ตอนที่ 290 : แชมป์
ติ๊ง ติ๊ง !
บนเวทีนั้นเสียงของเหล็กปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หอกของลู่หานและดาบของเจิ้นเหลิ่งเทียนเข้าปะทะกันจนเกิดประกายไฟขึ้นมา
นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าดาบของเจิ้นเหลิ่งเทียนนั้นทรงพลังแค่ไหน
ลู่หานยังคงโจมตีด้วยพลังที่มากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นไปถึงขีดสุดพร้อมกับพลังที่มากขึ้นกว่าเดิมที่แสดงออกมา
ไม่ว่าหอกนั้นจะกวาดไปที่ไหนก็ทำให้อากาศหนาวเย็นถึงกับสลายไป
ฉากนี้ทำให้คนส่วนมากต่างก็พากันตะลึง มันเหมือนกับว่าจะไม่มีใครหยุดลู่หานได้เลย
ลู่หานยังคงไล่ตามเจิ้นเหลิ่งเทียนต่อและบังคับให้อีกฝ่ายต้องถอยกลับไปพร้อมกับพลังน้ำแข็งที่สลายไปด้วย
ติ๊ง ติ๊ง !
ดาบในมือเจิ้นเหลิ่งเทียนกันการโจมตีทุกอย่างเอาไว้พร้อมกับแสงสีฟ้าที่ส่องประกายออกมา
ในตอนที่ดาบนั้นถูกฟันออกมา ทุกคนก็ได้เห็นว่าดาบนั้นเป็นสีฟ้า
ปัง !
ด้วยพลังในการแทงของลู่หานก็ทำให้เจิ้นเหลิ่งเทียนต้องถอยกลับไปกว่าสิบเมตร
แต่ลู่หานก็เห็นว่าหอกของเขามีชั้นน้ำแข็งก่อตัวขึ้นมา
ลู่หานสลัดหอกเพื่อทำลายชั้นน้ำแข็งนี้ทิ้งก่อนจะมองไปที่เจิ้นเหลิ่งเทียนด้วยสีหน้าตึงเครียด
เจิ้นเหลิ่งเทียนประคองตัวเอาไว้ได้ ดาบในมือส่องแสงสีฟ้าขึ้นมากกว่าเดิมพร้อมพลังที่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
เขาทำการฟันออกมาก่อนจะเกิดใบมีดพลังพุ่งออกไป
ต่อหน้าการโจมตีนี้ ลู่หานไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย หอกในมือเขายังคงเข้ารับการโจมตีเอาไว้ได้
ในตอนนั้นเองกลับมีลมเย็นก่อตัวขึ้นมา ทั้งเวทีเริ่มมีหิมะตกลงมา
ลู่หานชะงักไปทันที แต่เขาก็ยังถอนหายใจออกมา ยังมีทักษะอะไรบ้างที่เจิ้นเหลิ่งเทียนยังไม่ได้ใช้ออกมา
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น เขาก็ยังจะสู้ต่อโดยไม่สนว่าจะแพ้หรือชนะ
ภายใต้หิมะที่โปรยปรายนี้ เจิ้นเหลิ่งเทียนราวกับเทพน้ำแข็งที่มีหิมะหมุนวนอยู่รอบตัว
เจิ้นเหลิ่งเทียนยกมือขึ้นมาพร้อมกับสายลมอันเย็นเยือกที่พัดหิมะเหล่านั้นเข้าใส่ลู่หาน
สีหน้าของลู่หานเคร่งเครียดขึ้นมาเมื่อเห็นพายุหิมะนี้แต่เขาก็ไม่คิดจะเกรงกลัว สายตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความแน่วแน่
เขาได้พุ่งเข้าไปในหิมะจนไม่อาจจะมองเห็นร่างของเขาได้
“น่ากลัวจริง ๆ เขาถึงกับเปลี่ยนพื้นที่บนเวทีให้เป็นแบบนี้ได้”
“ชายคนนี้แข็งแกร่งถึงเพียงไหนกัน ? ”
“นายว่าตอนนี้ลู่หานจะเป็นยังไง ? ”
“ไม่จำเป็นต้องบอกเลย ฉันว่าลู่หานคงแพ้ให้กับการโจมตีครั้งนี้อย่างแน่นอน”
“ฉันคิดว่าลู่หานจะทำลายพายุหิมะนี้ได้”
“มันยากจะบอกได้ …”
ผู้ชมต่างก็มองไปที่เวทีและพึมพำออกมา
คนที่ชมการประลองนี้ในเมืองอื่น ๆ ก็พากันจ้องไปที่จอ ตาแทบไม่กระพริบ
“คนอย่างลู่หานน่ะหายาก เขาไม่น่าจะแพ้ง่าย ๆ ”
