาโชคร้ายที่ต้องมาพบกับหยวนจิ่ว
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง !
มือเปล่าของหยวนจิ่วรับดาบที่ฟันเข้ามาจนทำให้เกิดเสียงเหล็กดังก้องขึ้นพร้อมกับประกายไฟ
นี่คือทักษะร่างทองแดงกระดูกเหล็กของวัดเส้าหลิน
หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็พึมพำออกมา “ไม่รู้ว่าเทียบกับร่างคิงคองแล้วมันจะเป็นยังไง”
สีหน้าของหยวนจิ่วยังเฉยเมย เขายังคงเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายเรื่อย ๆ
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของเขาถูกรับมือเอาไว้ได้ ชายหนุ่มก็เริ่มหน้าซีดและโมโหขึ้นมา
หยวนจิ่วไม่คิดจะพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย ทำให้นักดาบหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
“อย่าโกรธไปเลย มันไม่ดีต่อร่างกายและจิตใจ” ตอนนั้นเองหยวนจิ่วก็พูดขึ้น
“ไอ้โล้น ฉันไม่เชื่อว่าจะทำลายการป้องกันของแกไม่ได้ ! ” นักดาบหนุ่มตะโกนขึ้นมา
เมื่อพูดจบเขาก็โจมตีออกไปเร็วกว่าเดิม
เสียงดาบที่ตัดอากาศนั้นดังขึ้นจนได้ยินอย่างชัดเจน
“ดาบสาบาน ! ”
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง !
ภายใต้เงาดาบนับไม่ถ้วน หยวนจิ่วก็ยังคงรับมือได้อย่างง่ายดาย เขาไม่ได้ลนลานเลยแม้แต่น้อย
“แกเอาชนะฉันให้ได้ก่อนเถอะ ไอ้โล้น ! ” นักดาบหนุ่มตะโกนออกมา
“ถึงอย่างนั้นแกก็ทำได้แค่รับมือกับดาบของฉันเท่านั้น ! ” เขาพูดออกมาอย่างหัวเสีย
สุดท้ายหยวนจิ่วก็ได้ใช้ทักษะหมัดออกมา นักดาบหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็โดนต่อยเข้าที่ท้อง
นักดาบหนุ่มกระเด็นออกไปราวกับว่าวที่สายป่านหลุดลอย ก่อนที่เขาจะตกลงไปที่ด้านล่างเวทีอย่างแรง
พระที่ดูรักสงบแต่กลับโจมตีได้หนักหน่วงแบบนี้ มันเห็นได้ว่าทุกอย่างไม่อาจจะมองแค่ภายนอกได้
“อมิตพุทธ” หยวนจิ่วพนมมือและพูดขึ้นมา
“ผู้ชนะ หยวนจิ่ว ”
หลังจากที่กรรมการประกาศผล แพทย์สนามก็รีบเข้ามาช่วยนักดาบหนุ่มทันที เมื่อพบว่ามันไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิตจึงได้รีบแบกนักดาบหนุ่มออกไป
หลังจากนั้นทุกคนต่างก็พากันโห่ร้องออกมา
ต่อมาหยวนจิ่วก็ได้กลับไปยังห้องพัก
“ฮ่าฮ่า พระนี่แข็งแกร่งจริง ๆ เขาอาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายก็ได้” เหล่ยอู่ฉวนตบไหล่ลู่หานและหัวเราะออกมา
“นายพูดแบบนี้มากว่าสิบคนแล้ว” ลู่หานพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
“งั้นหรือ ฉันพูดไปเยอะขนาดนั้นเลยหรือ ? ฉันไม่รู้ตัวเลย ฮ่าฮ่า ” เมื่อได้ยินแบบนั้นเหล่ยอู่ฉวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ถึงอย่างนั้นมันก็น่าสนุก การที่มีคู่ต่อสู้น่าสนใจมากแบบนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทดสอบความแข็งแกร่งไปด้วย” เหล่ยอู่ฉวนพูดต่อ