“แต่เจิ้นเหลิ่งเทียนมาจากไหนกัน ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้เลยว่าโลกนี้จะมีอัจฉริยะที่แข็งแกร่งและยังเด็กแบบนี้อยู่”
“ฉันว่าเขาคงมาจากสวรรค์ เขาช่างน่าทึ่งจริง ๆ ”
…
หวังเย่าที่นั่งอยู่ในที่นั่งคนดูมองไปที่พายุหิมะตาแทบไม่กระพริบ เขารู้สึกว่าการต่อสู้คงจะจบลงในไม่ช้า
ไม่นานพายุบนเวทีก็พัดกระจายขึ้นไปบนท้องฟ้า
ใจกลางพายุนั้นเมื่อมองดูใกล้ ๆ ก็จะพบร่างหนึ่งที่หอบหายใจอยู่
นั่นคือลู่หานที่ร่างเต็มไปด้วยชั้นน้ำแข็งปกคลุม ตัวของเขาไม่ขยับ ปากของเขามีไอเย็นลอยออกมา
เขาคุกเข่าอยู่บนเวทีพร้อมกับมือที่สั่นเทา ตอนนี้พลังของเขาลดลงไปกว่าครึ่ง
ชัดแล้วว่าเขาพยายามอย่างมากเพื่อกันการโจมตีนี้
ตึก ตึก !
เสียงฝีเท้าดังขึ้นพร้อมกับเจิ้นเหลิ่งเทียนที่ก้าวเข้ามาแล้วฟันดาบของเขาลงมาอย่างช้า ๆ
เขายังดูเหมือนเดิมเช่นเคย ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
“นี่จะคงเป็นช่วงตัดสิน..”
ทุกคนพากันพึมพำออกมา ลู่หานที่คุกเข่าอยู่บนเวทีนั้นกัดฟันแน่นและมองไปที่ดาบที่พุ่งเข้ามา
ทันใดนั้นพลังในตัวของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง
เขายังไม่คิดจะยอมแพ้ !
เจิ้นเหลิ่งเทียนหยุดมือ เขาไม่พูดอะไร แต่สายตาของเขากลับเปลี่ยนไป มันเหมือนกับว่าเขายอมรับในตัวอีกฝ่ายจริง ๆ
พลังในตัวลู่หานแข็งแกร่งขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงขีดสุด คลื่นพลังปะทุออกมาจากร่างเขาก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
สายตาเขาจับจ้องไปที่เจิ้นเหลิ่งเทียน
“นี่คือการโจมตีที่แรงที่สุดของฉันแล้ว ถ้านายรับมือกับมันได้ งั้นนายก็เป็นแชมป์ ! ”
เมื่อพูดจบก็มีพลังถ่ายเทไปที่หอกจนทำให้อากาศเริ่มสั่นไหว
ชั้นลมก่อตัวรอบหอกพร้อมพลังที่เหมือนจะทำลายล้างทุกอย่าง
สุดท้ายลู่หานก็ก้าวออกไปพร้อมกับหอกที่จ้วงแทงใส่เจิ้นเหลิ่งเทียน
หอกนั้นเหมือนจะทำลายทุกอย่างได้
เสียงตัดอากาศดังขึ้นก่อนที่หอกจะเข้าปะทะกับดาบของเจิ้นเหลิ่งเทียน
ในพริบตาพายุน้ำแข็งก็ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งและกลืนกินทั้งสองคนไป ทุกคนจึงไม่อาจจะเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านใน
“ฉันไม่เห็นเลยว่าพวกเขาต่อสู้กันยังไง ? ”
“ใช่ พวกเขาต่อสู้กันยังไง แล้วใครจะชนะ ! ”
“น่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว ดีแล้วที่ฉันไม่พลาดดูคู่นี่ ยิ่งดูก็ยิ่งทำให้ฉันตื่นเต้นมากขึ้น”
“นายไม่ใช่คนเดียวหรอกที่รู้สึกแบบนั้น ”
…
หลายคนจับจ้องไปที่พายุหิมะด้วยความกังวล แม้ว่าพวกเขาจะกังวลแค่ไหนแต่ที่พวกเขาก็ทำได้ก็แค่รอคอยเท่านั้น
สุดท้ายพายุหิมะก็สลายตัวไปเผยให้เห็นสถานการณ์ด้านใน ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย ลู่หานยังคงยื่นหอกแทงเจิ้นเหลิ่งเทียน แต่ตอนนี้ทั้งสองกลับไม่กระดิกตัวเลยแม้แต่น้อย