“….” ลู่หานไม่คิดจะพูดอะไรต่อและมองไปที่เวทีอย่างเงียบ ๆ
ตอนนี้การต่อสู้คู่ที่ 34 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
มันไม่ได้มีอะไรน่าสนใจในการต่อสู้นี้ การต่อสู้นี้แค่ทหารรับจ้างสองคนที่พยายามเอาชนะกัน
หลังจากปะทะกันได้ไม่นาน การต่อสู้ก็จบลงและได้ผู้ชนะมา
หลังจากที่ชายแก่ประกาศผู้ชนะออกมา เขาก็เริ่มประกาศเริ่มการต่อสู้คู่ต่อไป
จากนั้นก็คู่ที่ 36…
…
สุดท้ายการต่อสู้ก็มาถึงคู่ที่ 48
หากการต่อสู้ของเหล่ยอู่ฉวนและลู่หานก่อนหน้านี้คือการต่อสู้ที่น่าสนใจที่สุดในการชุมนุมนี้ งั้นการต่อสู้คู่นี้คงเป็นคู่ที่น่าสนใจรองลงมา เพราะทั้งสองคนนี้มีชื่อเสียงไม่ได้ด้อยกว่าเหล่ยอู่ฉวนและลู่หานเลย
นี่คือคนของเขามังกรพยัคฆ์ เขาเป็นหนึ่งในผู้เยาว์ที่โดดเด่นและยังเป็นว่าที่เจ้าสำนัก
อีกคนคือเซี่ยงหยาง คนของเมืองหัวเซี่ยเขาเองก็มีชื่อเสียงอย่างมาก เขาเป็นคนของตระกูลที่โด่งดังเหมือนกับตระกูลลู่ พวกเขาไม่ได้อ่อนแอกว่าตระกูลลู่เลย
เซี่ยงหยางผู้นี้คือคนที่ถูกตัดสินว่าจะเป็นหัวหน้าตระกูลคนต่อไป ความแข็งแกร่งของเขาถือว่าสูงและนับว่าเป็นอัจฉริยะ
ดังนั้นนี่จึงถือว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะ
“หัวหน้า คิดว่าใครจะชนะ ? ” ลัวจ้าวฮว่าถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ดูไปเถอะ อย่าคิดอะไรมาก” หวังเย่าโบกมือและพูดขึ้น
ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจเรื่องอื่นแล้วนอกจากหยอกแฟนของเขา
“แต่ในความคิดของฉันแล้ว มันน่าจะเป็นหลงจั่วเทียน” หวังเย่าพูดขึ้นพร้อมกับลูบคาง
“หัวหน้า ก่อนหน้านี้หัวหน้าก็บอกว่าเหล่ยอู่ฉวนจะชนะไม่ใช่รึไง ? ทำไมหัวหน้าต้องแช่งเขาด้วย ? ” พี่หลงหัวเราะออกมา
“ใช่ ใช่ ” เจ้าหนูพยักหน้า
“พวกนายจะหาเรื่องใช่มั้ย ? ” หวังเย่าหันกลับไปมองพวกนั้นก่อนจะพูดขึ้น “ฉันก็แค่เดา ผลลัพธ์สุดท้ายฉันตัดสินไม่ได้หรอก ยังไงซะผลลัพธ์ก็จะถูกตัดสินในตอนสุดท้าย”
“หัวหน้ากลัวเดาผิดสินะ” หลงปู้หยู๋พูดขึ้นมา
“พวกนายหยุดพูดแล้วดูการต่อสู้ไปซะ” เมื่อพูดจบ หวังเย่าก็หันไปมองบนเวทีทันที
คนที่เหลือเองก็ไม่คิดจะพูดอะไรต่อ
ทั้งสองได้เดินขึ้นมาบนเวทีอย่างเงียบ ๆ แม้จะไม่ทำอะไรโดดเด่น แต่ก็ทำให้ทุกคนสนใจได้ มันยังมีแฟนคลับที่ส่งเสียงกรี๊ดออกมาด้วย
หลังจากที่ทุกคนเงียบลง ชายแก่ก็ได้ทำการประกาศออกมาอย่างใจเย็น “การต่อสู้คู่ที่ 48 หลงจั่วเทียน Vs เซี่ยงหยาง เริ่มได้”
ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างของเซี่ยงหยางก็โผล่ขึ้นมาตรงหน้าหลงจั่วเทียนพร้อมกับวางมือไว้ที่ไหล่ของอีกฝ่าย